การ ออมเงินให้ลูก ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่นอกจากจะช่วยให้วางแผนทางการเงินง่ายแล้ว ยังเป็นการปลูกฝังนิสัยรักการออมเงินให้กับลูกตั้งแต่เล็ก ๆ ด้วย แต่ก็มีปัจจัยหลายอย่างที่พ่อแม่ต้องเลือกให้ดี ออมเงินให้ลูกธนาคารไหนดี 2568 ได้ดอกเบี้ยเท่าไหร่ ต้องใช้เอกสารหลักฐานอะไรบ้าง มาดูกัน

ประโยชน์ของการออมเงินให้ลูก
- ปลูกฝังนิสัยรักการออมเงิน: การออมเงินให้ลูก ถือเป็นวิธีที่จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้สอนวินัยทางการใช้เงินของลูกตั้งแต่เล็ก ๆ ทำให้ลูกน้อยรู้จักวางแผน อดออม คิดอย่างรอบคอบ และใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล
- มีเงินสำรอง: การออมเงินให้ลูกตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าเงินจะมากหรือน้อย จะช่วยสร้างฐานะทางการเงินที่มั่นคงขึ้น ทำให้มีเงินออมที่สามารถนำมาใช้ยามฉุกเฉินได้
- นำเงินทุนไปต่อยอดได้: การออมเงินถือเป็นสิ่งที่ไม่เคยสูญเปล่า เพราะนอกจากเงินต้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามวินัยของผู้ออมแล้ว ดอกเบี้ยก็จะเติบโตขึ้นตามเช่นกัน ส่งผลให้มีเงินทุนที่สามารถนำไปต่อยอดในเรื่องต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการลงทุน หรือการใช้จ่ายเพื่อการศึกษา การพัฒนาทักษะต่าง ๆ ของลูกในอนาคต

ปัจจัยในการเลือกธนาคารเพื่อออมเงินให้ลูก
เดี๋ยวนี้การเปิดบัญชีเงินฝากสำหรับเด็ก ก็มีให้เลือกมากมายหลายธนาคาร เงื่อนไข อัตราดอกเบี้ย และสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ก็จะแตกต่างกันออกไป คุณพ่อคุณแม่ควรศึกษาปัจจัยต่าง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจ เช่น
- อัตราดอกเบี้ย: เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยของแต่ละธนาคาร เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนเปิดบัญชี
- ประเภทของบัญชี: การออมเงินมีทั้งบัญชีออมทรัพย์ และบัญชีเงินฝากประจำ ซึ่งก็จะมีเงื่อนไขในการฝากเงิน และดอกเบี้ยที่ได้ต่างกันออกไป ควรเลือกประเภทบัญชีให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง
- เงื่อนไขการเปิดบัญชี: ตรวจสอบเงื่อนไขการฝากและถอน อายุขั้นต่ำของผู้ที่เปิดบัญชี จำนวนเงินฝากขั้นต่ำ ระยะเวลาการฝาก รวมไปถึงค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
- สิทธิประโยชน์: บางธนาคารอาจมีสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น ส่วนลดร้านค้า คะแนนสะสม ของขวัญวันเกิด
- ความสะดวก: เลือกธนาคารที่มีสาขาใกล้บ้าน หรือมีช่องทางการทำธุรกรรมออนไลน์ ที่สะดวกต่อการใช้งาน

เอกสารจำเป็นที่ต้องใช้ในการเปิดบัญชีออมเงินให้ลูก
การเปิดบัญชีเงินฝากให้กับลูก จำเป็นต้องเตรียมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เช่นเดียวกับการเปิดบัญชีเงินฝากทั่วไป คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมเอกสารจำเป็นเบื้องต้นให้พร้อม และสอบถามรายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมกับแต่ละธนาคาร
- บัตรประจำตัวประชาชน: ทั้งของคุณพ่อ คุณแม่ และลูก
- สูติบัตรของลูก: อาจใช้ในกรณีที่เด็กยังไม่มีบัตรประชาชน
- หนังสือรับรองการเกิด: อาจใช้ในกรณีที่ไม่มีสูติบัตร
- สำเนาทะเบียนบ้าน: ทั้งของคุณพ่อ คุณแม่ และลูก เพื่อยืนยันความสัมพันธ์และที่อยู่
