คนท้องปวดฟัน ปวดฟันคุด เหงือกบวม กินยาอะไรได้บ้าง?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คนท้องปวดฟัน จะสามารถกินยาแก้ปวดเหมือนคนอื่น ๆ ก่อนไปพบหมอฟันได้ไหมนะ แล้วถ้ากินเข้าไป ยาแก้ปวดฟัน จะส่งผลอะไรต่อลูกน้อยในครรภ์หรือเปล่า หลายคนเวลารู้สึกปวดฟัน อย่างแรกที่นึกถึงคือ การหายาแก้ปวด จำพวกพาราเซตามอล หรือ แอสไพรินมารับประทาน ให้อาการทุเลาลงก่อน แต่ถ้าเป็นคนท้องปวดฟันล่ะ จะทำยังไง คนท้องปวดฟันคุด เหงือกบวม ฟันกราม กินยาอะไร ไปติดตามกัน

 

อาการเสียวฟันระหว่างตั้งครรภ์

เมื่อคุณตั้งครรภ์ คุณจะต้องเผชิญกับความไม่สบายตัวหลายอย่าง ร่างกายของคุณจะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น คุณจะรู้สึกปวดหลังหรือไม่สบายตัวตามมา แต่ระหว่างที่คุณพยายามหนุนหมอนสูง ๆ เพื่อให้หลับสบายขึ้นนั้น คุณอาจจะสังเกตเห็นว่า ต้นเหตุอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัวระหว่างตั้งครรภ์ก็คือฟัน ว่าที่คุณแม่อาจมีอาการเสียวฟันระหว่างตั้งครรภ์ แต่หากได้ทราบว่าผู้หญิงตั้งครรภ์คนอื่นก็มีอาการแบบนี้เหมือนกัน คุณอาจจะสบายใจขึ้น ต่อไปนี้คือสาเหตุที่อาจทำให้คุณเสียวฟันและเจ็บเหงือก และวิธีจัดการกับอาการเหล่านี้อย่างปลอดภัย

บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำไมคนท้องต้องตรวจฟัน สุขภาพฟันของแม่มีผลกับลูกน้อยหรือไม่

 

 

สาเหตุที่แม่ท้องปวดฟัน แก้ปวดฟันหายใน 1 นาที

ก่อนอื่น มาดูถึงสาเหตุที่ทำให้คนท้องปวดฟัน มีอาการฟันผุว่าเกิดขึ้นจากอะไรได้บ้าง นอกจากสาเหตุของอาการปวดฟัน ยังอาจเกิดจากพฤติกรรมการทานอาหารที่บ่อยมากขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ เป็นสาเหตุที่ทำให้มีเศษอาหารไปเกาะติดอยู่ที่ฟัน ยิ่งถ้าไม่ได้แปรงฟันทุก ๆ ครั้งหลังทานอาหารก็จะทำให้คุณแม่ฟันผุ มีอาการปวดฟันได้ง่ายนั่นเอง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

1. ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูง

ในขณะที่คุณแม่มือใหม่กำลังตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในตัวจะทำให้มีอาการเหงือกอักเสบ และเลือดออกได้ง่าย ทำให้คุณแม่ไม่สามารถแปรงฟันได้เต็มที่ เพราะจะรู้สึกเจ็บปวดภายในช่องปาก สิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ อาการปวดฟัน นั่นเอง

 

2. กินบ่อย

ว่าที่คุณแม่มักจะรับประทานอาหารบ่อยครั้งกว่าคนปกติ ทำให้มีเศษอาหารเข้าไปเกาะติดอยู่ที่ซอกฟัน ยิ่งถ้าไม่ได้แปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ รวมทั้งบางรายอาจมีความเจ็บปวดด้วยเหตุผลข้อแรกอยู่ก่อนแล้ว อาการปวดฟัน และโรคฟันผุ ย่อมถามหาได้ไม่ยาก

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

3. กรดจากกระเพาะอาหาร

คนที่มีอาการแพ้ท้อง และอาเจียน จะมีกรดจากกระเพาะอาหารออกมาด้วย ซึ่งกรดดังกล่าวจะไปกัดกร่อนฟัน ทำให้เกิดฟันผุ สุดท้ายก็จะเกิดเชื้อแบคทีเรียในช่องปากมากมาย และสามารถส่งต่อเชื้อโรคนั้น มายังลูกน้อยในครรภ์ได้ด้วยอีกต่างหาก

