เรียนเต้นที่ไหนดี รวมโรงเรียนสอนเต้นในกทม ผู้ใหญ่เรียนได้เด็กเรียนดี 

ทาง Theasianparent ได้ทำการสร้าง Poll สำรวจ ว่าคุณพ่อคุณแม่ อยากพาลูกไปเรียนเต้นแนวไหนมากที่สุด อ้างอิงจากผลการสำรวจ พบว่า คุณพ่อ คุณแม่ สนใจพาลูกไปเรียน อันดับที่หนึ่ง คือ K-pop เค-ป๊อบ มากถึง 26 % รองลงมาคือ  การเต้น HipHop ฮิปฮ๊อป 16% และอันดับที่ สาม การเต้นแนวสตรีท 12%  วันนี้เราจึงรวบรวมสถาบันสอนเต้นมาฝากกันค่ะ

โรงเรียนสอนเต้น ในกทม วันนี้เรารวบรวมมาให้แล้วแบบจัดเต็ม พร้อมคำอธิบายการเต้นแต่ละรูปแบบ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากระแสมาแรงตอนนี้ กิจกรรมที่ไม่ว่าจะเป็นวัยไหน ก็ได้รับความสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่องคือ กระแสการเต้น นั่นเอง

โดยเฉพาะช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา กระแสK-pop วงการเพลงของเกาหลี ที่เป็นที่นิยมมากอยู่แล้ว แต่กลับได้รับความนิยมอย่างฉุดไม่อยู่ เมื่อสาวน้อยลิซ่าจากBlackpink หนึ่งในสาวไทย ในค่ายใหญ่ YG ของประเทศเกาหลี ได้ปล่อยผลงานโซโล่ เพลงเดี่ยวออกมา ยิ่งเพิ่มกระแสร้อนแรงให้วงการเต้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ปกครองที่อยากจะส่งเสริมให้ลูกน้อย ได้ทำกิจกรรม โดยเลือกการเต้น เพราะมีผลงานศิลปินไทยที่ไป Go Inter กันมากมาย เป็นแรงบันดาลใจหนึ่งให้พ่อแม่ยุคใหม่ อยากปลูกฝังทักษะนี้ให้ลูกของตน

สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้นล่าสุด นอกจากในมิวสิควิดีโอเพลงโซโล่ครั้งแรกในชีวิต “LALISA” ยังเผยแผ่วัฒนธรรมไทยผ่านมิวสิควิดีโออย่างสวยงาม  แต่นั่นยังไม่พอ นักร้องสาว ลิซ่า (LISA) วง BLACKPINK​ยังเข้าร่วมสนับสนุนการศึกษาและแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรม​ ให้แก่เด็กนักเรียนในบ้านเกิด​ ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นโครงการดีดีที่ส่งต่อไปถึงเด็กในจังหวัดบ้านเกิด อีกด้วย

โดยรายละเอียดจากสำนักงานแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศของเกาหลีใต้​ เปิดเผยในวันนี้ (16​ ก.ย.) ​ว่า ได้ร่วมมือกับ YG Entertainment ต้นสังกัดของ BLACKPINK ในการเปิดโครงการช่วยเหลือด้านการศึกษา ให้แก่โรงเรียนโนนสุวรรณพิทยาคม​ ในจังหวัดบุรีรัมย์​ ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย​ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ ลิซ่า​ BLACKPINK ซึ่งไอดอลสาวชาวไทยก็สนับสนุนโครงการนี้อย่างเต็มที่​ด้วยการร่วมระดมทุน และส่งต่อพลังบวกให้แก่เด็กๆ​ ผ่านข้อความที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจและสร้างกำลังใจให้เด็กๆได้เดินตามความฝัน

“หนูอยากให้เด็กๆ สามารถเรียนรู้ได้อย่างอิสระในสภาพแวดล้อมการศึกษาที่ดีขึ้น และสามารถทำตามความฝันของพวกเขาได้โดยไร้ขีดจำกัด เลยอยากร่วมสนับสนุนความฝันอันล้ำค่าของเด็กๆ ค่ะ”

