เรื่องกังวลสำหรับคุณแม่ลูกเล็กอีกหนึ่งเรื่องคือ การเจอกับปัญหาลูกกินยาก ที่ทำให้คุณแม่ต้องพยายามหาวิธีหรือปรุงอาหารให้ถูกใจคุณลูก เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่เพียงพอและเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งมีผลสำรวจว่าคุณแม่ชาวกรุงจำนวน 100 คนที่มีลูกอยู่ในวัย 3-6 ปี ร้อยละ 87 ประสบปัญหากับพฤติกรรมลูกกินยากและมีโอกาสได้รับสารอาหารที่จำเป็นไม่ครบถ้วน บทความนี้เราจะมาดูสาเหตุ และ วิธีแก้ปัญหาลูกกินยาก เพื่อนำไปปรับใช้กันค่ะ
วิธีแก้ปัญหาลูกกินยาก ต้องเริ่มจากการปรับพฤติกรรม
พฤติกรรมลูกกินยาก ที่ทำให้คุณแม่ลำบากใจไม่ใช่น้อยนั้น แท้จริงแล้วมี 2 ปัจจัยหลักที่ต้องคำนึงถึง
- ลูกกินยากเกิดจาก พฤติกรรมการกินของลูก เช่น เขี่ยอาหารทิ้ง กินอาหารน้อยเกินไป และ เลือกกินเฉพาะอาหารที่ชอบ ทั้งนี้พบว่า อาหารที่ลูกไม่ชอบรับประทานมากที่สุดคือ ผักใบเขียว เช่น ผักโขม ผักบุ้ง บร็อคโคลี คะน้า รองลงมาคือ ผักมีสี เช่น มะเขือเทศ แครอท ฟักทอง รวมทั้ง หัวหอม อาหารทะเล ตับ และเครื่องในสัตว์ ซึ่งอาหารเหล่านี้ ล้วนเป็นแหล่งของสารอาหารจำพวกวิตามิน และเกลือแร่ เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินอี เหล็ก และ โฟเลต ที่จำเป็นต่อ การเสริมสร้างความแข็งแรงให้เนื้อเยื่อในร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระ และ ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันต่อโรคภัยต่าง ๆ หากลูกยังเขี่ยทิ้งย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพแน่นอน
- ลูกกินยาก เกิดจากความเร่งรีบในแต่ละวันของคุณพ่อคุณแม่เอง ทำให้มีเวลาไม่เพียงพอในการเตรียมอาหาร อีกทั้ง ไม่สามารถควบคุมปริมาณการรับประทานอาหารที่โรงเรียนของลูกได้ด้วย
ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ เป็นสาเหตุให้ลูกน้อยอาจได้รับสารอาหารที่จำเป็น ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
วิธีแก้ปัญหาลูกกินยากที่คุณแม่ฉลาดเตรียมให้
- ควรงดของว่าง นม หรือ น้ำผลไม้ ก่อนมื้ออาหาร ประมาณ 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้ท้องว่างและรู้สึกหิวมากขึ้น
- ให้ลูกนั่งร่วมโต๊ะกินอาหารพร้อม ๆ กัน เริ่มต้นตักอาหารให้ลูกน้อย ๆ แล้วค่อย ๆ เติม โดยพ่อแม่กินอาหารเหมือนกับที่ลูกกินด้วย เช่น ผัดผัก แกงจืด เพื่อให้ลูกได้มองเป็นตัวอย่าง
- ปล่อยให้ลูกช่วยเหลือตัวเองเวลากิน ให้ลูกหยิบจับอาหาร โดยคุณแม่อาจยอมปล่อยให้เลอะเทอะบ้าง เพื่อเป็นการให้ลูกสนุกกับอาหารตรงหน้า และ รู้สึกไม่เป็นการบังคับให้ลูกกิน
- ชวนลูกให้ลองทำอาหารเมนูง่าย ๆ ร่วมกัน นอกจากทำให้ลูกเกิดความสนุกแล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้เด็กเกิดความอยากกินขึ้นด้วย
- หากคุณแม่กลัวว่าลูกจะได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน ควรจัดอาหารเสริมโภชนาการระหว่างวันให้ลูก โดยคุณแม่กว่าครึ่งให้ลูกดื่มนมสำหรับเด็ก เพราะเป็นแหล่งอาหารที่ให้สารอาหารที่ครบถ้วนทั้งโปรตีน แคลเซียม วิตามินและแร่ธาตุ ช่วยเสริมสร้างร่างกายให้เติบโตแข็งแรง และเสริมให้ลูกได้รับสารอาหารอย่างพอเพียง พ่อแม่ควรให้ลูกดื่มนมเป็นประจำวันละ 1-2 แก้ว พร้อมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่กัน
ให้ลูกดื่มนม
การให้ลูกดื่มนม จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับลูกในวัยเจริญเติบโต พ่อแม่ควรเลือกนมสำหรับเด็ก ให้ลูกดื่มเป็นประจำ เพราะมีโภชนาการที่เหมาะสม และมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของลูกเล็ก ตัวอย่างเช่น โอเมก้าครบทั้ง 3 ชนิด ซึ่งเป็นกรดไขมันชนิดดี มีส่วนช่วยบำรุงระบบประสาท จอประสาทตา และพัฒนาสมอง วิตามินบี 12 มีส่วนช่วย ในการทำงานของระบบประสาท และสมอง ธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ไอโอดีน เป็นส่วนประกอบ ที่สำคัญของฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโต และการพัฒนาของร่างกาย และสมอง วิตามินดี ช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียม และฟอสฟอรัสได้ดี
ดูแลลูกรักให้มีพัฒนาการดี เติบโตสมวัย สูงสมส่วน มีน้ำหนักตามเกณฑ์
รับฟรี พีเดียชัวร์ ขนาดทดลอง คลิกที่นี่
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพ และสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุด และผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์ และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และ จิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้ และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
วิธีรับมือ ลูกกินยาก ลูกไม่ยอมดื่มนม ปัญหาชวนปวดหัวของแม่ๆ
แม่ต้องรู้! ลูกวัยนี้ให้กินอะไรดี อาหารที่เหมาะกับ ทารกแต่ละวัย ป้องกันลูกกินยาก
ลูกชอบอมข้าว ไม่ยอมเคี้ยว ไม่ยอมกลืน ทำไงดี?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!