หลาย ๆ คนคงอยาก “ย้อมผม” เพื่อต้อนรับเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง แต่ก็อาจจะมีใครที่กังวลว่าการทำสีผม อาจจะส่งผลต่อเสียร่างกายได้ วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน
ในปัจจุบัน เราจะเห็นคนวัยหนุ่มสาว ทำสีผมกันอย่างหลากหลายรูปแบบ ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้สูงอายุ ที่มักจะย้อมผมสีดำเพื่อกลบผมขาว และยิ่งมีเทคโนโลยีป้องกันผมเสียจากการทำสี ก็ยิ่งทำให้การทำสีผมได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างไรก็ตาม เราอาจจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า การทำสีผมบ่อยทำให้เสี่ยงเป็นโรคมะเร็ง หรืออาจจะเคยได้ยินคำเตือนอื่น ๆ อีกมากมายเกี่ยวกับการย้อมผม
ทำไมคนถึงทำสีผม
แต่ละคนมีเหตุผลในการทำสีผมที่แตกต่างกันออกไป บางคนทำสีผมเพื่อกลบผมขาวหรือสีผมที่ผิดแปลก บางคนต้องการที่จะเกาะติดเทรนด์สีผม หรือสไตล์การทำสีผมที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนั้น บางคนอยากทำสีผมเพื่อให้เข้ากับสีผิว ในขณะที่บางคนย้อมผมเพื่อทำให้ผมดูดีมีสีสันมากยิ่งขึ้น
การย้อมสีผม ดูเหมือนจะมีมาตั้งแต่สมัยหลายร้อยปีก่อน โดยเกิดจากการที่ชาวโรมันและชาวอังกฤษโบราณ จะย้อมสีผมเพื่อแสดงตำแหน่งหน้าที่ของตนเองในเผ่า และเพื่อข่มขู่คู่ต่อสู้ของตนเอง ซึ่งการทำสีผมนั้น เริ่มต้นขึ้นในแถบเอเชียราว ๆ ยุค 80 โดยได้รับความนิยมในประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก จากนั้น ก็ค่อย ๆ ได้รับความนิยมไปทั่วโลกในเวลาต่อมา
ย้อมผมไฮไลต์หลายสี
ย้อมผม มีกี่แบบ
ยาย้อมผมแบ่งออกได้หลายประเภท โดยแต่ละประเภทจะมีสารเคมีมากน้อยต่างกัน รวมถึงส่งผลต่อเส้นผมไม่เหมือนกัน ดังนี้
1. ยาย้อมผมชั่วคราว
การทำสีผมด้วยยาย้อมผมประเภทนี้ เป็นการทำสีผมเพื่อเคลือบผมทั้งเส้น โดยที่ยาย้อมผมจะไม่ซึมลึกลงไปถึงแกนผม ซึ่งปกติแล้ว สีผมจะหลุดออกหลังจากสระผม 1-2 ครั้ง
2. ยาย้อมผมกึ่งถาวร
การย้อมผมแบบกึ่งถาวร จะเป็นการทำสีผมลึกไปจนถึงแกนผม โดยสีผมจะหลุดออกหลังจากที่สระผม 5-10 ครั้ง
3. ยาย้อมผมถาวร
ยาย้อมผมชนิดนี้ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะสีติดทนนานและไม่หลุดง่าย โดยสีที่ย้อมจะหลุดออกก็ต่อเมื่อผมยาวขึ้น หรือมีผมเส้นใหม่งอกขึ้นมาแทน
4. ยาย้อมผมสำหรับกัดสีผม
ยาย้อมผมชนิดนี้ มักจะนำมาใช้เวลาที่ต้องการเปลี่ยนสีผมจากสีเข้มไปสีโทนสว่าง
5. ยาย้อมผมชนิดที่ไม่มีแอมโมเนีย
เป็นยาย้อมผมที่ถนอมเส้นผม เพราะไม่มีแอมโมเนียผสมเหมือนยาย้อมผมชนิดอื่น ๆ
โดยยาย้อมสีผมประเภทที่ 2 และประเภทที่ 3 ดูเหมือนจะเป็นอันตรายต่อร่างกายมากกว่ายาย้อมผมประเภทแรก เนื่องจากทำให้สารเคมีติดอยู่บนเส้นผมนานกว่า และหากคนไหนเปลี่ยนสีผมจากสีเข้มไปเป็นสีอ่อน ก็จะยิ่งทำให้มีสารเคมีสะสมอยู่บนเส้นผมมากขึ้น
นอกจากนี้ สารเคมีจากยาย้อมผม ยังสามารถซึมเข้าสู่ผิวหนัง หรืออาจเข้าสู่ทางเดินหายใจผ่านอากาศได้ด้วย โดยผู้ที่เสี่ยงต่อการได้รับสารเคมีจากยาย้อมผมมากที่สุด มักจะเป็นคนที่อยู่ในแวดวงอาชีพที่ต้องสัมผัสกับเส้นผมตลอดเวลา เช่น ช่างทำผม สไตล์ลิสต์ ช่างตัดผม เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องทำสีผมได้ไหม จะอันตรายต่อลูกในครรภ์หรือไม่?
