ท่องสูตรคูณ ไปทำไม ? ถ้าเด็ก ๆ กดเครื่องคิดเลขก็จบแล้ว เด็กหลีกหนีการท่องสูตรคูณไปไม่ได้เพราะอะไร จะช่วยให้ลูกท่องสูตรคูณได้อย่างแม่นยำ ควรทำอย่างไรไม่ให้ลูกเบื่อไปเสียก่อน ทุกคำถามที่คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่อาจสงสัย บทความนี้รวบรวมคำตอบไว้หมดแล้ว
ท่องสูตรคูณจำเป็นกับเด็กแค่ไหน ในยุคที่มีเครื่องคิดเลข ?
เรื่องนี้คงเป็นเรื่องที่อธิบายได้ค่อนข้างยาก ในเมื่อยุคใหม่ที่มีเครื่องคิดเลขประสิทธิภาพสูง ต่างจากเมื่อก่อนที่อาจกดได้แค่บวก, ลบ, คูณ และหาร แต่ยังสามารถคิดสมการต่าง ๆ ได้ รวมไปถึงยังสามารถแก้แคลคูลัส ซึ่งเป็นปัญหาโจทย์เลขระดับสูงของเด็ก ม.ปลาย และมหาวิทยาลัย จึงไม่แปลกที่จะเกิดคำถามขึ้นมาว่าในเมื่อเป็นแบบนี้ การนั่งท่องสูตรคูณในใจให้แม่นยำ ยังมีความจำเป็นอยู่หรือไม่ ซึ่งก็คงต่างความคิด และต่างมุมมอง แต่สำหรับเด็กไทย คงเป็นเรื่องปกติ ที่เมื่อเข้าช่วงประถมศึกษาจะต้อง ท่องสูตรคูณ กันแทบทุกคน จนกลายเป็นภาพติดตาไปแล้ว เมื่อเด็กไทยต้องอยู่กับการท่องแม่สูตรคูณ เราจึงต้องมาดูกันว่าจะต้องท่องไปทำไม ในเมื่อมีเครื่องคิดเลข
1. ท่องไปใช้ในห้องสอบ
พื้นฐานของเด็กไทยทุกคนที่ต้องท่องจำทุกอย่างไม่ใช่แค่สูตรคูณ แต่เมื่อโตไปก็ยังมีสูตรอื่น ๆ อีกที่ต้องท่อง เป้าหมายแรกของเด็ก ๆ คงไม่ใช่ข้อไหนไกล นอกจากต้องท่องเพราะจะเอาไปทำข้อสอบ เนื่องด้วยหลายสถาบันมีการใช้ข้อสอบที่มีโจทย์พื้นฐานทั่วไปจากการ ท่องสูตรคูณ หากไม่สามารถท่องได้ แน่นอนว่าจะเกิดปัญหาใหญ่อย่างแน่นอน เพราะเรารู้กันดีว่า แม่สูตรคูณ เป็นรากฐานของคณิตศาสตร์อย่างหนึ่ง ที่จะกลายมาเป็นพื้นฐานในการแก้โจทย์ปัญหาที่ยากกว่าในอนาคต ในขณะเดียวกันก็มีโรงเรียนอีกหลายสถาบัน ที่ตัดสินใจให้เด็กสามารถใช้เครื่องคิดเลขในห้องสอบ เพื่อประหยัดเวลาในการทำข้อสอบเช่นกัน
2. เพื่อความเข้าใจ
“อะไรที่ได้มาง่าย ๆ มักไม่ค่อยมีค่า” ประโยคนี้แอบนำไปใช้กับการท่องสูตรคูณได้เหมือนกัน เนื่องจากการใช้เครื่องคิดเลข ทำให้สามารถแก้โจทย์ได้รวดเร็ว และสะดวกมากยิ่งขึ้น จึงอาจทำให้เด็ก ๆ ไม่มีความเข้าใจในเรื่องของการคูณตัวเลขมากพอ อาจกลายเป็นว่าไม่เข้าใจว่าจะคูณไปเพื่ออะไร เพราะแค่เห็นตัวเลข ก็แค่กดเครื่องคิดเลขเพื่อเอาผลลัพธ์เท่านั้น ถึงแม้การท่องสูตรคูณจะมีความยากลำบากสำหรับเด็ก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า การท่องตัวเลขเหล่านี้ มีส่วนทำให้เด็กเข้าใจในคณิตศาสตร์ได้มากขึ้น
3.คิดในใจได้แม้ไม่มีเครื่องคิดเลข
