10 เมนู อาหารต้านฝุ่น ช่วยเสริมภูมิร่างกายให้แข็งแรงทั้งครอบครัว

lead image

รับมือฝุ่น PM2.5 ด้วยภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ 10 เมนู อาหารต้านฝุ่น นอกจากจะอร่อยแล้วยังสู้ฝุ่นได้อีกด้วย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การดูแลลูกน้อยให้แข็งแรงจากผลกระทบของฝุ่น PM2.5 เริ่มต้นที่การเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ควรให้ลูกทานอาหารที่หลากหลายและครบ 5 หมู่ โดยเน้นอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผักผลไม้หลากสี ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายจากมลพิษ theAsianparent จึงขอแนะนำ 10 เมนูอาหารต้านฝุ่น เมนูอร่อยและมีประโยชน์มากๆ สำหรับทุกคน ในช่วงที่เต็มไปด้วยมลพิษทางอากาศเช่นนี้ค่ะ

 

อาหารที่มีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ

วิตามิน

ประโยชน์

ตัวอย่างอาหาร

วิตามินเอ และเบต้า-แคโรทีน

-ช่วยเสริมสร้างระบบทางเดินหายใจและระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย

-ช่วยให้การทำงานของปอดมีประสิทธิภาพดีขึ้น

-แหล่งอาหารจากสัตว์ เช่น น้ำมันตับปลา ตับสัตว์ เนื้อสัตว์ ไข่ นม และผลิตภัณฑ์จากนม
-แหล่งอาหารจากพืช ผักใบเขียวเข้ม ผักและผลไม้สีเหลืองหรือส้ม เช่น ตำลึง ผักบุ้ง แครอท ฟักทอง มันเทศเหลือง มะม่วง มะละกอสุก เป็นต้น

วิตามินบี 2

ช่วยขจัดอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันเซลล์ถูกทำลาย เนื้อสัตว์ ไข่ นม

วิตามินซี

-ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระทั้งภายในและภายนอกเซลล์ ซึ่งมีบทบาทในการป้องกันไม่ให้เซลล์ถูกทำลาย และลดการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น

-ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อและเซลล์จากการเสื่อมสภาพ รวมถึงลดภาวะการอักเสบที่อาจเกิดจากมลพิษฝุ่นได้

พบมากผลไม้และผักใบเขียวต่าง ๆ เช่น ฝรั่ง มะขามป้อม มะขามเทศ เงาะ มะละกอ ส้มโอ พริกหวาน คะน้า บรอกโคลี

ดังนั้น ช่วงนี้ต้องเน้นรับประทานพืชผักผลไม้ให้เพียงพอวันละ 400 กรัม หรือประมาณ 5-7 กำมือ

วิตามินอี

-กำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นจากปฏิกิริยาต่าง ๆในร่างกาย

-ต้านการอักเสบ และช่วยสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค

น้ำมันพืชต่าง ๆ เช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันรำข้าว น้ำมันถั่วเหลือง ถั่วเมล็ดแห้ง อโวคาโด ฯลฯ

โอเมก้า-3

จากการศึกษาวิจัยทางคลินิกในกลุ่มผู้ใหญ่และผู้สูงอายุที่อาศัยในพื้นที่มีฝุ่น PM2.5 สูง พบว่า การรับประทานน้ำมันปลา 2 กรัมต่อวันสามารถช่วยลดผลกระทบต่อสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 ได้ พบมากในปลาต่าง ๆ เช่น ปลาทะเล หรือปลาน้ำจืด เช่น ปลาทู ปลาดุก ปลาช่อน ฯลฯ อาหารทะเล ถั่ว นม

ซัลโฟราเฟน (Sulforaphane)

กำจัดสารพิษและต้านมะเร็งได้ มีรายงานการศึกษาวิจัยทางคลินิกทั้งในกลุ่มวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ พบว่าการได้รับสารซัลโฟราเฟนจากบรอกโคลี อาจช่วยลดผลเสียต่อสุขภาพจากฝุ่น PM2.5 ได้ พบมากในบรอกโคลี และผักตระกูลกะหล่ำต่าง ๆ เช่น กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก คะน้า กวางตุ้ง ผักกาดขาว
Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ตัวอย่าง อาหารต้านฝุ่น

ช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 รุนแรง อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ นอกจากใส่หน้ากากอนามัยแล้ว การเลือกรับประทานอาหารก็ช่วยได้มาก

  • แนะนำให้ทานผักใบเขียวเยอะๆ เช่น ตำลึง ผักบุ้ง คะน้า บรอกโคลี ผักกาดขาว จะทำเป็นแกงจืด ผัดไฟแดง หรือลวกจิ้มน้ำพริกก็อร่อย
  • ผักผลไม้สีเหลือง ส้ม ก็ขาดไม่ได้ เช่น ฟักทอง แครอท มะละกอ มะม่วง ฝรั่ง มันเทศ อุดมไปด้วยวิตามิน ช่วยบำรุงร่างกาย
  • ดื่มชาเขียว ทานมะเขือเทศ และขิงเป็นประจำ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ขับสารพิษ ให้ร่างกายแข็งแรง สู้ฝุ่นร้าย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

10 เมนู อาหารต้านฝุ่น ช่วยเสริมภูมิร่างกายให้แข็งแรงทั้งครอบครัว

  1. เมนูต้านฝุ่น แกงจืดตำลึงหมูสับ

แกงจืดตำลึงหมูสับเป็นเมนูที่ทำง่าย อร่อย และมีประโยชน์ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย มาดูวิธีทำกันเลยค่ะ

วัตถุดิบ

  • หมูสับ 150 กรัม
  • ตำลึง 1 กำ
  • รากผักชี 2 ราก
  • กระเทียม 3 กลีบ
  • พริกไทยเม็ด 1/2 ช้อนชา
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 3 ถ้วย

วิธีทำ

  1. โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทย ให้ละเอียดเข้ากัน พักไว้
  2. ตั้งน้ำเปล่า ในหม้อด้วยไฟปานกลางจนเดือด
  3. ใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทย ที่โขลกไว้ลงไปต้มให้หอม
  4. ใส่หมูสับ ลงไป รอจนหมูสุกและลอยขึ้นมา
  5. ปรุงรส ด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย ชิมรสตามชอบ
  6. ใส่ตำลึง ลงไป ต้มจนสุก
  7. ปิดไฟ ตักใส่ชาม พร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดลับความอร่อย

  • เลือกตำลึงยอดอ่อน จะได้แกงจืดที่อร่อยและไม่เหนียว
  • ไม่ควรต้มตำลึงนานเกินไป เพราะจะทำให้สีของแกงจืดไม่สวย และตำลึงจะเละ
  • สามารถเพิ่มวัตถุดิบอื่นๆ ได้ตามชอบ เช่น เห็ดฟาง เต้าหู้ไข่ หรือวุ้นเส้น

 

  1. เมนูผัดผักบุ้งไฟแดง

ผัดผักบุ้งไฟแดง เป็นเมนูที่ทำง่าย ใช้เวลาไม่นาน แต่ความอร่อยระดับภัตตาคาร ใครๆ ก็ทำได้ มาดูวิธีทำกันเลยค่ะ

วัตถุดิบ

  • ผักบุ้งจีน 1 กำ
  • กระเทียมไทยกลีบใหญ่ 5 กลีบ
  • น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
  • เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  • น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. เด็ดผักบุ้งเป็นท่อนๆ ล้างให้สะอาด สะเด็ดน้ำพักไว้
  2. โขลกกระเทียมให้ละเอียด พักไว้
  3. ผัดผักบุ้ง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟแรง พอน้ำมันร้อนจัด ใส่พริกกระเทียมที่โขลกไว้ลงไป ผัดให้หอม
  4. ปรุงรส ใส่เต้าเจี้ยว ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน
  5. ใส่ผักบุ้งลงไป ผัดอย่างรวดเร็ว
  6. เติมน้ำเปล่า ผัดต่อเล็กน้อยจนผักบุ้งสลด ปิดไฟ
  7. ตักผัดผักบุ้งใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดลับความอร่อย

  • ใช้ไฟแรงในการผัด จะทำให้ผักบุ้งกรอบอร่อย ไม่เหนียว และสีสวย
  • ผัดอย่างรวดเร็ว อย่าผัดนานเกินไป ผักบุ้งจะเหี่ยว ไม่กรอบ
  • ใส่น้ำเปล่าเล็กน้อย จะช่วยให้ผักบุ้งสุกทั่วถึง และมีน้ำขลุกขลิกน่ารับประทาน
  • เลือกใช้ผักบุ้งจีน จะได้ผัดผักบุ้งที่กรอบอร่อย
  • สามารถเพิ่มเนื้อสัตว์ได้ตามชอบ เช่น หมู กุ้ง หรือปลาหมึก

 

  1. อาหารต้านฝุ่น ฟักทองผัดไข่

ฟักทองผัดไข่ เป็นเมนูที่ทำง่าย อร่อย ได้ประโยชน์ เหมาะกับทุกเพศทุกวัย แถมยังเป็นเมนูที่ช่วยให้ลูกน้อยทานผักได้ง่ายขึ้นด้วย มาดูวิธีทำกันเลยค่ะ

วัตถุดิบ

  • ฟักทองแก่จัด 500 กรัม
  • ไข่ไก่ 3 ฟอง
  • กระเทียมไทยกลีบเล็ก 5 กลีบ
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น (สำหรับโรยหน้า)
  • ต้นหอมซอย (สำหรับโรยหน้า)

วิธีทำ

  1. ปอกเปลือกฟักทอง หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ล้างให้สะอาด
  2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อน ใส่กระเทียมสับลงไป เจียวจนเหลืองหอม
  3. ใส่ฟักทองลงไปผัด เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ปิดฝา ผัดจนฟักทองสุกนิ่ม (ใช้เวลาประมาณ 5-7 นาที)
  4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
  5. ตอกไข่ใส่ลงไป รอจนไข่เริ่มสุก ใช้ตะหลิวคนเบาๆ ให้ไข่กระจายทั่วๆ
  6. ผัดต่อจนไข่สุก
  7. ตักฟักทองผัดไข่ใส่จาน โรยหน้าด้วยพริกไทยป่น และต้นหอมซอย พร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดลับความอร่อย

  • เลือกฟักทองแก่จัด เนื้อจะแน่น หวานอร่อย
  • ไม่ควรใส่น้ำเยอะเกินไป เพราะจะทำให้ฟักทองเละ
  • ผัดไข่ให้พอสุก จะทำให้ฟักทองผัดไข่ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น
  • สามารถใส่เนื้อสัตว์อื่นๆ เพิ่มเติมได้ เช่น หมูสับ กุ้ง

 

  1. เมนูอาหารต้านฝุ่น บรอกโคลีผัดน้ำมันหอย

บรอกโคลีผัดน้ำมันหอย เป็นเมนูผักยอดนิยม ทำง่าย อร่อย ได้ประโยชน์ มาดูวิธีทำกันเลยค่ะ

วัตถุดิบ

  • บรอกโคลี 1 ต้น
  • กระเทียมไทยกลีบเล็ก 5 กลีบ
  • น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วย

วิธีทำ

  1. ตัดบรอกโคลีเป็นช่อ ล้างให้สะอาด
  2. ต้มน้ำให้เดือด ใส่บรอกโคลีลงไปลวก ประมาณ 1-2 นาที ตักขึ้น แช่น้ำเย็นทันที เพื่อคงความกรอบและสีเขียวสวย พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืช ใช้ไฟกลาง พอน้ำมันร้อน ใส่กระเทียมสับลงไป เจียวจนเหลืองหอม
  4. ปรุงรส ใส่น้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว และน้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน
  5. ใส่บรอกโคลีที่ลวกไว้ลงไป ผัดให้เข้ากัน เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ผัดต่ออีกประมาณ 1-2 นาที
  6. ตักบรอกโคลีผัดน้ำมันหอยใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดลับความอร่อย

  • เลือกบรอกโคลีที่สด ดอกตูม สีเขียวเข้ม
  • ไม่ควรลวกบรอกโคลีนานเกินไป เพราะจะทำให้บรอกโคลีเละ และสีไม่สวย
  • การแช่น้ำเย็นหลังลวก จะช่วยให้บรอกโคลีกรอบ และสีเขียวสด
  • สามารถเพิ่มเนื้อสัตว์ได้ตามชอบ เช่น หมู กุ้ง หรือปลาหมึก

 

  1. เมนูแกงจืดกะหล่ำปลียัดไส้

เมนูนี้ช่วยให้ลูกน้อยทานผักได้ง่าย แถมยังได้โปรตีนจากหมูสับ และซดน้ำแกงจืดอุ่นๆ คล่องคอ

วัตถุดิบ

  • กะหล่ำปลี 1 หัว (เลือกหัวขนาดกลาง)
  • หมูสับ 250 กรัม
  • แครอทหั่นเต๋า 1/4 ถ้วย
  • รากผักชี 2 ราก
  • กระเทียม 3 กลีบ
  • พริกไทยเม็ด 1/2 ช้อนชา
  • ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำซุป 3 ถ้วย
  • ต้นหอม ผักชี ซอย สำหรับโรยหน้า

วิธีทำ

  1. ล้างกะหล่ำปลีให้สะอาด ใช้มีดคว้านเนื้อกะหล่ำปลีตรงกลางออกให้เป็นวงกลม โดยเจาะลึกลงไปแต่เว้นผิวนอกไว้เล็กน้อยเพื่อให้สามารถยัดไส้ได้
  2. เตรียมไส้ โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย ให้ละเอียด นำหมูสับมาผสมกับแครอท เครื่องที่โขลกไว้ ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทราย คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน
  3. นำไส้หมูที่ผสมไว้ยัดลงในกะหล่ำปลีที่คว้านไว้
  4. ต้มน้ำซุปให้เดือด ใส่กะหล่ำปลียัดไส้ลงในหม้อ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ชิมรสตามชอบ
  5. ต้มต่อด้วยไฟอ่อนประมาณ 20-30 นาที จนกะหล่ำปลีสุกนิ่ม
  6. ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดลับความอร่อย

  • ควรเลือกกะหล่ำปลีหัวขนาดกลาง
  • เวลาคว้านกะหล่ำปลี ควรระวังอย่าให้ทะลุ
  • การต้มด้วยไฟอ่อนจะช่วยให้กะหล่ำปลีสุกทั่วถึงและนุ่มอร่อย

 

  1. อาหารต้านฝุ่น ซุปครีมกะหล่ำดอก

เมนูนี้มีเนื้อสัมผัสนุ่มละมุน รสชาติกลมกล่อม ทั้งอร่อย ทำง่าย และมีประโยชน์สำหรับลูกน้อย

วัตถุดิบ

  • กะหล่ำดอก 1/2 หัว
  • น้ำซุปไก่ 1 ถ้วย
  • เนยจืด 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมหัวใหญ่ 1/4 หัว
  • นมสด 1/2 ถ้วย

วิธีทำ

  1. ล้างกะหล่ำดอก หอมหัวใหญ่ ให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  2. ตั้งหม้อ ใส่เนย พอร้อน ใส่หอมหัวใหญ่ลงไปผัดจนสุกใส
  3. ต้มซุป ใส่น้ำซุปไก่ ใส่กะหล่ำดอก ต้มจนกะหล่ำดอกนิ่ม
  4. นำส่วนผสมทั้งหมดไปปั่น จนละเอียดเนียน
  5. เทส่วนผสมที่ปั่นแล้วกลับลงหม้อ เติมนมสด คนให้เข้ากัน เคี่ยวต่อด้วยไฟอ่อนๆ จนซุปข้นขึ้น

 

  1. เมนูข้าวตุ๋นแครอทหมูสับ

เมนูนี้ได้สารอาหารครบถ้วน ทั้งคาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน และมีรสหวานตามธรรมชาติที่เด็กๆ ชอบ

วัตถุดิบ

  • ข้าวหอมมะลิ 1/2 ถ้วย
  • แครอท 1/2 หัว
  • หมูสับ 50 กรัม
  • น้ำซุป 1 ถ้วย

วิธีทำ

  1. ล้างแครอท ให้สะอาด สับแครอทเป็นชิ้นเล็กๆ
  2. ตั้งหม้อ ใส่น้ำมันเล็กน้อย พอร้อน ใส่หมูสับลงไปผัดจนสุก
  3. ใส่ข้าวสาร เติมน้ำซุป
  4. ใส่แครอทลงไป
  5. ตุ๋นจนข้าวสุกนิ่ม

 

  1. ข้าวผัดคะน้าปลาหมึก

เมนูนี้ช่วยเพิ่มสีสันและรสชาติให้ข้าวผัดน่าทานยิ่งขึ้น

วัตถุดิบ

  • คะน้า 1 กำ
  • ปลาหมึก 50 กรัม
  • ข้าวสวย 1 ถ้วย
  • กระเทียม 2-3 กลีบ
  • ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช

วิธีทำ

  1. เลือกใบคะน้าอ่อนๆ ล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน พอร้อน ใส่กระเทียมสับลงไปผัดให้หอม ใส่ปลาหมึกลงไปผัดจนสุก
  3. ใส่ข้าวสวยลงไปผัด
  4. ใส่คะน้าลงไปผัด
  5. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ผัดให้เข้ากัน

เคล็ดลับความอร่อย

  • สามารถใส่ไข่ไก่ลงไปผัดด้วย เพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร
  • สามารถดัดแปลงโดยใช้เนื้อสัตว์ชนิดอื่นๆ ได้ เช่น ไก่สับ กุ้ง หมู

 

  1. อาหารต้านฝุ่น เมี่ยงปลาทูกับผักกาดขาว

เมนูนี้อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร ทั้งโปรตีนจากปลาทู วิตามินจากผักสด และใยอาหาร แต่ถ้าจะทำให้เด็กๆ ทานได้ เราอาจต้องปรับสูตรเล็กน้อย เพื่อให้รสชาติอ่อนลง และทานง่ายขึ้นค่ะ

