หลาย ๆ คนที่เป็นสิวคงสงสัยกันอยู่ใช่ไหมว่า สิวที่เราเป็นอยู่นั้นเป็นสิวอะไรกันแน่ วันนี้ทางเราเลยเอาสิวอักเสบมาให้ได้ดูกัน ว่าสิวอักเสบนั้นเป็นอย่างไร แล้วสิวอักเสบมีวิธีการรักษาอย่างไรบ้าง แล้ว เป็นสิวอักเสบ แบบไหนควรที่จะไปพบแพทย์ มาดูกันเลย
สิวอักเสบ คืออะไร
สิวอักเสบนั้น คือสิวที่เกิดอาการอักเสบบริเวณรูขุมขน และต่อมไขมันใต้บริเวณผิวหนัง จนเกิดออกมาเป็นสิวลักษณะต่าง ๆ ที่มักจะก่อให้เกิดความเจ็บปวดหากมีการสัมผัส หรือโดนบริเวณนั้น ๆ โดยสิวอักเสบนั้นอาจจะเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น รูขุมขนอุดตัน และกรรมพันธุ์ รวมถึงฮอร์โมนในร่ากายนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ระดับฮอร์โมนของเพศหญิงนั้นมักจะเปลี่ยนแปลงตามรอบประจำเดือนที่มา ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดสิวขึ้นแล้ว อาจจะทำเกิดอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ท้องเสีย ท้องอืด ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปวน เป็นต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : สาเหตุของการเกิด สิวที่หน้าผาก พร้อมวิธีการดูแลรักษา ให้หน้าสวยไร้สิว
อาการสิวอักเสบ
สิวอักเสบอาจจะทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ได้ คุณอาจสังเกตเห็นมีเลือดคั่ง หรือตุ่มหนองเล็ก ๆ เกิดขึ้นในส่วนต่าง ๆ ของใบหน้า หรือเกิดเป็นสิวเรื้อรังที่รุนแรง และอาการสิวเรื้อรังซึ่งอาจรักษาได้ยาก อาการทั่วไปของสิวอักเสบได้แก่ :
- รอยสิว แดง บวม
- เมื่อนำมือไปสัมผัสจะเจ็บ หรือแสบ
- แผลที่มีของเหลว และมีหนอง
เมื่อสิวอักเสบรุนแรง ก็อาจทำให้เกิดอาการทางจิตได้ เช่น ซึมเศร้า หรือมีความมั่นใจน้อยลง สิวอักเสบยังสามารถทำให้เกิดแผลเป็น และจุดด่างดำที่อาจส่งผลต่อลักษณะที่ปรากฏของผิวหลังจากที่สิวของคุณหมดไป
สาเหตุของการเกิดสิวอักเสบ?
