X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

เลี้ยงลูกให้เป็นCEO จากแม่ที่เลี้ยงลูกสามคนโตมา เป็นหมอและCEO

บทความ 5 นาที
เลี้ยงลูกให้เป็นCEO จากแม่ที่เลี้ยงลูกสามคนโตมา เป็นหมอและCEO

Esther บอกว่าสิ่งที่ พ่อ แม่ ควรสอนลูกมากที่สุดถ้า อยากเลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ ก็คือ ความโอบอ้อมอารี เพราะมันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย

เลี้ยงลูกให้เป็นCEO จากแม่ที่เลี้ยงลูกสามคนโตมา เป็นหมอและCEO

Esther Wojcicki คุณแม่ชื่อดังที่ครอบครัวของเธอมักจะได้ขึ้นปกนิตยสาร บอกว่าความสำเร็จของลูกของเธอนั้นไม่ได้มาจากเธอเพียงแค่คนเดียว เธอดีใจที่ลูกทั้งสามของเธอ นั้นประสมความสำเร็จ เข้าออกเข้าใจผู้อื่นและมีสิตปัญญาที่ดี  เลี้ยงลูกให้เป็นCEO

Susan เป็น CEO ของบริษัทวีดีโอ YouTube, Janet เป็นกุมารแพทย์ และ  Anne เป็น CEO และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท 23andMe เธอทั้งสามคนสามารถขึ้นมาอยู่ในจุดที่สูงได้ในโลกการทำงานที่มีการแข่งขันสูงและเป็นโลกที่ผู้ชายยังคงเป็นใหญ่

Esther บอกว่ามีคนถามเธอหลายคนว่า สิ่งที่เธอเสียใจมากที่สุดของการเป็นแม่คืออะไร เธอบอกว่าเธอมีสิ่งที่เสียใจอยู่หลายสิ่งด้วยกัน และบอกให้ผู้ปกครองทุกคนฟังว่าสิ่งที่ พ่อ แม่ ควรสอนลูกมากที่สุดถ้า เลี้ยงลูกให้เป็นCEO ก็คือ ความโอบอ้อมอารี

เลี้ยงลูกให้เป็นCEO

เลี้ยงลูกให้ประสบความสำเร็จ

สอนให้ลูกรู้จักการเอาใจใส่

View this post on Instagram
SiriusXM A post shared by Esther Wojcicki (@heywoj) on May 7, 2019 at 6:39am PDT

Esther โตมาพร้อมกับความเชื่อที่ว่ามันเป็นหน้าที่ของเธอที่จะต้องทำให้สังคมดีขึ้น ในขณะที่ทุกคนเอาแต่พูด เธอเป็นคนที่ลงมือทำมาตลอด สิ่งที่เธอทำมีอิทธิพลกับลูกสาวทั้งสามของเธอ เธอไม่ได้สอนลูกสาวว่าเราต้องรับใช้สังคมรอบตัวของเรา แต่เธอทำเพราะเธออยากจะเอาใจใส่จริง เธอพยายามจะแสดงให้ลูกสาวเห็นว่าการกระทำของเธอนั้นส่งผลดีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของลูก

ความสำคัญของชุมชนรอบตัว

View this post on Instagram
Today show A post shared by Esther Wojcicki (@heywoj) on Sep 4, 2019 at 8:09am PDT

ผลจากการวิจัยในปี 2013 และ ปี 2016 แสดงให้เห็นว่า เด็กวัยรุ่นที่อาสาออกไปทำงานช่วยเหลือสังคมในเวลาว่างมีแนวโน้มจะก่อคดีอาชญกรรมน้อยลงอย่างมาก แต่จะมีผู้ปกครองสักกี่คนที่จะแสดงให้ลูกเห็นผ่านทางพฤติกรรมของเราเอง ว่าจะสู้เพื่อชุมชนอย่างไร เด็กกี่คนที่จะรู้สึกมีพลังและยอมรับการท้าทายที่จะทำให้ชุมชนดีขึ้น เธอกล่าวว่าในปัจจุบันเด็กสนใจแต่ตัวเองมากขึ้น พวกเขาอยากเข้ามหาลัยอะไร อยากไปเที่ยวที่ไหน อยากซื้ออะไร เธอรู้สึกว่านี่เป็นสิ่งที่ทำให้เด็กหลงตัวเองกันมากขึ้น เธอคิดว่าปัญหาใหญ่นี้มีต้นตอมาจาก การเลี้ยงลูกแบบคอยสอดส่องจับตาดูลูกตลอดเวลา

