เว็บไซต์ข่าว Daily Mail ได้รายงานเกี่ยวกับอาการป่วยของเด็กหญิงวัย 15 ปีคนหนึ่ง ที่มีอาการชักกระตุกมากถึง 120 ครั้งต่อวัน นอกจากนี้เธอยังมีอาการพูดจาแปลก ๆ ตั้งแต่ขอโทษซ้ำ ๆ ไปจนถึงพูดจาหยาบคาย โดยหลังจากที่เด็กหญิงคนดังกล่าวเข้ารับการวินิจฉัยจากแพทย์ โดยแพทย์ชี้ให้เห็นว่าอาการของเธออาจเกิดจากการดู TikTok มากเกินไป หรือแค่แกล้งทำโดยเลียนแบบอาการที่เธอเห็นทางออนไลน์ ซึ่งผู้เป็นแม่ของเด็กหญิงรายดังกล่าว กลับเห็นต่างและไม่ย่อท้อในการหาหนทางในการรักษาลูกสาว ก่อนที่ท้ายที่สุดคลินิกเอกชนก็ค้นพบสาเหตุของอาการดังกล่าว โดยระบุว่าที่เด็กสาวมีอาการของโรคความผิดปกติของระบบประสาทจิตเวชภูมิต้านตนเองในเด็กที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส (PANDAS) ซึ่งเป็น โรคหายาก ผู้ที่มีอาการดังกล่าว จะมีอาการ วิตกกังวล อาการชัก ซึมเศร้า ผลการเรียนลดลงกะทันหัน ความผิดปกติของการเคลื่อนไหวหรือประสาทสัมผัส และการนอนไม่หลับ
ซึ่งก่อนหน้านี้ เด็กสาวก็มีต่อมทอนซิลอักเสบ 5 เดือน ก่อนที่อาการของเธอจะปรากฏขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับลักษณะของโรค ซึ่งมักเกิดขึ้นหลังจากการติดสเตรปโตคอคคัส
ปัจจุบันเธอถูกนำตัวไปรักษาที่แผนกกุมารเวชศาสตร์ของ British National Health Service (NHS) ในดาร์ลิงตัน โดยคุณแม่ของเธอกำลังระดมทุนเพื่อรักษาเธอ ด้วย IVIG ซึ่งเป็นการบำบัดที่ใช้อิมมูโนโกลบูลินในการเพิ่มระดับแอนติบอดีในเลือด เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ระบบภูมิคุ้มกันของเธอโจมตีเซลล์ดี ๆ
ขอขอบคุณที่มา : dailymail.co.uk, sanook.com
ขอบคุณภาพจาก dailymail.co.uk
ความผิดปกติของระบบประสาทจิตเวชภูมิต้านตนเองในเด็กที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส (PANDAS) โรคหายาก ที่ไม่ค่อยถูกพบ
ความผิดปกติของระบบประสาทจิตเวชภูมิต้านตนเองในเด็กที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส โดย PANDAS ย่อมาจาก Pediatric Autoimmune Neuropsychiatric Disorders Associated with Streptococcal infections หรือ โรคประสาทจิตเวชภูมิต้านตนเองในเด็กที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส เป็นภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโจมตีสมองและไขสันหลังหลังจากที่เด็กติดเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัส ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเจ็บคอ
อาการของโรค PANDAS
อาการของโรค PANDAS นั้นหลากหลายและอาจเปลี่ยนแปลงได้บ่อยครั้ง โดยทั่วไปอาการจะปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันและรุนแรงหลังจากที่เด็กติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส อาการที่พบบ่อย ได้แก่
- อาการทางจิตเวช
- วิตกกังวล
- ซึมเศร้า
- อารมณ์แปรปรวน
- ก้าวร้าว
- มีความคิดวนเวียน
- กลัว
- อาการทางระบบประสาท
- เคลื่อนไหวร่างกายซ้ำ ๆ
- ติ๊ก
- มีปัญหาในการควบคุมกล้ามเนื้อ
- ปวดท้องเรื้อรัง
- ปัญหาในการเรียนรู้
- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างฉับพลัน
- อาการอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้
สาเหตุของโรค PANDAS
สาเหตุที่แน่ชัดของโรค PANDAS ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่แพทย์เชื่อว่าการติดเชื้อสเตรปโตคอคคัสอาจกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายโจมตีเนื้อเยื่อในสมอง ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ดังกล่าว
การวินิจฉัยโรค PANDAS
การวินิจฉัยโรค PANDAS นั้นค่อนข้างยาก เนื่องจากอาการของโรคคล้ายกับโรคอื่นๆ มากมาย แพทย์จะพิจารณาจากประวัติทางการแพทย์ อาการที่แสดงออก และผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการต่างๆ เช่น การตรวจเลือดเพื่อหาแอนติบอดีต่อสเตรปโตคอคคัส การตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง และการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือ MRI
ขอบคุณภาพจาก dailymail.co.uk
การรักษาโรค PANDAS
การรักษาโรค PANDAS มุ่งเน้นไปที่การควบคุมอาการและป้องกันไม่ให้เกิดอาการซ้ำ โดยการรักษาอาจรวมถึง
- ยาปฏิชีวนะ: เพื่อกำจัดเชื้อสเตรปโตคอคคัส
- ยาลดอาการ: เช่น ยาลดความวิตกกังวล ยาแก้ซึมเศร้า ยาคุมการเคลื่อนไหว
- การบำบัด: เช่น การบำบัดด้วยพฤติกรรม การบำบัดด้วยการพูด
การดูแลผู้ป่วยโรค PANDAS
ผู้ปกครองควรดูแลผู้ป่วยโรค PANDAS อย่างใกล้ชิด และให้ความร่วมมือกับแพทย์ในการรักษา โดยควร
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์: ให้ลูกทานยาตามที่แพทย์สั่ง พาไปพบแพทย์ตามนัด
- สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย: สร้างบรรยากาศในครอบครัวที่อบอุ่นและเข้าใจ
- ให้กำลังใจ: ให้กำลังใจลูกเสมอ
- ติดต่อกับโรงเรียน: เพื่อให้โรงเรียนเข้าใจและช่วยเหลือในการเรียน
หากคุณสงสัยว่าบุตรหลาน หรือคนใกล้ชิดของคุณมีอาการของโรค PANDAS ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้อง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แม่เตือน! ลูกป่วยง่าย เริ่มนอนกรน อย่าปล่อยไว้ เสี่ยงติดเชื้อรุนแรงลงปอด
พาลูกพบจิตแพทย์เด็ก ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ไปได้สบายหายห่วง
เช็คอาการ เด็ก LD โรคการเรียนรู้บกพร่อง ต้นเหตุลูกเรียนรู้ช้า รักษาด่วน!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!