ประกันคนท้อง ประกันคลอดบุตร ที่ไหนดี? ปี 2568

lead image

ประกันคนท้อง เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการตั้งครรภ์และคลอดบุตร บทความนี้รวบรวมประกันคนท้อง 2568 มาเป็นทางเลือกให้ว่าที่คุณแม่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การทำประกันชีวิตเป็นหนึ่งในวิธีการบริหารความเสี่ยงทางการเงินที่สำคัญ ช่วยให้มั่นใจว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ครอบครัวยังคงได้รับความคุ้มครองด้านการเงิน สำหรับคุณแม่ที่วางแผนตั้งครรภ์ การทำ ประกันคนท้อง เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ทั้งค่าตรวจครรภ์ ค่าทำคลอด และค่ารักษาพยาบาลของลูกน้อย นอกจากนี้ ยังช่วยลดความกังวลในกรณีเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ บทความนี้จึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ประกันคนท้อง ที่น่าสนใจ เพื่อช่วยให้คุณแม่สามารถเลือกแผนประกันคลอดบุตรที่เหมาะสมกับความต้องการได้มากที่สุด

 

ประกันคนท้อง คืออะไร ทำไมควรทำ?

แผนประกันชีวิตทุกวันนี้ อาจจะเรียกได้ว่าครอบคลุมแทบทุกช่วงของชีวิต ตั้งแต่แรกเกิด จนกระทั่งเกษียณอายุ ซึ่งแผนประกันอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่วางแผนมีบุตร ก็คือ ประกันคนท้อง หรือบางคนอาจเรียกว่า ประกันคลอดบุตร ซึ่งชื่อเต็มๆ ก็คือ ประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์

โดยประกันคนท้องนี้ เป็นแผนประกันสุขภาพที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร เช่น ค่าตรวจสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์ ค่าคลอด และค่ารักษาพยาบาลสำหรับทารกแรกเกิด การมีประกันประเภทนี้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด และมอบความอุ่นใจให้กับคุณแม่ในช่วงเวลาสำคัญนี้

ความสำคัญของประกันคนท้องอยู่ที่การเตรียมความพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจสูงขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร นอกจากนี้ ยังช่วยคุ้มครองกรณีเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจต้องการการรักษาพิเศษ การมีประกันค่าคลอดบุตรทำให้คุณแม่มั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลที่เหมาะสมโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เรื่องควรรู้ก่อนทำประกันคนท้อง

ในการทำประกันทุกชนิด ผู้เอาประกันควรศึกษาเงื่อนไขของกรมธรรม์ให้ดี ก่อนตัดสินใจทำประกัน เพราะเมื่อตัดสินใจเลือกแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในกรมธรรม์ได้ เพราะฉะนั้นควรวางแผนและเลือกแบบประกันที่ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการของเรามากที่สุดค่ะ
สำหรับการทำประกันคนท้องก็เช่นเดียวกัน ควรศึกษารายละเอียดและเปรียบเทียบแผนต่าง ๆ ให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดค่ะ 

  • ต้องสมัครก่อนตั้งครรภ์

ส่วนใหญ่ประกันคนท้องจะไม่คุ้มครองหากคุณสมัครหลังจากตั้งครรภ์แล้ว ดังนั้นควรเริ่มวางแผนและซื้อประกันตั้งแต่ก่อนมีน้อง

  • มีระยะเวลารอคอย

ประกันคนท้องมักมี Waiting Period หรือระยะเวลารอคอยประมาณ 10-12 เดือนก่อนให้ความคุ้มครอง ดังนั้นควรศึกษารายละเอียดให้ดี

  • ครอบคลุมค่าทำคลอดและภาวะแทรกซ้อนต่างกัน

แต่ละแผนมีเงื่อนไขต่างกัน บางแผนครอบคลุมเฉพาะการคลอดปกติ บางแผนครอบคลุมภาวะแทรกซ้อนหรือภาวะฉุกเฉินด้วย ควรเลือกแผนที่เหมาะกับตัวเอง