เด็กจะโตมาแล้วคิดว่าตนคือศูนย์กลางของจักรวาล

View this post on Instagram
Super creative Santa came to our house A post shared by Esther Wojcicki (@heywoj) on Dec 25, 2017 at 4:14pm PST

เธอบอกว่าเมื่อเด็กโตมา สิ่งที่พวกเขาจดจ่ออยู่คือการหาเงิน ให้มากๆ พวกเขาเชื่อว่าเงินจะทำให้พวกเขามีความสุขและได้รับการเติมเต็ม จงรวย หลังจากนั้นคุณก็ไม่ต้องทำอะไร นอนอาบแดด ไปทานดินเนอร์หรูๆ การกระทำเหล่านี้ทำให้คนยิ่งหลงตัวเองมากขึ้นไปอีก เธอบอกว่ามีคนแบบนี้อยู่มาก พวกเขาสู้เพื่อตัวเอง ไม่สู้เพื่อชุมชนและสังคมรอบข้าง ผลจากเรื่องเหล่านี้จะทำให้พวกเขา รู้สึกโดดเดี่ยวและเก็บกด Esther เล่าว่าเธอพบเจอกับมหาเศรษฐีที่ไม่มีความสุขจำนวนมาก

สังคมที่เต็มไปด้วยคนเก็บกด

View this post on Instagram
A post shared by Esther Wojcicki (@heywoj) on Apr 22, 2017 at 1:34pm PDT

สังคมปัจจุบันมีแต่คนติดสิ่งเสพติด เก็บกดและฆ่าตัวตายเป็นจำนวนมาก เธอบอกว่าส่วนหนึ่งมาจากการที่ทุกคนจดจ่อยู่กับเงินและวัตถุ ไม่แคร์สิ่งรอบข้าง เธอบอกว่าผู้คนจะมีความสุขมากที่สุดตอนได้ช่วยเหลือผู้อื่น เธอบอกว่าคนหายคนอาจจะคิดว่าคนตัวเล็กๆคนเดียวจะเปลี่ยนโลกได้อย่างไรเพราะมันเป็นงานที่ยากมากเหลือเกิน Esther กล่าวว่าในความเป็นจริงแล้วมันไม่ยากเลย สิ่งที่คุณต้องมีคือทัศนคติที่ดี เราอาจเริ่มจากเรื่องเล็กๆ เช่นทำงานอาสาช่วยสังคม หาสิ่งที่ต้องการการแก้ไขในละแวกชุมชนบ้านหรือง่ายเลยคุณสามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้

วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด และมีพรสวรรค์

คุณพ่อคุณแม่ทุกคนต่างก็อยากจะเห็นว่าลูกเป็นเด็กที่ฉลาด และมีพรสวรรค์ แล้วจะทำอย่างไรจึงจะช่วยพัฒนาความสามารถของลูกให้ดียิ่งขึ้น เรามี วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด มาแนะนำ

1. ของเล่นและหนังสือท้าทายความสามารถ

วิธีหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นความสามารถของลูก คือการให้ลูกได้สัมผัสกับของเล่น หรือเกมที่กระตุ้นให้เขาได้ใช้ความคิด ทักษะการแก้ปัญหา และความคิดสร้างสรรค์ เด็กที่มีพรสวรรค์มักสนใจของเล่นและเกมยาก ๆ เกินอายุ

2. พูดคุยกับลูก

อีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ที่สามารถกระตุ้นพัฒนาการของลูกนั่นก็คือการพูดคุยกับลูก ถามว่าลูกกำลังคิดหรือรู้สึกอะไร ฟังลูกเมื่อเขามีคำถาม และพยายามตอบคำถามให้ดีที่สุดเท่าที่คุณรู้ ใช้เวลาว่างเล่นกับลูก นี่เป็นช่วงที่คุณจะช่วยฝึกสมองเขาได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเวลาเล่นเกมลับสมองด้วยกัน

3. ส่งลูกเข้าร่วมกิจกรรม

ลำพังการให้ลูกเล่นของเล่นและอ่านหนังสือที่ท้าทายความสามารถแค่ที่บ้านคงไม่พอ คุณอาจลองส่งลูกไปเข้าค่าย เข้าคอร์ส หรือทำกิจกรรมร่วมกับเด็กที่มีความสามารถพิเศษคนอื่น ๆ เช่นคอร์สร้องเพลง ฝึกเต้น วาดรูป เป็นต้น

4. ให้ลูกเล่นกับเพื่อน

ใช่ว่าเด็กที่ฉลาดและมีพรสวรรค์จะต้องมุ่งแต่พัฒนาความสามารถเพียงอย่างเดียว พ่อแม่ควรให้เขาได้ออกไปเล่นกับเพื่อน ๆ ด้วย เด็กจะได้พัฒนาทักษะทางสังคม และมีการพัฒนาทางอารมณ์ที่เหมาะสม และรักษาสมดุลในชีวิต

5. ให้ลูกสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ

แม้ลูกอาจจะมีความสามารถในด้านใดด้านหนึ่ง แต่คุณก็ควรให้เขาได้ลองทำอะไรแปลกใหม่ดูบ้าง เช่นฝึกการแสดง ร้องเพลง เต้นรำ เล่นดนตรี กีฬา ฯลฯ ไม่แน่ เขาอาจมีความสามารถในด้านอื่น ๆ ซ่อนอยู่อีกก็เป็นได้

6. อย่าคาดหวังหรือเรียกร้องจากลูกมากเกินไป

อย่าพยายามตั้งความหวังกับลูกไว้สูงจนเกินไป เพราะมันอาจทำให้เกิดผลเสียได้ เช่น เมื่อลูกได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว แต่สอบได้คะแนนน้อยกว่าที่ตั้งเป้าไว้ เขาอาจเครียดเพราะทำไม่ได้อย่างที่หวัง พยายามกระตุ้น และให้กำลังใจลูก และอย่ากดดันเขามากเกินไป เพราะอาจทำให้เขาสูญเสียความมั่นใจได้ ถ้าเขาทำได้ไม่ดีเลิศอย่างที่หวัง ก็ขอให้คุณเข้าใจ พยายามให้กำลังใจเขา และอย่าซ้ำเติม

เลี้ยงลูกสมัยใหม่ด้วยวิธี ให้ 5 ห้าม 1

  1. ให้ลูกรู้จักการเป็นตัวของตัวเอง ด้วยการ “ปล่อย”

พ่อแม่มักคิดว่าศักยภาพของเด็กมีขีดจำกัด แต่เราไม่รู้หรอกว่าเด็กๆ มักมีเรื่องแปลกใหม่ให้เราได้สัมผัสเสมอ ดังนั้นจึงควรปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ลองผิดลองถูก และปล่อยให้ใช้ความคิดเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมด้วยตัวเอง สิ่งนี้จะทำให้ลูกเกิดความเชื่อมั่นและความมั่นใจ เป็นตัวของตัวเองมากยิ่งขึ้น

  1. ให้ลูกรู้จักทำงานบ้านเพื่อรู้จักความมีน้ำใจ

เมื่อคุณแม่กวาดบ้านอยู่ หากเจ้าตัวน้อยเดินเข้ามาขอช่วย ให้รีบตอบรับแทนการปฏิเสธเลยค่ะ หรือคุณแม่สามารถให้ลูกมาลองช่วยงานบ้านอื่นๆดู รู้ไหมคะว่าการให้ลูกช่วยทำงานบ้านก็เป็นการส่งเสริมถึงศักยภาพรอบด้านให้กับลูกได้ดีอีกวิธีหนึ่งและยังช่วยให้ลูกรู้จักกับการช่วยเหลือ แสดงความมีน้ำใจ ต่อคนในครอบครัวและผู้อื่นด้วย

