โอเมก้า 3 ดีต่อคุณแม่และทารกในครรภ์อย่างไร? พบในอาหารประเภทไหน?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

โอเมก้า 3 เป็นสิ่งหนึ่งที่เรามักจะได้ยินเกือบจะตลอดเวลา แต่รู้หรือไม่ว่าโอเมก้า 3 นั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายของคนท้องและทารกในครรภ์อย่างไร วันนี้เรามาดูกันดีกว่าโอเมก้า 3 ดีต่อคุณแม่ตั้งครรภ์และทารกในครรภ์อย่างไร?

 

โอเมก้า 3 คือ ?

Omega-3 คือ สารอาหารที่ได้รับจากอาหารที่เราทานในชีวิตประจำวัน หรือจากอาหารเสริม ซึ่งร่างกายของมนุษย์เรานั้นไม่สามารถสร้างโอเมก้า 3 เองได้ โดยโอเมก้า 3 มีส่วนช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรง และยังเป็นกุญแจสำคัญในโครงสร้างของผนังเซลล์ทุกเซลล์ที่เรามี นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งพลังงานชั้นเยี่ยมให้แก่ร่างกายของเราอีกด้วย รวมถึงช่วยรักษาหัวใจ ปอด หลอดเลือด และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายของเราให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกรดไขมันโอเมก้า 3 สามารถแยกออกได้เป็น 3 ประเภท ดังต่อไปนี้

  • กรดอัลฟาไลโนเลนิก (ALA) พบในพืช
  • กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (EPA) พบในสัตว์ทะเล
  • กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) พบในสัตว์ทะเล

 

สามารถพบโอเมก้า 3 ได้จากที่ไหนบ้าง?

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเราสามารถรับโอเมก้า 3 เข้าสู่ร่างกายของเราได้ผ่านการทานอาหาร และอาหารเสริมต่าง ๆ โดยอาหารที่พบว่ามีส่วนผสมของโอเมก้า 3 จะเป็นจำพวกปลาที่มีกรด DHA และ EPA รวมถึง ALA ในพืชตระกูลถั่ว ซึ่งมีรายละเอียดต่อไปนี้

  • ปลาแมกเคอเรล
  • แซลมอน
  • ปลากะพงขาว
  • หอยนางรม
  • ปลาซาร์ดีน
  • กุ้ง
  • ปลาเทราต์
  • สาหร่าย
  • เมล็ดเจีย
  • เมล็ดกัญชง
  • เมล็ดแฟลกซ์
  • วอลนัต
  • ถั่วแระญี่ปุ่น
  • ถั่วแดง
  • ถั่วเหลือง

บทความที่เกี่ยวข้อง : โอเมก้า-3 คืออะไร สำคัญกับแม่ท้องและลูกน้อยในครรภ์อย่างไร

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ประโยชน์ของโอเมก้า 3 มีอะไรบ้าง?

เนื่องจากโอเมก้า 3 นั้นถือว่าเป็นกรดไขมันชนิดหนึ่งที่ร่างกายของเราต้องการ และถือว่าเป็นกรดไขมันที่ดีต่อสุขภาพของเราเป็นอย่างมาก มาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีอะไรบ้าง

 

  • ลดอัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

ในช่วงปี 2020 มีข้อมูลชุดหนึ่งรายงานว่า หญิงที่รับประทานโปรไบโอติก วิตามินดี และอาหารเสริมน้ำมันปลา หรืออาหารเสริมที่มีส่วนผสมของโอเมก้า 3 นั้นมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด 19 ลดน้อยลง แต่อย่างไรก็ตาม การรายงานนี้ยังคงต้องหาข้อสรุปที่แน่ชัดอีกครั้ง โดยผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาเตือนว่า อย่าใช้ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส แต่ให้ปฏิบัติตามมาตรการที่เป็นการป้องกันเชื้อโดยตรง หรือฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันจะดีมากที่สุด

 

  • หลอดเลือดตีบ

ผู้ที่เป็นโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis) บางคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคดังกล่าวเริ่มรับประทานโอเมก้า 3 เนื่องจากมีส่วนช่วยในเรื่องของการป้องกันโรคเกี่ยวกับสมองและประสาท แต่อย่างไรก็ตามมีการศึกษาข้อมูล และการวิจัยหลายแห่งรายงานว่า อาหารเสริมโอเมก้า 3 ไม่ได้มีส่วนช่วยในเรื่องของโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ดังนั้นคุณควรเลือกที่จะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเริ่มทานอาหารเสริมทุกครั้ง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  • มะเร็งต่อมลูกหมาก