- ทะเบียนสมรสของพ่อแม่: ในกรณีที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส สามารถใช้ใบรับรองบุตรแทนได้
- หนังสือมอบอำนาจ: อาจใช้ในกรณีที่ให้บุคคลอื่นมาดำเนินการแทน
- เงินฝากเริ่มต้น: เงื่อนไขและจำนวนขั้นต่ำเป็นไปตามที่แต่ละธนาคารกำหนด

ออมเงินให้ลูกธนาคารไหนดี 2568
การเปิดบัญชีเงินฝากสำหรับเด็ก มีให้เลือกหลากหลายธนาคาร เราเลยขอยกตัวอย่างธนาคารที่น่าสนใจ และข้อมูลเบื้องต้นมาฝากคุณพ่อคุณแม่กัน
1. ธนาคารกรุงเทพ บัญชีเงินฝากสินมัธยะทรัพย์ทวี-บัวหลวงคิดส์
คุณสมบัติ
- ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 14 ปี
เงื่อนไขการฝากเงิน
- ฝากเป็นประจำทุกเดือนในจำนวนที่เท่ากันตามที่ได้ตกลงไว้กับธนาคาร ตั้งแต่ 500-25,000 บาท และมีจำนวนเงินฝากสูงสุดในบัญชีไม่เกิน 600,000 บาท โดยนำฝากเงินประจำเดือนไม่เกินวันสุดท้ายของเดือนนั้น ๆ
- การผิดนัดการฝากเกิน 2 ครั้ง จะไม่ได้รับการยกเว้นภาษี แต่ยังคงได้รับอัตราดอกเบี้ยตามเงื่อนไข
- การผิดนัดการฝากเกิน 4 ครั้ง ถือว่าผิดสัญญา จะไม่สามารถฝากต่อได้ และต้องปิดบัญชี โดยได้รับดอกเบี้ยเท่ากับร้อยละ 60 ของดอกเบี้ยที่จะได้รับตามสัญญา และจะไม่ได้รับการยกเว้นภาษี
- การถอนเงินฝากก่อนกำหนด ถือเป็นการปิดบัญชี ซึ่งจะได้รับดอกเบี้ยเท่ากับร้อยละ 60 ของดอกเบี้ยที่จะได้รับตามสัญญา และจะไม่ได้รับการยกเว้นภาษี
อัตราดอกเบี้ย
- 24 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.20% ต่อปี
- 36 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.45% ต่อปี
- 48 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.45% ต่อปี
- 60 เดือน อัตราดอกเบี้ย 2.45% ต่อปี
- ระยะเวลาฝากน้อยกว่า 3 เดือน จะไม่ได้รับดอกเบี้ย
- ระยะเวลาฝากตั้งแต่ 3 เดือน แต่ก่อนครบกําหนดระยะเวลาการฝาก จะได้รับดอกเบี้ยเท่ากับร้อยละ 60 ของดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยตามสัญญา และต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 15 ของดอกเบี้ยที่ได้รับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: bangkokbank
2. ธนาคารกสิกรไทย บัญชีเงินฝากทวีทรัพย์
คุณสมบัติ
- บุคคลธรรมดาอายุตั้งแต่ 12 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- บิดาหรือมารดาสามารถเปิดบัญชีเพื่อบุตรผู้เยาว์ที่อายุต่ำกว่า 12 ปี
เงื่อนไขการฝากเงิน
- เปิดบัญชีขั้นต่ำ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 25,000 บาท
- ฝากในจำนวนเท่ากันทุกเดือน ติดต่อกัน 24 เดือน
อัตราดอกเบี้ย
- ดอกเบี้ยที่ได้รับ = เงินต้น x (อัตราดอกเบี้ย/100) x (ระยะเวลาที่ฝากจริง/365)
- หากขาดฝาก 1 – 2 ครั้งจะได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทวีทรัพย์ และได้รับยกเว้นภาษี คำนวณจากเงินต้นที่
ฝากในระยะเวลา 24 เดือน
- ขาดฝากตั้งแต่ครั้งที่ 3 เป็นต้นไป ธนาคารไม่รับฝากเงินฝากทวีทรัพย์ในงวดที่เหลืออีกต่อไป และได้รับดอกเบี้ยกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ และหักภาษี ณ ที่จ่าย คำนวณจากเงินต้นที่ฝากในระยะเวลา 24 เดือน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: kasikornbank
3. ธนาคารกรุงไทย Krungthai Kids Savings
คุณสมบัติ
- บุคคลธรรมดาสัญชาติไทย อายุไม่เกิน 15 ปีบริบูรณ์
- ผู้ปกครองต้องให้ความยินยอมในการสร้างความสัมพันธ์เปิดบัญชีเงินฝาก และทำธุรกรรมกับธนาคารตามแบบฟอร์มที่ธนาคารกำหนด