ลิซ่า BLACKPINK ( รูปภาพจาก : www.instagram.com/lalalalisa_m/ )

 

ตามรายงานข่าวกล่าวว่า​ ก่อนหน้านี้โรงเรียนโนนสุวรรณพิทยาคม​ เคยเปิดชั้นเรียนนาฏศิลป์ แต่ต้องยุติไปเนื่องจากห้องเรียนที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเรียนการสอน​ ทางโครงการจึงจะให้ความช่วยเหลือ​ โดยมีเป้าหมายว่า​ภายในปีนี้​จะพัฒนาห้องเรียนทางวัฒนธรรมพื้นที่ 160 ตารางเมตร​​ รวมทั้งจะจัดหาอุปกรณ์ทางการศึกษา​ อาทิ​ คอมพิวเตอร์ โปรเจ็กเตอร์ และอุปกรณ์มัลติมีเดียอื่นๆ

ซึ่งไม่เพียงเด็กๆ​ จะได้เรียนรู้นาฏศิลป์ไทยเท่านั้น​ แต่ที่สำคัญ ยังมีการเปิดคลาสเรียนเต้น​ K-POP​ ที่สอนโดยผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่อีกด้วยค่ะ เรียกได้ว่าเป็นข่าวดี และคงมีการพัฒนาเรื่องการเต้นและการแสดงออกเพื่อสร้างทักษะให้เด็กมากยิ่งขึ้นและอาจมีโอกาสได้มีพื้นที่ให้เด็กไทยโชว์ความสามารถมากยิ่งขึ้นด้วย

อีกทั้งการเต้นนี้ ที่ส่งผลต่อเรื่องสุขภาพและลดน้ำหนัก ในกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงาน และวัยผู้ใหญ่ วันนี้ทางเรารวบรวม สถาบันโรงเรียนสอนเต้น ที่ไม่ใช่แค่การเต้น K-Pop มาฝากกันค่ะ เพราะการเต้นเป็นศิลปะอย่างนึงที่ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล ซึ่งแน่นนอนมีหลายแบบหลายสไตล์ และ โรงเรียนสอนเต้นเด็ก จะมีที่ไหนบ้าง ต้องตามไปอ่านกัน

ขอแอบกระซิบว่าในยุคนี้ อาจไม่จำเป็นต้องมาเรียนที่ โรงเรียนสอนเต้น เพราะส่วนมากมักจะมีการสอนแบบออนไลน์ให้เข้ากับยุคสมัย และสถานการณ์อีกด้วย เรียกได้ว่า ใครคิดจะเริ่มเรียนเต้น ไม่ยากเลยค่ะ  ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก การเต้นของแต่ละประเภทกันก่อนนะคะ

บทความประกอบ : ประวัติวง Blackpink มีสมาชิกกี่คน แต่ละคนเก่งด้านไหนกันบ้าง

โรงเรียนสอนเต้น ในกทม

ประเภทการเต้น

  • K-pop การเต้นสไตล์เกาหลี

เป็นการเต้นสไตล์หนึ่ง ที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานระหว่างสไตล์เบรคแดนซ์ ฮิปฮอป แจ๊สแดนซ์ รวมถึงสไตล์ฟังกี้ คำว่า K-pop นั้นหมายถึง เพลงป็อบเกาหลี ซึ่งส่วนมากจะเป็นเพลงเร็ว เน้นความสนุกสนาน ความนิยมของการเต้น K-pop

  • Hip Hop

การเต้นเข้าจังหวะที่ได้รับความนิยมมากในแถบอเมริกาจุดเด่นของฮิปฮอปคือการรร้อง และเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ที่ดูแข็งแรงมีพลัง การแร็ป (Rap) ที่ใช้ทำนองของดนตรีอิเล็กโรนิกที่คนร้องต้องร้องด้วยความเร็ว เนื้อหาก็จะพูดถึงเรื่องรอบตัวเองสิ่งที่เคยเห็น หรือเกิดกับตัวคนร้องเอง

  • Street Dance

สตรีทแดนซ์ พัฒนามาจากกลุ่มชนคนผิวดำตามเขตแหล่งชุมชนในอเมริกา มักจะเป็นผู้คิดค้นแนวการเต้นที่เร้าใจ และโดนใจวัยรุ่นไปทั่วโลก ซึ่งได้นำแนวการเต้นที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกผสมผสานเข้าด้วยกันแล้วนำมาวาดลวดลายลีลาท่าทางกันตามถนน

  • Jazz

เป็นการเต้นอีกประเภทหนึ่ง ผู้คิดค้นคือชาวแอฟริกันอเมริกัน ที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา ถือกำเนิดขึ้นในช่วงต้น ค.ศ. 20 จุดประสงค์ คือ เพื่อต้องการสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินรวมทั้งใช้ในการเข้าสังคม เป็นการเต้นรำเข้าจังหวะ ที่เป็นการเคลื่อนไหวจากการแยกส่วนต่างๆของร่างกายแล้วประดิษฐ์ออกมา

  • Funk

เป็นแนวเพลงชนิดหนึ่งเกิดขึ้นในช่วงกลางถึงปลายทศวรรษที่ 1960 เมื่อนักดนตรีชาวแอฟริกัน-อเมริกัน ได้รวมเพลงแนวโซล เข้ากับโซลแจ๊ส และอาร์แอนด์บี ให้มีจังหวะ สามารถเต้นรำได้

  • Contemporary

รูปแบบหนึ่งของการเต้นรำเพื่อให้ผู้เรียนค้นพบการเคลื่อนไหวของตนเองจากการฝึกทักษะ จนก่อให้เกิดเป็นการเต้นรำที่เป็นธรรมชาติและผ่อนคลาย รวมทั้งสามารถนำเสนอแนวความคิดและมุมมองผ่านร่างกายทุกส่วนซึ่งเคลื่อนไหว ผสมผสานกันอย่างกลมกลืน โดยผู้เรียนไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานด้านการเต้นรำมาก่อน เทคนิคการเต้นรำแบบร่วมสมัยที่เน้นหลัก

  • Popping ป๊อบปิ้ง

คือการเต้นแบบกระตุกๆที่เราจะเห็นบ่อยๆ เป็นการผสมผสานกัน funk dance & street dance เป็นการเต้นที่ดูแข็งแรง ซึ่งต้องอาศัยกล้ามเนื้อในการเต้นอย่างมาก ความแข็งแรงของข้อต่อก็สำคัญสำหรับการเต้นนี้ถึงจะดูแข็งแรงแต่ก็แบบซ่อนความพริ้วเอาไว้

  • Locking

โรงเรียนสอนเต้น

ส่วนนึงในการเต้น Hiphop และนอกจากนั้นดนตรีหรือเพลงที่lcokingใช้เต้นนั้นจะใช้เพลงFunk,discoหรือเพลงต่างๆที่สามารถเต้นให้เข้ากับเพลงได้

  • B-Boy

คนที่ชื่นชอบในวัฒนธรรมฮิปฮอป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเต้นเบรกแด๊นซ์ ที่มาของคำมาจากดีเจฮิปฮอปที่ชื่อ ดีเจ คู เฮิร์ก (อังกฤษ: DJ Kool Herc) ที่สังเกตว่ามีการตอบรับของกลุ่มนักเต้นในขณะที่เขาเปิดเพลงอยู่ โดยได้ตั้งชื่อพวกเขาว่าเป็น บีต-บอย

  • Zumba

เป็นการเต้นแอโรบิคลดน้ำหนัก เพื่อคาร์ดิโอ ที่ใช้การเคลื่อนไหวร่างกายแบบแอโรบิค มีการยักย้ายส่ายสะโพกประกอบกับดนตรีจังหวะเร้าใจสไตล์ละติน โดยจะมีการเคลื่อนไหวร่างกายทั้งช้าและเร็ว ขั้นตอนก็ง่ายๆ เริ่มต้นด้วยการวอร์มอัพร่างกายประมาณ 10 นาที ต่อด้วย การเต้นประกอบดนตรีประมาณ 40 นาที แล้วก็คูลดาวน์ประมาณ 5-10 นาที

บทความประกอบ : ออกกำลังกายด้วยZumba ช่วงLockdown วิธีการใช้ Zumbaสำหรับการลดน้ำหนัก 

  • Ballet

การแสดงที่ประกอบด้วยการเต้น และ ดนตรีมีลักษณะเช่นเดียวกับอุปรากร เพียงแต่บัลเลต์เป็นการนำเสนอเนื้อเรื่อง โดยใช้การเต้นเป็นสื่อ มีกำเนิดขึ้นในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลี ต่อมาในศตวรรษที่ 15 จึงแพร่หลายเข้าไปเป็น concert dance form ในประเทศฝรั่งเศสและรัสเซีย ต่อมาในศตวรรษที่ 19 ได้แพร่หลายเข้าไปในประเทศอิตาลี

  • Urbhanize

เน้นเต้นแบบ Dance exercise สไตล์ Hip Hop และ Bungra กับการไต่ระดับจังหวะช้า ๆ ไปเป็นจังหวะสนุกสนานเร้าใจ นอกจากจะได้เหงื่อ

  • Pole Dance

เป็นการเต้นที่ผสมผสานฟิตเนสเทรนนิ่ง โยคะ และยิมนาสติกเข้าด้วยกัน จึงเป็นการออกกำลังกายที่เบิร์นแคลเลอรี่ได้เร็ว ดีต่อใจเพราะทำให้เลือดสูบฉีด ฝึกความยืดหยุ่น การทรงตัว ความอดทน และความแข็งแรงของร่างกาย กระชับกล้ามเนื้อทุกสัดส่วน ให้ผลลัพท์เป็นหุ่นที่เพอร์เฟ็คท์ ทั้งยังเพิ่มความเซ็กซี่เสริมความมั่นใจให้ตัวเอง

  • Striptease

นักเต้นยั่วยวนมืออาชีพที่เต้นอยู่บนเวทีหรือบริเวณพื้นที่ที่จัดให้ในสถานเริงรมย์ ลานกิจกรรม

  • ระบำหน้าท้อง

จุดเด่นคือเป็นศิลปะที่แสดงถึงความเป็นผู้หญิง มีทั้งความอ่อนโยน อ่อนไหว สวยงาม แต่ขณะเดียวกันก็แฝงด้วยความแข็งแรงอยู่ด้วย ลักษณะการเต้นดั้งเดิมของระบำชนิดนี้จะแยกประสาทสัมผัสเพื่อควบคุมกล้ามเนื้อมัดเล็กๆ ต่างๆ ให้ทำงานแยกส่วนกัน (สะโพก, ไหล่, หน้าท้อง ฯลฯ) โดยบางท่าอาจมีลักษณะคล้ายคลึงกับการเต้นแจ๊ส

  • Piloxing

คือการผสมผสานศาสตร์แห่งความยืดหยุ่นและผ่อนคลายด้วยท่วงท่าการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลของพิลาทีสเข้ากับกีฬาแมน ๆ อย่างมวยไทย ประยุกต์เข้ากับสเต็ปการเต้นเข้าจังหวะด้วยท่าทางที่ออกแบบมาอย่างลงตัว บริหารร่างกายได้ครบทุกสัดส่วน เป็นการออกกำลังกายที่สนุกสนานช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 400 – 900 กิโลแคลอรีต่อชั่วโมง

  • Hula Dance

เป็นรูปแบบการเต้นรำโปลีนีเซียพร้อมกับสวดมนต์ หรือเพลง ( Meleซึ่งเป็น สายเลือดของ ” meke ” จากภาษาฟิจิ ) ได้รับการพัฒนาในหมู่เกาะฮาวายโดยชาวโพลินีเซียนซึ่งมาตั้งรกรากอยู่ที่นั่น ฮูลาแสดงละครหรือแสดงคำพูดในรูปแบบทัศนศิลป์

