X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ทารกไม่สมดุล ระวังลูกเป็นโรค!

บทความ 5 นาที
จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ทารกไม่สมดุล ระวังลูกเป็นโรค!

จุลินทรีย์หรือจุลชีพ (Microorganism) เป็นเซลล์ที่อยู่ในร่างกายมนุษย์มากกว่า 100 ล้านล้านเซลล์ โดยอาศัยอยู่ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นตรงผิวหนัง ช่องคลอด ช่องปาก และระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะในลำไส้ จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร จึงมีความสำคัญอย่างมาก หากจุลินทรีย์ในร่างกายลูกน้อยขาดความสมดุล ก็อาจทำให้เกิดความผิดปกติของร่างกายได้ บทความนี้จะพามารู้จัก จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร และวิธีการปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ลูกน้อยค่ะ

 

จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร คืออะไร

ร่างกายของมนุษย์สร้างเซลล์ขึ้นมาหลายรูปแบบ บางส่วนเป็นเซลล์ของคนเราเอง เช่น เซลล์เม็ดเลือด เซลล์ผิวหนัง แต่ก็ยังมีแหล่งอาศัยของเซลล์สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในร่างกาย เช่น แบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส อาร์เคีย และโพรทิสต์ โดยกลุ่มของเซลล์เหล่านี้เรียกรวมกันว่า “ไมโครไบโอม” (Microbiome) ซึ่งหมายถึงจุลินทรีย์ต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหาร ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์จึงมีความสนใจในความสัมพันธ์ของจุลินทรีย์และสุขภาพของเราเป็นอย่างมาก 

โดยส่วนใหญ่แล้ว เราจะได้รับจุลินทรีย์เหล่านี้มาจากผู้อื่น ทารกจะได้รับการถ่ายทอดจุลินทรีย์ครั้งแรกจากผิว ช่องคลอด และน้ำนมของแม่ รวมถึงได้รับจากคนอื่นที่มาแตะตัวเขา เมื่อลูกเติบโตขึ้น ก็จะได้รับจุลินทรีย์จากสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นจากคนด้วยกันเอง จากพืช สัตว์ และอาหารที่รับประทาน

 

จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารทำหน้าที่อะไร

จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารมีส่วนช่วยในด้านสุขภาพ เพราะเป็นแหล่งพลังงานประมาณ 10% ที่เราใช้อยู่ ทำหน้าที่ย่อยบางสิ่งที่รับประทานเข้าไปแต่กระเพาะไม่สามารถย่อยอาหารได้ จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารยังสามารถสังเคราะห์วิตามิน เช่น วิตามินเค และไบโอติน รวมถึงสร้างฮอร์โมนที่คอยส่งสัญญาณการเก็บหรือไม่เก็บไขมัน และยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันป้องกันโรคต่าง ๆ อีกด้วย

 

จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร

 

ทุกคนมีจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารคล้ายกันไหม

ปกตินั้น จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารจะขึ้นอยู่อาหารที่รับประทาน การใช้ชีวิต และการเข้าสังคม จึงมีความแตกต่างกันในแง่ของการพบเจอผู้คนด้วย แม้จะมีแบคทีเรียมากกว่า 1,000 ชนิดที่สามารถเป็นกลุ่มของจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร แต่กลับมีเพียง 150-170 ชนิดเท่านั้นที่อยู่ในระบบทางเดินอาหารของเรา ดังนั้น การที่จะมีจุลินทรีย์ที่คล้ายกันขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหาร การใช้ยาปฏิชีวนะ และการเข้าสังคม ที่เป็นตัวกำหนดให้จุลินทรีย์มีการเปลี่ยนแปลง

 