 
  1. ให้ความสำคัญและแบ่งเวลาที่มีกับลูก

คุณพ่อคุณแม่สามารถแบ่งเวลาให้กับลูกด้วยการชวนลูกเล่นหรือทำกิจกรรมง่ายๆ ร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือนิทานให้ลูก หรือการชวนลูกมารดน้ำ ปลูกต้นไม้หน้าบ้าน รวมถึงกิจกรรมนอกบ้านที่คุณพ่อแม่คุณแม่สามารถใช้เวลาในวันหยุดพาลูกไปเรียนรู้ร่วมกันได้ การที่ลูกเติบโตร่วมกับพ่อแม่ที่ให้เวลาและความสำคัญในการเลี้ยงลูกแทนการใช้สื่อดิจิตอลที่เข้ามามีบทบาทในยุคนี้ จะทำให้ลูกรู้จักโลกของความเป็นจริง และรู้จักปรับตัวเข้าสังคมภายนอกได้ดีกว่า

  1. ให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่รักลูกและเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเสมอ

พอเริ่มอายุ 2 ขวบ ลูกจะเริ่มพูดและรับฟังคำพูดจากพ่อแม่ได้มากขึ้น และเริ่มมีความคิดเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น อาจจะมีคำพูดที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดอาการน้อยใจ เช่น “หนูไม่รักแม่แล้ว” หรือการร้องไห้ เพื่อเรียกร้องความสนใจ อย่างไรก็ตามคุณพ่อคุณแม่ต้องอดทนและไม่ควรใช้ความโกรธกับลูก แต่หาเหตุผลมาสอนและอธิบายให้ลูกเข้าใจพร้อมกับแสดงออกให้เห็นว่า “พ่อแม่รักลูกเสมอ” บางอย่างคุณแม่สามารถขอความคิดเห็นจากลูกได้ หรืออาจจะถามว่าลูกรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนั้นเรื่องนี้ เพราะการให้ลูกได้ตอบคำถามหรือแสดงความคิดเห็นจะทำให้ลูกรู้สึกถึงความเป็นส่วนร่วม และมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นด้วย

  1. ให้โภชนาการที่ดีแก่ลูกรัก

การเลี้ยงลูกสมัยใหม่เพื่อความฉลาดสมวัย เรื่องโภชนาการที่ดีสำหรับลูกน้อย เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการให้ลูกได้ดื่มนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด หรือดื่มนมที่อุดมไปด้วยสารอาหารครบถ้วนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของลูก เช่น ดีเอชเอ เออาร์เอ สฟิงโกลิปิด ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซด์ ที่มีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการในด้านระบบประสาทและสมองของลูกน้อย รวมถึงสุขภาพร่างกาย ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหาร เพื่อการเจริญเติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ

บทความจากพันธมิตร
เปิดใจนักแสดงไทย คุณอุ้ย สุธิตา ทำไมถึงเลือกใช้บริการ German Kitchen Design
เปิดใจนักแสดงไทย คุณอุ้ย สุธิตา ทำไมถึงเลือกใช้บริการ German Kitchen Design
เลือกเป้อุ้มเด็ก ยี่ห้อไหนดี ให้ปลอดภัยสะโพกเด็กไม่หลุด
เลือกเป้อุ้มเด็ก ยี่ห้อไหนดี ให้ปลอดภัยสะโพกเด็กไม่หลุด
วิธีเลือก ทิชชู่เปียกเด็ก ที่ปลอดภัย ไม่แพ้ ไม่คันผิว
วิธีเลือก ทิชชู่เปียกเด็ก ที่ปลอดภัย ไม่แพ้ ไม่คันผิว
Unique Ideas To Make Your Kitchen Look Elegant, Stylish and Appealing
Unique Ideas To Make Your Kitchen Look Elegant, Stylish and Appealing
  1. ห้ามเปรียบเทียบลูกกับคนอื่น