- บัญชีเงินฝากออมทรัพย์สำหรับผู้เยาว์ สามารถเปิดได้คนละ 1 บัญชีเท่านั้น
เงื่อนไขการฝากเงิน
- เปิดบัญชีขั้นต่ำที่ 2,000 บาท ฝากสูงสุดไม่เกิน 1,000,000 บาท
- สามารถฝาก-ถอน-โอนได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
- ไม่ต้องฝากต่อเนื่องทุกเดือน
- หลังจากอายุ 15 ปี บัญชีออมทรัพย์พิเศษสำหรับผู้เยาว์ จะเปลี่ยนเป็นบัญชีออมทรัพย์ปกติ
อัตราดอกเบี้ย
- อัตราดอกเบี้ยเท่ากับบัญชีออมทรัพย์ปกติ อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยต่อปีตามประกาศของธนาคาร
- จ่ายดอกเบี้ยทุกวันสิ้นเดือน
- หากฝากมากกว่าถอน จะได้โบนัสพิเศษเพิ่ม 100% จากอัตราดอกเบี้ยที่ได้รับ ทุกต้นเดือนถัดจากเดือนที่จ่ายดอกเบี้ย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: krungthai
4. ธนาคารออมสิน เงินฝาก Youth Savings
คุณสมบัติ
- บุคคลธรรมดาอายุตั้งแต่ 7 – 23 ปีบริบูรณ์
เงื่อนไขการฝากเงิน
- เปิดบัญชีขั้นต่ำ 100 บาท
- ฝากเพิ่มครั้งละไม่ต่ำกว่า 50 บาท
- เปิดบัญชีได้เพียง 1 คน ต่อ 1 บัญชี
- ถอนเงินวันละกี่ครั้งก็ได้ ถอนครั้งละเท่าใดก็ได้
อัตราดอกเบี้ย
- ต่ำกว่า 1 แสนบาท = 0.55 % ต่อปี
- ตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไป = 0.30 % ต่อปี
- เมื่อผู้ฝากอายุครบ 23 ปีบริบูรณ์ ยอดเงินฝากคงเหลือทั้งหมดจะได้รับดอกเบี้ย ในอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเผื่อเรียก
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: gsb
5. ธนาคารเพื่อการเกษตร (ธ.ก.ส.) เงินออมลูกรัก
คุณสมบัติ
- บุคคลธรรมดาที่ต้องการฝากเงินเพื่อผู้เยาว์ที่มีอายุตั้งแต่แรกเกิด – 15 ปี
- ผู้เยาว์ที่มีอายุตั้งแต่ 7 – 15 ปี ณ วันเปิดบัญชี และสามารถลงลายมือชื่อตนเองได้
เงื่อนไขการฝากเงิน
- เปิดบัญชีเงินฝากครั้งแรก 1,000 บาท ฝากติดต่อกันทุกเดือน เดือนละ 1,000 บาท หรือฝากล่วงหน้าได้ไม่เกิน 12 เดือน
- ขาดฝากได้ไม่เกิน ปีละ 2 ครั้ง สําหรับเดือนที่ขาดฝากให้ฝากเพิ่มในเดือนถัดไป
- ได้รับเงินขวัญถุงเป็นรายปี
- มีสิทธิ์ลุ้นรับทุนการศึกษาทุกปี
อัตราดอกเบี้ย
- ร้อยละ 1.50 ต่อปี
- ฝากครบ 1 ปีได้รับเงินขวัญถุง 500 บาท
- ฝากครบ 2 ปีได้รับเงินขวัญถุง 600 บาท
- ฝากครบ 3 ปีได้รับเงินขวัญถุง 700 บาท
- ฝากครบ 4 ปีได้รับเงินขวัญถุง 800 บาท
- ฝากครบ 5 ปีได้รับเงินขวัญถุง 1,000 บาท
- รวมเงินขวัญถุง ฝากต่อเนื่องครบ 5 ปี 3,600 บาท
- สามารถถอนเงินฝากบางส่วนหรือทั้งหมดได้ แต่ผู้ฝากต้องคืนเงินขวัญถุงที่ได้รับทั้งหมดให้ธนาคาร และถูกคัดออกจากโครงการ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: baac
การปลูกฝังลูกน้อยให้เห็นคุณค่าของการออมเงินตั้งแต่เด็ก ถือเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้าม นอกจากเป็นการฝึกนิสัยการออมที่ดีแล้ว ยังช่วงให้วางแผนทางการเงินในอนาคตได้ด้วย โดยสามารถเลือกธนาคารที่ใช้ออมเงิน ตามเงื่อนไขและความสะดวกของแต่ละครอบครัวได้เลย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
วิธีสอนลูกให้รู้จักการใช้เงิน การออมเงิน ในแต่ละช่วงอายุ
ค่าขนมลูกวันละกี่บาทดี ? คู่มือสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่
คุณแม่ไทยตั้งเป้าหมายอะไรในปีใหม่นี้? ผลสำรวจชี้ เป้าหมายปีใหม่ 2025 ที่น่าสนใจ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!