บทความที่เกี่ยวข้อง : ปวดฟัน กลางดึกทำยังไงดี? วิธีแก้อาการปวดฟันตอนกลางคืน

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

มีวิธีบรรเทาอาการปวดฟัน สำหรับว่าที่คุณแม่ อย่างไรกันบ้าง? แก้ปวดฟันหายใน 1 นาที

1. ประคบร้อน

ให้นำผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่น หรือนำกระเป๋าน้ำร้อนมาประคบไว้ตรงบริเวณแก้มที่ปวด ระวังอย่าให้โดนใกล้บริเวณรอบดวงตา เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้

 

2. ประคบเย็น

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณแม่รู้สึกปวดตุบ ๆ และมีอาการของเหงือกบวมร่วมด้วย ให้นำน้ำแข็งมาประคบเย็นไว้ประมาณ 5 นาที ทำต่อเนื่องอย่างนี้ซ้ำ ๆ ทุกครึ่งชั่วโมง อาการจะค่อย ๆ ทุเลาลง

 

3. บ้วนปากด้วยน้ำเกลือ

นำเกลือป่นราว 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำต้มสุกประมาณ 1 ถ้วยกาแฟ คนให้ละลายเข้าด้วยกัน แล้วนำไปกลั้วปากประมาณครึ่งนาที ก่อนบ้วนทิ้ง เกลือจะช่วยให้เหงือกที่บวมอักเสบ มีอาการดีขึ้น

 

4. นวดกดจุด

อาจลองนวดคลึงเบา ๆ ที่แก้มบริเวณเหนือฟันซี่ที่ปวด หรือใช้น้ำแข็งก้อนเล็ก มากดไว้ตรงที่ปวด ก็จะช่วยทุเลาอาการได้เช่นกัน บางท่านก็แก้ไขด้วยการนำเท้าแช่ลงในน้ำอุ่น บางท่านก็ให้คุณพ่อช่วยนวดสัมผัสคลายความปวดเมื่อยให้ และบางท่านก็ใช้บริการนวดแผนไทย  ขึ้นอยู่กับความสะดวก

 

5. ทานผักบรรเทาปวด

อาหารบำรุงฟัน ผักบุ้งที่เราทราบกันดีว่าช่วยบำรุงสายตา ก็ช่วยเรื่องบรรเทาอาการปวดฟันได้ด้วยนะ โดยให้นำรากผักบุ้งมาตำให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำ แล้วนำไปผสมกับน้ำส้มสายชู จากนั้น ให้อมไว้ในปากประมาณ 5 นาที แล้วบ้วนออก หรือมะระ ผักที่ดูเหมือนว่าจะขมเหลือหลาย แต่สรรพคุณกลับมีมากมายเกินตัว ก็ช่วยเรื่องนี้ได้เช่นกัน โดยให้นำรากมะระมาตำให้แหลก แล้วเอาไปอุดตรงฟันซี่ที่ปวด ใช้ลิ้นกดไว้สักพัก จากนั้น ให้คายทิ้ง จะค่อย ๆ รู้สึกดีขึ้น เรียกว่า หวานเป็นลม ขมเป็นยา ของจริง เสียงจริง

และเราอาจจะเคยได้ยินว่าการบ้วนปากด้วยน้ำเกลือบ่อย ๆ ลดอาการปวดฟันได้ แต่ถ้าบ้วนบ่อยเกินไปอาจจะได้ผลเสียจากเกลือที่ผสมกับน้ำแทน เพราะในเกลือมีโซเดียมสูง ซึ่งไม่เป็นผลดีกับสุขภาพ ฉะนั้นขอแนะนำ ให้ลองนำเมล็ดผักชีไปต้มกับน้ำ แล้วนำมาบ้วนปากบ่อย ๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะได้รับโซเดียมมากเกินไป แถมยังบรรเทาอาการปวดฟันได้อีกด้วย

นอกจากนี้ตัวช่วยที่หลาย ๆ คนทราบกัน ว่านหางจระเข้ สมุนไพรครอบจักรวาลที่สามารถรักษาอาการได้สารพัด ไม่เพียงแต่ช่วยสมานแผล หรือดับร้อนเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถฆ่าเชื้อโรค และสลายพิษของเชื้อโรคได้ จึงไม่แปลกถ้าหากจะถูกนำมาใช้รักษาอาการปวดฟันเนื่องจากฟันผุ เพียงนำว่านหางจระเข้ มาล้างยางออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ เหน็บไว้บริเวณซอกฟันซี่ที่ปวด หรือจะนำสำลีพันปลายไม้จุ่มน้ำวุ้น ของว่านหางจระเข้มาป้ายบริเวณที่ปวดก็สามารถบรรเทาอาการปวดได้ชั่วคราว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

