สอนลูกปั่นจักรยาน ปั่นอย่างไรให้ปลอดภัย? 30 นาทีก็ปั่นได้ สบายมาก

การใช้เวลาอยู่ร่วมกันของครอบครัวนั้นเป็นสิ่งที่จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวได้ ดังนั้นหากคุณกำลังมองหากิจกรรมทำร่วมกับลูกอยู่มาลองดูการปั่นจักรยานดูไหมคะ การสอนให้ลูกปั่นจักรยานนอกจากช่วยสร้างสัมพันธ์ในครอบครัวได้แล้วยังช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายเด็ก ๆ ได้ด้วย เรามาดูกันดีกว่า สอนลูกปั่นจักรยาน ปั่นอย่างไรให้ปลอดภัย? สอนลูกปั่นจักรยาน ภายใน 30 นาที

การปั่นจักรยานเสริมสร้างทักษะอะไรให้ลูกน้อยบ้าง?

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังคิดว่าการปั่นจักรยานนั้นดูไม่ปลอดภัย และคงไม่ได้ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการอื่น ๆ ของลูกน้อยของคุณมากเท่ากับกีฬาประเภทอื่น คุณกำลังคิดผิด เพราะในความจริงแล้ว การปั่นจักรยานนั้นช่วยเพิ่มทักษะทั้งทางร่างกาย และการสั่งการของสมองได้มากมาย โดยทักษะที่ลูกน้อยของคุณจะได้รับจากการปั่นจักรยานมีดังต่อไปนี้

• การทรงตัว
• การบังคับเลี้ยว
• การถีบ หรือการคำนวณพลังในการเคลื่อนตัว
• การประสานระบบการทำงานของมือ ขา และตา
• การตอบสนองต่อสิ่งรอบข้าง
• การคำนวณการหยุด หรือระยะทางต่อพละกำลัง

นอกจากเรื่องของทักษะทางร่างกายแล้วยังส่งผลต่อทางจิตใจของเด็ก ๆ ด้วย เพราะว่าพวกเขาจะต้องใช้ระยะเวลาในการฝึกฝน และทำให้ได้ เด็กบางคนอาจใช้เวลาฝึกแค่เพียงไม่กี่นาที แต่บางคนอาจใช้เวลาหลายวัน หรือเป็นสัปดาห์ ซึ่งจะฝึกให้พวกเขามีความพยายาม ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค และทำให้ประสบความสำเร็จในที่สุด นอกจากนี้ยังช่วยเสริมความมั่นใจให้กับพวกเขาในการตัดสินใจ และการทรงตัวให้มั่นบนพาหนะที่พวกเขากำลังควบคุมอยู่ด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 หมวกกันน็อคเด็ก ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 สวมใส่สบายและปลอดภัย

เด็กสามารถขี่จักรยานได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่?

เด็กแต่ละคนมีความสามารถและทักษะในการพัฒนาทักษะและพัฒนาการทางร่างกายที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่คุณจะตัดสินใจว่าลูกของคุณถึงเวลาที่จะขี่จักรยานได้แล้ว แต่ทั้งนี้ในความเป็นจริงพวกเขาสามารถเริ่มขี่ได้เมื่อพวกเขาเข้าสู่วัยหัดเดิน แต่จะต้องมีรูปแบบของจักรยานที่แตกต่างกันออกไป โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

• เด็กอายุ 18-24 เดือน

ลูกน้อยขอบคุณในวัยนี้บางคนอาจพร้อมสำหรับจักรยานแล้ว แต่อย่าลืมรอให้ลูกของคุณเดินอย่างมั่นคงด้วยทั้งสองของเขาก่อนที่จะเริ่มฝึกหัดจักรยาน ทั้งนี้ช่วงของวัยนี้จักรยานของลูกคุณจำเป็นจะต้องมีล้อพยุงช่วยเพิ่มอีก 2 ล้อ เพื่อพยุงให้พวกเขาสามารถเคลื่อนที่ไปด้านหน้าได้ โดยไม่ล้ม และได้เรียนรู้เกี่ยวกับการบังคับเลี้ยวต่าง ๆ พร้อมกับแรงถีบส่งเพื่อให้จักรยานไปด้านหน้า เพื่อรอการถอดล้อเสริมเมื่อถึงเวลา

• เด็กอายุ 2-3 ปี

หมดเวลาแล้วสำหรับล้อช่วยพยุง โดยส่วนใหญ่แล้วเด็กในวัยนี้พวกเขาจะเริ่มทรงตัวได้ด้วยตัวเองมากยิ่งขึ้น จึงทำให้คุณสามารถถอดล้อช่วงพยุงออก ให้พวกเขาทรงตัวอยู่บนจักรยานได้ด้วยตนเอง เมื่อพวกเขาฝึกจนชำนาญแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องซื้อจักรยานแบบจริงจังให้พวกเขาแล้ว

สอนลูกปั่นจักรยาน 30 นาที ปั่นได้ชัวร์!