วัตถุดิบ

  • ปลาทูสด 2 ตัว
  • ผักกาดขาว 1 หัว
  • ใบสะระแหน่
  • ถั่วลิสงคั่ว
  • น้ำมันสำหรับทอด

ส่วนผสมน้ำจิ้ม

  • ถั่วตัด 1/2 ถ้วย
  • พริกขี้หนูสวน (ลดปริมาณลง หรือไม่ใส่เลยก็ได้)
  • กระเทียม 2-3 กลีบ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

  1. เตรียมปลาทู: ทำความสะอาดปลาทู ควักไส้ออก ล้างให้สะอาด บั้งปลาทู
  2. ทอดปลาทู: ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน พอร้อน ใส่ปลาทูลงไปทอด จนสุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
  3. เตรียมผัก: ล้างผักกาดขาว และใบสะระแหน่ให้สะอาด
  4. ทำน้ำจิ้ม: โขลกถั่วตัดให้ละเอียด ใส่พริกขี้หนู กระเทียม โขลกให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำปลา และน้ำมะนาว คนให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ (สำหรับเด็ก ลดปริมาณพริกลง หรือไม่ใส่เลยก็ได้ค่ะ)
  5. จัดเสิร์ฟ: จัดผักกาดขาว ใบสะระแหน่ ปลาทูทอด และน้ำจิ้ม ใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ

เคล็ดลับความอร่อย

  • สำหรับเด็กเล็ก แกะเนื้อปลาทู และหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อป้องกันการติดคอ
  • สามารถเพิ่มผักชนิดอื่นๆ ได้ตามชอบ เช่น แตงกวา ผักชี
  • หากเด็กไม่ชอบทานผักสด สามารถลวกผักกาดขาวก่อนได้
  • สามารถดัดแปลงโดยใช้น้ำจิ้มซีฟู้ดสำเร็จรูป (แบบไม่เผ็ด)

 


  1. เมนูต้านฝุ่น น้ำมะเขือเทศปั่น

มะเขือเทศช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย ช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ เมนูนี้เป็นเมนูพื้นฐานที่ทำง่าย และสามารถปรับรสชาติได้ตามชอบได้ค่ะ

วัตถุดิบ

  • มะเขือเทศสีดา สุก (เลือกผลที่แดงจัด จะได้รสชาติหวาน)
  • น้ำเชื่อม (สำหรับเด็ก) หรือน้ำผึ้ง

วิธีทำ

  1. ล้างมะเขือเทศให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
  2. ใส่มะเขือเทศลงในเครื่องปั่น เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ปั่นจนละเอียด
  3. กรองน้ำมะเขือเทศด้วยกระชอน เพื่อแยกกากออก
  4. เติมน้ำเชื่อม (สำหรับเด็ก) หรือน้ำผึ้ง เล็กน้อย ชิมรสตามชอบ (หากลูกน้อยยังเล็ก ไม่ควรเติมน้ำตาล หรือเติมในปริมาณน้อยที่สุด)

เคล็ดลับความอร่อย

  • สามารถเติมน้ำแข็ง เพื่อเพิ่มความสดชื่น
  • สามารถเติมผลไม้ชนิดอื่นๆ เช่น แอปเปิ้ล ส้ม สตรอว์เบอร์รี เพื่อเพิ่มรสชาติ และคุณค่าทางอาหาร

10 เมนู อาหารต้านฝุ่น ที่แนะนำนี้ นอกจากจะอร่อยแล้วยังสู้ฝุ่น! ได้อีกด้วย แต่การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง และป้องกันฝุ่น PM2.5 ต้องทำควบคู่กันไปด้วย ทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกน้อย อย่าลืมดื่มน้ำสะอาดเยอะๆ อย่างน้อยวันละ 8 – 10 แก้ว นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และที่สำคัญ เวลาออกนอกบ้าน ต้องใส่หน้ากากอนามัยที่กรองฝุ่น PM2.5 ได้ด้วยนะคะ

ที่มา: กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

15 ต้นไม้ฟอกอากาศ ในบ้าน ที่จะทำให้คุณแม่และลูกสดชื่นได้ทั้งวัน

ชวนลูกล้างจมูกให้ถูกวิธี…ไม่ยากอย่างที่คิด

แพทย์เตือน! คนท้องสูดดมฝุ่น PM 2.5 มาก ๆ ระวังทำร้ายลูกในครรภ์