เวลาเลี้ยงลูกเราต้องยอมรับศักยภาพของลูก โดยการไม่คาดหวังว่าลูกจะต้องทำในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่อยากให้ทำได้ ดังนั้นจึงไม่ควรที่จะใช้คำพูดเปรียบเทียบลูก ให้ลูกมองว่าคนอื่นเก่งกว่า ดีกว่า แต่ควรพยายามเข้าใจลูก และต้นแบบที่ดีที่สุดก็คือ พ่อแม่ ดังนั้นหากพ่อแม่อยากให้ลูกทำอะไร ก็ควรเป็นตัวอย่างที่ดีและทำให้ลูกเห็น และคอยสนับสนุนในด้านที่ลูกสนใจมากกว่าการบังคับให้ลูกทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบ

Source : cnbc, 7news, fortune

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :

วิธีเลี้ยงลูกสาวกับลูกชายต่างกันไหม ความแตกต่างของลูกสาวและลูกชายที่ควรรู้!

เบื่อเลี้ยงลูก ไม่อยากหมดไฟในความเป็นแม่ ต้องรีบปลุกจิตวิญญาณด่วน ๆ เพื่อลูก

สามีแอบดูภรรยา เลี้ยงลูกอยู่บ้าน ผ่านกล้องวงจรปิด จนได้รู้ซึ้งในความจริง!

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Jitawat Jansuwan

  • หน้าแรก
  • /
  • ไลฟ์สไตล์
  • /
  • เลี้ยงลูกให้เป็นCEO จากแม่ที่เลี้ยงลูกสามคนโตมา เป็นหมอและCEO
แชร์ :
  • 16 คำแนะนำพ่อแม่มือใหม่ เปลี่ยนชีวิตให้ง่ายขึ้นไปกว่าเดิม อะไรบ้างที่ต้องรู้

    16 คำแนะนำพ่อแม่มือใหม่ เปลี่ยนชีวิตให้ง่ายขึ้นไปกว่าเดิม อะไรบ้างที่ต้องรู้

  • 8 สัญญาณพ่อแม่ที่ไม่ดี พ่อและแม่ควรรู้จะได้รับรู้เพื่อปรับปรุง

    8 สัญญาณพ่อแม่ที่ไม่ดี พ่อและแม่ควรรู้จะได้รับรู้เพื่อปรับปรุง

  • โอ้ละพ่อ! เด็ก ป.1 หายตัวปริศนา แจ้งตามหากันให้วุ่น สรุปสุดท้าย อยู่ในห้องเรียนนั่นแหละ !

    โอ้ละพ่อ! เด็ก ป.1 หายตัวปริศนา แจ้งตามหากันให้วุ่น สรุปสุดท้าย อยู่ในห้องเรียนนั่นแหละ !

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

  • 16 คำแนะนำพ่อแม่มือใหม่ เปลี่ยนชีวิตให้ง่ายขึ้นไปกว่าเดิม อะไรบ้างที่ต้องรู้

    16 คำแนะนำพ่อแม่มือใหม่ เปลี่ยนชีวิตให้ง่ายขึ้นไปกว่าเดิม อะไรบ้างที่ต้องรู้

  • 8 สัญญาณพ่อแม่ที่ไม่ดี พ่อและแม่ควรรู้จะได้รับรู้เพื่อปรับปรุง

    8 สัญญาณพ่อแม่ที่ไม่ดี พ่อและแม่ควรรู้จะได้รับรู้เพื่อปรับปรุง

  • โอ้ละพ่อ! เด็ก ป.1 หายตัวปริศนา แจ้งตามหากันให้วุ่น สรุปสุดท้าย อยู่ในห้องเรียนนั่นแหละ !

    โอ้ละพ่อ! เด็ก ป.1 หายตัวปริศนา แจ้งตามหากันให้วุ่น สรุปสุดท้าย อยู่ในห้องเรียนนั่นแหละ !

  • ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

    ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว