คุมกำเนิด แบบไหนดี วิธีคุมกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพ ที่วัยรุ่นควรรู้!

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุมกำเนิด แบบไหนดี ? เชื่อว่าเป็นคำถามที่สาว ๆ หลายคนสงสัย และอยากได้คำตอบที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ที่ยังไม่พร้อม ก่อนอื่นเราจะมาทำความเข้าใจในเรื่องของการคุมกำเนิดเบื้องต้น และแนะนำวิธีการคุมกำเนิดต่าง ๆ ที่มีในปัจจุบันนี้ รวมทั้งข้อควรระวังและสิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพื่อการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ

 

คุมกำเนิด แบบไหนดี

การคุมกำเนิด คือ การยับยั้งการปฏิสนธิของอสุจิและไข่ ไม่ให้เกิดเป็นตัวอ่อนฝังอยู่ในเยื่อบุโพรงมดลูก และช่วยทำลายไข่ที่มีการผสมแล้วและมีตัวอ่อนฝังอยู่ในเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งการคุมกำเนิดในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายวิธี แล้วการ คุมกำเนิด แบบไหนดี บทความนี้จะมาคลายข้อสงสัยและให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์สำหรับสาว ๆ กันค่ะ

 

 

ปัจจัยการเลือก วิธีคุมกำเนิด

การคุมกำเนิดนั้น ปัจจุบันมีหลากหลายวิธีการ และในแต่ละวิธีการนั้น ย่อมอาจเกิดผลข้างเคียงและความผิดปกติ หรือแม้แต่ผลพลอยได้ที่ตามมา ซึ่งการคุมกำเนิดในแต่ละวิธีการนั้น อาจให้เอฟเฟกต์ที่แตกต่างกันไป ฉะนั้นก่อนที่จะเลือกวิธีการคุมกำเนิด สาว ๆ ก็ควรที่จะวางแผนการเลือกวิธีคุมกำเนิดให้เหมาะสมกับร่างกาย พฤติกรรม  และความคาดหวังในอนาคตด้วย โดยมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ดังนี้

  • สุขภาพ และโรคประจำ
  • ผลข้างเคียงและความปลอดภัย
  • ความถี่ในการมีเพศสัมพันธ์ และคู่นอน
  • การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ร่วมด้วย
  • กลไกการคุมกำเนิดในแต่ละแบบ
  • สามารถปฏิบัติตามวิธีการคุมกำเนิดอย่างเคร่งครัดและตรงต่อเวลาได้หรือไม่
  • การมีลูกในอนาคต

ประเภทของการคุมกำเนิด

การคุมกำเนิดจำแนกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ด้วยกัน ดังนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

1) การคุมกำเนิดถาวร การคุมกำเนิดแบบถาวรนั้น จะเป็นวิธีการคุมกำเนิดโดยวิธีการทำหมันนั่นเอง ซึ่งจะสามารถทำได้ทั้งในเพศหญิง และเพศชาย ซึ่งวิธีนี้นิยมใช้กับคู่สามีภรรยาที่มีบุตรเพียงพอแล้ว ไม่ต้องการมีบุตรเพิ่มในอนาคตอีก หรือผู้ที่ไม่ต้องการจะมีบุตรอีกเลย

2) การคุมกำเนิดชั่วคราว การคุมกำเนิดแบบชั่วคราว จะเป็นการคุมกำเนิดแค่เฉพาะในช่วงระยะเวลาที่ต้องการคุมกำเนิดเท่านั้น และจะสามารถตั้งครรภ์ได้เมื่อยุติการคุมกำเนิดไปนั่นเอง สำหรับวิธีการคุมกำเนิดแบบชั่วคราวนั้น สามารถทำได้หลากหลายวิธี ได้แก่ ใช้ถุงยางอนามัย ทานยาเม็ดคุมกำเนิด ฝังยาคุม แผ่นแปะคุมกำเนิด และวงแหวนคุมกำเนิด ควรวางแผนและศึกษาการคุมกำเนิดแต่ละแบบอย่างละเอียด เพื่อเลือกวิธีการคุมกำเนิดอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่เหมาะสมกับตนเอง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

การทำหมันในเพศหญิง

การทำหมันในเพศหญิงนั้นจะเป็นการปิดท่อรังไข่ โดยจะป้องกันไม่ให้ไข่ไปถึงมดลูก และป้องกันไม่ให้ตัวอสุจิไปถึงไข่อีกด้วย หากไม่มีการปฏิสนธิของไข่ การตั้งครรภ์ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้นั่นเอง โดยวิธีการทำหมันในเพศหญิง จะมีด้วยกัน 2 แบบ ดังนี้

  • ทำหมันหลังคลอด (ทำหมันเปียก)

ช่วงเวลาหลังคลอดเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการทำหมันมาก เนื่องจากเป็นเวลาที่มดลูกอยู่สูงนั่นเอง ทำให้การผ่าตัดเป็นไปได้ง่าย โดยแพทย์จะทำการผูกและตัดท่อนำไข่ทั้ง 2 ข้าง ซึ่งการทำหมันเปียกนั้น จะทำในทันทีหลังคลอด หรือภายใน 24 – 48 ชั่วโมงหลังคลอด หรือในเวลาไม่เกิน 6 วันหลังคลอดนั่นเอง