หลังจากทำความรู้จักประเภทของการเต้น ไปแล้ว ทาง Theasianparent ได้ทำการสร้าง Poll สำรวจ ว่าคุณพ่อคุณแม่ อยากพาลูกไปเรียนเต้นแนวไหนมากที่สุด อ้างอิงจากผลการสำรวจ พบว่า คุณพ่อ คุณแม่ สนใจพาลูกไปเรียน อันดับที่หนึ่ง คือ K-pop เค-ป๊อบ มากถึง 26 % รองลงมาคือ  การเต้น HipHop ฮิปฮ๊อป 16% และอันดับที่ สาม การเต้นแนวสตรีท 12%  อาจมีคำถามตามมาว่าแล้วควรเรียนที่ไหน วันนี้ทาง Theasianparent มีคำตอบค่ะ

บทความประกอบ :  เพลงใน tiktok ปี 2021 สุดฮิต มีเพลงที่ต้องนำไปเต้นบ้าง

รวม โรงเรียนสอนเต้น ในกทม 11 แห่ง

1.​​​​The Inner Studio

ประสบการณ์เรียนเต้นที่สนุก ได้รับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในการเรียนเต้นออนไลน์กับ INNER หลากหลาย ไร้ข้อจำกัด เมื่อเรียนจบ ประเมินผลและรับ  Certificate ทันที สัมผัสการ “เรียนเต้นส่วนตัว” เสมือนได้มาเรียนอยู่ใน The Inner Studio จริงๆ และ “ได้ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุด” ในการเรียนเต้นกับครูส่วนตัวของคุณ รวมทั้งยังเป็นโรงเรียนสอนเต้นเด็ก ที่กำลังมาแรงในขณะนี้

นอกจากนั้น สามารถวางแผนฝึกซ้อมเต้นที่บ้าน เมื่อไรก็ได้แบบ Online  และเรายังมี   ชุมชนนักเต้น ให้ได้เชื่อมต่อกับครูและเพื่อนร่วมคอร์ส เพื่อแชร์ไอเดียต่างๆ กันได้ สมัครเรียนออนไลน์ได้ 24 ชม. เรียนที่กทม หรือ ต่างจังหวัด ก็ได้

คอร์สเรียน: K-POP เต้นไสตล์เกาหลี , HIPHOP ฮิปฮอป , TikTok Hitz เพลงฮิตใน Tiktok

  • คอร์ส Unlimited Kid
  • ครบทุกรส! ทั้ง K-POP, HIPHOP, TikTok Hitz
  • แนวออกกำลังกายสาย K-POP Cover
  • คอร์สเรียนออนไลน์เจาะลึกแต่ละเพลง  เน้นเพลงดังK-POP

สาขา The Inner studio

  •  สตูดิโอ INNER สาขาเสนาเฟสท์ เจริญนคร

  • THE INNER STUDIOสาขาเอสพลานาด รัชดา

  •  INNER สาขาเกทเวย์ เอกมัย

ช่องทางติดต่อ

www.theinner.studio/

โรงเรียนสอนเต้นในกทม ผู้ใหญ่เรียนได้เด็กเรียนดี

 

2. Active dance Thailand ครูฟาง

“ครูฟาง” ประสบการณ์สอนเต้นมากกว่า 10 ปี

นักออกแบบท่าเต้น / เต้นศิลปิน / วิทยากรจิตอาสา

ด้วยสไตล์การสอนที่เป็นกันเองและเป็นมืออาชีพ ทำให้เป็นที่ยอมรับของผู้เรียน “ทุกเพศทุกวัย” คอร์ส ” K-POP ONLINE COURSE “

สไตล์การสอนเป็นแบบ STEP BY STEP ย่อยให้เข้าใจง่าย แบ่งพาทให้จำ เป็นอีกหนึ่ง โรงเรียนสอนเต้นเด็ก ที่เปิดการสอนสำหรับเด็กเล็กเช่นกัน

และยังรวมถึงผู้ใหญ่ที่ไม่มีพื้นฐาน หรือใช้กิจกรรมการเต้นในเวลาว่าง และที่สำคัญต้องสนุกและคลายเครียด แม้จะมีพื้นฐานมาไม่มาก ก็สามารถเรียนรู้ได้

คอร์สเรียน :Kpop เต้นสไตล์เกาหลี , Latin เต้นละติน , HIPHOP ฮิปฮอป

ช่องทางติดต่อ

หรือ ไอดีไลน์ @activedance

 

3.Harlem Shake Dance Studio

โรงเรียนสอนเต้นพิกัดตึก M Theatre ที่นี่มาสอนหลายแนวมากๆ และสำหรับใครที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อน ก็จะสอนตั้งแต่พื้นฐานให้ โดยความโดดเต้นของที่นี่จะเป็นเรื่องของสไตล์การเต้นของครูผู้สอนค่ะ ทั้งเก่งและมีความสามารถออกแบบท่าเต้นได้อย่างมากมาย เต้นได้ไม่จำกัดอายุ เพศ และน้ำหนักหรือส่วยสูง

 อัตราค่าเรียน 4,500 บาท สามารถเรียนได้ 8 ครั้ง โดยเรียนครั้งละ 1 ชั่วโมง 30 นาทีค่ะ เลือกได้ 1 คลาสเป็นคลาสเรียนต่อเนื่อง ขาดได้ไม่เกิน 2 ครั้ง และ ราคา 5,500 บาท สามารถเลือกเรียนได้ทุกคลาสที่เปิดสอนตามตารางในขณะนั้น มีค่าแรกเข้า 500 บาท หรือจะลองมาทดลองเรียนเป็นครั้งๆ ก็ได้  ราคาอยู่ที่ 700 บาทต่อครั้ง

คอร์สเรียน : Kpopg เต้นสไตล์เกาหลี , Latin เต้นละติน, HIPHOP ฮิปฮอป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

 www.harlemshakestudio.com/ , www.facebook.com/harlemshakes/

4.D Dance Thailand

โรงเรียนสอนเต้น D Dance มี 2 สาขาด้วยค่ะคือ D-Dance Scholl@RCA ซอยศูนย์วิจัย ถนนพระราม9 และ D-Dance School@SIAMSQUARE ชั้น 3 ร้านอาหารจุฑารส ตรงข้ามสยามซอย 1 โดยที่นี่จะได้เรียนกับ Choreographer ผู้ออกแบบท่าเต้นให้กับศิลปินในไทยมากมาย และมีสไตล์การเต้นหลากหลายให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Street Dance, Hiphop โรงเรียนสอนเต้นเด็ก คลาสสำหรับเด็ก และอื่นๆ

คอร์สเรียน :  เต้น Street Dance , เต้น Hiphop ฮิปฮอป ,Kpop เต้นเพลงเกาหลี

สอบถามรายละเอียเพิ่มเติมได้ที่ 

www.facebook.com/DDanceSchool/ , www.ddancethailand.com/th/

5.Groove Studio Bangkok

ถ้าอยากเดินทางง่ายๆ ติด BTS ราชเทวี และเปิดสอนในสไตล์  Street Hip-hop Jazz Funk Contemporary Popping Locking B-Boy ฯลฯ ส่งเสริมการเต้นเพราะได้พัฒนาทั้งสมองซีกซ้ายและขวา รวมถึงสุขภาพดีและมีสรีระร่างกายที่สมส่วน

การเต้นแบ่งเป็น 2 คอร์สเรียนหลักๆ คือ Walk-in และ UDO หรือหลักสูตรสตรีทแดนซ์ที่ได้รับการยอมรับในยุโรปค่ะ โ ดย Nackna ขอแนะนำสำหรับสาวๆ ที่เริ่มต้นกับคอร์สแบบ walk-in สำหรับใครที่ไม่ได้เป็นสมาชิกจะอยู่ที่ 450 ต่อ 1 ใบ (เป็นคูปองเข้าเรียน) ซื้อเป็นชุด 10 ใบจะอยู่ที่ 4,200 บาทค่ะ สำหรับคนที่จ่ายค่าสมาชิกแรกเข้า 500 บาท จะได้บัตรทดลองเรียนฟรี 2 ใบ และสิทธิ์ในการซื้อคูปองเรียนครั้งละ 350 ต่อ 1 ใบ หากซื้อ 10 ใบจะอยู่ที่ 3,200 บาท หากใครสนใจแบบ UDO

คอร์สเรียน : เต้น Street dance, Hip-hop เต้นฮิปฮอป, Jazz  เต้นแจส ,Funk Contemporary, Popping, Locking ,B-Boy

สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/groovestudiobangkok/ , www.groovestudiobangkok.com/

บทความประกอบ : ยิ่งเต้น ยิ่งฉลาด เรียนบัลเล่ต์ได้อะไร ลูกเรียนบัลเล่ต์ดีไหม ความรู้ของบัลเล่ต์!

6. Spopping Dance Studio

สำหรับคนที่อยากเต้นจริงจังให้ได้ฟิลแบบหนังดังอย่าง step up หรือแบบ dubstep ที่เอสป็อปปิ้งมีสอนให้ค่ะ โดยเปิดรับตั้งแต่อายุ 5 ขวบเลยทีเดียว และมีตั้งแต่ basic จนถึงขั้น Advance ทุกเพศทุกวัย มีทั้งสอนเดี่ยว แบบกลุ่มแล้วแต่จะเลือก มีรูปแบบหลากหลายเช่นกันมีทั้ง Hip-Hop,Popping,K-Pop,R&B Jazz Dance และอื่นๆ เป็นอีกหนึ่งสถานบันการสอนที่มีรางวัลการันตรีมากมาย

คอร์สเรียน:Hip-Hop,Popping,K-Pop,R&B Jazz Dance

สอบถามรายละเอียดตารางการสอนหรือค่าเรียนเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/spoppingschool/

7.Dance in Bangkok

อีกหนึ่งโรงเรียนสอนเต้นที่มีรางวัลการันตรีมากมาย สอนสไตล์การเต้นหลักๆ คือ Contemporary Dance, Ballet and Jazz Dance มีทั้งแบบสอนกลุ่มและสอนเดี่ยว มีสาขาอยู่ติด BTS พระโขนงทางออกหนึ่ง และ BTS ศาลาแดง, BTS อโศก, BTS พร้อมพงษ์

คอร์สเรียน:Contemporary Dance, Ballet and Jazz Dance

สามารถสอบถามข้อความเพิ่มเติมได้ที่ www.danceinbangkok.com/ , www.facebook.com/dance.in.bangkok/

8. Rumpuree world dance studio

กระแสK-pop วงการเพลงของเกาหลี

สตูดิโอนี้มีการสอนหลายแบบ และตั้งใจรวบรวมการเต้นหลากหลายแขนงบนโลกมาไว้ในที่เดียว Rumpuree ไม่ได้สอนเต้นอย่างเดียว แต่ยังสอนมารยาทของการเต้นชนิดนั้นๆ ด้วย มั่นใจได้ว่าสามารถนำไปใช้เต้นได้จริง โดย Zumba ก็เป็นคลาสยอดนิยมที่ต้องจองกันข้ามอาทิตย์เลยทีเดียว ที่นี่เปิดสอนทุกระดับ ตั้งแต่พื้นฐานเบื้องต้นยันออกแบบท่าเต้นเลยแหละ นอกจากนี้มีคลาสอื่นๆ อาทิ Pole Dance, Striptease, Hip Hop และระบำหน้าท้องก็มี

คอร์สเรียน: Zumba, Pole Dance, Striptease, Hip Hop และระบำหน้าท้อง

สามารถสอบถามข้อความเพิ่มเติมได้ที่ Amarin Plaza Studio ปทุมวัน โทร. 092-204-9655 BTS ชิดลม

Asok Studio อาคาร จัสมิน ซิตี้ ชั้น 2 สุขุมวิท 23 โทร. 092-204-9677 BTS อโศก

9. 911 by JT x StadiumOne

สตูดิโอที่เกิดจากแรงบันดาลใจจากคนที่ชอบออกกำลังกายอย่างนางเอกสาว เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ สตูดิโอคลาสเต้นสุดมันส์  จึงทำให้ 911byJT เป็นสตูดิโอสายเต้นสายคาร์ดิโอที่เต็มไปด้วยพลังและความแข็งแรง จากคนที่ไม่เคยเต้น