งานวิจัยบางงานได้มีการเขียนแนะนำว่าการรับประทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 สูงนั้นอาจมีส่วนช่วยป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากได้ อย่างไรก็ตาม มีผลงานวิจัยอีกหนึ่งชิ้นชี้ให้เห็นว่าการบริโภคน้ำมันปลาที่มีส่วนผสมของโอเมก้า 3 ในปริมาณที่มาก ๆ อาจเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากได้ ดังนั้นควรทานแต่พอดี และปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดลูก

ผู้ที่มีระดับโอเมก้า 3 ต่ำระหว่างตั้งครรภ์ และขณะให้นมลูกอาจก่อให้เกิดความแปรปรวนทางอารมณ์ได้ง่าย และนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้ โดยผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวว่า การทานอาหารที่มีส่วนผสมของโอเมก้า 3 ในช่วงก่อนคลอด หรือหลังคลอดนั้นสามารถช่วยลดความเสี่ยงการเป็นภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้ อย่างไรก็ตาม คุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานปลาที่มีสารปรอทสูง อาทิ ฉลาม และปลาแมกเคอเรลในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ แต่เปลี่ยนเป็นปลาจำพวก ปลาทูน่า แซลมอน และปลาดุกแทนจะส่งผลที่ดีกว่า

 

  • สุขภาพจิต

นอกจากภาวะซึมเศร้าหลังคลอดแล้ว มีผลการวิจัยชี้ว่า EPA และ DHA สามารถช่วยรักษาภาวะทางจิตเวชต่าง ๆ ได้ ซึ่งรวมถึง

    • โรคสมาธิสั้น
    • ภาวะป่วนทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง
    • โรคพาร์กินสัน
    • โรคซึมเศร้า
    • ภาวะสมองเสื่อม
    • โรคจิตเภท
    • ภาวะความจำเสื่อม

 

  • โรคหัวใจและหลอดเลือด

กรดไขมันโอเมก้า 3 มีส่วนช่วยในการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ เพราะมี AHA ที่มีส่วนช่วยในการจัดการกับอาสาเหตุต่าง ๆ ที่นำไปสู่โรคหัวใจและหลอดเลือดได้ดังต่อไปนี้

    • ระดับไตรกลีเซอร์ไรด์
    • คอเลสเตอรอล
    • ความดันโลหิตสูง

 

  • การมองเห็น และสุขภาพตา

มีการศึกษาพบว่าการมีระดับโอเมก้า 3 อาจช่วยป้องกันโรคที่เกิดกับดวงตาได้ โดยโอเมก้า 3 จะช่วยให้การทำงานของเรตินอลให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของการสูญเสียการมองเห็นในผู้สูงอายุได้อีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : อาการต้อกระจกเป็นอย่างไร โรคต้อกระจกคืออะไร รวมความรู้เกี่ยวกับโรคต้อกระจก

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

โอเมก้า 3 มีประโยชน์ต่อคนท้องอย่างไร?

การบริโภคกรดไขมันโอเมก้า 3 สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ในปริมาณที่เพียงพอและเหมาะสมนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่ในเรื่องของการรักษาสมดุลการผลิตสารคล้ายฮอร์โมนที่เรียกว่า พรอสตาแกลนดิน (Prostaglandins) ที่ช่วยควบคุมการทำงานของร่างกายของเราหลายอย่าง อาทิ ความดันโลหิต การแข็งตัวของเลือด การไหลเวียนของเลือด การอักเสบ การตอบสนองต่อภูมิแพ้ การทำงานของไต การทำงานของระบบทางเดินอาหาร และการผลิตฮอร์โมนอื่น ๆ

 

ทั้งนี้การผลิตฮอร์โมนพรอสตาแกลนดินหลังได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 เข้าสู่ร่างกายนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับการทานอาหารทุกชนิด ดังนั้นจึงจะต้องเลือกรับประทานอาหารบางจำพวก เพื่อทำให้ร่างกายของเราผลิตพรอสตาแกลนดินออกมาได้ นอกจากนี้โอเมก้า 3 ในปริมาณที่มากเพียงพอสำหรับร่างกายจะช่วยรักษา และป้องกันความผิดปกติทางอารมณ์ของคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์ได้อีกด้วย รวมถึงขณะนี้มีการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของโอเมก้า 3 พบว่ามีคุณสมบัติป้องกันโรคต่าง ๆ ได้มากขึ้น เช่น โรคลำไส้อักเสบ โรคภูมิแพ้ตัวเอง โรคลูปัส และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นต้น

 

โอเมก้า 3 มีประโยชน์ต่อทารกในครรภ์อย่างไร?

