ผม เป็นสิ่งที่อยู่กับเรามาตั้งเราลืมตาดูโลก บางคนผมตรงโดยกำเนิด บางคนก็ผมหยักศกแตกต่างกันออกไป อยากผมดำเงางามกันหรือเปล่า วันนี้ theAsianparent Thailand มีเทคนิคดูแลผมง่าย ๆ มาฝากกัน
ผมมีประโยชน์ยังไง ทำไมเราต้องมีผม
หลาย ๆ คนมองข้ามความสำคัญของเส้นผม และไม่เคยนึกถึงประโยชน์ของผมมาก่อน รู้หรือเปล่า ว่าผมนั้นช่วยป้องกันผิวหนังบริเวณศีรษะของเรา จากความร้อนและความเย็นภายนอก รวมทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะได้อีก นอกจากนี้ ผมก็เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้เรา และทำให้เราดูน่าสนใจ แถมเรายังสามารถจัดแต่งทรงผมได้ตามใจชอบ เพื่อให้ดูเหมาะกับตัวเองได้อีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : 30 ทรงผมสวย ๆ ทรงผมผู้หญิง 2021 ที่ผู้หญิงต้องทำในปีนี้ ทรงไหนเริ่ดเช็คเลย!
คำแนะนำในการดูแลผมทั่วไป
ผมเปรียบเสมือนมงกุฎของใครหลาย ๆ คน เพราะสามารถช่วยเปลี่ยนรูปร่างใบหน้า และช่วยเสริมสร้างเสน่ห์ให้ได้ และแน่นอนว่าการมีผมที่สุขภาพดี เงางาม น่ามองนั้น จะยิ่งทำให้ดูน่าดึงดูดขึ้นไปอีก แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถดูแลเส้นผมให้สุขภาพดีได้ตลอดเวลา โดยบางคนที่ชอบย้อมสีผม ดัดผม หรือยืดผม อาจจะมีสุขภาพผมที่ไม่ค่อยดี ก็เลยต้องเข้าร้านทำผมเพื่อทำทรีตเมนต์บ่อย ๆ ซึ่งความจริงแล้ว ทุกคนสามารถดูแลผมตัวเองได้ง่าย ๆ จะมีวิธีไหนบ้าง ไปดูกันเลย
หวีผมตอนไหนดีที่สุด
หากหวีผมด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้ผมขาด แห้ง เสีย หรือหลุดร่วงได้ ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการหวีผม คือ หลังจากตื่นนอน และก่อนที่จะเข้านอน
ใช้น้ำอุ่นหรือน้ำเย็นสระผมดี
หลาย ๆ คนอาจจะไม่ได้ใส่ใจกับสิ่งนี้ และคิดว่าสามารถล้างผมตัวเองด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นก็ได้ ซึ่งในความจริงแล้ว เราควรใช้น้ำอุ่นล้างผมก่อนที่จะสระผม เนื่องจากว่าน้ำอุ่นนั้น ช่วยให้รูขุมขนบนศีรษะกว้างขึ้น และช่วยให้เราทำความสะอาดสิ่งสกปรกบนหนังศีรษะและรากผมได้ดียิ่งขึ้น หลังจากสระผมหรือบำรุงทรีตเมนต์เสร็จแล้ว ก็ให้ใช้น้ำเย็นล้างผมแทน เพราะผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การสระผมด้วยน้ำอุ่นและน้ำเย็นคู่กัน จะช่วยกำจัดรังแคและน้ำมันส่วนเกินบนหนังศีรษะออก ทำให้เลือดและออกซิเจนบริเวณศีรษะเราทำงานได้ดียิ่งขึ้น
ช่วงเวลาที่เหมาะกับการหวีผม คือ ช่วงหลังตื่นนอน และก่อนเข้านอน
สระผมกี่วันต่ออาทิตย์จึงจะเหมาะสม
หากชอบสระผมเป็นประจำ ก็อาจจะเปลี่ยนมาสระผมทุก ๆ 2-3 วันก็พอ โดยให้หวีผมก่อนสระทุกครั้ง เพื่อให้ผมคลายตัวและไม่พันกันตอนที่สระ นอกจากนี้ ควรใช้แชมพูและครีมนวดที่อ่อนโยนต่อเส้นผม และเหมาะกับเส้นผมของตัวเอง โดยไม่ควรเทแชมพูหรือครีมนวดผมลงบนหนังศีรษะโดยตรง อย่างไรก็ตาม หากมีปัญหาด้านหนังศีรษะหรือศีรษะแห้งเป็นขุยอยู่แล้ว ก็อาจจะต้องสระผมทุกวัน เพื่อช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกจากหนังศีรษะ
เป่าผมยังไงดี
บางคนทำทรีตเมนต์ผมบ่อย แต่ก็ยังผมเสียและหลุดร่วงอยู่ ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ อาจมาจากการเป่าผมและมัดผมด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง โดยปกติแล้ว หากใช้ไดร์เป่าผมให้แห้งอยู่เป็นประจำ ก็ไม่ควรใช้ลมที่แรงหรือร้อนจนเกินไป เพราะความร้อนอาจทำให้ผมแตกปลายได้ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุด คือ การเป่าผมแบบธรรมชาติ โดยการใช้ผ้าขนหนูเช็ด และใช้มือยีผมแทน นอกจากนี้ ไม่ควรห่อผมด้วยผ้าขนหนูนานเกินไปในขณะที่ผมเปียกหมาด ๆ หากกลัวผมจะดูยุ่งรกรุงรัง ให้ทาวิตามินหรือเจลบำรุงผม และมัดผมหลวม ๆ ไว้ก็ได้
ฟอกสีผมบ่อย ๆ ได้ไหม
สารซัลเฟต มักจะอยู่ในผลิตภัณฑ์ฟอกสีผม ที่หลายคนมักใช้ก่อนการเปลี่ยนสีผม ซึ่งสีผมที่เราได้หลังจากการย้อมสีนั้น อาจดูน่าพอใจและดูสวยงาม แต่ความจริงก็คือว่า สารซัลเฟตในสารฟอกสีผม อาจทำให้เคราตินในผมเราหลุดออกไป จนผมไม่สามารถดูดซึมน้ำมันในหนังศีรษะได้ รวมถึงทำให้ผมแห้ง และขาดได้ในที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้อง : ย้อมผม เป็นอันตรายต่อสุขภาพจริงหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ
ผมแห้งเสีย บำรุงได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องเข้าร้านทำผมแพง ๆ
ปัญหาผมเสียกับวิธีรักษา
หากเราผมแห้ง เสีย แตกกร้าน ดูไม่เป็นธรรมชาติ ก็คงจะทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเวลาที่ต้องเคลื่อนไหว หรือพูดคุยกับใคร ซึ่งการดูแลรักษาผมด้วยตนเองนั้น ทำได้ง่าย ๆ แถมไม่ต้องเสียเงินเข้าร้านทำผมแพง ๆ อีกด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีดูแลผมอยู่ สามารถทำได้ดังนี้
- ผมแห้ง ดูไม่เป็นธรรมชาติ หากเป่าผมด้วยลมร้อนมากเกินไป อาจทำให้ผมแข็ง ดูไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งวิธีบำรุงผมให้กลับมานุ่มสลวยสวยงามเหมือนอย่างเก่า อาจทำได้โดยการผสมแฮร์มาส์ก อะโวคาโด 1 ลูก น้ำผึ้ง น้ำมันมะพร้าว และน้ำมันแอปเปิ้ลอย่างละ 2 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน และชโลมลงบนผมของตัวเองประมาณ 15-20 นาที จากนั้น ให้ห่อผมด้วยผ้าขนหนูสักพัก และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ซึ่งวิธีนี้ จะช่วยให้ผมดูเงางามและนุ่มขึ้นได้
- ผมหลุดร่วง ปัญหานี้อาจเกิดจากสาเหตุ เช่น ผมขาดวิตามิน การหวีผมที่ไม่ถูกต้อง และการมัดผมไม่ถูกวิธี เป็นต้น ซึ่งบางคนก็อาจผมร่วงเยอะจนทนไม่ไหว หากอยากรักษาอาการผมร่วงโดยที่ไม่ต้องเข้าร้านทำผม แนะนำให้ผสมว่านหางจระเข้ ไข่ขาว 1 ฟอง น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะเข้าด้วยกัน และนำมาทาผม หลังจากนั้นให้ห่อผมด้วยผ้าขนหนู ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาทีแล้วจึงล้างออก วิธีนี้ช่วยให้รากผมแข็งแรงยิ่งขึ้น และทำให้ผมหนาขึ้น