การสอนให้ลูกปั่นจักรยานไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด คุณที่มีประสบการณ์มาแล้ว ทั้งล้ม ทั้งชน และอื่น ๆ อีกมากมายเมื่อคุณได้ขึ้นคร่อมจักรยานแล้ว ดังนั้นคงไม่ใช่เรื่องยากที่คุณจะสอนพวกเขาให้ปั่นได้ภายใน 30 นาที แต่ถ้าหากคุณไม่มั่นใจลองมาเริ่มไปพร้อมกันว่าจะต้องทำอย่างไร และมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง ดังนี้

• สถานที่ปั่นต้องปลอดภัย

การเริ่มขี่จักรยานครั้งแรกของลูกน้อยของคุณโดยไม่มีล้อพยุง คุณควรหาพื้นที่ลาดยางที่ปราศจากการจราจรที่มีขนาดใหญ่ หรือมีความกว้าง พื้นเรียบ อาทิ สนามกีฬา ลานกิจกรรม สนามบาสเกตบอลที่ว่างเปล่า และสนามของโรงเรียน เป็นต้น และจะต้องหลีกเลี่ยงเส้นทางที่แคบ ๆ และทางรถวิ่ง เพราะพวกเขาอาจได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือสิ่งกีดขวางได้ ทั้งนี้คุณสามารถพาพวกเขาไปปั่นจักรยานในพื้นที่ที่เป็นหญ้าได้ แต่ไม่ใช่สำหรับครั้งแรก เพราะว่าการปั่นจักรยานบนหญ้าจะทำให้พวกเขาต้องใช้ความเร็วเพิ่มขึ้น และต้องใช้การบังคับที่ได้รับการฝึกฝนมาแล้วบ้างจึงจะสามารถขี่ได้อย่างปลอดภัย

• เตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ

ก่อนที่จะเริ่มการปั่นคุณต้องเช็กให้แน่ใจว่าพวกเขาพร้อมแล้วหรือยัง ไม่ใช่แค่ความมั่นใจที่พวกเขาจะต้องมีหลังจากที่ถอดล้อช่วยพยุงออก แต่รวมถึงการแต่งกายของลูกคุณด้วย แน่นอนว่าการฝึกครั้งนี้อาจเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่คุณก็อย่าลืมว่าความปลอดภัยต้องมาก่อน คุณควรให้พวกเขาใส่หมวกกันน็อก สนับเข่า สนับศอก เพื่อป้องกันอันตรายหากพวกเขาไม่สามารถควบคุมจักรยานได้

• เช็กความพร้อมของจักรยาน

หากเราจะต้องเดินทางไกล เรายังมีความจำเป็นที่จะต้องเช็กสภาพรถให้แน่ใจก่อนว่าพร้อมสำหรับการเดินทางแล้ว จักรยานก็เช่นกัน ยิ่งเป็นครั้งแรกของลูกน้อยของคุณยิ่งจะต้องเช็กให้แน่ใจว่ามันอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ซึ่งสิ่งที่จะต้องเช็กหลัก ๆ มีดังต่อไปนี้

• • ลมยางจะต้องไม่นิ่มหรือแข็งเกินไป
  • เบรกทำงานได้เป็นอย่างดี และสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • โซ่สายพานจะต้องไม่หย่อนคล้อย หรือตึงเกินไป
  • ที่จับจะต้องมั่นคง ไม่มีรอยผุพัง และขันน็อตยึดติดอย่างแน่นหนา
  • เบาะนั่งจะต้องอยู่ในระดับพอดี ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป

นอกจากจะเช็กความพร้อมของจักรยานแล้ว การเลือกจักรยานของลูกคุณก็สำคัญ เพราะจะต้องไม่ใหญ่ หรือเล็กจนเกินไป ความสูงของจักรยานจะต้องพอดีกับความสูงของพวกเขา เพราะจะทำให้การเริ่มต้น หรือการหยุดปั่นเกิดอุบัติเหตุได้