  • วงเงินคุ้มครองแตกต่างกัน

ค่าทำคลอดและค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลแต่ละแห่งต่างกัน ควรเลือกแผนประกันที่ให้วงเงินเพียงพอกับโรงพยาบาลที่ต้องการคลอด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • อาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับสุขภาพ

หากคุณแม่มีโรคประจำตัวหรือมีประวัติภาวะแทรกซ้อน อาจมีผลต่อการรับประกันหรือเงื่อนไขความคุ้มครอง ควรแจ้งข้อมูลสุขภาพให้บริษัทประกันทราบอย่างครบถ้วน


กำลังตั้งครรภ์ซื้อประกันคนท้องได้ไหม

ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า ประกันคนท้อง หรือ ประกันคลอดบุตร นั้น มีระยะเวลารอ 9 เดือนขึ้นไป จึงต้องทำประกันก่อนตั้งครรภ์ แต่สำหรับคุณแม่ที่ไม่ได้ทำประกันคนท้องไว้ล่วงหน้า แต่ต้องการทำประกันคนท้อง ขณะที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ อาจต้องเปลี่ยนมาทำประกันสุขภาพแทน โดยเลือกแบบประกันที่สามารถเพิ่มลูกแรกเกิดเข้าไปในแผนประกันได้ ซึ่งควรศึกษาเงื่อนไขกรมธรรม์ก่อนตัดสินใจทุกครั้ง 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

9 ประกันคนท้อง ปี 2568 น่าสนใจ

  • LMG Insurance
  • คุ้มครองค่าตรวจครรภ์และค่าคลอดบุตร
  • วงเงินคุ้มครอง 100,000 – 150,000 บาท
  • ระยะเวลารอคอย 280 วัน
  • ไม่คุ้มครองภาวะแทรกซ้อนและการดูแลเด็กแรกเกิด
  • LUMA
  • แผน LUMA HI5 และ Prime
  • ความคุ้มครองผู้ป่วยในสูง ตั้งแต่ 5 ล้านบาท ถึง 50 ล้านบาท
  •  ความคุ้มครองผู้ป่วยนอก 40,000 บาท (ส่วนร่วมค่าใช้จ่าย 50%) และ 200,000 บาทต่อปี
  •  ความคุ้มครองการตรวจประจำเดือนและค่าคลอดบุตร 200,000 – 300,000 บาท
  • ความคุ้มครองภาวะแทรกซ้อน 1,000,000 บาท
  • ระยะเวลารอคอย 10 เดือน
  • คุ้มครองการดูแลเด็กทารกแรกเกิด 20,000 – 30,0000 บาท (สำหรับ 25 วันแรก)
  • Allianz Ayudhya
  • คุ้มครองค่าตรวจครรภ์ ค่าคลอด และภาวะแทรกซ้อน (สูงสุด 240,000 บาท)
  • วงเงินคุ้มครองค่าคลอด 40,000 – 120,000 บาท
  • ระยะเวลารอคอย 280 วัน
  • ไม่คุ้มครองการดูแลเด็กแรกเกิด
  • AXA
  • คุ้มครองค่าตรวจครรภ์ ค่าคลอด และภาวะแทรกซ้อน (สูงสุด 480,000 บาท เฉพาะแผนสูงสุด)
  • วงเงินคุ้มครองค่าคลอด 15,000 – 120,000 บาท
  • ระยะเวลารอคอย 10 เดือน
  • ไม่คุ้มครองการดูแลเด็กแรกเกิด
  • Pacific Cross
  • คุ้มครองค่าตรวจครรภ์และค่าคลอดบุตร
  • วงเงินคุ้มครอง 30,000 – 200,000 บาท
  • ระยะเวลารอคอย 280 วัน
  • ไม่คุ้มครองภาวะแทรกซ้อนและการดูแลเด็กแรกเกิด
  • April International Insurance
  • บริษัทต่างชาติที่มีจดทะเบียนในไทย
  • คุ้มครองค่าตรวจครรภ์ ค่าคลอด ภาวะแทรกซ้อน และการดูแลเด็กแรกเกิด
  • วงเงินคุ้มครอง 163,000 – 491,000 บาท
  • ระยะเวลารอคอย 366 วัน
 

บริษัทประกันชีวิตบางแห่ง อาจไม่มีแบบประกันสำหรับแม่ท้องโดยเฉพาะ แต่สามารถซื้อสัญญาแนบท้ายเพิ่มเติมได้ หากคุณแม่ที่มีประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพอยู่แล้วอาจพิจารณาซื้อสัญญาเพิ่มเติมแนบท้ายกรมธรรม์ เพื่อเพิ่มความคุ้มครองการตั้งครรภ์ได้ 

 

  • เมืองไทยประกันชีวิต
  • สัญญาเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่มีประกันสุขภาพ Elite Health Plus หรือ
    D Health Plus เท่านั้น
  • ครอบคลุมการฝากครรภ์ การคลอดบุตร การแท้งบุตร และภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์
  • ระยะเวลาการรอคอย 90 วัน สำหรับกรณีการถ่างขยายปากมดลูก และขูดมดลูกกรณีแท้งบุตร / 280 วัน กรณีคลอดบุตรหรือภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ 
  • ไม่คุ้มครองการดูแลเด็กแรกเกิด
  • AIA
  • หากมีกรมธรรม์หลักกับ AIA สามารถซื้อสัญญาเพิ่มเติม Lady Care Plus 
  • ครอบคลุมการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร กรณีเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนจากกระบวการคลอดบุตร, ความผิดปกติจากการตั้งครรภ์ และ ความผิดปกติที่มีมาแต่กำเนิดของบุตร 
  • Aetna Insurance
  • เมื่อมีแผนประกันสุขภาพบียอนด์
  • เลือกซื้อความคุ้มครองผู้ป่วยนอก สูติกรรม หรือประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลเพิ่มเติมได้
  • ความคุ้มครองครอบคลุม การคลอดตามปกติ การผ่าคลอดโดยตั้งใจ และการคลอดโดยใช้เครื่องมือช่วย การตั้งครรภ์นอกมดลูก และการคลอดบุตรที่ต้องผ่าตัดฉุกเฉิน รวมถึงการแท้งบุตร
  • คุ้มครองสำหรับการคลอดบุตร เริ่มหลังจากกรมธรรม์มีผลบังคับมาแล้วติดต่อกันไม่น้อยกว่า 280 วัน และสำหรับการแท้งบุตรหลังจากกรมธรรม์มีผลบังคับมาแล้วติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วัน

 

การคลอดลูกเป็นช่วงเวลาสำคัญในชีวิตพ่อแม่ แต่ก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูง ตั้งแต่ค่าฝากครรภ์ ค่าทำคลอด ไปจนถึงค่าดูแลสุขภาพของแม่และลูกน้อย การวางแผนล่วงหน้าด้วยการทำประกันคลอดบุตรจึงเป็นตัวช่วยที่ดี ในการลดภาระค่าใช้จ่ายและความกังวลหากมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น นอกจากจะทำให้การเงินไม่สะดุดแล้ว ยังช่วยให้พ่อแม่โฟกัสกับการดูแลลูกน้อยได้เต็มที่ การเลือกประกันที่เหมาะสมกับความต้องการจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรศึกษาให้รอบคอบ และเราหวังว่าบทความนี้จะช่วยเสนอทางเลือกให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังวางแผนมีบุตรตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ

 

ที่มา: LUMA, เมืองไทยประกันชีวิต, AIA, Gettgo, Aetna     

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อาหารบำรุงมดลูก ก่อนตั้งครรภ์ คนอยากมีลูก กินอะไรให้พร้อมตั้งท้อง

อยากท้องทำไงดี ทำไมถึงมีลูกยาก เคลียร์ทุกปัญหาคาใจ พร้อมวิธีแก้ไข

10 ข้อต้องรู้ ขั้นตอนทำเด็กหลอดแก้ว เตรียมตัวฝังตัวอ่อนอย่างไรให้สำเร็จ

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team