เตือนภัย! โรคมือ เท้า ปาก - โรคไข้หวัดใหญ่ ระบาดหนักช่วงเปิดเทอมใหม่

 

เตือนภัย! โรคมือ เท้า ปากไข้หวัดใหญ่ ระบาดหนักในโรงเรียนช่วงเปิดเทอม เด็กอีสานใต้ป่วยพุ่ง โดยเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา ออกเตือนภัยผู้ปกครอง เผยโรคไข้หวัดใหญ่และมือเท้าปากกำลังระบาดหนักในโรงเรียนช่วงเปิดเทอมใหม่ สถานการณ์น่าเป็นห่วง ข้อมูลล่าสุด พบเด็กในภาคอีสานใต้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่แล้วกว่า 5,018 ราย และโรคมือเท้าปาก พุ่งสูงถึง 1,358 ราย โดยมีกลุ่มเสี่ยงหลักคือเด็กเล็กและเด็กประถมวัย

 

สรุปสถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่และมือเท้าปากในเขตสุขภาพที่ 9

โรคไข้หวัดใหญ่

  • พบผู้ป่วยสะสม 13,862 ราย เสียชีวิต 4 ราย
  • ใน 8 สัปดาห์ที่ผ่านมา (สัปดาห์ที่ 10-17) พบผู้ป่วย 5,081 ราย เสียชีวิต 0 ราย
  • จังหวัดที่มีผู้ป่วยมากที่สุดคือ นครราชสีมา (2,937 ราย) รองลงมาคือ ชัยภูมิ (1,005 ราย) บุรีรัมย์ (604 ราย) และสุรินทร์ (535 ราย)
  • กลุ่มอายุที่ป่วยมากที่สุดคือ 0-4 ปี รองลงมาคือ 5-9 ปี และ 10-14 ปี 

โรคมือ เท้า ปาก

  • พบผู้ป่วยสะสม 1,358 ราย เสียชีวิต 0 ราย
  • ใน 8 สัปดาห์ที่ผ่านมา (สัปดาห์ที่ 10-17) พบผู้ป่วย 372 ราย
  • จังหวัดที่มีผู้ป่วยมากที่สุดคือ นครราชสีมา (164 ราย) รองลงมาคือ บุรีรัมย์ (111 ราย) สุรินทร์ (67 ราย) และชัยภูมิ (30 ราย)
  • กลุ่มอายุที่ป่วยมากที่สุดคือ 1 ปี รองลงมาคือ 2 ปี และ 3 ปี ตามลำดับ

ที่มา: www.khaosod.co.th

 

ขอบคุณภาพจาก: www.khaosod.co.th

 

ทั้งนี้ โรคมือ เท้า ปาก ระบาดหนักในเด็กช่วงฤดูฝน พบมากในทารกและเด็กเล็ก เวียนกลับมาอีกครั้งกับโรคระบาดในฤดูที่ฝนพรำ การดูแลรักษาลูกน้อยในช่วงนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ เรามารู้สาเหตุ และวิธีป้องกันโรคมือเท้าปากกันดีกว่า

 

โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากอะไร?

โรคมือเท้าปาก  หรือ Hand foot and mouth disease ที่เด็ก ๆ มักเป็นกันในช่วงฤดูฝนสาเหตุหลักของการที่ลูกน้อยของคุณเป็นโรคมือ เท้า ปาก นั้นมาจากการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า coxsackievirus A16 ในเด็กทั่วโลก แต่ในประเทศไทยของเรานั้นมีอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ชื่อว่า Enterovirus 71 แต่พบไม่บ่อยมากนัก และมีอาการที่รุนแรงมากกว่า

 

ทำไมโรคมือปากเท้า ถึงระบาดหนักในฤดูฝน

การแพร่กระจายของ โรคมือ ปาก เท้า ในเด็กนั้นมักนิยมระบาดหนักในช่วงของฤดูฝน หรือบริเวณภาคใต้ของประเทศไทยที่มักมีฝนตกหนัก เป็นเวลาหลายเดือน ถึงแม้ว่ายังไม่ปรากฏข้อมูลอย่างแน่ชัดว่ามาจากสาเหตุใด แต่มีการตั้งสมมติฐานว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในระยะสั้น ๆ หรือเปลี่ยนอย่างเฉียบพลัน อาจส่งผลต่อไดนามิกของการแพร่กระจายของโรคมือปากเท้า ความเร็วลม และละอองฝนอาจเป็นปัจจัยหลักในการนำพา และแพร่กระจายเชื้อไวรัสไปในอากาศได้อย่างรวดเร็ว จึงเป็นเหตุทำให้การแพร่ระบาดกระจายตัวเร็วขึ้น และป้องกันได้ยาก