สิวอักเสบนั้น อาจจะเกิดจากการอุดตันในรูขุมขน และต่อมไขมันใต้ผิวหนังบริเวณสิวอุดตัน หรืออาจจะเกิดจากกระบวนการอักเสบขึ้นเองบริเวณผิวหนังปกติ โดยมีปัจจัยที่ก่อให้เกิดสิวอักเสบได้ดังนี้ เช่น
- การอุดตันในรูขุมขนที่อาจนำไปสู่ปฏิกิริยาการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันนั้นจะห่อหุ้ม สิ่งแปลกปลอมไว้จนเกิดเป็นก้อนสะสมใต้ผิวหนัง
- กรดไขมันอิสระ และไขมันผิวหนัง ที่ซึมเข้าสู่ชั้นผิวหนัง
- ระดับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนนี้เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการเจริญเติบโตในวัยรุ่น ซึ่งจะทำให้ฮอร์โมนนี้ไปกระตุ้นต่อมของไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังให้ทำงานหนักขึ้น
- ผู้ที่เป็นเพศหญิง มีแนวโน้มว่าจะเป็นสิวได้มาก ในช่วงเวลาที่ฮอร์โมนเพศในร่างกายนั้นเกิดมีการเปลี่ยนแปลงขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่มีประจำเดือนจะทำให้สิวเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ๆ
- การอุดตันของเซลล์ผิวที่ได้ตายไปแล้ว ซึ่งสิ่งสกปรกจากการที่สุขอนามัยที่ไม่ดี ใช้เครื่องสำอางที่ทำให้เกิดรูขุมขนอุดตัน
- การสูบบุหรี่ อาจจะเพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิดสิวขึ้นได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : หลุมสิวเกิดจากอะไร สาเหตุของการเกิดหลุมสิว พร้อมวิธีรักษา
ประเภทของสิวอักเสบ
แม้ว่าสิวอักเสบทั้งหมดจะเกิดขึ้นจากกระบวนการพื้นฐานเดียวกัน แต่สิวอักเสบอาจแตกต่างกันไปตามแต่ประเภท และความรุนแรง สิวอักเสบชนิดทั่วไป ได้แก่:
- สิวอักเสบที่มีเลือดคั่ง คือจุดนูนเล็ก ๆที่สามารถเกิดขึ้นบนพื้นผิวของคุณได้ มีเลือดคั่งส่วนใหญ่เป็นสีแดง และมีความกว้างน้อยกว่า 1 ซม. (ประมาณ 0.4 นิ้ว)
- สิวอักเสบที่มีตุ่มหนอง เป็นสิวขนาดเล็กที่มีหนองซึ่งมีลักษณะคล้ายกับแผลพุพอง มักจะพบบนใบหน้า แต่สามารถขึ้นตามบนร่างกายของคุณได้เช่นกัน ตุ่มหนองอาจแตก หรือไหลออกมาเมื่อถูกสัมผัส เกา หรือบีบ
- สิวอักเสบที่เป็นก้อนกลม เป็นสิวอักเสบที่ใหญ่ขึ้นจะเรียกว่าก้อนเนื้อ สิวแบบนี้เมื่อคุณนั้นสัมผัส หรือแตะโดน คุณจะรู้สึกเจ็บหรือแสบ และสิวที่เป็นก้อนกลมจะก่อตัวลึกลงไปใต้ผิวหนังของคุณมากกว่าสิวรูปแบบอื่น ๆ
- สิวอักเสบ เป็นสิวเรื้อรังที่เกิดจากสิวที่เต็มไปด้วยของความมันซึ่งเกิดขึ้นลึกลงไปใต้ผิวหนังของคุณ เช่นเดียวกับสิวก้อนกลม สิวอักเสบรูปแบบนี้อาจเจ็บ คัน แสบ และกำจัดได้ยาก
วิธีรักษาสิวอักเสบ
สิวอักเสบระดับที่ไม่รุนแรงมาก
หากคุณมีสิวอักเสบเล็กน้อยถึงปานกลาง คุณอาจควบคุมการเกิดสิวได้โดยใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่จำหน่ายที่ร้านขายยาทั่วไปได้ เช่น
- โฟมล้างหน้า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบนใบหน้า คุณต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความอ่อนโยน และไม่ก่อให้เกิดการเสียยดสี ซึ่งจะช่วยทำความสะอาดเซลล์ผิวที่ได้ตายแล้วออกจากไปหน้า และช่วยลดความมันส่วนเกินบนใบหน้าที่อาจจะทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนจนทำให้เกิดสิวได้
