สำหรับคุณแม่ที่ผ่านการผ่าคลอดมาแล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จักความรู้สึกเจ็บปวดบริเวณแผลผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดตึง ปวดหน่วง หรือแม้แต่อาการเจ็บแผลผ่าคลอด จี๊ดๆ ที่ทำให้รู้สึกกังวลใจว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่า บทความนี้จะช่วยให้คุณแม่เข้าใจถึงสาเหตุ อาการ เจ็บแผลผ่าคลอด จี๊ดๆ และวิธีการดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง เพื่อให้คุณแม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างราบรื่นค่ะ
สารบัญ
เจ็บแผลผ่าคลอด มีอาการอย่างไร?
หลังจากการผ่าคลอด คุณแม่ส่วนใหญ่มักประสบกับความรู้สึกไม่สบายบริเวณแผลผ่าตัด ซึ่งอาการ เจ็บแผลผ่าคลอดจี๊ดๆ ก็เป็นหนึ่งในอาการที่พบได้บ่อย นอกจากนี้ คุณแม่อาจมีอาการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับแผลเป็นจากการผ่าตัดคลอดได้เช่นกัน
อาการทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นบริเวณแผลเป็นจากการผ่าคลอด ได้แก่
- เจ็บและรู้สึกไม่สบายบริเวณแผลเป็น หรือบริเวณเหนือหรือใต้แผลเป็น
- รู้สึกแสบร้อนรอบๆ แผลเป็นและบริเวณท้องน้อย
- แผลเป็นและบริเวณโดยรอบมีรอยแดงหรือสีที่เปลี่ยนไป
- มีอาการบวมบริเวณแผลเป็นหรือบริเวณโดยรอบ
- รู้สึกเจ็บเมื่อกดบริเวณแผลเป็นหรือบริเวณโดยรอบ
- อาการปวดเมื่อยที่รุนแรงขึ้นเมื่ออยู่ในท่าใดท่าหนึ่ง หรือเมื่อออกกำลังกายที่เน้นบริเวณหน้าท้อง
- รู้สึกตึงจนขยับบริเวณที่ได้รับผลกระทบได้ยาก
- ความรู้สึกบริเวณแผลเป็นหรือเนื้อเยื่อโดยรอบลดลง
เจ็บแผลผ่าคลอด จี๊ดๆ เกิดจากอะไร?
การผ่าคลอดก็เหมือนกับการผ่าตัดอื่นๆ ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีการตัดผ่านเนื้อเยื่อและเส้นประสาท โดยเฉพาะเส้นประสาทเล็กๆ ที่อยู่ในผิวหนัง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของความเจ็บปวดหลังผ่าตัด นอกจากนี้ เส้นประสาทเหล่านี้อาจถูกรบกวนได้จากหลายปัจจัย เช่น
- การถูกไหมเย็บกดทับ: เส้นประสาทอาจถูกไหมที่ใช้เย็บปิดแผลบริเวณหน้าท้องกดทับ
- การติดอยู่ในเนื้อเยื่อแผลเป็น: ในระหว่างกระบวนการรักษา เส้นประสาทอาจติดอยู่ในเนื้อเยื่อแผลเป็นที่เกิดขึ้น
แม้ว่าเส้นประสาทที่ถูกรบกวนจะมีขนาดเล็ก แต่ก็สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บปวดได้มาก อย่างไรก็ตาม อาการปวดเรื้อรังที่เกิดจากความเสียหายของเส้นประสาทหลังผ่าคลอดนั้นพบได้ไม่บ่อยนัก โดยส่วนใหญ่แล้ว เส้นประสาทจะฟื้นตัวได้เองโดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาในระยะยาว ยกเว้น อาการชาบริเวณแผลเป็นที่อาจเกิดขึ้นได้
อาการเจ็บแผลผ่าคลอดจี๊ดๆ หรือรู้สึกปวดจี๊ดๆ รอบๆ แผลเป็น อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความเสียหายของเส้นประสาทเล็กๆ ที่อยู่ในผิวหนังบริเวณนั้นได้
เจ็บแผลผ่าคลอด จี๊ดๆ นานแค่ไหนถึงจะหาย?