บทความที่น่าสนใจ : 5 โรคที่มากับฝน สังเกตลูกมีอาการแบบนี้ไหม พร้อมวิธีป้องกันโรคติดต่อฤดูฝน

 

อาการของโรคมือ เท้า ปาก

โดยส่วนใหญ่ของผู้ที่เป็นโรคมือเท้าปากนั้นมักมีอายุต่ำกว่า 5 ปี หรืออายุไม่เกิน 10 ปี และเด็ก ๆ มักได้รับเชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุของโรคมาจากศูนย์ดูแลเด็กเล็ก หรือสถาบันพัฒนาการเด็กเล็กนั่นเอง เนื่องจากการติดเชื้อนั้นแพร่กระจายจากการสัมผัสจากคนสู่คน และเด็ก ๆ ถือเป็นกลุ่มที่อ่อนแอที่สุด จึงทำให้สามารถติดโรคได้ง่าย ผ่านสารคัดหลั่งจากจมูก (น้ำมูก) ของเหลวจากแผลพุพอง และละอองในระบบทางเดินหายใจ (ไอ หรือจาม) โดยจะแสดงอาการดังต่อไปนี้

  • มีไข้
  • เจ็บคอ
  • อ่อนเพลีย
  • รู้สึกไม่สบายตัว
  • ปวดเมื่อยตามตัว
  • พบตุ้มแดงที่ลิ้น เหงือก และด้านในของแก้ม
  • มีผื่นแดงขึ้น แต่ไม่แสดงอาการคัน ในบางกรณีอาจมีอาการพุพองที่ฝ่ามือ เท้า หรือก้น
  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
  • เบื่ออาหาร

 

 

ระยะเวลาในการเป็นโรคมือ เท้า ปาก

  • ระยะเริ่ม

ตามปกติแล้วในการติดเชื้อไวรัสตั้งแต่วันแรกที่ได้รับเชื้อจนถึงวันที่มีการแสดงอาการ (ระยะฟักตัว) จะอยู่ที่ประมาณ 3-6 วัน โดยจะมีอาการมีไข้ ตัวร้อนส่งมาเป็นสัญญาณอันดับแรก และตามด้วยอาการเจ็บคอ และอาการเบื่อ หรือไม่อยากอาหาร เนื่องจากเจ้าตัวน้อยนั้นระบบ หรือเจ็บบริเวณปากและลำคอ จึงทำให้ไม่อยากทานอาหารนั่นเอง

 

  • ระยะสิ้นสุด

หลังจากการแสดงอาการในระยะแรก 1-2 วัน บริเวณปากจะพบตุ้มแดงที่ลิ้น เหงือก และด้านในของแก้ม และจะมีผื่นขึ้นตามมือ เท้า และบริเวณก้นของเด็ก ๆ บางครั้งผู้ปกครองอาจสงสัยว่าลูกของคุณเป็นอิสุกอิใส หัด หรือโรคอื่น ๆ โดยเบื้องต้นหาพบอาการควรพาไปพบแพทย์ทันที เพื่อวินิจฉัยให้แน่ชัดว่าเป็นโรคติดต่อไวรัสชนิดใด ซึ่งโรคมือเท้าปากนั้นยังไม่มีวิธีรักษา หรือวัคซีนป้องกันโดยเฉพาะ แพทย์จะรักษาไปตามอาการของเด็ก และผู้ปกครองต้องดูแลเด็ก ๆ อย่างใกล้ชิด

 

 

ภาวะแทรกซ้อน

โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่ไม่รุนแรงมากนัก สามารถรักษาหายได้เพียงในเวลามีกี่วัน แต่หากมีโรคอื่นเข้ามาแทรกซ้อน ซึ่งพบได้ยาก อาจทำให้เกิดอาการรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยอาจเกิดภาวะ ดังต่อไปนี้