การบริโภคโอเมก้า 3 นั้นมีส่วนช่วยในการพัฒนาการของทารกในครรภ์ โดยเฉพาะสมองและดวงตา ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้คุณแม่ทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 ในช่วงระยะเวลาของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงในการรับประทานในช่วงนี้คือการทานสิ่งมีชีวิตในทะเลที่มีโอเมก้า 3 และปรอทที่มีจำนวนมากเช่นกัน อย่างฉลามและปลาแมกเคอเรลในช่วงตั้งครรภ์ นอกจากนี้ยังพบอีกว่าการที่ทารกในครรภ์ได้รับโอเมก้า 3 อย่างเพียงพอในช่วงที่อยู่ในครรภ์จะส่งผลถึงระบบการทำงานของหน่วยความจำของทารกเมื่อเติบโตขึ้นสู่วัยเรียนได้อีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : อาหารบำรุงครรภ์ คนท้องควรทานอะไร อาหารแบบไหนแม่ท้องห้ามกิน

 

 

ความเสี่ยงของการทานอาหารเสริมโอเมก้า 3 ขณะตั้งครรภ์

สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์แล้วการได้ทานอาหารที่มีโอเมก้า 3 นั้นถือเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพของทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์เป็นอย่างมาก แต่สำหรับคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจจะทานอาหารเสริมโอเมก้า 3 แล้ว ก็ต้องมาลองอ่านผลข้างเคียงของการทานกันก่อนดีกว่า โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • มีรสคาวในปาก
  • ลมหายใจมีกลิ่นคาว
  • ปวดท้อง
  • ท้องเสีย
  • คลื่นไส้
  • เลือดออก ในกรณีที่มีการทานในจำนวนที่มากกว่า 3 กรัมต่อวัน

อย่างไรก็ตามคุณแม่ตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งก่อนที่จะตัดสินใจรับประทาน เพราะว่านอกจากเลือดออกแล้ว การทานโอเมก้า 3 ในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์สูงขึ้นอีกด้วย

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะคุณแม่สำหรับประโยชน์และผลข้างเคียงของโอเมก้า 3 น่าทึ่งมากเลยใช่ไหมคะ สำหรับคุณแม่ที่ยังคงเป็นกังวลเรื่องของการรับประทานอาหารเสริมเพื่อให้ทารกน้อยในครรภ์ฉลาดอยู่นั้น ทางออกที่ดีที่สุดคือการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดีกว่าค่ะ อย่าได้ลองเอง หรือรับประทานด้วยตัวเอง เพราะอาจเป็นอันตรายต่อทั้งตัวคุณแม่ และทารกเองด้วยนะคะ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

20 อาหารเสริมโอเมก้าสูง ต้องกินอะไร ดีต่อสุขภาพอย่างไร

วิตามินบี 1 ขาดแล้วอาจเสียชีวิตจริงไหม แล้วดีต่อแม่ท้องอย่างไร ?

โอเมก้า 6 อันตรายต่อคนท้องจริงหรือไม่ ? แม่ท้องควรระวัง กันไว้ดีกว่าแก้

ร่วมแชร์ความเห็นหรือประสบการณ์ เกี่ยวกับโอเมก้า 3 ในอาหาร ได้ที่นี่!

โอเมกา 3 มีประโยชน์กับลูกน้อยอย่างไรบ้างคะ พบในอาหารชนิดไหนบ้างคะ

โอเมก้า 3 ประโยชน์คืออะไรคะ หากร่างกายขาดโอเมก้า 3 จะเกิดอะไรขึ้นคะ

ที่มา : webmd, medicalnewstoday, nordic, kdpharmagroup, americanpregnancy

บทความโดย

Siriluck Chanakit