- เรตินอยด์ ยาที่ได้จากวิตามินเอ มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาสิว คุณสามารถหาเรตินอยด์ที่ไม่รุนแรง เช่น เรตินอลและอะดาพาลีนในครีม เจล และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ สำหรับการรักษาสิวที่มีจำหน่ายที่ร้านขายยาทั่วไปได้
- ยาปฏิชีวนะ เป็นการรับประทานยาเพื่อที่จะฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ที่ทำให้เกิดสิวและอาการอักเสบ
แต่อย่างไรก็ตามคุณควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะใช้ หรือทาผลิตภัณฑ์รักษาสิว ทุกครั้ง
เคล็ดลับการดูแลผิว สิวอักเสบ
การรักษาสิวอักเสบจะไม่ได้ผล หากคุณไม่ดูแลผิวของคุณอย่างเหมาะสม ปฏิบัติตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากตัวเลือกการรักษาที่คุณลอง:
- ล้างหน้าเช้า และเย็น ด้วยเจลล้างหน้าที่อ่อนโยน
- อาบน้ำทันทีหลังออกกำลังกาย
- ทำตามขั้นตอนการทำความสะอาดของคุณด้วย มอยเจอร์ไรเซอร์ที่ปราศจากน้ำมัน การที่คุณนั้นข้ามขั้นตอนนี้อาจทำให้น้ำมัน และน้ำธรรมชาติหมดไปจากผิวของคุณ ในทางกลับกัน ต่อมไขมันของคุณผลิตน้ำมันมากขึ้น ซึ่งนำไปสู่การเกิดสิวที่มากขึ้นได้
- ทามอยส์เจอไรเซอร์ หรือรองพื้นที่ทาครีมกันแดดทุกวัน แม้ว่าวิธีนี้จะช่วยปกป้องผิวของคุณจากรังสียูวี แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นหากคุณกำลังใช้เรตินอยด์หรือทรีตเมนต์อื่นๆ ที่ทำให้ผิวของคุณไวต่อแสงแดดมากขึ้น
- หากคุณแต่งหน้า ให้มองหาตัวเลือกที่ปราศจากน้ำมัน และไม่ทำให้เกิดสิว ซึ่งจะไม่อุดตันรูขุมขนหรือทำให้สิวแย่ลง นอกจากนี้ อย่าลืมล้างเครื่องสำอางออกให้สะอาดหมดจดก่อนล้างหน้าในตอนกลางคืน
บทความที่เกี่ยวข้อง : 15 โทนเนอร์ กระชับรูขุมขน โทนเนอร์ยี่ห้อไหนดี ลดสิวหน้าใส
ป้องกันสิวอักเสบ
- พยายามอย่าสัมผัสใบหน้าของคุณ เพราะการที่คุณนั้นทำการสัมผัสใบหน้าอาจจะทำให้เกิดสิวขึ้นได้ง่ายมาก ๆ คุณควรที่จะล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสใบหน้า เพราะถ้าคุณไม่ล้างมือให้สะอาดก่อนก็จะมีสิ่งสกปรก หรือเชื้อโรคติดอยู่บนหน้าของคุณ และนี้คือการทำให้เกิดสิวอย่างแน่นอน
- ใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้า และผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่ไม่ก่อให้เกิดสิว มองหาผลิตภัณฑ์แต่งหน้า และดูแลผิวที่มีป้ายกำกับว่า “ไม่ทำให้เกิดสิว” หรือ “ปราศจากน้ำมัน” สิ่งเหล่านี้มีโอกาสน้อยที่จะอุดตันรูขุมขนของคุณ และกระตุ้นการเกิดสิว หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอมเทียม หรือสารอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง และการอักเสบ ไม่ว่าคุณจะใช้เครื่องสำอางประเภทใด อย่าลืมล้างเครื่องสำอางที่อยู่บนหน้าของคุณให้สะอาดก่อนเข้านอน
หากคุณมีสิวอักเสบที่คุณคิดว่าต้องการการดูแลอย่างเร่งด่วน โปรดติดต่อแพทย์
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
13 ครีมทาสิว ครีมรักษาสิวใน7-11 สิวหายไว หาซื้อง่ายในร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน !
7 คลีนเซอร์คนท้อง ตัวไหนดี ตัวไหนเด็ด ปลอดภัยสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับคนท้อง ที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : forhers.com , healthline.com , pobpad.com
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!