  • ภาวะขาดน้ำ ส่งผลทำให้ความดันโลหิตต่ำ บางรายอาการรุนแรง จนเกิดอาการชักได้เนื่องจากการเป็นโรคมือเท้าปากนั้นทำให้เกิดตุ่มแดงบริเวณปาก ลิ้น และด้านในของแก้ม ซึ่งทำให้เด็ก ๆ ไม่ยอมทานอาหาร หรือดื่มน้ำ
  • เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากเชื้อไวรัส โดยมีการติดเชื้อ และการอักเสบเกิดขึ้นที่บริเวณของเยื่อหุ้มสมอง (meninges) และบริเวณไขสันหลัง
  • ไข้สมองอักเสบ ถือว่าเป็นอีกภาวะหนึ่งที่รุนแรงมาก อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต แต่สามารถพบได้น้อยในกรณีนี้

บทความที่น่าสนใจ: มาตรการที่ไม่ยืดหยุ่นเรื่องนมแม่ อาจทำให้เด็กๆ มีภาวะขาดน้ำได้

 

การดูแลลูกน้อยขณะเป็นโรคมือเท้าปาก

เนื่องจากไม่มีการรักษา หรือวัคซีนที่สามารถช่วยป้องกันโรคมือเท้าปากได้ การรักษาของแพทย์จึงเป็นการรักษา และจ่ายยาแบบตามอาการที่ปรากฏ โดยผู้ปกครองก็ต้องมีส่วนร่วมในการช่วยดูแลเด็ก ๆ ด้วยดังนี้

  1. ให้เด็กหยุดเรียนในทันที เนื่องจากการติดเชื้อของโรคมือเท้าปาก เป็นการติดเชื้อจากการสัมผัส หรือทางระบบทางเดินหายใจ ลูกของคุณอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เด็ก ๆ คนอื่นติดเชื้อโลกจากลูกคุณได้
  2. หากมีไข้ให้เช็ดตัว และทานยาลดไข้จนกว่าอุณหภูมิจะกลับมาเป็นปกติ
  3. ให้เด็ก ๆ ทานอาหารเหลว และรสอ่อน เนื่องจากด้านในปาก ลิ้น และแก้มของเขามีตุ่มขึ้นจำนวนมาก การทำอาหารที่ต้องเคี้ยวอาจส่งผลให้เขาไม่อยากทานอาหารเพราะว่าเจ็บระบบที่ปาก และอย่าลืมให้พวกเขาจิบน้ำบ่อย ๆ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำด้วย

 

 

การป้องกันให้ลูกน้อยห่างไกลจากโรคมือเท้าปาก

  • ล้างมืออย่างระมัดระวัง

การล้างมือในยุคนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว เพราะไม่เพียงแค่โรคมือปากเท้าเท่านั้น ยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสชนิดอื่นด้วย แต่ต้องระวังเป็นพิเศษสำหรับคุณเด็ก ๆ ที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี ที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักรักษาสุขอนามัยที่ดี เพราะอาจได้รับเชื้อจากการใช้ห้องน้ำสาธารณะในการเปลี่ยนผ้าอ้อม หรือแม้แต่ก่อนเตรียม และระหว่างรับประทานอาหาร

 

  • ฆ่าเชื้อ หรือทำความสะอาดสิ่งของ

การติดเชื้อไวรัส หรือสาเหตุของการเป็นโรคมือเท้าปาก ส่วนน้อยที่จะมีสาเหตุหลักมาจากในบ้านของเอง โดยส่วนใหญ่มักมีสาเหตุหลักมาจากการออกไปนอกบ้าน โดยผู้ปกครองควรระวังเรื่องความสะอาดของอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเด็กระหว่างและหลังออกไปด้านนอกให้สะอาด เนื่องจากไวรัสนั้นสามารถอยู่บนวัตถุได้เป็นเวลาหลายวัน ซึ่งอาจเป็นเหตุทำให้เชื้อโรคสามารถกระจายสู่เด็ก ๆ คนอื่นในบ้านได้

 

  • สอนให้เด็ก ๆ รู้จักสุขอนามัยที่ดี

ความสะอาดถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่สามารถป้องกันโรคได้ ผู้ปกครองควรสอนเด็ก ๆ ให้รู้จักสุขอนามัยที่ดี สำหรับการอยู่ร่วมกับผู้อื่น หรือการดูแลสุขอนามัยของจนเองขณะที่อยู่ร่วมกับคนอื่น (ที่ศูนย์ดูแลเด็กเล็ก หรือสนามเด็กเล่น)

