สำหรับคุณพ่อคุณแม่แล้ว สุขภาพที่แข็งแรงของลูกน้อยเป็นเรื่องสำคัญอันดับต้นๆ การเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกจึงต้องได้รับการใส่ใจเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เสื้อผ้า ของใช้ ที่สำคัญคือ อย่ามองข้ามอุปกรณ์ทำครัวอย่าง “เขียง” ที่ดูจะเป็นไอเท็มคู่ครัวธรรมดาๆ แต่รู้ไหมว่า เบื้องหลังความธรรมดาอาจมีกระบวนการสะสมเชื้อไวรัสและแบคทีเรียอยู่เงียบๆ เสี่ยงทำให้ ลูกป่วยเพราะเขียง คุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรวางใจ แหล่งก่อเชื้อโรคร้ายให้ลูกน้อย บทความนี้จะมาช่วยเตือนคุณพ่อคุณแม่ให้รู้เท่าทัน การปนเปื้อนต่างๆ ที่อยู่บนเขียง และป้องกันให้ถูกต้องก่อนส่งผลกระทบถึงลูกน้อยค่ะ

ลูกป่วยเพราะเขียง ภัยร้ายใกล้ตัวที่อย่ามองข้าม
เรื่องของ “เขียง” แหล่งก่อเชื้อโรคร้ายให้ลูกน้อย นี้ มีกรณีตัวอย่างของคุณแม่ท่านหนึ่งค่ะ ที่ได้มีการโพสต์เฟซบุ๊กบอกเล่าเรื่องราวที่ ลูกน้อยติดเชื้อไวรัส จาก “เขียง” จนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว
ซึ่งปัจจุบันอาการของลูกน้อยค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังคงต้องรอผลการตรวจเชื้ออย่างละเอียดอีกครั้ง คุณแม่เจ้าของเฟซบุ๊ก “Pupe Tape” จึงต้องการแชร์ประสบการณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนว่า อย่ามองข้ามความอันตรายของ “เขียง” เนื่องจากคุณแม่ท่านนี้แยกของใช้ทุกอย่างของลูกออกจากคนในครอบครัวแล้ว ทั้งขวดนม ของเล่นที่ลูกนำเข้าปากจะมีการล้างทำความสะอาด มีการอบด้วยเครื่องยูวีอย่างดีทุกรอบ ทุกๆ วัน แม้แต่ตู้เย็นที่เก็บนมก็จะแยกเฉพาะเก็บนมอย่างเดียว ไม่ปะปนรวมกับอย่างอื่น อย่างไรก็ตาม คุณแม่ท่านนี้ยอมรับว่าคิดไม่ถึงจริงๆ เรื่อง “เขียง” ว่าจะสามารถเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคจนส่งผลให้ลูกน้อยติดเชื้อได้
ลูกน้อยเสี่ยง! ติดเชื้อจากเขียง ได้อย่างไร
เนื่องจาก “เขียง” มักถูกนำมาใช้ในการทำครัวแทบมื้อ โดยเฉพาะการปรุงอาหารที่ใช้วัตถุดิบหลายอย่าง ทั้งเนื้อสด ผัก ผลไม้ บางครั้งเมื่ออาหารสุกและจำเป็นจะต้องมีการหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ก็อาจนำมาหั่นบนเขียงเดิมอีก ดังนั้น การใช้เขียงในหลายๆ เมนู จึงทำให้มีโอกาสที่เขียงจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคต่างๆ กลายเป็นต้นเหตุของปัญหาสุขภาพ หรือ “โรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร” ในอนาคต รวมถึงอาจทำให้เชื้อโรคแพร่กระจายไปสู่วัตถุดิบอื่นๆ เช่น เนื้อสัตว์ ผัก หรือ ผลไม้ ในการทำอาหารอีกด้วย
โดยมีงานวิจัยบางชิ้นระบุเอาไว้ว่า แบคทีเรียตระกูลลิสเทอเรีย (Listeria) จากเนื้อไก่สด ผสมและแพร่กระจายอยู่บริเวณเขียงได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบน “เขียงไม้” ที่ครอบครัวไทยนิยมใช้กันมาก หากได้รับแบคทีเรียชนิดนี้เข้าไปจะทำให้เกิดโรคท้องร่วงหรือท้องผูก ยิ่งสะสมในปริมาณมากก็จะกลายเป็นเชื้อราที่ร้ายแรง เสี่ยงถึงขั้นเป็นโรคมะเร็งลำไส้ได้ในอนาคตค่ะ