หลายสถานการณ์ที่เราอาจไม่มีเครื่องคิดเลข แม้ว่าในโทรศัพท์มือถือจะมีก็ตาม แต่เราไม่มีทางรู้ล่วงหน้าว่าจะต้องใช้ คล้ายกับการไม่มี “ปากกา” ติดตัวเมื่อต้องใช้เหมือนกัน หากไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก คงหนีไม่พ้นการที่ต้องคิดเลขในใจ หากเด็กมีประสบการณ์ท่องสูตรคูณมาก่อน จะแก้ปัญหานี้ได้รวดเร็วกว่ามาก โดยไม่จำเป็นต้องมองหาเครื่องคิดเลขบริเวณนั้นเลย ซึ่งก็ถือว่ามีประโยชน์ในชีวิตประจำวันจริง ๆ เช่น ลูกอาจไปซื้อของ แล้วเจอแม่ค้าที่คิดเลขไม่เก่ง ทั้ง 2 คนไม่มีเครื่องคิดเลข แม่ค้าอาจคิดราคาของผิด แต่เด็กอาจโต้แย้งได้ เป็นต้น
4.ฝึกพัฒนาการทางด้านการจดจำ
การจดจำสิ่งหนึ่งสามารถทำได้หลายแบบ เพื่อให้ลูกสามารถจำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การท่องแม่สูตรคูณเองก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อย ด้วยการท่องที่หากท่องผิดจะส่งผลให้คำตอบของโจทย์เลขผิดทันที ทำให้เด็ก ๆ ที่ท่องสูตรคูณต้องมีความจำที่แม่นยำ และยิ่งถ้าได้นำไปใช้ได้จริง จะยิ่งส่งผลต่อเด็กในด้านที่ดีขึ้น ในแง่ของการเรียนรู้ผ่านการจดจำนั่นเอง หากเด็ก ๆ สามารถจำชุดเลขเหล่านี้ได้ คงไม่ใช่เรื่องยากหากจะจำในสิ่งที่ยากกว่าตัวเลข นี่คือประโยชน์อย่างหนึ่งที่ลูก ๆ จะได้จากการฝึกท่องสูตรคูณ
ท่องสูตรคูณผิด ท่องไม่ได้ ปัญหานี้หนีไม่พ้น
ถึงแม้จะพยายามมองในเชิงบวก และมีหลายเหตุผลมารองรับข้อดีของการท่องสูตรคูณ แต่อย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คือ การท่องผิด หรือการท่องไม่ได้ เนื่องจากหลายปัจจัย เช่น การฝึกฝนไม่มากพอของเด็ก ๆ, ความกดดันในห้องสอบ หรือความสับสนอันเกิดจากการทำโจทย์เลขนานเกินไป เป็นต้น เราจึงจำเป็นที่จะต้องยอมรับว่า นอกจากประโยชน์ด้านความเข้าใจในตัวเลข หรือการฝึกพัฒนาการทางด้านความจำ ที่เราได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว หากไม่มีเหตุผลเหล่านี้ การได้ใช้เครื่องคิดเลขก็สามารถทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำขึ้นกว่าจริง ๆ
แต่ขณะเดียวกันคณิตศาสตร์ที่ต้องการสอนเรื่องการคำนวณที่แม่นยำผ่านโจทย์ต่าง ๆ และทุกอย่างวัดกันที่ตัวเลขซึ่งเป็นผลลัพธ์ แต่ถ้าหากเด็ก ๆ มีความเข้าใจในกระบวนการคิด รู้วิธีการที่จะหาคำตอบได้อย่างถูกต้องตามขั้นตอน แต่เพียงเพราะคูณตัวเลขผิดไปตัวเดียว ทำให้เด็ก ๆ ได้คะแนนสอบในข้อนั้น้ท่ากับศูนย์ทันที บางทีสิ่งเหล่านี้ก็กลายเป็นคำถามได้เช่นกันว่า “สำหรับคณิตศาสตร์เราวัดความสามารถของเด็ก ๆ เพียงแค่ตัวเลขจากคำตอบหรือไม่ ?”
เราคงไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเมื่อโตขึ้น หากต้องไปทำงานในสถาบันต่าง ๆ แล้วต้องเจอกับตัวเลข คงไม่มีใครเสี่ยงมานั่งท่องสูตรคูณ หรือนั่งคูณตัวเลขผ่านกระดาษเปล่า ยิ่งถ้าเป็นเรื่องจำนวนของเงินทอง หากผิดพลาดจะเกิดความเสียหายได้ และอาจทำให้ได้รับโทษอย่างรุนแรง พอถึงวัยดังกล่าวทุกคนจึงหันมาใช้เครื่องคิดเลข ที่ถือว่ามีความแน่นอนมากกว่า การท่องแม่สูตรคูณจึงอาจกล่าวได้ว่ามีความสำคัญกับเด็กในช่วงวัยเรียนเท่านั้น และหลัก ๆ คือจดจำเพื่อนำไปใช้ต่อยอดในห้องสอบ และจะลืมเลือนไปเองเมื่อเริ่มโตขึ้นนั่นเอง
วิดีโอจาก : Learn and song
ท่องสูตรคูณอย่างไร ให้จำได้แม่น ไม่มีสูตรแต่ต้องฝึกฝน
การท่องสูตรนั้นไม่สามารถปรับแต่งรูปคำได้ เหมือนกับการท่องตารางธาตุ หรือตัวสะกดแม่ต่าง ๆ ในภาษาไทย เพราะเป็นตัวเลขที่มีความแน่นอน และอาจเสี่ยงต่อการจดจำที่ผิดเพี้ยนไป การที่จะท่องแม่สูตรได้นั้น จึงจำเป็นที่จะต้องใช้ความพยายามที่จะฝึกฝน และต้องฝึกฝนให้บ่อย ๆ จนกว่าจะเกิดความคล่องแคล่ว ถึงแม้ว่าเราจะเห็นสูตรคูณมีมากถึง 24 แม่ แต่โดยปกติแล้ว มักจะท่องกันถึงแม่ 12 เท่านั้น เนื่องจากการใช้ตัวเลข 1 ถึง 9 รวมอยู่ในนั้นแล้วนั่นเอง ส่วนแม่ตั้งแต่ 13 ขึ้นไป สามารถประยุกต์ใช้มาจากแม่ 2 ถึง 12 ได้
แม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามในการท่อง แต่หากลูกเกิดมีปัญหากับการท่องสูตรคูณ คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้กิจกรรมอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ลูกเรียนรู้ได้ดีขึ้น เช่น การใช้สื่อออนไลน์ที่มีการนำแม่สูตรคูณมาทำเป็นจังหวะเพลง เพื่อทำให้การท่องนั้นสนุกสนานกว่าเดิมไม่น่าเบื่อ หรือจะให้ลูกเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับการทำกิจกรรมร่วมกับบุคคลในครอบครัวก็ได้เช่นกัน เช่น การนำแม่สูตรคูณมาทำเป็นเกมต่าง ๆ ให้กับลูกได้เล่น หรือนำไปทำเป็นเกมทายโจทย์เลข เพื่อเก็บคะแนนแลกรางวัลก็ถือว่าน่าสนใจเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณพ่อคุณแม่จะทำให้กิจกรรมนั้นมีความน่าสนใจมากแค่ไหน
การท่องสูตรคูณเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจมากกว่าที่คิด เพราะสำหรับเด็กบางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องที่ยาก หากคุณพ่อคุณแม่ช่วยให้ลูกได้เรียนรู้ได้ง่ายกว่าเดิม จะส่งผลดีต่อพัฒนาการในห้องเรียนของลูกอย่างแน่นอน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เทคนิคไม่ลับท่องจำ “ตารางธาตุ” สำหรับเด็กมัธยมว้าวุ่นเคมี
50 คำศัพท์ภาษาไทย ที่คนไทยมักเขียนผิด และลูกควรเรียนรู้ไว้ก่อน
เทคนิคการจำ “กริยา 3 ช่อง” พื้นฐานภาษาอังกฤษที่สำคัญสำหรับเด็กประถม
ที่มาข้อมูล : 1 2
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!