จุลินทรีย์ไม่สมดุลส่งผลกระทบต่อทารกได้

นักวิจัยได้เผยว่าจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารอาจส่งผลต่อปัญหาสุขภาพทารกได้ เช่น น้ำหนักเกิน โรคอ้วน โรคหอบหืด โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคผิวหนัง โรคตับ โรคหัวใจ และมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง อีกทั้งยังมีข้อบ่งชี้ว่าจุลินทรีย์ยังอาจส่งผลต่อการนอนหลับ อารมณ์ ความวิตกกังวล และพฤติกรรมของลูกน้อยอีกด้วย นอกจากนี้ จุลินทรีย์ยังสามารถส่งผลต่อการตอบสนองของยา หากลูกมีจุลินทรีย์ไม่สมดุล ก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในตอนโตได้

 

สัญญาณเตือนเมื่อจุลินทรีย์ไม่สมดุล

อาการผิดปกติในทารก เช่น อาหารไม่ย่อย อารมณ์แปรปรวน หรือเป็นโรคผิวหนัง อาจบ่งบอกถึงความไม่สมดุลของจุลินทรีย์ในระบบทางเดิน แต่ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้เหมือนกัน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงต้องสังเกตสัญญาณเตือนอื่น ๆ ร่วมด้วย

  • มีกลิ่นปาก
  • น้ำหนักเกิน
  • นอนไม่หลับ
  • เป็นโรคหอบหืด
  • มีเมือกในอุจจาระ
  • เหนื่อยล้า ไม่ร่าเริง
  • มีระบบเผาผลาญที่ไม่ดี
  • มีภาวะแพ้คาร์โบไฮเดรต
  • เป็นผื่นภูมิแพ้ เป็น ๆ หาย ๆ
  • ท้องอืด ท้องเฟ้อ ท้องผูก ท้องเสีย อาเจียน คลื่นไส้

 

จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร

 

วิธีปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ทารก

การปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ทารก คุณพ่อคุณแม่สามารถปรับเปลี่ยนอาหารและพฤติกรรมของลูกน้อยได้ ซึ่งวิธีเพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย มีดังนี้

 

1. เลือกโภชนาการย่อยง่ายให้ลูกน้อย

อย่างที่รู้กันว่านมแม่เป็นสารอาหารสำคัญที่สุดของทารก การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่จะเป็นประโยชน์ต่อจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ช่วยให้สุขภาพลำไส้ของลูกน้อยดีขึ้น และยังมีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของทารก เนื่องจากนมแม่ดีที่สุด เพราะเป็นนมย่อยง่าย เหมาะสมกับระบบลำไส้ของลูก รวมถึงนมแม่ยังมี MFGM และ DHA ที่ช่วยเพิ่มการเชื่อมต่อเซลล์ประสาท ทำให้พัฒนาการสมองของลูกดียิ่งขึ้น

ส่วนในกรณีที่คุณแม่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำในการเลือกโภชนาการที่เหมาะสมกับความต้องการของลูก โดยแพทย์อาจจะแนะนำโปรตีนที่ผ่านการย่อยบางส่วนหรือ PHP (Partially Hydrolyzed Protein) ซึ่งเป็นโปรตีนที่มีขนาดโมเลกุลเล็กที่ย่อยง่าย

 

2. กินอาหารที่มีไฟเบอร์ขณะตั้งครรภ์และให้นมลูก

อาหารที่มีไฟเบอร์จะช่วยปรับสมดุลจุลินทรีย์ในลำไส้ได้ดีและช่วยลดความเสี่ยงของโรคแพ้ภูมิตัวเองด้วย คุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมลูกจึงควรเลือกรับประทานอาหารที่มีใยอาหารสูง เพราะสารอาหารนี้จะถ่ายทอดไปยังทารกในครรภ์โดยตรง และยังผ่านในน้ำนมแม่ที่ต้องให้ลูกกินอีกเช่นกัน

 

3. ให้ลูกนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ

งานวิจัยได้เผยว่าการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายพักผ่อนและช่วยลดความเครียดได้ อีกทั้งยังช่วยให้ลำไส้สุขภาพดี คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้ลูกนอนหลับอย่างเพียงพอ ทั้งในช่วงกลางวันและกลางคืน โดยทารกแรกเกิดนั้นควรนอนประมาณ 14-18 ชั่วโมงต่อวันจึงจะเพียงพอ