|
สรุปสาเหตุที่อาจทำให้ ลูกป่วยเพราะเขียง
|
การปนเปื้อน |
การใช้เขียงเดียวกันหั่นทั้งอาหารสดและอาหารปรุงสุก เชื้อโรคจากอาหารสด เช่น เนื้อสัตว์ดิบ อาจปนเปื้อนสู่อาหารปรุงสุกที่ลูกน้อยกินได้ |
ทำความสะอาดไม่ถูกวิธี |
การล้างเขียงด้วยน้ำเปล่าอย่างเดียว หรือใช้ฟองน้ำที่ไม่สะอาด อาจทำให้เชื้อโรคยังคงอยู่และเพิ่มจำนวนขึ้น |
รอยร้าวและรอยมีด |
เขียงที่มีรอยร้าว หรือรอยมีด เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอย่างดี |

เชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่พบบ่อยบน “เขียง” ทำให้ลูกป่วย
เชื้อโรคที่แฝงอยู่ในเขียงส่วนใหญ่นั้นเป็นไปตามประเภทอาหารที่คุณพ่อคุณแม่เตรียมด้วย โดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ซึ่งทำให้เกิดโรคทางเดินอาหาร ไปจนถึงส่งผลกระทบต่อสมอง ดังนี้
- อีโคไล: มักพบในเนื้อสัตว์ บางสายพันธุ์อันตรายถึงชีวิต ทำให้เกิดภาวะไตวาย
- ซัลโมเนลลา: ทำให้เกิดอาการอาหารเป็นพิษ ท้องเสียรุนแรง
- โนโรไวรัส: ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย
- แคมไพโลแบคเตอร์: ทำให้เกิดอาการท้องเสีย ปวดท้อง
- ลิสทีเรีย ต้นเหตุของโรคลิสเทริโอซิส ทำให้เกิดการอักเสบในเยื่อหุ้มสมอง
อาการติดเชื้อในลูกน้อย ที่พ่อแม่ต้องสังเกต
หากบ้านของคุณแม่ก็ใช้เขียงในการทำอาหารให้ลูกน้อยเช่นกัน อย่าลืมหมั่นสังเกตนะคะว่าลูกมีอาการเหล่านี้ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณเตือนการติดเชื้อหรือไม่
- มีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร คือ ท้องเสีย อาเจียน ปวดท้อง
- อาการทั่วไป เช่น มีไข้ อ่อนเพลีย ไม่ยอมกินอาหาร
- อาการรุนแรง ตั้งแต่การถ่ายเป็นมูกเลือด หรือมีอาการขาดน้ำ

ป้องกันลูกน้อยอย่างไร ให้ปลอดภัยจาก เชื้อโรคบน “เขียง”
เขียงที่มีจำหน่ายทุกวันนี้มีหลายประเภทนะคะ โดยเขียงทุกประเภทล้วนมีโอกาสเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับวิธีการนำมาใช้ และการทำความสะอาด มาดูวิธีที่จะสามารถช่วยป้องกันลูกน้อย ให้ปลอดภัยจาก เชื้อโรคบน “เขียง” ได้ในเบื้องต้นกันค่ะ
-
แยกเขียง
ควรใช้เขียงแยกกันสำหรับอาหารสดและอาหารปรุงสุก ถือเป็นวิธีง่ายที่สุดในการลดความเสี่ยงการสะสมของเชื้อโรคได้ ซึ่งคุณแม่อาจแยกตามการใช้งานจากประเภทของวัตถุดิบโดยใช้สีเป็นตัวช่วย เช่น สีแดงสำหรับเนื้อสด สีเขียวสำหรับผักและผลไม้ สีฟ้าสำหรับอาหารทะเล และสีขาวสำหรับขนม
-
ทำความสะอาดเขียงเสมอ
โดยทั่วไปเรามักทำความสะอาดเขียงด้วยฟองน้ำและน้ำยาล้างจาน ขัดถูบริเวณผิวหน้า ซึ่งไม่ผิดค่ะ แต่ควรเพิ่มการล้างผิวหน้าของเขียงด้วยน้ำร้อน เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคที่อาจสะสมอยู่ด้วย จากนั้นซับด้วยผ้าสะอาด แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้งเพื่อป้องกันเชื้อราค่ะ
-
เลือกเขียงที่เหมาะสม
ไม่ว่าจะเขียงไม้ หรือเขียงพลาสติก คุณแม่ควรเลือกเขียงที่ทำจากวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย ผิวเรียบ ไม่มีร่อง ไม่มีรอยร้าวหรือรอยขูด เพราะพื้นผิวของเขียงเป็นจุดที่สัมผัสกับอาหารโดยตรง หากมีรอยขีดข่วน ขรุขระ หรือเป็นหลุม มักมีโอกาสที่จะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียต่างๆ ได้
|
|
เขียงพลาสติก |
เขียงไม้ |
ข้อดี |
น้ำหนักเบา ราคาถูก หาซื้อง่าย และทนทาน |
เป็นวัสดุธรรมชาติ เวลาสึกกร่อนจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายหากลูกบริโภคเนื้อไม้เข้าไป |
ข้อเสีย |
ถ้ามีการสึกกร่อนของพลาสติกแล้วมีการปนเปื้อนลงไปในอาหารอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ |
- สึกกร่อนง่าย เนื้อไม้จะมีรูพรุนค่อนข้างมากจึงสะสมความชื้นและจุลินทรีย์ได้ง่ายกว่าเขียงพลาสติก
- เขียงไม้ที่เก็บไว้นานอาจมีเชื้อราเกิดขึ้นได้ ซึ่งเชื้อราเป็นจุลินทรีย์ทั่วไปที่ทำให้ท้องเสีย และบางตัวอาจมีฤทธิ์สร้างสารพิษ เช่น แอฟลาท็อกซิน
|
-
เปลี่ยนเขียงเมื่อมีรอยร้าว
หากพบว่าเขียงมีรอยร้าว หรือใช้งานมานาน เริ่มเก่าหรือมีรอยแตก ต้องเปลี่ยนเขียงให้เร็วที่สุด เพื่อลดโอกาสที่จะกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
-
ใช้ฝาครอบเมื่อไม่ใช้งาน
บางช่วงที่เขียงไม่ได้ถูกใช้งาน คุณแม่ต้องมีฝาครอบเขียงในขนาดที่พอดี เพื่อป้องกันแมลงวันตอม และควรเก็บรักษาให้สูงกว่าพื้น เขียงไม้ต้องหมั่นนำออกผึ่งแดดเพื่อป้องกันเชื้อราที่จะเกิดขึ้นได้ ก็จะช่วยป้องกันและลดภาวะเสี่ยงของการเจ็บป่วยด้วยระบบทางเดินอาหารที่มีเขียงเป็นพาหะนำโรคได้ค่ะ

เราสามารถปกป้องลูกน้อยจากเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่แฝงตัวอยู่ในเขียงทำอาหารได้นะคะ หากใช้งานอย่างถูกต้องและดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ซึ่งนอกจากเขียงแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังความสะอาดของอุปกรณ์ทำครัวอื่นๆ ด้วย รวมถึงควรฝึกสุขอนามัยที่ดีให้ลูกน้อย เช่น การล้างมือก่อนและหลังกินอาหาร และหากสงสัยว่าลูกน้อยได้รับเชื้อโรคจากเขียง ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาทันทีค่ะ
ที่มา : Pupe Tape , www.locknlock.co.th , multimedia.anamai.moph.go.th , www.healthaddict.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รู้ไว้ให้ชัวร์! ยาสีฟันมีฟลูออไรด์ ทำเด็ก IQ ต่ำลง จริงไหม?
อย่าปล่อยให้ลูกอ้วน! เสี่ยง!! ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
อันตรายจากการหอมแก้มเด็ก แม่โพสต์เตือน อย่าให้ใครหอมลูก ไม่งั้นจะเป็นเหมือนบ้านนี้
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!