เหล่าคนรักสุขภาพหลาย ๆ คน ชอบทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือวิตามินบำรุงร่างกาย และแต่ละคนก็คงจะมีน้ำมันปลาติดบ้านไว้อย่างน้อยคนละ 1 ขวด น้ำมันปลานั้น ถือเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงหัวใจ สมอง เลือด และสายตา ในวันนี้ เราจะมาแนะนำยี่ห้อน้ำมันปลาที่ดีต่อสุขภาพให้ทุกคนกัน น้ำมันปลายี่ห้อไหนดี กินแล้วดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย มาดูไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
น้ำมันปลาคืออะไร
น้ำมันปลา หรือ ฟิชออย (Fish Oil) เป็นสารอาหารที่ได้มาจากเนื้อ หาง และหัวของปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน และปลาทูน่า ให้กรดไขมันที่มีประโยชน์อย่างโอเมก้า 3 ซึ่งก็คือ อีพีเอ (EPA) และดีเอชเอ (DHA) ที่พวกเรามักจะได้ยินกันบ่อย ๆ อ่านต่อเกี่ยวกับประโยชน์ของน้ำมันปลา ข้อควรระวังในการรับประทาน และคำแนะนำจากคุณหมอได้ที่นี่เลยค่ะ น้ำมันปลา มีประโยชน์อย่างไร? คนท้องกินได้หรือไม่ กินยังไงให้ปลอดภัย?
น้ำมันปลายี่ห้อไหนดี ฟิชออยยี่ห้อไหนดี
น้ำมันตับปลา บํารุงสมอง ยี่ห้อไหนดี ยี่ห้อน้ำมันปลาที่มีประโยชน์ ซื้อกินได้ ราคาไม่แพงที่เรารวบรวมกันมาให้ มีดังต่อไปนี้
1. น้ำมันปลาแซลมอน Bewel Salmon Fish Oil
น้ำมันปลาแซลมอนจากประเทศไอซ์แลนด์ ผสมวิตามินซีเพิ่มเข้ามา นอกเหนือจากโอเมก้า 3 เด็กและคนท้องไม่ควรรับประทาน รวมทั้งผู้ที่เลือดแข็งตัวช้าควรปรึกษาแพทย์ก่อนการรับประทาน
ราคา : 156 บาท
2. น้ำมันปลา HOF
น้ำมันปลายี่ห้อ HOF จากประเทศไอซ์แลนด์ ช่วยบำรุงสายตาและสมอง ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคไขมันอุดตันในหลอดเลือด ไม่มีสารปรอทเจือปน
ราคา : 190 บาท
3. AMSEL Fish Oil
เป็นน้ำมันปลาจากประเทศแคนาดา สกัดจากปลาในน้ำทะเลลึก ไม่มีสารอันตรายเจือปน มีส่วนช่วยพัฒนาเซลล์สมอง ลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย และช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต
ราคา : 196 บาท
4. น้ำมันปลากิฟฟารีน Giffarine Fish Oil
แม้ว่าตอนนี้ จะยังไม่มีการผลิตน้ำมันตับปลากิฟฟารีนออกมาจำหน่าย แต่น้ำมันปลากิฟฟารีน ก็ดีต่อร่างกายไม่แพ้กัน เพราะช่วยบำรุงสมองและความจำ ทำให้จดจำได้ดีมากยิ่งขึ้น รวมทั้งช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า ไม่อ่อนล้าง่าย มีทั้งขนาด 500 มิลลิกรัม และขนาด 1,000 มิลลิกรัม
ราคา : 200 บาท (ขนาด 500 มิลลิกรัม)
5. น้ำมันปลาแซลมอน Vistra Salmon Fish Oil
น้ำมันปลาแซลมอน Vistra ขนาด 1,000 มิลลิกรัม ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อ และช่วยบำรุงสมอง ไม่ได้มีแค่โอเมก้า 3 เท่านั้น แต่ยังมีวิตามิน E เพิ่มเข้ามาด้วย
ราคา : 240 บาท
6. Nutri Master Fish Oil
น้ำมันปลา Nutri Master ขนาด 1,000 มิลลิกรัม มีลักษณะเป็นเจลใส เหมาะสำหรับคนที่มีไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง ปวดตามข้อต่อ เป็นโรคข้ออักเสบ หรือมีความดันโลหิตสูง
ราคา : 249 บาท
7. น้ำมันปลาแซลมอน NUTRAKAL Salmon Oil
น้ำมันปลายี่ห้อนี้ ช่วยปรับสมดุลทางอารมณ์ บำรุงเซลล์สมอง ลดอาการปวดข้อ และช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกาย นอกจากนี้ หญิงตั้งครรภ์ก็ยังสามารถรับประทานได้ เพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการของทารก
8. Vitamate Fish Oil
เป็นน้ำมันปลาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วยในเรื่องการมองเห็น เหมาะสำหรับคนที่ต้องนั่งทำงานนาน ๆ และสายตาล้าง่าย นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับไขมัน ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถรับประทานได้
ราคา : 459 บาท
9. Blackmores Fish Oil
น้ำมันปลายี่ห้อ Blackmores ขนาด 1,000 มิลลิกรัม บรรจุน้ำมันปลาทั้งหมด 80 เม็ด เมื่อรับประทาน 1 เม็ดจะได้รับโอเมก้า 3 ปริมาณ 300 มิลลิกรัม ไม่มีสารตะกั่วหรือปรอทปนเปื้อน ทานได้ทุกวันพร้อมมื้ออาหาร
ราคา : 478 บาท
10. Nature’s Truth Fish Oil
น้ำมันปลายี่ห้อ Nature’s Truth ขนาด 1,000 มิลลิกรัม จะบรรจุน้ำมันปลา 60 เม็ด ทำจากปลาเกรดสูงที่ไขมันต่ำ ได้รับการรับรองจากอย. ของประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่มีสารปรอท หรือยาฆ่าแมลงปนเปื้อน
ราคา : 662 บาท (โดยประมาณ)
11. น้ำมันปลาแอมเวย์ Nutrilite Salmon Omega Complex
น้ำมันปลาแอมเวย์ ขนาดบรรจุ 120 เม็ด ช่วยควบคุมระดับไตรกลีเซอไรด์ในร่างกาย และมีส่วนช่วยป้องกันโรคถุงลมโป่งพอง ทั้งนี้ ยังช่วยป้องกันการอักเสบทางผิวหนังได้อีกด้วย
ราคา : 949 บาท
โทษของน้ำมันปลา
แม้ว่าน้ำมันปลาจะให้สารอาหารที่ดีต่อระบบเลือด ระบบสมอง และระบบสายตา แต่บางครั้งการรับประทานน้ำมันปลาทุก ๆ วัน อาจทำให้เลือดแข็งตัวได้น้อยลง เนื่องจากโอเมก้า 3 มีสรรพคุณต้านการแข็งตัวหรือการเกาะตัวของเกล็ดเลือด หากต้องเข้ารับการผ่าตัด หรือมีแผลในกระเพาะอาหาร ก็อาจต้องงดรับประทานไปก่อน นอกจากนี้ หากแพ้ปลาหรืออาหารทะเลอยู่แล้ว เมื่อทานน้ำมันปลาเข้าไป อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว หรือท้องเสียได้ รวมทั้งหากรับประทานน้ำมันปลาในปริมาณมากเกินไป อาจทำให้มีไขมันหรือคอเลสเตอรอลในร่างกายมากขึ้น ส่วนอาการข้างเคียงที่อาจพบได้บ้าง ก็มีทั้งอาการแน่นท้องและอาหารย่อยยาก
น้ำมันปลา เลือกซื้อยังไงดี
หากต้องการซื้อน้ำมันปลา ก็ให้พิจารณาตามข้อแนะนำต่อไปนี้ เพื่อให้ได้น้ำมันปลาที่สด สะอาด และปลอดภัยต่อร่างกาย
1. ผ่านการทดสอบและการรับรอง
โดยปกติน้ำมันปลาแต่ละยี่ห้อ ควรจะมีเครื่องหมายหรือฉลากรับรองว่าผ่านการทดสอบจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือแล้วอย่างองค์การอาหารและยา (อย.) หรือ United States Pharmacopeia (USP) และ National Science Foundation (NSF)
2. ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน
เราควรเลือกซื้อน้ำมันปลาที่ไม่มีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นหืน หากน้ำมันปลามีกลิ่นหืน ก็เป็นไปได้ว่าน้ำมันปลายี่ห้อนั้น ๆ ไม่สด ไม่สะอาด ไม่ใหม่
3. ไม่มีสารปนเปื้อน
ปกติแล้ว ปลาทะเลมักรับสารอันตราย หรือสารปนเปื้อนอย่างปรอท หรือตะกั่วที่มากับน้ำทะเลเข้าไปในร่างกาย หากเรารับประทานเข้าไปด้วย อาจทำให้เราป่วยเป็นโรคต่าง ๆ ได้ ดังนั้น เราจึงควรเลือกน้ำมันปลาชนิดที่ผ่านการรับรองมาแล้วว่าไม่มีสารปนเปื้อน ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ปลาจากน้ำทะเลลึก จะมีปริมาณสารตะกั่วหรือปรอทน้อยกว่าปลาทะเลทั่ว ๆ ไป หากน้ำมันปลายี่ห้อไหนผลิตจากปลาทะเล ก็ให้ดูว่าผ่านการรับรองในการผลิตและกำจัดสารอันตรายทิ้งแล้วหรือยัง
4. เลือกซื้อแบบแคปซูลนิ่ม
เมื่อต้องเลือกซื้อน้ำมันปลา ให้พยายามเลือกซื้อยี่ห้อที่เป็นแคปซูลนิ่ม เพราะแคปซูลนิ่มจะช่วยไม่ให้กรดไขมันโอเมก้า 3 สลายตัวได้ง่าย
ตอนนี้ หลาย ๆ คนคงนึกอยากซื้อน้ำมันปลามารับประทานกันแล้ว อย่างไรก็ตาม หากมีโรคประจำตัว หรือกำลังตั้งท้องอยู่ ให้ปรึกษาคุณหมอก่อนการรับประทานจะดีที่สุดนะคะ
บทความที่เกี่ยวข้อง :
รวม 12 น้ำมันตับปลา น่าซื้อ ปี 2021 กินยี่ห้อไหน ให้ได้ประโยชน์
โอเมก้า 3 ดีต่อคุณแม่และทารกในครรภ์อย่างไร? พบในอาหารประเภทไหน?
20 อาหารเสริมโอเมก้าสูง ต้องกินอะไร ดีต่อสุขภาพอย่างไร
ร่วมแชร์ความเห็นหรือประสบการณ์ เกี่ยวกับการทานน้ำมันปลา ได้ที่นี่!
น้ำมันปลากิฟฟารีน ดีไหมคะ เด็กทานได้ไหมคะ มีใครพอทราบบ้างคะ
น้ำมันปลาแซลมอน คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
น้ำมันปลาแซลม่อน ยี่ห้อไหนดีคะ เด็กทานได้รึเปล่าคะ
น้ำมันตับปลากิฟฟารีน ดีไหมคะ มีใครเคยใช้บ้าง
น้ำมันปลาแอมเวย์ ดีกว่าน้ำมันปลายี่ห้ออื่นยังไงคะ มีใครแนะนำได้ไหม
น้ำมันปลายี่ห้อไหนดี พอจะมีใครแนะนำได้บ้างคะ
fishoilยี่ห้อไหนดี มีใครที่เคยทาน พอจะแนะนำได้ไหมคะ
ฟิชออย คืออะไร มีประโยชน์ยังไงบ้างคะ
ที่มา : megawecare , sanook