สีย้อมผมต่าง ๆ
ย้อมผม ทำให้เป็นมะเร็งได้ไหม
ตอนนี้ หลายคนอาจสงสัยว่า การย้อมผมทำให้เป็นมะเร็งได้หรือไม่ ซึ่งก็มีนักวิจัยทำการค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นเวลาหลายปี โดยได้ศึกษาเกี่ยวกับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง และโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะเป็นหลัก แต่ก็มีทั้งงานวิจัยที่บอกว่าการทำสีผมทำให้เป็นมะเร็งได้ ในขณะที่งานวิจัยอื่น ๆ ชี้ว่ายาย้อมผมไม่ได้ทำให้เกิดโรคมะเร็ง
อย่างไรก็ตาม นักวิจัยบางรายได้ทำการทดลองกับสัตว์ เพื่อดูว่าสารเคมีในยาย้อมผม ทำให้เกิดเนื้องอกหรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ กับสัตว์ได้หรือไม่ แต่ก็ยังยืนยันไม่ได้อยู่ดี ว่าผลที่ได้จากการทดลองกับสัตว์ จะเหมือนผลที่ได้จากการทดลองกับมนุษย์ และถึงแม้จะมีงานวิจัยอื่น ๆ ที่ใช้มนุษย์เป็นกลุ่มตัวอย่าง ก็ยังคงมีตัวแปรและปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้นักวิจัย ไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่ายาย้อมผมทำให้เป็นมะเร็งได้หรือไม่
หากย้อนกลับไปในอดีต เคยมีงานวิจัยพบว่ายาย้อมผมในช่วงปี 1970 ทำให้หนูทดลองเป็นมะเร็ง แต่ผลที่ได้จากศึกษาในตอนนั้น ก็ไม่สามารถนำมาใช้ยืนยันได้ว่ายาย้อมผมในยุคนี้ สามารถทำให้คนเป็นมะเร็งได้ เพราะในปัจจุบัน ยาย้อมผมแต่ละชนิดนั้น ประกอบไปด้วยสารเคมีที่ต่างกัน แถมในแต่ละปี ส่วนผสมในยาย้อมผมก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ก็เลยยิ่งทำให้การศึกษาเรื่องนี้เป็นไปได้ยากขึ้น
โดยรวม ๆ แล้ว เราอาจสรุปได้ว่า ยังไม่มีผลการวิจัยที่ยืนยันได้แน่ชัดว่าการย้อมสีผมทำให้คนเป็นมะเร็ง เพราะงานวิจัยแต่ละชิ้น ก็มีผลสรุปที่แตกต่างกันออกไป
บทความที่เกี่ยวข้อง : มาดูไปพร้อมกัน คนท้องย้อมผมได้ไหม ทำสีผมตอนท้องได้ไหม?