 

จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร

 

4. เลี้ยงสุนัขในบ้าน

คุณพ่อคุณแม่อาจกังวลว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างสุนัขกับทารก อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงสุนัขจะช่วยลดความเสี่ยงโรคผิวหนัง โรคเบาหวาน และโรคหอบหืด ซึ่งมีผลโดยตรงต่อจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารของลูกน้อย

 

5. หลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะกับลูกน้อย

แม้ว่ายาปฏิชีวนะจะช่วยรักษาอาการเจ็บป่วยของทารก แต่การให้ยาลูกมากเกินไป ก็อาจส่งผลให้เกิดการดื้อยาได้ อีกทั้งยังส่งผลต่อจุลินทรีย์ในลำไส้โดยตรง สามารถทำลายจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารและทำให้เกิดความเสี่ยงในติดเชื้อจากแบคทีเรีย แต่หากคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องใช้ยาปฏิชีวนะจริง ๆ ก็ควรปรึกษากับแพทย์ก่อนเพื่อดูว่าปลอดภัยหรือไม่

 

การรักษา จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ของทารกมีความสำคัญอย่างมาก คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกมีสุขภาพที่ดีด้วยการกินอาหารที่มีประโยชน์ ให้ลูกนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ และควรลดการใช้ยาปฏิชีวนะ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหารของลูกสมดุลมากยิ่งขึ้น

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ภาวะแหวะนมในทารก อันตรายไหม อาการพบได้บ่อยที่พ่อแม่ต้องรู้

สารอาหารในน้ำนมแม่ สุดยอดประโยชน์จากธรรมชาติสำหรับลูกน้อย

นมผงแต่ละสูตรต่างกันอย่างไร ก่อนเปลี่ยนนมให้ลูกแม่ต้องรู้อะไรบ้าง

ที่มา :samitivejhospitals ,bioentist , 3

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Sittikorn Klanarong

  • หน้าแรก
  • /
  • ทารก
  • /
  • จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ทารกไม่สมดุล ระวังลูกเป็นโรค!
แชร์ :
  • ลูกไข้ขึ้นตอนกลางคืน กลางวันไข้ไม่มี ทำไมกลางคืนกลับตัวร้อนจี๋อีกแล้ว?

    ลูกไข้ขึ้นตอนกลางคืน กลางวันไข้ไม่มี ทำไมกลางคืนกลับตัวร้อนจี๋อีกแล้ว?

  • แม่รู้ไหม ลูกไอเวลานอน มีโรคอะไรแฝงอยู่?

    แม่รู้ไหม ลูกไอเวลานอน มีโรคอะไรแฝงอยู่?

  • แผลปลูกฝีเป็นหนอง ต้องดูแลยังไง? ลูกมีไข้ งอแงหลังปลูกฝี ปกติไหม?

    แผลปลูกฝีเป็นหนอง ต้องดูแลยังไง? ลูกมีไข้ งอแงหลังปลูกฝี ปกติไหม?

  • ลูกไข้ขึ้นตอนกลางคืน กลางวันไข้ไม่มี ทำไมกลางคืนกลับตัวร้อนจี๋อีกแล้ว?

    ลูกไข้ขึ้นตอนกลางคืน กลางวันไข้ไม่มี ทำไมกลางคืนกลับตัวร้อนจี๋อีกแล้ว?

  • แม่รู้ไหม ลูกไอเวลานอน มีโรคอะไรแฝงอยู่?

    แม่รู้ไหม ลูกไอเวลานอน มีโรคอะไรแฝงอยู่?

  • แผลปลูกฝีเป็นหนอง ต้องดูแลยังไง? ลูกมีไข้ งอแงหลังปลูกฝี ปกติไหม?

    แผลปลูกฝีเป็นหนอง ต้องดูแลยังไง? ลูกมีไข้ งอแงหลังปลูกฝี ปกติไหม?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว