โฟลิก ห้ามกินพร้อมอะไร ? วิตามินบำรุงครรภ์ที่แม่ท้องต้อง "กินเป็น"

คุณแม่ตั้งครรภ์ หรือผู้หญิงที่เตรียมพร้อมตั้งครรภ์ การกินโฟลิกสำคัญมากนะคะ สำคัญและมีประโยชน์ยังไง มีวิธีการกินแบบไหน มาดูไปด้วยกัน
การบำรุงครรภ์ที่ดีและเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทารกในครรภ์เจริญเติบโตอย่างมีสุขภาพดีค่ะ โดยหนึ่งในสารอาหารที่จำเป็นและไม่ควรมองข้ามคือ “โฟลิก” ซึ่งเป็นวิตามินสำคัญในการพัฒนาระบบประสาทและสมองของทารก แต่การกินโฟลิกก็มีเรื่องที่คุณแม่ต้องเข้าใจในแง่ของการกินร่วมกับอาหารหรือยาอื่นๆ ด้วย เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุด โฟลิก ห้ามกินพร้อมอะไร ? มาทำความเข้าใจกันเลยค่ะ
▼สารบัญ
โฟลิก คืออะไร?
โฟลิก (Folic acid) หรือวิตามินบี 9 เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ มีส่วนช่วยในกระบวนการเผาผลาญโปรตีน มีความสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง มีบทบาทสำคัญในการสร้างเซลล์ใหม่และซ่อมแซมเซลล์ในร่างกาย และจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งโฟลิกช่วยในการสร้างและปิดหลอดประสาทของทารก อันเป็นโครงสร้างสำคัญที่พัฒนาเป็นสมองและไขสันหลัง สามารถป้องกันการพิการแต่กำเนิดได้ ทั้งยังช่วยให้เจริญอาหาร แก้อาการอ่อนเพลีย ป้องกันภาวะซีดหรือโลหิตจาง ป้องกันโรค NCDs และโรคอัลไซเมอร์
ความสำคัญของ “โฟลิก” ที่มีต่อแม่ท้อง
โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะแนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับโฟลิกในการบำรุงครรภ์ ประมาณ 400-800 ไมโครกรัมต่อวัน ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์และตลอดการตั้งครรภ์ การกินโฟลิกจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดความผิดปกติในระบบประสาทของทารก ความสำคัญของ “โฟลิก” ที่มีต่อแม่ท้อง มีดังนี้
- ป้องกันความพิการแต่กำเนิด
โฟลิกช่วยลดความเสี่ยงของความพิการแต่กำเนิดที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท หากคุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับกรดโฟลิกในปริมาณที่เพียงพอจะมีส่วนช่วยในการพัฒนาสมอง กะโหลกศีรษะ และไขสันหลังของทารกในครรภ์ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะพิการแต่กำเนิดดังต่อไปนี้
- ลดความพิการแต่กำเนิดโดยรวมลง
- ความพิการที่เกี่ยวกับสมองและไขสันหลังของเด็กทารก เช่น โรคสไปนา ไบฟิดา (Spina Bifida) และภาวะกะโหลกศีรษะไม่ปิด (Anencephaly)
- ลดโอกาสการเกิดความพิการแต่กำเนิดของหลอดประสาท
- ลดความเสี่ยงโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด
- ความผิดปกติของแขนขาลดลงไปได้ประมาณ 50%
- ลดความพิการของระบบทางเดินปัสสาวะ และ โรคไม่มีรูทวารหนัก (imperforate anus)
- โอกาสการเกิดปากแหว่งลดลงประมาณ 1 ใน 3
- ลดภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์ เช่น ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด การแท้งบุตร และครรภ์เป็นพิษ
- สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางในคุณแม่ตั้งครรภ์
- ส่งเสริมการเจริญเติบโตของทารก โฟลิกมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาสมองและไขสันหลังของทารก
- ช่วยรักษาหรือป้องกันภาวะขาดโฟเลต รวมถึงโรคโลหิตจางจากการขาดโฟเลตด้วย
- ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
กรดโฟลิกจะทำงานร่วมกับวิตามินบี 6 และวิตามินบี 12 ในการควบคุมระดับของสารโฮโมซิสเทอีน (Homocysteine) ในเลือดไม่ให้สูงเกินไป เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular Disease) รวมถึงโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) จนอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
- ช่วยรักษาปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต
กรดโฟลิกอาจมีคุณสมบัติในการช่วยรักษาปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต เช่น ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด โรคซึมเศร้า โรคไบโพลาร์หรือโรคอารมณ์สองขั้ว รวมถึงโรคจิตเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแพทย์จะสั่งจ่ายยาโฟลิกร่วมกับยาต้านเศร้าชนิดอื่นๆ ให้แก่ผู้ป่วย เพื่อให้ตัวยาช่วยปรับสารเคมีในสมองให้อยู่ในระดับปกติ และสามารถบรรเทาอาการทางจิตที่เกิดขึ้นได้
คนท้อง โฟลิก กินตอนไหน? โฟลิก ห้ามกินพร้อมอะไร ?
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้คุณแม่ที่เตรียมพร้อมจะตั้งครรภ์ เริ่มกินโฟลิกได้ตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ 3 เดือน ต่อเนื่องจนถึง 3 เดือนแรกของการตั้งท้อง เพื่อช่วยให้การสร้างหลอดประสาทของตัวอ่อนภายใน 28 วันแรกหลังปฏิสนธิอย่างมีประสิทธิภาพ โดยร่างกายของคุณแม่ตั้งครรภ์จะมีความต้องการกรดโฟลิกอยู่ที่ 800 ไมโครกรัมต่อวัน หรือมากกว่าผู้หญิงที่ไม่ตั้งครรภ์ถึง 400 ไมโครกรัม
ปริมาณ โฟลิก ที่แนะนำสำหรับแม่ท้อง | |
คนท้องทั่วไป และผู้หญิงที่วางแผนตั้งครรภ์ |
|
คนท้อง ที่มีประวัติลูกพิการแต่กำเนิด |
|
ทั้งนี้ ปริมาณของโฟลิกที่ผู้หญิงซึ่งไม่ได้ตั้งครรภ์ควรได้รับในชีวิตประจำวัน คือประมาณ 400 ไมโครกรัมต่อวัน หรือ 0.4 มิลลิกรัมต่อวัน โดยจะมีโฟลิกในผักและผลไม้ ซึ่งหากไม่ได้กินแบบสดก็จะได้รับปริมาณโฟลิกที่น้อยลง แต่หากกินอาหารและผักผลไม้อย่างถูกต้องจะช่วยให้ได้รับโฟลิกอย่างเพียงพอได้ค่ะ
ผักผลไม้ที่เป็นแหล่งโฟลิก
- ผักใบเขียว เป็นอาหารที่อุดมไปด้วยโฟเลต โดยในแต่ละมื้ออาจเพิ่มผักโขม กะหล่ำปลี หรือผักกาดเขียวลงไป เพื่อเพิ่มกรดโฟลิกให้กับร่างกาย ซึ่งสำหรับผู้หญิงปกติการกินผักเหล่านี้ 1 จานใหญ่ต่อวัน ก็จะทำให้ได้รับกรดโฟลิกเพียงพอแล้ว
- บร็อกโคลี บร็อกโคลี 1 ถ้วย ให้กรดโฟลิกมากถึง 26% ของจำนวนที่ร่างกายต้องการต่อวัน โดยเฉพาะกินแบบลวกหรือคู่กับน้ำสลัดแบบสดๆ จะยิ่งได้คุณค่าสารอาหารดีกว่าการนำไปทอดหรือผัดค่ะ
- ผลไม้รสเปรี้ยวโดยปกติแล้วผลไม้ส่วนใหญ่ต่างอุดมด้วยกรดโฟลิก เพียงแต่ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวจะมีกรดโฟลิกเยอะมาก โดยเฉพาะส้ม ซึ่งส้ม 1 ลูก มีกรดโฟลิก 40-50 ไมโครกรัม นอกจากนี้ มะละกอ องุ่น กล้วย แคนตาลูป รวมถึงสตรอว์เบอร์รีก็มีกรดโฟลิกสูงเช่นกัน
แม่ท้องควรรู้ โฟลิก ห้ามกินพร้อมอะไร ?
จริงๆ แล้วคุณแม่สามารถกินโฟลิกได้ตลอดช่วงตั้งครรภ์และให้นมค่ะ หรือสามารถกินรอไว้ได้เลยถึงแม้จะไม่ได้วางแผนตั้งครรภ์ก็ตาม เพราะโฟลิกเป็นวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่อย่างไรก็ตาม มีสารบางชนิดที่อาจทำให้ประสิทธิภาพในการดูดซึมของโฟลิกลดลงหากกินพร้อมกัน หรือกินในปริมาณที่ไม่เหมาะสม มาดูกันว่า โฟลิก ห้ามกินพร้อมอะไร ?
- แคลเซียม การกินโฟลิกพร้อมแคลเซียมในปริมาณมากอาจส่งผลให้การดูดซึมโฟลิกลดลง ดังนั้น ควรแยกการกิน โดยอาจเว้นระยะเวลาในการกินอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
- วิตามินซี การกินวิตามินซีพร้อมโฟลิกในปริมาณสูงอาจทำให้การดูดซึมโฟลิกไม่เต็มที่ เพราะวิตามินซีอาจทำให้โฟลิกสลายตัวได้เร็วขึ้น ควรเลือกกินแยกกัน
- อาหารที่มีไฟเบอร์สูง ไฟเบอร์มีบทบาทในการส่งเสริมการขับถ่าย แต่การกินอาหารที่มีไฟเบอร์สูงเกินไปอาจทำให้การดูดซึมของโฟลิกถูกลดลงได้เช่นกัน ดังนั้น คุณแม่ควรกินอาหารที่มีไฟเบอร์อย่างพอเหมาะ และแบ่งมื้อให้สอดคล้องกับการดูดซึมของวิตามินโฟลิก
- ยาบางชนิด
- ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น วาร์ฟาริน (Warfarin) อาจมีผลทำให้การดูดซึมโฟลิกลดลง ดังนั้น การกินโฟลิกในกรณีนี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- ยาลดกรด จะขัดขวางการดูดซึมโฟลิก ไม่ควรกินพร้อมกัน
- ยาคลอแรมเฟนิคอล (Chloramphenicol) ยาคอเลสไทรามีน (Cholestyramine) ยาเมโธเทรกเซท (Methotrexate) หรือยาต้านอาการชักบางชนิด ไม่สามารถกินร่วมกับวิตามินโฟลิกได้ เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
- อาหารบางชนิดที่มีสารต้านโฟเลต (Folate Antagonists) อาจขัดขวางการทำงานของโฟลิก
- แอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์อาจลดการดูดซึมโฟลิก ทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากโฟลิกน้อยลง ซึ่งโดยปกติคุณแม่ตั้งครรภ์ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์อยู่แล้ว สำหรับผู้หญิงที่เตรียมตั้งครรภ์ก็ควรหลีกเลี่ยงการกินวิตามินโฟลิกพร้อมแอลกอฮอล์ด้วยค่ะ
ข้อควรระวัง! ในการกินยาวิตามินโฟลิก
- ควรกินตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่กินมากหรือน้อยกว่าที่แพทย์กำหนด เพราะอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้
- การกินโฟลิกอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่รุนแรง เช่น รู้สึกไม่สบาย เมื่อยล้า เบื่ออาหาร ท้องอืด หรือคลื่นไส้ แต่หากมีผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือมีอาการแพ้ยาเกิดขึ้นควรไปพบแพทย์
- ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น ผู้ป่วยโรคโลหิตจางจากการขาดวิตามินบี 12 ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ไม่ได้มีภาวะขาดโฟเลตร่วมด้วย หรือผู้ป่วยที่ต้องฟอกไต อาจไม่สามารถกินวิตามินโฟลิกได้
- หากมีอาการแพ้ยาใดๆ ก็ตาม หรือกำลังใช้ยาชนิดอื่นอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
เคล็ดลับสำคัญ! ในการบำรุงครรภ์ให้แม่ท้อง
-
กินอาหารที่หลากหลาย
ควรกินอาหารที่หลากหลาย มีสารอาหารครบถ้วน ทั้งโฟลิก โปรตีน แคลเซียม ธัญพืชไม่ขัดสี และธาตุเหล็ก โดยเฉพาะผักใบเขียว เช่น ผักโขม คะน้า บรอกโคลี หรือผลไม้ เช่น ส้ม และอโวคาโด
-
ดื่มน้ำมากๆ
การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอจะช่วยรักษาความชุ่มชื้นในร่างกาย ลดอาการบวม และช่วยการทำงานของระบบขับถ่าย คุณแม่จึงควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8-12 แก้วต่อวัน เพื่อรักษาระดับน้ำในร่างกายและช่วยในการดูดซึมสารอาหาร
-
พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามในช่วงตั้งครรภ์ เพราะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและเสริมสร้างพลังงาน คุณแม่จึงควรนอนหลับพักผ่อนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูและเสริมสร้างพัฒนาการของทารก
-
การออกกำลังกายที่เหมาะสม
การเดินหรือทำกิจกรรมเบาๆ เช่น โยคะสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ จะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและลดความเครียดได้
-
หลีกเลี่ยงสารอันตราย
หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และสารเคมีที่เป็นอันตราย
-
ปรึกษาแพทย์อย่างสม่ำเสมอ
ไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อตรวจสุขภาพ และรับคำแนะนำอย่างถูกต้องเหมาะสมในการดูแลครรภ์
น่าจะเข้าใจถึงหลักในการกินโฟลิกกันบ้างแล้วนะคะ โฟลิก ห้ามกินพร้อมอะไร ? กินในปริมาณเท่าไรจึงเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ การกินโฟลิกอย่างเหมาะสมและระมัดระวังเรื่องการทานร่วมกับสารบางชนิดจะช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพที่ดี และทารกในครรภ์ได้รับพัฒนาการที่เหมาะสม นอกจากนี้ อย่าลืมปรึกษาแพทย์เพื่อให้การบำรุงครรภ์เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วยนะคะ
ที่มา : www.gedgoodlife.com , www.pobpad.com , www.phyathai.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ยาไตรเฟอร์ดีน คนท้อง กินตอนไหน กินแล้วอาเจียน ไม่กินได้ไหม
ท้องลูกชายชอบกินอะไร ? ความเชื่อ VS ความจริงเรื่องอาหารแม่ท้อง
คนท้องกินอะไรลูกฉลาด อาหารเสริมสมองลูก ที่แม่ตั้งครรภ์ห้ามพลาด !