ระวัง กินยาคุมฉุกเฉินบ่อย หรือทานมาเป็นประจำแล้วจนเกิดความเคยชินจะสามารถส่งผลเสียต่อร่างกายได้มากแค่ไหน ? การทานยาคุมฉุกเฉินนั้นเป็นวิธีเร่งด่วนสำหรับผู้ที่เกิดความผิดพลาดจากการมีเพศสัมพันธ์จนเกิดความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ ที่ถือว่ามีประสิทธิภาพสูง และมีผลข้างเคียงค่อนข้างรุนแรงตามมา จึงไม่ถูกส่งเสริมให้ทานบ่อย ๆ และควรหันไปใช้วิธีการป้องกันในรูปแบบอื่น ๆ มากกว่า หรือควรใช้เมื่อยาม “จำเป็น” ้เท่านั้น
ยาคุมฉุกเฉินคืออะไร ทำไมต้องกิน
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน (emergency contraceptive pills, morning-after pills) เป็นหนึ่งในวิธีการป้องกันการตั้งครรภ์สำหรับผู้หญิง หลังผ่านการมีเพศสัมพันธ์มา โดยมักจะถูกใช้งานก็ต่อเมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้นจนทำให้เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์อย่างมาก เช่น ไม่ได้ใส่ถุงยางและเกิดการหลั่งใน ,ใช้ถุงยางแต่ถุงยางรั่ว หรือแตก หรือการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ยินยอม เป็นต้น โดยตัวยานี้ถือเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ เพราะได้ผลที่ชัดเจน
ภายในตัวยาประกอบไปด้วยฮอร์โมนเพศโปรเจสตินชนิดเดียว (Progestin-only) และยาคุมกำเนิดฉุกเฉินแบบฮอร์โมนคู่ การทานยาคุมฉุกเฉินนั้นมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์กว่า 80-90 % แต่ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อใด ๆ ได้
บทความที่เกี่ยวข้อง : ราคายาคุมฉุกเฉิน แต่ละยี่ห้อเท่าไหร่บ้าง เทียบราคาอย่างละเอียด
วิดีโอจาก : churakchuros
ควรทานยาคุมฉุกเฉินเมื่อไหร่
หากต้องการใช้ยาคุมฉุกเฉิน ต้องใช้เฉพาะการเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้เท่านั้น ไม่สามารถใช้ทานจนเป็นปกติได้ เนื่องจากจะส่งผลเสียต่อร่างกายของฝ่ายหญิง ตัวอย่างของปัจจัยที่ทำให้ใช้ยาประเภทนี้มีหลายประการ ได้แก่
- มีเพศสัมพันธ์โดยฝ่ายชายไม่ได้ป้องกัน
- ถุงยางอนามัยที่ใช้เกิดการชำรุด เช่น ฉีก, ขาด, รั่ว หรือใส่ไม่ถูกต้อง
- การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ยินยอม (Sexual assault)
- ลืมทานยาคุมกำเนิดที่ทานเป็นประจำตามกำหนด หรือไม่ได้รับการฉีดยาคุมตามกำหนด
- อุปกรณ์ป้องกันสำหรับผู้หญิง เช่น diaphragm หรือ cervical cap เกิดการชำรุด หรือขาด หรือแตกออกก่อนดึงออกมา
- คำนวณวันมีเพศสัมพันธ์ผิดพลาด
ผู้ที่ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉิน
นอกจากนี้ยังมีผู้ที่ไม่สามารถใช้ยาคุมชนิดนี้ได้ เนื่องจากร่างกายอาจไม่พร้อมสำหรับผลข้างเคียง และจะก่อให้เกิดอันตรายตามมาได้ในภายหลัง โดยมากมักจะเป็นผู้ที่มีโรคร้ายแรงต่าง ๆ เช่น มะเร็งในผู้หญิง, โรคเกี่ยวกับตับ, โรคเกี่ยวกับหลอดเลือด และหัวใจ, โรคลมชัก, โรคอ้วน และโรคเบาหวาน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีผู้ที่สูบบุหรี่จัด, มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป และผู้ที่มีอาการไมเกรนชนิด Migraine with aura
กินยาคุมฉุกเฉินบ่อย จะเป็นอันตรายหรือไม่
จากที่เราได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า การทานยาคุมประเภทฉุกเฉินนั้นไม่ควรทานบ่อย เพราะจะทำให้เกิดอันตรายได้ ควรทานไม่เกิน 2 กล่องต่อเดือน เพราะการทานมากเกินไปจะยิ่งเพิ่มผลข้างเคียงให้รุนแรงมากยิ่งขึ้นได้ ดังนี้
- อาการคลื่นไส้ อาเจียน หลังทานยา
- ร่างกายปรับฮอร์โมนจากการใช้ยา ทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ หรือปวดท้อง
- อาจทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติ
- อาจทำให้ร่างกายขาดแคลเซียม จนเสี่ยงภาวะกระดูกพรุน
- มีความเสี่ยงการตั้งครรภ์นอกมดลูก
หลังทานไปแล้วยังมีอาการข้างเคียงที่รุนแรง และต้องรีบเข้าพบแพทย์ในทันที ได้แก่ มีเลือดไหลออกทางช่องคลอด, ประจำเดือนเกิดการขาดหายไป หรือมีอาการที่รู้สึกว่าตนเองตั้งครรภ์ ให้รีบเข้าพบแพทย์ทันที นอกจากนี้ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะทำให้เกิดการ “แท้ง” นั้นไม่ใช่เรื่องจริง เพราะเป็นเพียงการลดโอกาสตั้งครรภ์เท่านั้น หากไข่กับเชื้ออสุจิเกิดการผสมกันแล้วก็จะตั้งครรภ์อยู่ดี
บทความที่เกี่ยวข้อง : ยาคุมกินช้าสุดกี่วัน เกิน 72 ชั่วโมง ยังทานยาคุมฉุกเฉินได้อยู่ไหม ?
