การทำประกันชีวิตเป็นหนึ่งในวิธีการบริหารความเสี่ยงทางการเงินที่สำคัญ ช่วยให้มั่นใจว่าหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด ครอบครัวยังคงได้รับความคุ้มครองด้านการเงิน สำหรับคุณแม่ที่วางแผนตั้งครรภ์ การทำ ประกันคนท้อง เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ทั้งค่าตรวจครรภ์ ค่าทำคลอด และค่ารักษาพยาบาลของลูกน้อย นอกจากนี้ ยังช่วยลดความกังวลในกรณีเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ บทความนี้จึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ประกันคนท้อง ที่น่าสนใจ เพื่อช่วยให้คุณแม่สามารถเลือกแผนประกันคลอดบุตรที่เหมาะสมกับความต้องการได้มากที่สุด
ประกันคนท้อง คืออะไร ทำไมควรทำ?
แผนประกันชีวิตทุกวันนี้ อาจจะเรียกได้ว่าครอบคลุมแทบทุกช่วงของชีวิต ตั้งแต่แรกเกิด จนกระทั่งเกษียณอายุ ซึ่งแผนประกันอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่วางแผนมีบุตร ก็คือ ประกันคนท้อง หรือบางคนอาจเรียกว่า ประกันคลอดบุตร ซึ่งชื่อเต็มๆ ก็คือ ประกันค่าคลอดบุตรและตั้งครรภ์
โดยประกันคนท้องนี้ เป็นแผนประกันสุขภาพที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร เช่น ค่าตรวจสุขภาพระหว่างตั้งครรภ์ ค่าคลอด และค่ารักษาพยาบาลสำหรับทารกแรกเกิด การมีประกันประเภทนี้ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด และมอบความอุ่นใจให้กับคุณแม่ในช่วงเวลาสำคัญนี้
ความสำคัญของประกันคนท้องอยู่ที่การเตรียมความพร้อมสำหรับค่าใช้จ่ายที่อาจสูงขึ้นในระหว่างการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร นอกจากนี้ ยังช่วยคุ้มครองกรณีเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจต้องการการรักษาพิเศษ การมีประกันค่าคลอดบุตรทำให้คุณแม่มั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลที่เหมาะสมโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย
เรื่องควรรู้ก่อนทำประกันคนท้อง
ในการทำประกันทุกชนิด ผู้เอาประกันควรศึกษาเงื่อนไขของกรมธรรม์ให้ดี ก่อนตัดสินใจทำประกัน เพราะเมื่อตัดสินใจเลือกแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขในกรมธรรม์ได้ เพราะฉะนั้นควรวางแผนและเลือกแบบประกันที่ตอบโจทย์และตรงกับความต้องการของเรามากที่สุดค่ะ
สำหรับการทำประกันคนท้องก็เช่นเดียวกัน ควรศึกษารายละเอียดและเปรียบเทียบแผนต่าง ๆ ให้เหมาะกับความต้องการและงบประมาณ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดค่ะ
-
ต้องสมัครก่อนตั้งครรภ์
ส่วนใหญ่ประกันคนท้องจะไม่คุ้มครองหากคุณสมัครหลังจากตั้งครรภ์แล้ว ดังนั้นควรเริ่มวางแผนและซื้อประกันตั้งแต่ก่อนมีน้อง
-
มีระยะเวลารอคอย
ประกันคนท้องมักมี Waiting Period หรือระยะเวลารอคอยประมาณ 10-12 เดือนก่อนให้ความคุ้มครอง ดังนั้นควรศึกษารายละเอียดให้ดี
-
ครอบคลุมค่าทำคลอดและภาวะแทรกซ้อนต่างกัน
แต่ละแผนมีเงื่อนไขต่างกัน บางแผนครอบคลุมเฉพาะการคลอดปกติ บางแผนครอบคลุมภาวะแทรกซ้อนหรือภาวะฉุกเฉินด้วย ควรเลือกแผนที่เหมาะกับตัวเอง
-
วงเงินคุ้มครองแตกต่างกัน
ค่าทำคลอดและค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลแต่ละแห่งต่างกัน ควรเลือกแผนประกันที่ให้วงเงินเพียงพอกับโรงพยาบาลที่ต้องการคลอด
-
อาจมีข้อจำกัดเกี่ยวกับสุขภาพ
หากคุณแม่มีโรคประจำตัวหรือมีประวัติภาวะแทรกซ้อน อาจมีผลต่อการรับประกันหรือเงื่อนไขความคุ้มครอง ควรแจ้งข้อมูลสุขภาพให้บริษัทประกันทราบอย่างครบถ้วน
กำลังตั้งครรภ์ซื้อประกันคนท้องได้ไหม
ดังที่ได้กล่าวมาแล้วว่า ประกันคนท้อง หรือ ประกันคลอดบุตร นั้น มีระยะเวลารอ 9 เดือนขึ้นไป จึงต้องทำประกันก่อนตั้งครรภ์ แต่สำหรับคุณแม่ที่ไม่ได้ทำประกันคนท้องไว้ล่วงหน้า แต่ต้องการทำประกันคนท้อง ขณะที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ อาจต้องเปลี่ยนมาทำประกันสุขภาพแทน โดยเลือกแบบประกันที่สามารถเพิ่มลูกแรกเกิดเข้าไปในแผนประกันได้ ซึ่งควรศึกษาเงื่อนไขกรมธรรม์ก่อนตัดสินใจทุกครั้ง
9 ประกันคนท้อง ปี 2568 น่าสนใจ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
บริษัทประกันชีวิตบางแห่ง อาจไม่มีแบบประกันสำหรับแม่ท้องโดยเฉพาะ แต่สามารถซื้อสัญญาแนบท้ายเพิ่มเติมได้ หากคุณแม่ที่มีประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพอยู่แล้วอาจพิจารณาซื้อสัญญาเพิ่มเติมแนบท้ายกรมธรรม์ เพื่อเพิ่มความคุ้มครองการตั้งครรภ์ได้
|
|
|
|
|
|
|
|
การคลอดลูกเป็นช่วงเวลาสำคัญในชีวิตพ่อแม่ แต่ก็มาพร้อมกับค่าใช้จ่ายที่สูง ตั้งแต่ค่าฝากครรภ์ ค่าทำคลอด ไปจนถึงค่าดูแลสุขภาพของแม่และลูกน้อย การวางแผนล่วงหน้าด้วยการทำประกันคลอดบุตรจึงเป็นตัวช่วยที่ดี ในการลดภาระค่าใช้จ่ายและความกังวลหากมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้น นอกจากจะทำให้การเงินไม่สะดุดแล้ว ยังช่วยให้พ่อแม่โฟกัสกับการดูแลลูกน้อยได้เต็มที่ การเลือกประกันที่เหมาะสมกับความต้องการจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ควรศึกษาให้รอบคอบ และเราหวังว่าบทความนี้จะช่วยเสนอทางเลือกให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังวางแผนมีบุตรตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะคะ
ที่มา: LUMA, เมืองไทยประกันชีวิต, AIA, Gettgo, Aetna
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
อาหารบำรุงมดลูก ก่อนตั้งครรภ์ คนอยากมีลูก กินอะไรให้พร้อมตั้งท้อง
อยากท้องทำไงดี ทำไมถึงมีลูกยาก เคลียร์ทุกปัญหาคาใจ พร้อมวิธีแก้ไข
10 ข้อต้องรู้ ขั้นตอนทำเด็กหลอดแก้ว เตรียมตัวฝังตัวอ่อนอย่างไรให้สำเร็จ