-
นมยังสำคัญ
เด็กวัยนี้จะรับประทานอาหาร 3 มื้อเป็นอาหารหลัก แต่นมก็ยังคงเป็นอาหารที่สำคัญสำหรับเด็กวัยหัดเดิน เพราะให้พลังงาน มีไขมัน โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม ซึ่งเด็กตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ควรกินนมประมาณ 20 ออนซ์ต่อวัน แต่ถ้าเด็กๆ เบื่อนม หรือเป็นเด็กกินยาก ก็ควรเสริมด้วยอาหารชนิดอื่น ที่อุดมไปด้วยแคลเซียมควบคู่ไปด้วย เช่น ชีสหรือโยเกิร์ต ผักใบเขียว
-
อาหารปรุงรส ไม่ใช่อาหารของหนู
อาหารของเด็กวัยนี้ไม่ควรเป็นอาหารที่ปรุงแต่งรส เพราะอาจจะเสี่ยงต่อการที่ลูกจะติดหวาน หรือติดเค็ม สร้างโภชนาการที่ไม่ดี ส่งผลต่อปัญหาภาวะสุขภาพในอนาคตได้ โดยเด็กวัยหัดเดิน ควรได้รับเกลือไม่เกิน 1/6 ของปริมาณสูงสุดที่ผู้ใหญ่ได้รับหรือน้อยกว่า 1 กรัมต่อวัน ดังนั้น คุณแม่ไม่ควรใส่เกลือลงในอาหารที่ทำกินเอง และอาหารผู้ใหญ่บางชนิดก็ไม่เหมาะสำหรับเด็กวัยหัดเดิน เนื่องจากมีน้ำตาลหรือเกลือ สารปรุงแต่งสีและรสสังเคราะห์มากเกินไป
-
ปริมาณที่เหมาะกับกระเพาะหนู
กระเพาะอาหารของเด็กวัยนี้จะมีขนาดเล็กกว่าของผู้ใหญ่ประมาณ 5 เท่า ลูกน้อยจึงต้องการอาหารปริมาณน้อยๆ ในแต่ละมื้อ แต่ต้องบ่อยครั้งตลอดวัน เพื่อให้ได้สัดส่วนของพลังงานและสารอาหารที่เหมาะสม คุณแม่จึงต้องแบ่งอาหารเป็นมื้อเล็กๆ 3 มื้อต่อวัน พร้อมอาหารว่างที่มีคุณค่าทางโภชนาการระหว่างมื้ออย่างสม่ำเสมอ
ความต้องการพลังงานและสารอาหาร
ลูกวัยหัดเดินไม่ใช่ผู้ใหญ่ไซส์เล็ก และเด็กต้องการอาหารที่มีไขมันสูงและใยอาหารต่ำ แต่ถึงแม้ว่าใยอาหารจะเป็นสิ่งดี แต่ก็ทำให้อิ่มท้อง หากกินมากเกินไปอาจทำให้ลูกไม่ได้รับพลังงานและสารอาหารซึ่งจำเป็นต่อเด็กในวัยนี้ด้วย อาหารหลากชนิดจะมีสารอาหารต่างกัน ดังนั้น การให้ลูกกินอาหารหลากหลายชนิดจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้สารอาหารที่ครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ เพื่อให้ลูกเติบโตอย่างมีสุขภาพดีและมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง : อาหารช่วยลดความเครียด สารอาหารสร้างสุข 14 อาหารลดความกังวล
อาหาร 5 หมู่มีอะไรบ้าง
ทุกคนเรียนรู้เรื่องอาหาร 5 หมู่ มาตั้งแต่เด็ก คุณแม่ๆ จำได้หรือไม่ว่ามีอะไรบ้าง? อาหาร 5 หมู่สำหรับเด็กในวัยนี้มีความต้องการสารอาหารและปริมาณที่แตกต่างจากของผู้ใหญ่ คุณแม่จึงต้องคำนึงถึงข้อนี้ ก่อนจะเตรียมอาหารให้กับลูก เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าอาหารหลัก 5 หมู่ของหนูๆ นั้นจะต่างจากจากของผู้ใหญ่อย่างไร?
หมู่ที่ 1 โปรตีน
พบมากใน เนื้อสัตว์ ไข่ นม ถั่ว โปรตีน ถือว่าเป็นอาหารที่สำคัญที่สุดในร่างกาย ช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโต ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ช่วยสร้างเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย ให้พลังงานและช่วยควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ภายในร่างกายอาหารในกลุ่มนี้มีธาตุเหล็กและไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งจำเป็นต่อร่างกาย คุณแม่ควรให้ลูกกินอาหารจำพวกโปรตีน วันละ 2 ส่วน โดยเด็กๆ ควรได้รับโปรตีนจากทั้งสัตว์และพืชในอัตราที่เหมาะสม
หมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต
คาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงานจำเป็นสำหรับทุกคน รวมถึงเด็กๆ ด้วย คาร์โบไอเดรต คือ อาหารจำพวกแป้ง เช่น ข้าว ขนมปัง ธัญพืช และมันฝรั่ง เด็กๆในวัยนี้ ควรได้รับคาร์โบไฮเดรตอย่างเหมาะสมในทุกมื้อ สำหรับเด็กคนไหนที่กินยาก ลองเสริมอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตในมื้ออาหารว่างด้วยก็ได้
หมู่ที่ 3 เกลือแร่
เกลือแร่ ได้แก่ แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เหล็ก และแมกนีเซียม เป็นต้น ซึ่งมีส่นช่วยในการสร้างให้กระดูกและฟันแข็งแรง ซึ่งสำคัญมากกับวัยเตาะแตะที่กล้ามเนื้อมัดใหญ่กำลังพัฒนา ช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมน พบมากในอาหาร ได้แก่ พืชผักใบเขียว ปลาตัวเล็ก และหอย เป็นต้น
หมู่ที่ 4 วิตามิน
จากผักและผลไม้ เช่น แครอท กล้วย ผักกาดขาว คะน้า มะเขือเทศ เป็นต้น จะให้สารอาหารประเภทเกลือแร่และวิตามิน ซึ่งให้ประโยชน์ต่อร่างกายในด้านบำรุงสุขภาพ ช่วยให้ระบบการย่อยและการขับถ่ายเป็นปกติ ทำให้ร่างกายแข็งแรง มีภูมิต้านทานต่อโรค คุณแม่ต้องพยายามให้ลูกกินผักและผลไม้หลากสี เพื่อให้ได้วิตามินที่หลากหลาย
หมู่ที่ 5 ไขมัน
ไขมัน ให้พลังงานและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ช่วยในเรื่องการดูดซึมของวิตามินที่ละลายในไขมัน ได้แก่ วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินดี และวิตามินเค
อาหารหลัก 5 หมู่ อาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับลูก เพราะวัยหัดเดิน ก้าวจากวัยทารกที่กินนมเป็นหลักสู่การกินอาหาร 3 มื้อเป็นอาหารหลัก และหลากหลายขึ้น จึงควรเริ่มต้นด้วยอาหารที่ตรงตามช่วงวัยและพัฒนาการของลูก เพื่อมอบโภชนาการช่วงแรกของชีวิตให้สมบูรณ์เป็นพื้นฐานร่างกายที่แข็งแรงต่อไปในวัยผู้ใหญ่ค่ะ
ที่มา : hiqkidsclub.com
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง :
กรีกโยเกิร์ต โยเกิร์ตอีกชนิด ที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อทารกน้อย
ประโยชน์ต่อสุขภาพของถั่วพิสตาชิโอ 9ประโยชน์สุดปัง อร่อยสารอาหารเยอะ
เด็กกินข้าวเหนียว ได้ไหม? กินแล้วดีอย่างไร? เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่ดี