กินยาคุมฉุกเฉินบ่อยจะลดโอกาสตั้งครรภ์ให้น้อยลงกว่าไหม
การทานมากเกินไปนอกจากจะมีความเสี่ยงจากผลข้างเคียงแล้ว หากหลายคนต้องการมองข้ามความเสี่ยงเหล่านั้น และต้องการรู้ถึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของยาคุมฉุกเฉินว่าจะช่วยป้องกันได้มากขึ้นหรือเปล่าหากทานบ่อย ๆ เนื่องจากอาจคิดว่าเป็นประสิทธิภาพที่เหนือกว่ายาคุมทั่วไปจึงอาจจะสามารถช่วยได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การทานยาคุมประเภทฉุกเฉินต่อเนื่องไม่ได้มีส่วนช่วยให้โอกาสในการตั้งครรภ์จากการไม่ป้องกันน้อยลงแต่อย่างใดเลย แถมยังเป็นการเพิ่มปริมาณฮอร์โมนเพศหญิงในร่างกายมากกว่ายาคุมกำเนิดแบบทั่วไปอยู่มากกว่าถึง 2 เท่า และด้วยโรคต่าง ๆ ที่ตามมาภายหลังอาจบอกได้ว่า เป็นสิ่งที่ไม่ควรทานบ่อยเป็นอย่างยิ่ง
ทานยาคุมฉุกเฉินมากเกินไป ควรทำอย่างไรดี ?
เมื่อได้อ่านบทความนี้แล้วพบว่าตนเองมีพฤติกรรมการทานยาคุมฉุกเฉินที่บ่อยเกินไป และเกรงว่าตนเองจะเป็นอันตราย ให้ทำการหยุดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนและเข้าพบแพทย์เพื่อรับการตรวจร่างกายที่จำเป็นตามความเสี่ยง หลังตรวจแล้วให้ฟังผลจากแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และปรับพฤติกรรมการป้องกันการตั้งครรภ์ใหม่ เช่น การหันมาใช้ยาคุมกำเนิดแบบปกติอย่างถูกต้อง และต่อเนื่อง, การใช้ถุงยางอนามัยจากฝ่ายชาย, การใช้ diaphragm หรือ cervical cap ของฝ่ายหญิง หรือการฉีดยาคุมกำเนิด เป็นต้น วิธีเหล่านี้มีความปลอดภัยจากการใช้งานอยู่มากหลายเท่า เมื่อเทียบกับยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน
ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินจะดูเป็นที่น่าพอใจ แต่ก็มีผลเสียในตัวของยา ที่สามารถส่งผลร้ายให้เกิดขึ้นกับร่างกายของผู้ที่ทานได้ อีกทั้งยังเป็นเพียงตัวช่วยในการป้องกันเท่านั้นไม่ได้ป้องกันได้ 100% และยังคงมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจากการมีเพศสัมพันธ์อยู่หากไม่สวมถุงยางอนามัย
หากคุณผู้หญิงยังมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับการกินยาคุมทั้งแบบทั่วไป และแบบฉุกเฉิน สามารถศึกษาเพิ่มได้จากบทความที่เรารวบรวมไว้ให้ คลิก
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
ยาคุมกำเนิด กินยังไง ลืมกินยาคุม 2 วัน ทำไงดี คุมกำเนิดแบบไหนดีที่สุด
กินยาคุมกำเนิดมานานจะท้องได้หรือไม่ หยุดกินยาคุมจะท้องไหม กับความเชื่อผิด ๆ
ฝังยาคุม กับ กินยาคุม ต่างกันอย่างไร ? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
ที่มา : samitivejhospitals ram-hosp paolohospital