- คันและมีรังแคบนหนังศีรษะ หากมีรังแคบนหนังศีรษะจนทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ แนะนำให้ผสมสตรอเบอรี่ 2 ลูก โยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ เมล็ดกาแฟบด 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำแข็ง 2 ก้อนเข้าด้วยกัน และนำมาทาหมักผม ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที โดยไม่ต้องรอให้น้ำแข็งละลาย หลังจากครบ 15-20 นาทีแล้ว ให้ล้างผมด้วยน้ำเย็น และใช้น้ำแข็งถูบริเวณหนังศีรษะเบา ๆ วิธีนี้ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้หนังศีรษะ ไม่ให้กลับมาแห้งจนเกิดรังแค แถมยังช่วยฟื้นฟูรากผมและหนังศีรษะได้ดีอีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทรงผมหน้าร้อนสำหรับเด็กหญิง ทรงผมเด็กขี้ร้อน ลูกสาวขี้ร้อนทำผมทรงไหนดี
ผม บอกโรคเกี่ยวกับสุขภาพได้
นอกจากผมจะช่วยควบคุมอุณหภูมิบนหนังศีรษะของเราได้แล้ว ก็ยังบอกเราได้ด้วย ว่าเรามีปัญหาสุขภาพอยู่หรือเปล่า ดังนี้
ขาดสารอาหาร ปกติผมคนเราจะร่วงประมาณ 100 เส้นต่อวัน แต่ถ้าวันไหนสระผมด้วย ผมก็อาจจะร่วงเยอะมากกว่านั้น อย่างไรก็ตาม หากรู้สึกว่าผมตัวเองร่วงเยอะจนน่าตกใจ ก็อาจจะแปลได้ว่าร่างกายเราขาดสารอาหาร หรือขาดวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย หากกังวลใจ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อเข้ารับคำแนะนำจะดีกว่า
ขาดโอเมก้า หากผมดูไม่เงางาม นั่นอาจหมายความว่าร่างกายเรา อาจจะได้รับโอเมก้า 3 ไม่เพียงพอ ดังนั้น เราจึงควรรับประทานโอเมก้า 3 เพื่อให้ดีต่อร่างกายและเส้นผม เพราะนอกจากโอเมก้า 3 จะช่วยให้ผมเงางามได้แล้ว ยังช่วยให้สมอง ระบบประสาท ตับ และการมองเห็นของเราทำงานได้ดีขึ้น โดยเราสามารถรับประทานโอเมก้า 3 ได้จากเนื้อปลาเเซลมอน อะโวคาโด เมล็ดเจีย และถั่ว
ขาดธาตุเหล็กและเครียดจนเกินไป ปกติแล้ว คนเราจะเริ่มมีผมหงอกเมื่ออายุเข้าใกล้เลข 4 แต่หากเรามีผมหงอกก่อนวัยอันควร ก็อาจเป็นเพราะว่าร่างกายเราได้รับทองแดงไม่เพียงพอ หากต้องการชะลอการเกิดผมขาว แนะนำให้รับประทานเห็ด เมล็ดงา หรือสาหร่ายทะเลให้มากขึ้น นอกจากนี้ ความเครียดและพันธุกรรม ก็ทำให้เรามีผมหงอกได้เช่นเดียวกัน และแม้ว่าเราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัจจัยด้านพันธุกรรมได้ แต่เราสามารถเรียนรู้วิธีจัดการกับความเครียดของตัวเองอย่างเหมาะสมได้
Cushing’s Syndrome
คนที่มีผมเปราะบาง ขาดง่ายมากผิดปกติ อาจเป็นโรค Cushing’s Syndrome ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายมีฮอร์โมนคอร์ติซอลเยอะเกินไป โดยคนไข้อาจมีอาการอ่อนเพลีย ปวดหลัง และความดันโลหิตสูงร่วมด้วย หากพบว่าตัวเองผมเปราะบางมากเกินไป แถมยังมีอาการอื่น ๆ เหล่านี้ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
บทความที่เกี่ยวข้อง : 20 อาหารเสริมโอเมก้าสูง ต้องกินอะไร ดีต่อสุขภาพอย่างไร
ที่มา : medium , realmenrealstyle , thriveglobal , healthline , businessinsider , everydayhealth 7 , postjung
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!