6. พยายามไม่กินยาแก้ปวด

ข้อนี้คุณแม่ ๆ ทั้งหลาย ต้องพึงระมัดระวังเป็นสำคัญ หากไม่รู้สึกว่าปวดมากจริง ๆ หรือยังพอทนได้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาทุกประเภท โดยเฉพาะในช่วงระหว่าง 8 - 10 สัปดาห์แรก ของการตั้งครรภ์ เพราะเป็นช่วงที่ สมอง ปอด และหัวใจของลูกในท้อง กำลังมีการพัฒนา การใช้ยาบางชนิด อาจทำให้อวัยวะของเด็ก พัฒนาผิดปกติได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง หากต้องรับประทานยาไม่ว่าชนิดใด ๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำไมถึงควรเปลี่ยนไปใช้ ยาสีฟันสำหรับคนท้อง และผลิตภัณฑ์ที่น่าซื้อสำหรับคุณ

 

 

คนท้องปวดฟันกินยาพารา ยาแก้ปวดฟัน ส่งผลต่อลูกน้อยอย่างไร?

ถ้าคุณแม่ใช้ยาพารามากเกินปริมาณที่แนะนำ ปริมาณของยาพาราที่มากเกินไปอาจส่งผลข้างเคียงต่อทารกในครรภ์ได้ดังนี้

  • ทารกเสี่ยงสมาธิสั้น และเสี่ยงเป็นออทิสติก มากกว่าเด็กที่ไม่ได้รับยาขณะที่แม่ตั้งครรภ์มากถึง 30%
  • ทารกเสี่ยงเป็นโรคหอบหืด เมื่อมีอายุมากขึ้น มากกว่าทารกที่ไม่ได้รับยาช่วงอยู่ในท้องประมาณ 29%

 

ปวดฟันช่วงตั้งครรภ์ ดูแลอย่างไรให้ปลอดภัยต่อลูก?

ก่อนฟันผุ จะกลายเป็นปัญหาเรื้อรัง ส่งผลต่อตัวคุณแม่เอง และสมาชิกตัวน้อย ที่กำลังจะถือกำเนิด คุณแม่ ๆ ทั้งหลายจึงควรป้องกันโรคดังกล่าว ด้วยการหมั่นแปรงฟันเป็นประจำทุกวัน เช้า และก่อนนอน (หรือหากเป็นไปได้ ก็แปรงหลังอาหาร 3 มื้อ) ควรแปรงให้นาน ครั้งละ 2 นาที ใช้ไหมขัดฟัน ช่วยในส่วนที่แปรงสีฟันแปรงเข้าไปไม่ถึง เลือกใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพราะฟลูออไรด์จะช่วยยับยั้ง การผุของผิวเคลือบฟัน และเพิ่มความต้านทานต่อกรดให้ผิวเคลือบฟันด้วย

นอกจากนี้ คุณแม่ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีลักษณะแข็งเกินไป รวมไปถึง ไม่ควรรับประทานอาหารที่ร้อนจัด หรือเย็นจัด เพราะจะทำให้เกิดการสูญเสียสารเคลือบฟัน และควรแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบถึงอาการปวดฟันโดยละเอียดที่สุด เพื่อจะได้ทำการรักษาแต่เนิ่น ๆ และจะได้ช่วยลดอันตรายที่อาจเกิดขึ้นด้วย

 

อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีที่สุดในการรักษาอาการปวดฟัน คือการป้องกันการปวดฟันไม่ให้เกิดขึ้น ด้วยการดูแลช่องปาก และฟันให้สะอาด และดีอยู่เสมอ อย่างแปรงฟันอย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน ใช้ไหมขัดฟันเพื่อกำจัดเศษอาหารและคราบพลัค รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำเพื่อสุขภาพปากที่ดี

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

แปรงลิ้น ตอนแปรงฟันดีอย่างไร? สอนลูกแปรงลิ้น จำเป็นหรือไม่

10 น้ำยาบ้วนปากสำหรับคนท้อง ช่วยให้ฟันขาวสะอาด ไร้คราบหินปูน

คนท้องใช้น้ำยาบ้วนปากได้ไหม คุณแม่ควรระวังเรื่องไหนบ้าง? มาดูกัน!

ที่มา : konthong

บทความโดย

kanok