ลูกแพ้ของใช้ในบ้าน สิ่งที่คุณอาจจะไม่รู้แต่ต้องระวัง ลูกอาจจะเป็นหอบ
เป็นเรื่องปกติของสังคมไทย ที่คุณแม่ที่หยุดอยู่บ้าน มักจะได้ตำแหน่งแม่บ้านควบคู่มาด้วย น้องจากจะต้องกังวลเรื่องการเลี้ยงลูก ยังต้องทำงานบ้านและอาหารอีก คุณแม่บางคนที่อาจจะไม่ได้มีคนช่วยเหลือ อาจจะต้องระวัง ลูกแพ้ของใช้ในบ้าน
ลูกแพ้ ของใช้ในบ้าน
เรื่องที่ต้องระวังนอกจากจะเป็นเรื่องการเจ็บป่วย เป็นไข้ ไม่สบาย เดินชน ล้ม ลูกเผลอไปแตะ หรือ จับอะไรที่ไม่ควร แล้ว ยังมีเรื่องอื่นที่คุณแม่ต้องกังวลอีกมากถ้าพูดถึงการเลี้ยงดูลูก ปัญหาทางด้านสุขภาพ ที่เรามองไม่เห็นก็มีหลายชนิด วันนี้เราจะมาพูดถึง ปัญหาเรื่องของใช้ภายในบ้าน ที่อาจส่งผลเสีย ทางด้านสุขภาพ ให้กับลูกได้ ในอนาคต เพื่อหาวิธีป้องกัน ไม่ให้ปัญหาแบบนี้ เกิดขึ้นกับลูก
ลูกแพ้ของใช้ใน บ้าน
รู้หรือไม่ว่า ลูกอาจจะ โตมาเป็นหอบได้ ด้วยความใกล้ชิดกับ ของใช้ภายในบ้าน เช่นพวกผลิตภัณฑ์ต่างๆ งานวิจัย จาก แคนาดา บอกว่า การที่ทารกสูดดมกล่นของผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ต่างๆ ที่ใช้ทำความสะอาดภายในบ้าน อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงเป็นโรคหอบหืดได้
อันตรายใกล้ตัวจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด
เด็กอ่อน มีโอกาศที่จะมีความอ่อนแอ ต่อเชื้อ และ รับเชื้อได้ง่ายกว่าคนโต เพราะว่าพวกเขาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านประมาณ 80% – 90% ยิ่งเป็นพวกกลิ่น หรือสารเคมีแล้วด้วยนั้น พวกเขาก้จะยิ่งอ่อนแอต่อสารจำพวกนี้ สารเคมีเหล่านี้ จะเข้าไปทำลาย ปอด และ ผิว เพราะพวกเขาจะต้องหายใจ ในความถี่ ที่มากกว่าคนทั่วไป Tim Takaro ผู้นำงานวิจัยนี้เป็นผู้กล่าวให้ข้อมูล เขาเป็น แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ ของสถาบันสุขภาพวิทยาศาสตร์ ที่ มหาวิทยาลัย Simon Fraser University ใน Burnaby, British Columbia
ลูกแพ้ ของใช้ในบ้าน
ในงานวิจัยของ คุณหมอ Tim Takaro ใช้การตอบคำถาม จากกลุ่มตัวอย่างของพ่อแม่เด็กกว่า 2000 ครอบครัว ครอบครัวเหล่านี้ล้วนแต่จะมีลูก ที่ต้องพบเจอ กับ ผลิตภัณฑ์ของใช้ทำความสะอาดในบ้าน ในตลอดช่วง 4 เดือนตั้งแต่ที่เกิดมา
เด็กเหล่านี้ถูกประเมินว่ามีความเสี่ยงว่าจะเป็น หอบหืด งานวิจัยชิ้นนี้ไม่สามารถอธิบาย เหตุผลและผลได้ แต่นักวิจัยรายงานว่า มีเด็กกว่า 37% ที่ใกล้ชิดกับ ผลิตภัณฑ์การทำความสะอาด เมื่ออายุประมาณ 3 ปี
สิ่งที่ต้องระวังมากก็คือ สบู่ล้างจาน ผงซักฟอก
กลิ่นและสเปรย์มีโอกาศทำให้ลูกเสี่ยงเป็นหอบ
ลู กแพ้ของใช้ในบ้าน
อ้างอิงจากงานวิจัยของประเทศแคนาดา ที่ตีพิมพ์ลงใน นิตยสารการศึกษา CMAJ (Canadian Medical Association Journal)กลิ่น และ และ สเปรย์ที่มาจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จะนำความเสี่ยงเรื่องการเป็นหอบหืด และความเกี่ยวข้องคืออะไรกันแน่ นักวิจัยเผยข้อมูลว่ากลิ่น และ สเปรย์เหล่านี้ จะไปทำลายระบบทางเดินหายใจ สกัด ทำให้เกิดความผิดปกติ หลายๆอย่างขึ้นกับ ระบบทางเดินหายใจขึ้นได้
คุณหมอ Takaro บอกว่า ความเกี่ยวข้องส่วนใหญ่ มาจากข้อมูลที่เขาได้มาจาก ผู้ใหญ่ คุณหมอ Dr. Len Horovitz ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาล Lenox Hill Hospital ใน New York กว่าวว่าปัญหาใหญ่อีกอย่างที่ทำให้เด็กเป็นโรคหอบหืด ก็คือการสูบบุหรี่
งานวิจัยอีกตัวก็พูดถึงภัยร้ายที่มาจากบุหรี่
แค่ละอองควันบุหรี่ก็มีโทษต่อเด็กเล็ก
หากบ้านไหนที่มีเด็กเล็กๆ ได้ไปสัมผัสกับสิ่งเหล่านี้เข้า เท่ากับว่าลูกได้ร่วมสูบบุหรี่ไปกับคุณโดยไม่ทันคาดคิดไปเสียแล้ว เพราะด้วยความที่เด็กมีภูมิคุ้มกันต่ำ สามารถซึมซับฝุ่นละอองได้มากกว่าผู้ใหญ่ถึง 2 เท่า และพฤติกรรมของเด็กเล็กที่มักจะคลานเล่นตามพื้น ทำให้หายใจใกล้ชิดกับพื้นผิวต่างๆ หรืออาจนำสิ่งของที่มีละอองควันบุหรี่ตกค้างอยู่เข้าปาก จึงเสี่ยงได้รับอนุภาคโลหะหนัก สารกัมมันตรังสี และสารก่อมะเร็งแบบโดยตรง แล้วค่อยๆ สะสมไปทีละน้อย
แม่สูบ แต่ลูกคือผู้รับผลกรรม
ลูกแพ้ของใ ช้ในบ้าน
ส่วนแม่ตั้งครรภ์หากอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยควันบุหรี่ รู้ไหมว่า ลูกในครรภ์ของคุณก็ได้รับควันบุหรี่นั้นไปพร้อมๆ กันด้วย และหากคุณได้รับเป็นประจำจนมากเกินไปหรือตัวผู้เป็นแม่สูบเสียเอง สิ่งน่ากลัวที่ตามมาก็คือ จะทำให้เด็กในครรภ์เจริญเติบโตช้า น้ำหนักตัวน้อย คลอดก่อนกำหนด อาจมีภาวะพิการแต่กำเนิด เช่น ปากแหว่ง เพดานโหว่ หัวใจพิการ หัวใจเต้นผิดปกติเพราะขาดออกซิเจน ลำไส้ออกมาที่หน้าท้อง หรือถึงขั้นแท้งได้เลยทีเดียว ส่วนเด็กที่คลอดออกมาจะมีผลร้ายระยะยาว เสี่ยงต่อการเป็นโรคไหลตายในเด็กเล็ก หากโตขึ้นจะทำให้เป็นเด็กสมาธิสั้น เป็นภูมิแพ้เรื้อรัง ความดันโลหิตสูง ติดเชื้อทางเดินหายใจง่าย เสี่ยงต่อการเกิดโรคในกลุ่มปอด เช่น ปอดอักเสบ กล่องเสียงอักเสบ หลอดลมอักเสบ มากถึง 4.3 เท่า โรคระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง 3.8 เท่า และโรคหืด 2.9 เท่าของเด็กปกติ
พฤติกรรมเลียนแบบและความเคยชิน
นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจที่สร้างความน่าตกใจเพิ่มเติมอีกว่า “บ้าน” ที่ใครๆ ต่างคิดว่าเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยจากควันบุหรี่มากที่สุด กลับกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงที่เด็กจะได้รับอันตรายมากที่สุดอีกด้วย และในทางจิตวิทยายังพบอีกว่า หากบ้านไหนที่มีพ่อสูบบุหรี่ ลูกๆ ในบ้านจะมีโอกาสสูบบุหรี่มากกว่าบ้านที่พ่อไม่สูบถึง 2 เท่า เพราะเกิดจากพฤติกรรมเลียนแบบ บวกกับบรรยากาศความเคยชินที่เห็นพ่อสูบเป็นประจำทุกวัน เด็กจึงไม่เห็นถึงโทษร้ายอะไรของบุหรี่เลย
ควันบุหรี่มีผลต่อจิตใจเด็กอย่างไร
ในด้านผลกระทบต่อจิตใจของเด็ก ควันบุหรี่ยังทำให้สุขภาพจิตของเด็กย่ำแย่ มีพฤติกรรมค่อนข้างติดลบ ก้าวร้าว อารมณ์หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย ไม่สดใส พัฒนาการทางสมองต่ำกว่าเกณฑ์ ควบคุมความรู้สึกได้ไม่ค่อยดี หากมีปัญหามักจะตัดสินด้วยอารมณ์
เมื่อรู้ถึงมหันตภัยร้ายของบุหรี่แล้ว คุณจะไม่คิดลด ละ เลิก เพื่อตัวคุณและเพื่อลูกหรือคะ ซึ่งสามารถขอคำปรึกษาแนะนำการเลิกสูบบุหรี่ได้ที่โทร. 1600 (ศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ)
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!