 

  • ฉีดวัคซีนป้องกัน โรคมือ เท้า ปาก

ในปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคมือเท้าปากจากเชื้อไวรัสเอนเทอโรไวรัส 71 (EV71) ซึ่งมีประสิทธิภาพดี สามารถเริ่มฉีดได้ตั้งแต่เด็ก อายุ 6 เดือนถึง 5 ปี โดยฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน ในกรณีเด็กที่เคยป่วยเป็นโรคมือเท้าปากแล้ว สามารถฉีดวัคซีนได้ แต่ต้องรอให้หายจากโรคก่อนอย่างน้อย 1 เดือน

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีวัคซีนป้องกันโรคมือเท้าปากบางสายพันธุ์ แต่สำหรับสายพันธุ์อื่น ๆ เช่น คอกซากีไวรัส เอ 16 (coxsackievirus A16) ยังไม่มีวัคซีนที่ป้องกันได้ ดังนั้น การป้องกันที่ดีที่สุดคือ แยกผู้ป่วยเด็ก ออกจากเด็กคนอื่น รวมไปถึง ผู้ใหญ่ที่ดูแลเด็ก ควรหมั่นล้างมือด้วยสบู่บ่อย ๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ

บทความที่น่าสนใจ: อาการมือเท้าปาก แผลร้อนใน ในเด็กโรคยอดฮิตของเด็กทุกวัยหน้าตาเป็นยังไง?

 

ไข้หวัดใหญ่ในเด็ก น่ากลัวอย่างไร

ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ เด็ก ๆ มักมีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันยังต่ำ และมีการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ เช่น ในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือในโรงเรียน เป็นต้น โดยอาการของไข้หวัดใหญ่ในเด็ก มักมีดังนี้

  • ไข้สูง
  • น้ำมูกใส
  • คัดจมูก
  • ไอ
  • ปวดศีรษะ
  • ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • เบื่ออาหาร
  • อาจมีอาเจียน ท้องเสียร่วมด้วย

ทั้งนี้อาการของไข้หวัดใหญ่ในเด็ก มักจะปรากฏหลังจากได้รับเชื้อประมาณ 1-4 วัน และจะอยู่ประมาณ 3-7 วัน

 

การป้องกันเด็กจากไข้หวัดใหญ่

  • ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันเด็กจากไข้หวัดใหญ่ เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไปควรได้รับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี
  • สอนให้เด็กล้างมือบ่อย ๆ ด้วยน้ำและสบู่ หรือใช้เจลล้างมือ
  • สอนให้เด็กปิดปากและจมูกเมื่อไอหรือจาม
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิด กับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
  • ทำความสะอาดของเล่นและพื้นผิวต่าง ๆ ที่เด็กสัมผัสบ่อย ๆ

บทความอื่นที่น่าสนใจ: แพ็กเกจฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2567 โรงพยาบาลชั้นนำ

 

แม่ ๆ คนไหนยังมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถพบ #ทีมหมอGDTT ได้ฟรี ที่ Good Doctor Technology แอปพลิเคชัน เพียงกดรับสิทธิ์ผ่าน Reward ในแอปพลิเคชัน theAsianparent หรือสามารถกดลิงก์นี้ได้เลยครับ https://bit.ly/3SjhvJW

 

บทความนี้ได้รับการตรวจสอบโดย นพ. วรณัฐ ปกรณ์รัตน์ (แพทย์จาก Good Doctor Technology แอปพลิเคชัน) | ตุลาคม 2565

อ่านประสบการณ์จริงของคุณแม่และลูกเมื่อต้องเผชิญกับโรคมือ เท้า ปาก

โรคมือเท้าปาก โรคมือเท้าปากในเด็ก โรคหน้าฝน ที่พ่อแม่ต้องระวัง

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ไข้เลือดออก คืออะไร มีอาการอะไรบ้าง เป็นภัยร้านหน้าฝนที่ควรระวัง!!

เปิดเทอมนี้! จับตา โควิด-ไข้หวัดใหญ่ แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัยแค่บางราย

10 อาการ RSV ในทารก และเด็กเล็ก สัญญาณเตือนที่พ่อแม่ควรรู้

ที่มา : Mayoclinic, ncbi.nlm, ncbi.nlm, paolohospital, nakornthon

บทความโดย

Siriluck Chanakit