โดยทั่วไปแล้ว อาการเจ็บแผลผ่าคลอด รวมถึงอาการเจ็บจี๊ดๆ มักจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 4-6 สัปดาห์แรกหลังคลอด อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป คุณแม่บางท่านอาจยังคงมีอาการปวดแผลเป็นหลังผ่าคลอดนานกว่า 3 เดือน และหากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม อาการปวดอาจเรื้อรังได้นานหลายปี
แม้ว่าอาการเหล่านี้จะเป็นเรื่องปกติที่พบได้หลังผ่าคลอด แต่ก็สามารถจัดการและรักษาได้ หากคุณแม่ยังคงรู้สึกเจ็บปวดบริเวณแผลผ่าตัดคลอดหลังจาก 6 สัปดาห์หลังคลอด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจดูว่าเนื้อเยื่อกำลังฟื้นตัวอย่างเหมาะสมหรือไม่ และเพื่อตรวจสอบว่าไม่มีสัญญาณของการติดเชื้อ
10 วิธีบรรเทาอาการ เจ็บแผลผ่าคลอด จี๊ดๆ
คุณแม่สามารถดูแลตัวเองให้แผลผ่าคลอดฟื้นตัวได้เร็ว ด้วยวิธีต่อไปนี้
1. ทำความสะอาดแผลตามคำแนะนำ
ดูแลความสะอาดของแผลอย่างสม่ำเสมอตามที่แพทย์แนะนำ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้แผลสมานได้ดี หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระคายเคืองต่อแผล และซับแผลให้แห้งหลังทำความสะอาด
2. พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูร่างกายหลังผ่าคลอด พยายามนอนหลับเมื่อลูกน้อยหลับอย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือจากคนในครอบครัวในการดูแลลูกและงานบ้าน เพื่อให้คุณแม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
3. เคลื่อนไหวร่างกายเบาๆ
เริ่มจากการเดินเบาๆ ในระยะสั้นๆ และค่อยๆ เพิ่มระยะทางเมื่อร่างกายพร้อม เพื่อช่วยให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่ต้องใช้แรงมาก หรือการบิดตัวที่อาจทำให้แผลกระทบกระเทือน
4. หลีกเลี่ยงการยกของหนัก
ห้ามยกของหนักเกินกว่าน้ำหนักของทารกเป็นเวลา 6 สัปดาห์ หรือตามคำแนะนำของแพทย์ เนื่องจากการยกของหนักอาจทำให้แผลฉีกขาด หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ได้
5. ใช้ยาแก้ปวดตามแพทย์สั่ง
รับประทานยาแก้ปวดที่แพทย์สั่งจ่ายอย่างเคร่งครัด เพื่อบรรเทาอาการปวดและช่วยให้รู้สึกสบายตัว ไม่ควรซื้อยาแก้ปวดรับประทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์
6. ประคบเย็นหรือประคบร้อน
ประคบเย็นในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังผ่าตัด เพื่อลดอาการบวมและปวด หลังจากนั้น เปลี่ยนไปประคบร้อนจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อได้
7. พยุงแผลเมื่อไอ จาม หรือหัวเราะ
ใช้มือหรือหมอนนุ่มๆ พยุงบริเวณแผลผ่าตัด เพื่อลดแรงกดที่แผลและช่วยลดอาการปวด การพยุงแผลจะช่วยป้องกันไม่ให้แผลกระทบกระเทือนเมื่อมีการเคลื่อนไหว
8. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพและดื่มน้ำให้มาก เพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวและป้องกันอาการท้องผูก เน้นอาหารที่มีกากใยสูง ผัก ผลไม้ และโปรตีน
9. นวดเบาๆ บริเวณรอบแผล
เมื่อแผลหายดีแล้ว การนวดเบาๆ บริเวณรอบแผลอาจช่วยลดอาการตึงและพังผืดได้ ควรปรึกษาแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดก่อนเริ่มนวด เพื่อให้แน่ใจว่าแผลหายดีแล้ว
10. ปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติ
หากมีอาการปวดรุนแรงขึ้น มีสัญญาณของการติดเชื้อ เช่น บวมแดง มีหนอง มีไข้หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์
เจ็บแผลผ่าคลอด แบบไหนต้องไปหาหมอ?
หลังผ่าคลอด คุณแม่ควรสังเกตอาการของตัวเองอย่างใกล้ชิด หากมีสัญญาณเตือนเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด เพราะอาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อหรือภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ
- อาการปวดรุนแรงขึ้น: อาการปวดบริเวณแผลผ่าตัดหรือมดลูกมีอาการปวดมากขึ้นกว่าเดิม หรือปวดมากกว่าที่เคยเป็นมาตั้งแต่หลังคลอด
- แผลมีลักษณะผิดปกติ: แผลผ่าตัดมีอาการแดง บวม หรือรู้สึกร้อนเมื่อสัมผัส
- มีของเหลวไหลออกจากแผล: แผลผ่าตัดมีน้ำเหลืองหรือของเหลวอื่นๆ ไหลออกมา
- แผลเปิด: แผลผ่าตัดมีลักษณะเหมือนจะเปิดออก หรือเปิดออกจริงๆ
- ตกขาวผิดปกติ: มีตกขาวที่มีกลิ่นเหม็น หรือมีลักษณะที่ผิดปกติไปจากเดิม
- มีไข้: รู้สึกมีไข้ หรือมีไข้สูง
สำหรับคุณแม่ผ่าคลอดที่มีอาการเจ็บแผลผ่าคลอด จี๊ดๆ การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำข้างต้น จะช่วยบรรเทาอาการและช่วยให้ฟื้นตัวได้ดีค่ะ
ที่มา : Milton Keynes University Hospital , Ladybird Pt , baltimoreperipheralnervepain
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
หมอเตือนแม่ๆ อย่าหาทำ! แม่ผ่าคลอดกินลูกปลาช่อน จะทำให้แผลหายเร็ว
อาการผิดปกติหลังผ่าคลอด ที่ต้องไปพบแพทย์
แผลเป็นนูนหลังผ่าคลอด คีลอยด์ รักษายังไง? วิธีดูแลแผลผ่าคลอดให้หายเร็ว