15 ต้นไม้ฟอกอากาศ ในบ้าน ที่จะทำให้คุณแม่และลูกสดชื่นได้ทั้งวัน เชื่อว่าคุณแม่หลายคนก็คงอยากตกแต่งบ้านให้น่าอยู่และปลอดภัยมากที่สุด เพราะบ้านเรียกได้ว่าเป็นที่พักอาศัยและสถานที่สำคัญที่จะช่วยสร้างสานสัมพันธ์ครอบครัวได้เป็นอย่างดี และนอกจากการตกแต่งบ้านให้น่าอยู่มากขึ้นแล้ว กลิ่นต่าง ๆ ภายในบ้านก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ถ้าบริเวณรอบ ๆ บ้านเรามีอากาศที่ดีและบริสุทธิ์ สิ่งนี้ก็จะทำให้ครอบครัวเรามีสุขภาพดีและมีความสุขตามไปด้วย วันนี้แอดเลยจะพาคุณแม่ทุกคนมาทำความรู้จักกับ ต้นไม้ฟอกอากาศ ที่จะทำให้บ้านของคุณสวยและสดชื่นไปพร้อม ๆ กัน ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ตามมาดูกันได้เลย
1. เศรษฐีเรือนใน (Spider Plant)
(รูปจาก js100.com)
ลักษณะเป็นกอขนาดเล็ก มีรูปร่างคล้ายใบหญ้าประกอบกับมีใบเล็กๆ งอกออกมา หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ต้นแมงมุม” ซึ่งถือเป็นต้นไม้ฟอกอากาศที่ช่วยกำจัดมลพิษภายในบ้านได้เป็นอย่างดี ถ้าใครอยากให้บ้านดูสวยงามมากขึ้นก็อาจจะนำไปปลูกบริเวณรอบๆ ตัวบ้าน หรือไว้วางไว้บริเวณมุมต่าง ๆ ของบ้านได้เลย
วิธีการดูแล :
- รดน้ำในอุณหภูมิห้อง
- เวลารดน้ำให้รดจนไหลออกมาจากกระถาง แต่ไม่ควรรดน้ำในปริมาณที่มากจนเกินไปเพราะอาจจะทำให้ต้นไม้ตายได้
2. เงินไหลมา (Arrowhead Vine)
(รูปจาก twitter.com)
ลักษณะเป็นพรรณไม้เลื้อย มีลำต้นกลมสีเขียวประกอบกับใบที่หุ้มอยู่ตามข้อของลำต้น เป็นต้นไม้อีกหนึ่งชนิดที่นิยมปลูกไว้ภายในบ้าน โดยต้นเงินไหลมาจะนิยมปลูกไว้ในที่ร่มแสงแดดส่องถึงเล็กน้อย เป็นต้นไม้ที่ช่วยดูดสารพิษและช่วยสร้างความสดชื่นภายในบ้านได้เป็นอย่างดี
วิธีการดูแล :
- เป็นต้นไม้ที่ไม่ชอบน้ำ อาจจะรดน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ หรือรดน้ำวันละครั้ง
- ปลูกบริเวณที่แดดส่องถึง และหมั่นเช็ดใบอยู่เป็นประจำเพื่อกำจัดฝุ่นและความชื้นของใบ
3. หน้าวัว (Flamingo Lily)
(รูปจาก pruksa-blog.blogspot.com)
ลักษณะเป็นไม้พุ่มเตี้ย มีสีสันสวยงาม ประกอบกับจุดเด่นของใบที่มีรูปคล้ายหัวใจ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งต้นไม้ที่นิยมปลูกกันมาก ด้วยลักษณะที่โดดเดนจึงไม่แปลกที่ไม่ว่าจะนำไปวางไว้มุมไหนก็สวยงามอย่างลงตัว แถมยังช่วยฟอกอากาศได้อีกด้วย
วิธีการดูแล :
- ควรรดน้ำวันละ 2 ครั้ง โดยอาจจะรดช่วงเช้าและช่วงเย็น เป็นต้น
- ไม่ควรปลูกในที่ที่มีแดดมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ใบไหม้ได้
4. พลูด่าง ( Golden Pothos )
(รูปจาก home.kapook.com)
เป็นพืชไม้เลื้อย บริเวณส่วนใบมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจและเมื่อสังเกตจะเห็นใบเป็นรอยด่างสีเขียวผสมกับสีเหลือง ซึ่งทำให้ดูสวยงามมากยิ่งขึ้น เหมาะแก่การนำมาตกแต่งบ้านเป็นอย่างมาก และข้อดีของต้นพลูด่างคือเมื่อเวลาผ่านไป 24 ชั่วโมง พลูด่างจะช่วยก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ได้ถึง 75 เปอร์เซ็นต์ เลยทีเดียว บอกเลยว่าน่าปลูกไว้ภายในบ้านมาก ๆ
วิธีการดูแล :
- รดน้ำให้พอเหมาะและไม่ควรรดบ่อยจนเกินไป
- กรณีใส่ปุ๋ยควรเปลี่ยนถ่ายน้ำทุกครั้ง หรือทุกๆ 2 ครั้ง เพราะการใส่ปุ๋ยจะเพิ่มความเป็นกรดในน้ำ ถ้าเราไม่เปลี่ยนอาจส่งผลให้ต้นพลูต่างเหี่ยวตายได้
5. ปาล์มสิบสองปันนา (Dwarf Date Palm)
(รูปจาก omgnadinechrisfine.com)
จัดอยู่ในพรรณไม้ตระกูลปาล์ม บริเวณส่วนยอดของลำต้นจะมีใบแตกออกมาอย่างสวยงาม โดยต้นไม้ชนิดนี้นิยมปลูกในพื้นที่บริเวณกว้างหรือกลางแจ้ง อีกทั้งยังสามารถดูดสารพิษในอากาศได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสารที่เรียกว่า “ไซรีน” ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายเราได้ บอกเลยว่าไม่ปลูกไม่ได้แล้ว
วิธีการดูแล :
- รดน้ำในปริมาณที่เหมาะสม เพราะพืชชนิดนี้ไม่ค่อยชอบน้ำและบริเวณที่ชื้นแฉะจนเกินไป
6. บอสตันเฟิน (Boston Fern)
(รูปจาก pinterest.com)
เป็นพืชอีกหนึ่งชนิดที่ชอบความชุ่มชื้น เพราะถ้าขาดน้ำจะทำให้ใบเหี่ยวและร่วงได้ง่าย และด้วยลักษณะภายนอกที่ดูสวยงาม น่านำมาตกแต่งบ้าน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ใครเห็นก็อยากจะนำมาปลูกไว้ที่บ้านด้วยเช่นกัน และที่สำคัญยังสามารถช่วยดูดสารพิษได้ดีอีกด้วย บอกเลยว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก
วิธีการดูแล :
- ควรรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพราะเป็นพืชที่ต้องการความชุ่มชื้น
- กรณีถ้าดินแห้งอาจจะรดน้ำด้วยวิธีฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อให้มีความชุ่มชื้นตลอดเวลา
7. ปาล์มใบไผ่ (Bamboo Palm)
(รูปจาก comstucvk3011.wordpress.com)
พืชไม้ประดับที่นิยมนำมาตกแต่งบ้าน ลักษณะเด่นของใบมีความอ่อนช้อย เป็นพืชที่มีความทนทานและปลูกง่าย นิยมปลูกไว้ภายนอกบ้านหรือนอกอาคาร อีกทั้งยังสามารถดูดสารพิษได้เช่นกัน
วิธีการดูแล :
- รดน้ำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และการรดน้ำทุกครั้งต้องรดน้ำให้อยู่ในความชื้นที่พอเหมาะ
8. แก้วกาญจนา (Chinese Evergreen)
(รูปจาก kasetporpeang.com)
เป็นต้นไม้ที่มีความทนทานอีกหนึ่งชนิดและสามารถดูดสารพิษได้ ลักษณะใบจะมีความด่างที่โดดเด่นซึ่งจะเห็นเป็นสีเขียวผสมกับสีเหลืองอ่อน ๆ หรืออาจจะมีสีชมพูอมม่วงผสมเข้าด้วย ทำให้เหมาะแกสวยสะดุดตา เหมาะแก่การปลูกไว้ในบ้าน สำหรับใครที่ชอบต้นไม้ บอกเลยว่าต้นแก้วกาญจนาก็ตอบโจทย์ได้เช่นกัน
วิธีการดูแล :
- เลือกปลูกในกระถางที่สามารถระบายน้ำได้ดี
- รดน้ำวัน 1 ครั้ง ในปริมาณที่พอเหมาะ
9. เบญจมาศ (Chrysanthemum)
(รูปจาก service.brandrankup.com)
พืชไม้ล้มลุกที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก นอกจากจะมีสีสันสวยงามแล้ว ดอกเบญจมาศยังสามารดูดสารพิษ ฟอร์มาดีไฮด์ เบนซีน และแอมโมเนีย ได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ อีกด้วย และถ้าท่านไหนนำมาปลูกไว้ที่บ้านรับรองว่าอากาศภายในบ้านจะสดชื่นและน่าอยู่อย่างแน่นอน
วิธีการดูแล :
- ปลูกในดินที่มีความอุดมสมบูรณ์และในบริเวณที่ได้รับอย่างแสงแดดอย่างเต็มที่
- ควรรดช่วงเช้า แค่วันละ 1 ครั้ง
10. เสน่ห์จันทร์แดง (Araceae)
(รูปโดย XCHAIWAT จาก twitter.com)
เป็นไม้ประดับที่มีลักษณะโดดเด่นสวยงาม ส่วนของใบจะมีรูปร่างเป็นรูปหัวใจ มองดูแล้วสะดุดตา นอกจากนี้เสน่ห์จันทร์แดงยังถือเป็นต้นไม้สิริมงคลที่เชื่อในเรื่องของความโชคดี สำหรับใครที่ปลูกไว้ในบ้านก็จะมีแต่ความโชคดีเกิดขึ้นในบ้าน เท่านั้นยังไม่พอเสน่ห์จันทร์แดงยังสามารถดูดสารพิษจำพวกสารแอมโมเพียได้ดีอีกด้วย บอกเลยว่าไม่ปลูกไม่ได้แล้ว
วิธีการดูแล :
- ไม่ควรปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้ตายได้
- หมั่นรดน้ำต้นไม้และให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ
11. วาสนา (Janet Craig)
(รูปจาก omgnadinechristine.com)
พืชไม้ยืนต้นที่มีลักษณะใบเรียงยาวเป็นวงกลมรอบ ๆ ลำต้น เป็นไม้ประดับที่คนส่วนใหญ่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย และด้วยชื่อเรียกที่เป็นสิริมงคล ต้นนี้จึงถือเป็นอีกหนึ่งต้นไม้ที่เสริมสิริมงคลให้แก่บ้าน เพราะกันเชื่อว่าถ้าใครนำมาปลูกไว้ภายในบ้านก็จะช่วยให้คนในครอบครัวมีโชคลาภและจะสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการดูดสารพิษจำพวกฟอร์มาดีไฮด์ และไตรคลอโรเอทธีลีนได้อย่างมีประสิทธิภาพไปอีก
วิธีการดูแล :
- หมั่นดูแลรดน้ำต้นไม้อย่างสม่ำเสมอ เพราะค่อนข้างชอบน้ำ
- ควรทำความสะอาดใบด้วยการใช้ผ้าเช็ดที่ใบเบาๆ เพื่อป้องกันแมลงจำพวกเพลี้ยได้
12. กล้วยไม้ (Orchid)
(รูปจาก thairath.com)
เป็นไม้ประดับที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย ด้วยลักษณะเด่นของดอกที่มีสีสันสวยงาม ไม่ว่าจะปลูกไว้มุมไหนของบ้านก็ทำให้บ้านน่าอยู่มากยิ่งขึ้น เท่านั้นยังไม่พอกล้วยไม้ยังสามารถดูดสารพิษชนิดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อาทิเช่น สารเคมีจำพวกแอลกอฮอล์ อะซีโทน ฟอร์มาลดีไฮด์ และคลอโรฟอร์ม เป็นต้น
วิธีการดูแล :
- รดน้ำวันละ 1 ครั้ง อาจจะเป็นช่วงก่อนเที่ยงหรือช่วงที่ไม่ร้อนมากจนเกินไป
13. เยอบีร่า (Barberton Daisy)
(รูปจาก hatyaifloriot.com)
ใครเห็นเป็นต้องหลงใหลด้วยลักษณะภายนอกที่มีดอกสีสันสวยงาม เหมาะแก่การนำมาวางไว้มุมห้องนั่งเล่นหรือโต๊ะประทานอาหาร และไม่เพียงแต่ความสวยงามเท่านั้น เยอบีร่ายังช่วยดูดสารพิษภายในบ้านของเราได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่อยากตกแต่งบ้านให้สวยและสร้างบรรยากาศที่สดชื่นไปพร้อม ๆ กันละก็ ขอแนะนำเลย
วิธีการดูแล :
- ปลูกในดินร่วนซุย และหมั่นรดน้ำให้ชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ
14. ตีนตุ๊กแกฝรั่ง (English Ivy)
(รูปจาก decentfurnit.com)
แค่ได้ยินชื่อหลายคนอาจจะกลัว แต่ขอบอกเลยว่าไม่น่ากลัวอย่างที่ทุกคนคิด ตีนตุ๊กแกฝรั่งเป็นพืชไม้เลื้อยที่นิยมปลูกไว้ตามผนังหรือกำแพงบ้าน เป็นพืชอีกหนึ่งชนิดที่สามารถดูดสารพิษจำพวกสารเบนซินได้เป็นอย่างดี
วิธีการดูแล :
- เป็นพืชที่ต้องการน้ำ โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนอาจจะต้องรดน้ำ 2 ครั้งต่อวัน
- หมั่นให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ
15. ลิ้นมังกร (Variegated Snake Plant)
(รูปจาก ajarnjoe.com)
ลักษณะส่วนของใบจะค่อนข้างเรียวยาว มีความสามารถในการดูดสารพิษค่อนข้างน้อย แต่จุดเด่นของลิ้นมังกรคือสามารถคายก๊าซออกซิเจนออกมาและดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปในเวลากลางคืนได้ จึงทำให้คนส่วนใหญ่ที่รักการปลูกต้นไม้ชอบนำต้นลิ้นมังกรไปไว้ในห้องนอน เพื่อที่จะช่วยให้อากาศภายในห้องสดชื่นและน่าอยู่มากขึ้น
วิธีการดูแล :
- ไม่ควรปลูกไว้ในบริเวณที่มีแสงแดด ควรปลูกในบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้ดี
เป็นไงกันบ้างกับ 15 ต้นไม้ฟอกอากาศ ที่แอดได้พาทุกคนมาทำความรู้จักกัน แน่นอนว่าหลายคนอาจจะพอคุ้นชื่ออยู่บ้าง และสำหรับใครที่กำลังอยากจะตกแต่งบ้าน อยากเปลี่ยนมุมใหม่ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศไม่ให้ดูน่าเบื่อ ก็สามารถปลูกต้นไม้ฟอกอากาศได้เช่นกัน เพราะนอกจากจะทำให้บ้านดูสวยงามขึ้นแล้ว ยังทำให้สุขภาพของคนในบ้านดีตามไปด้วย โดยเฉพาะครอบครัวที่กำลังมีเด็กเล็กก็อาจจะต้องดูแลเป็นพิเศษเช่นกัน
บทความที่น่าสนใจ : แต่งบ้านยังไงให้ดูกว้าง 16 วิธี แต่งบ้านให้ดูกว้าง เพิ่มพื้นที่ความสุข
19 ต้นไม้มงคล เสริมดวงด้านความรัก
ที่มา :ddproperty, thaiticketmajor
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!