• ฝึกทรงตัว

หลังจากที่เตรียมสถานที่ เตรียมตัว และเตรียมใจแล้ว การฝึกที่แท้จริงได้เริ่มต้นขึ้น อันดับแรกคุณจะต้องช่วยประคองพวกเขาก่อน อาจเป็นการจับด้านหลังของพวกเขาไว้ ให้เขาวางเท้าบนเท้าเหยียบเตรียมพร้อมที่จะถีบ และให้พวกเขาเริ่มออกแรงก่อนที่จะปล่อยให้เขาปั่นด้วยตนเอง ในขั้นตอนนี้อาจจะมีล้มบ้างเนื่องจากพวกยังทรงตัวไม่ได้ ดังนั้นควรฝึกทางตรงก่อน ยังไม่ต้องเลี้ยวในขั้นตอนนี้

บทความที่น่าสนใจ : แผลฟกช้ำ ตามร่างกายเด็ก ทำยังไงให้หาย ต้องไปหาหมอหรือเปล่า

• การฝึกกำเบรก

เด็กหลายคนนั้นชอบที่จะใช้เท้าราพื้นเพื่อเป็นการหยุด หรือเพิ่มแรงเสียดสีทำให้จักรยานนั้นชะลอความเร็ว ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผิด และไม่ควรทำ ถึงแม้ว่าจะเป็นการทำโดยธรรมชาติของเด็กก็ตาม คุณจะต้องบอกถึงผลที่จะตามมาหากเกิดข้อผิดพลาด เพราะอาจทำให้พวกเขาเสียหลักล้ม หรือได้รับบาดเจ็บที่เท้าจากแรงเสียดสีได้ ดังนั้นจึงต้องฝึกให้เขาใช้เบรกให้ชิน โดยการกำเบรกมีข้อปฏิบัติดังต่อไปนี้

• • จะต้องไม่กำเบรกหน้าและหลังพร้อมกันขณะที่เท้ายังปั่นอยู่
  • การกำเบรกจะต้องค่อย ๆ กำและปล่อย อย่ากำจนสุด
  • ลดความเร็วในการปั่น หรือไม่ปั่นขณะที่ต้องการจะเบรก
  • หากเบรกมีปัญหาให้หยุดปั่น และปล่อยรถไหลไปเรื่อย ๆ โดยจะต้องเลี้ยวหลบหลีกสิ่งกีดขวางด้วย

• ฝึกเลี้ยว

เมื่อพวกเขาเริ่มทรงตัวได้แล้วการเลี้ยวนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่พวกเขาจะต้องประเมินความกว้าง และการตีวงในการเลี้ยวให้ถูกต้อง โดยคุณอาจเริ่มจากการให้พวกเขาฝึกบิดมือจับไปมาเป็นทางซิกแซ็กก่อนเริ่มเลี้ยวจริง เพราะในบางสถานการณ์พวกเขาอาจจะต้องประสบกับการเลี้ยงในทางกว้างและทางแคบแตกต่างกันออกไป

• อย่าลืมว่าการปั่นจักรยานนั้นมีความสุข

สิ่งที่คุณหรือลูกน้อยของคุณอาจลืมไปเมื่อเข้าโหมดของความจริงจัง ผู้ปกครองที่รู้สึกหงุดหงิดที่พวกเขาทำไม่ได้ตามที่ต้องการ หรือแม้แต่ลูกน้อยของคุณที่หกล้มครั้งแล้วครั้งเล่า รวมกับความกดดันของผู้ปกครองจนเขาเองก็ไม่อยากปั่นอีกต่อไปนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้พวกคุณไม่มีความสุข เมื่อบรรยากาศเข้าสู่ความเครียดคุณเองก็ไม่ควรเอาอารมณ์เป็นที่ตั้ง และพยายามให้กำลังใจพวกเขาอยู่เสมอ เพราะว่าสุดท้ายแล้วนี่คือกิจกรรมที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณและลูก มันจะต้องมีความสนุกมากกว่าทุกข์

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ มีลูกบ้านไหนที่ยังไม่เริ่มปั่นจักรยานบ้าง หรือมีผู้ปกครองบ้านไหนก็ยังขี่ไม่เป็นบ้าง มาลองเอาวิธีของเราไปทำดูนะคะ จริง ๆ แล้วการเริ่มต้นปั่นจักรยานไม่ได้ยากอย่างที่คิด ขอแค่มีใจและความมุ่งมั่นก็สามารถทำได้แล้ว แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกน้อยของคุณด้วยนะคะ

บทความที่น่าสนใจ : 

5 ข้อดีการเล่น จักรยานทรงตัว balance bike เสริมพัฒนาการลูกวัยเด็ก

เรียนเต้นที่ไหนดี รวมโรงเรียนสอนเต้นในกทม ผู้ใหญ่เรียนได้เด็กเรียนดี 

5 วิธีป้องกันลูกที่ชอบเล่นกีฬา ไม่ให้บาดเจ็บ วิธีรักษาดูอาการลูก

ที่มา : raleigh, rei, bicycling , clearybikes, mamastory