ทำสีผมอย่างไรให้ปลอดภัย ควรหยุดทำสีผมหรือไม่
ทั้งนี้ อาจจะมีคนที่ยังอยากทำสีผมอยู่ แต่ก็รู้สึกกลัว ซึ่งผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำว่า หากยังอยากย้อมสีผม ก็สามารถทำตามคำแนะนำต่อไปนี้ได้
1. ปฏิบัติตามคำแนะนำและคำเตือนบนฉลากอย่างเคร่งครัด ก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมสีผม
2. หลีกเลี่ยงการย้อมสีผมแบบถาวร เพราะการย้อมผมประเภทนี้ จะทำลายเส้นผมได้มากกว่าการย้อมผมประเภทอื่น ๆ แถมยังมีสารเคมีเยอะกว่า
3. ก่อนการใช้ผลิตภัณฑ์ ควรทดสอบด้วยว่าตัวเองมีอาการแพ้สารเคมีหรือไม่
4. ไม่ควรย้อมผมเอง เพราะเราอาจมีอุปกรณ์และเครื่องมือที่ไม่พร้อม และไม่ชำนาญเท่ากับช่างทำผม
5. ระมัดระวังไม่ให้ยาย้อมผมโดนใบหน้า เพราะอาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองได้
6. ไม่ใช้ยาย้อมผมหลายประเภทพร้อม ๆ กัน เพราะอาจจะทำให้เจ็บหนังศีรษะ
7. ไม่ย้อมขนคิ้วหรือขนตาด้วยยาย้อมผม เพราะอาจทำให้ตาบอดได้
8. ควรสวมถุงมือทุกครั้งก่อนใช้ยาย้อมผม
9. ล้างยาย้อมผมออกภายในเวลาที่กำหนด
10.ใช้ยาย้อมผมที่ได้คุณภาพและน่าเชื่อถือ
นอกจากนี้ คุณหมอก็ยังแนะนำอีกว่า คนที่ตั้งครรภ์ไม่ควรทำสีผม เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดกับลูกน้อยในครรภ์และตัวคุณแม่เอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : อยากยืด ดัด ย้อมผมตอนท้อง จะเป็นไรต่อลูกในท้องไหม?
สีผมเฉดต่าง ๆ มีให้เลือกมากมาย
ผลข้างเคียงจากการทำสีผม
เมื่อเปลี่ยนสีผมมาเรียบร้อยแล้ว เราอาจจะต้องเจอกับผลข้างเคียงอื่น ๆ อีก เช่น
สารเคมีอย่างแอมโมเนียหรือสารเคมีอื่น ๆ ในยาย้อมผม อาจทำลายเส้นผม จนทำให้ผมเสีย หรือแตกปลาย โดยหากรักษาอาการแตกปลายหรือผมเเห้งเสียไม่ได้ ก็อาจจะต้องตัดผมทิ้ง
อาการแพ้สารเคมีจากยาย้อมผม เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป เนื่องจากยาย้อมผมมีส่วนผสมของพาราฟีนิลีนไดอะมีน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้
สารเคมีในยาย้อมผมอาจทำลายเส้นผมจนผมเสีย ทำให้ต้องบำรุงรักษาผมอยู่ตลอดเวลา บางคนอาจจะต้องซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม หรือไม่ก็ต้องเข้าร้านทำผมอยู่บ่อย ๆ เพื่อรักษาสภาพผม
หากไม่ระมัดระวังมากพอตอนที่ทำสีผม อาจทำให้ยาย้อมผมไปโดนส่วนต่าง ๆ บนใบหน้า โดยอาจเข้าตาจนทำให้ตาแดง หรือตาอักเสบได้
เนื่องจากยาย้อมผมมีสารเคมีอยู่เยอะ ดังนั้น หากสูดดมเข้าไปในปริมาณมาก อาจทำให้ไอ หายใจเสียงดังหวีด ปอดติดเชื้อ ไม่สบายคอ และเกิดอาการหอบหืดได้
สุดท้ายนี้ แม้เราจะยังสรุปไม่ได้ว่าการย้อมผมทำให้เป็นมะเร็งได้หรือไม่ ก็ควรย้อมผมกันอย่างระมัดระวัง เพราะยาย้อมสีผมส่วนใหญ่มีสารเคมี และอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงดังที่ได้กล่าวไป แต่ข่าวดีก็คือ ปัจจุบันมียาย้อมผมที่ทำจากพืชและสมุนไพร ซึ่งนี่อาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่อยากทำสีผม แต่ก็กลัวจะเกิดผลเสียต่อตนเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : เทรนด์สีผม ผู้ชาย 2021 สีอะไรมาแรง เห็นสีแล้วต้องรีบไปทำผมใหม่ด่วน
ที่มา : cancer ,ellecanada , stylecraze , komchadluek
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!