เมื่อมาที่นี่คุณอาจจะเปลี่ยนมุมมอง ในการออกกำลังกายไปเลยก็ได้  ที่ 911byJT x Stadium One คือสถานที่รวมคลาสเต้นที่มีมาตรฐานระดับสากล ทั้ง Zumba, Piloxing, Street Dance, Urbhanize, Pound, K-Pop Fitness นำสอนโดยครูผู้ สอนเต้น ชั้นนำและมากประสบการณ์ อย่างเช่น ครูหนุ่ม ซุมบ้า หรือ ครูกานต์  Piloxing เป็นต้น สามารถเลือกได้ตามความชอบของแต่ละคน

คอร์สเรียน:Zumba, Piloxing, Street Dance, Urbhanize, Pound, K-Pop Fitness

พิกัด : โครงการ Stadium One ชั้น 2 ตึก Active Box โทร. 095-756-9938

10.Studio ZOOM

สตูดิโอที่มีพื้นที่สำหรับนักเต้นเพื่อมาฝึกฝน รวมถึงให้เด็กๆ มาสนุกกันอาทิตย์ละครั้ง ที่นี่ยังเป็น โรงเรียนสอนเต้นเด็ก รับสอนเต้นตั้งแต่หนูน้อยอายุ 6 ขวบไปจนถึงผู้ใหญ่ มีคลาสเต้นหลากหลาย อาทิ Street Jazz, Contemporary Jazz, Ballet, Funky Dance, Hula Dance รวมถึง Zumba ที่เปิดสอนอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ครั้งละประมาณ 1 ชั่วโมง  ราคา : First Time Trials 200-400 บาท – 4 Trials Package 1,000 บาท 4 ครั้ง สมาชิก Community Class 350 บาท

คอร์สเรียน:Street Jazz, Contemporary Jazz, Ballet, Funky Dance, Hula Dance

 พิกัด : ชั้น G อาคารไบโอเฮาส์ สุขุมวิท 39 BTS พร้อมพงษ์ โทร. 02-260-0728

11.The Hop

แดนซ์สตูติโอการเต้นสวิงแดนซ์ คือ การเต้นเป็นคู่ในเพลงแจ๊ซที่มีจังหวะสวิง โดยมีท่าเต้นพื้นฐานหรือเบสิกสเต็ป 2-3 ท่า แต่ระหว่างที่เต้นสามารถคิดท่าใหม่หรืออิมโพรไวซ์ท่าได้เอง สวิงแดนซ์จึงเหมือนการเต้นที่ผสมผสานกันระหว่างการสร้างความสัมพันธ์ การออกกำลังกาย และเป็นทางเลือกของกิจกรรมยามว่างใหม่ให้กับคนที่ลุ่มหลงในจังหวะและหลงใหลในดนตรี

ทุกคืนวันเสาร์และอังคาร สตูดิโอแห่งนี้จะจัดชั้นเรียนสวิงแดนซ์สำหรับคนที่เพิ่งหัดเต้น ให้ได้เต้นอย่างสนุกสนานไปกับดนตรีแจ๊สยุค แม้แต่คนที่เพิ่งไปเรียนครั้งแรกก็สามารถเรียนรู้พื้นฐานของการเต้นสวิงได้ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง

คอร์สเรียน: Jazz

ราคา : 2,400 บาท ต่อคอร์ส เข้าร่วมครั้งแรกเสียค่าเข้า 200 บาท รวมเครื่องดื่ม

พิกัด : The Hop ชั้น 3 สีลม ซอย 20 ทุกวันอังคารและวันเสาร์ 2 ทุ่มเป็นต้นไป

โทร. 02-235-2653

ที่มา :  mamastory ,wikipedia

ร่วมทำแบบสำรวจ : คุณพ่อ คุณแม่ อยากพาลูกไปเรียนเต้นแนวไหนมากที่สุด?

บทความประกอบที่น่าสนใจอื่นๆ :

วิธีออกกำลังกาย 8 ประเภทที่ดีที่สุด สำหรับการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพดีระยะยาว

วิธีออกกำลังกายในช่วงวันนั้นของเดือน พร้อมวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมที่สุด

บทความโดย

Thippaya Trangtulakan