  • ทำหมันในเวลาปกติ (ทำหมันแห้ง)

การทำหมันแห้งจะทำในเวลาปกติทั่วไปที่ไม่ได้มีการตั้งครรภ์ วิธีนี้จึงเหมาะกับสาว ๆ ที่ไม่ได้ท้องอยู่ หรือคุณแม่ที่ผ่านการคลอดบุตรมาแล้วเกิน  6 สัปดาห์นั่นเอง โดยวิธีการทำหมันแห้งนั้นจะค่อนข้างยากกว่าการทำหมันเปียก เนื่องจาก มดลูกอยู่ในอุ้งเชิงกราน ทำให้การหาท่อนำไข่นั้นยากขึ้น หากสาว ๆ ต้องการที่จะทำมันแห้ง ควรตรวจสุขภาพก่อนเข้ารับการทำหมัน

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การทำหมันในเพศชาย

การทำหมันในเพศชายนั้น สามารถคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงเช่นกัน และมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่าและทำได้ง่ายรวมทั้งไม่จำเป็นต้องพักฟื้นอีกด้วย โดยวิธีทำหมันในเพศชายนั้น แพทย์จะทำการตัด หรือผูกท่ออสุจิไว้ จึงทำให้ตัวอสุจินั้น ไม่สามารถที่จะลำเลียงไปสู่โพรงมดลูกได้ และในน้ำอสุจิจะไม่มีตัวอสุจิ จึงทำให้ไม่เกิดการปฏิสนธิขึ้นนั่นเอง แต่เพื่อความมั่นใจในการคุมกำเนิด หลังการทำหมันในเพศชายนั้น ควรที่จะใช้การป้องกันและคุมกำเนิดอย่างอื่นร่วมด้วยอย่างน้อย 3 เดือน

 

ข้อเสียของการทำหมัน

การทำหมัน จะไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก หากเกิดการเปลี่ยนใจอยากตั้งครรภ์ จะทำได้ยาก หรือไม่สามารถทำได้อีกเลย และหากหมันในเพศหญิงนั้นเกิดหลุด จะทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้สูง ซึ่งเป็นสิ่งที่จะส่งผลอันตรายต่อทั้งแม่ และลูกในครรภ์ได้นั่นเอง

สำหรับการทำหมันนั้น เป็นการคุมกำเนิดแบบถาวร โดยจะเหมาะกับคู่สามีภรรยาที่อยากยุติการมีลูก หรือเป็นกังวลสำหรับการตั้งครรภ์เมื่ออายุมากขึ้น อย่างไรก็ตามการคุมกำเนิดโดยการทำหมันนั้นจะไม่ส่งผลต่ออารมณ์ และความรู้สึกทางเพศแต่อย่างใด สามารถใช้ชีวิตคู่ได้อย่างมีความสุขเช่นเดิม

บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำหมันพร้อมผ่าคลอดเลยดีไหม ทำหมันแบบไหนเจ็บตัวน้อยสุด และฟื้นตัวได้เร็ว

 

 

การคุมกำเนิดโดยใช้ถุงยางอนามัย

การใช้ถุงยางอนามัยนั้นถือว่าค่อนข้างที่จะปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงหากใช้อย่างถูกวิธี และวิธีนี้ยังสามารถที่จะป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย  โดยการใช้ถุงยางอนามัยนั้นในปัจจุบันมีทั้งแบบของผู้หญิงและของผู้ชาย แต่สำหรับของผู้ชายนั้นจะค่อนข้างมีความปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าของผู้หญิง ซึ่งถุงยางอนามัยผู้หญิงนั้น เป็นนวัตกรรมที่ยังค่อนข้างใหม่ อาจต้องใช้เวลาในการฝึกฝน และทำความเข้าใจในการใช้งานก่อน วิธีการคุมกำเนิดโดยใช้ถุงยางอนามัยนั้น เป็นวิธีที่จะไม่ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอีกด้วย จึงไม่เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายของสาว ๆ

ข้อด้อย และข้อควรระวัง : ถุงยางอนามัยนั้น สามารถที่จะเกิดการฉีกขาดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ได้ ฉะนั้นควรสังเกตให้ดีหากมีเสียงดังคล้ายเสียงแตกของถุงยางอนามัยเกิดขึ้น ควรที่จะหยุดการมีเพศสัมพันธ์ทันที และเช็คถุงยางอนามัย หรือทุกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์ก็ควรเช็คถุงยางอนามัยเช่นกัน โดยการเปิดก๊อกน้ำใส่ในถุงยางอนามัย หากไม่มีน้ำหยดไหลหรือพุ่งออกมาจากถุงยางอนามัยก็ถือว่าปลอดภัย แต่ถ้าหากว่ามี ก็ควรใช้การคุมกำเนิดอย่างอื่นร่วมด้วยเช่นการกินยาคุมฉุกเฉินนั่นเอง

 

การคุมกำเนิดโดยใช้ ยาเม็ดคุมกำเนิด

ยาเม็ดคุมกำเนิดนั้น ถือเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพค่อนข้างสูงหากทานอย่างตรงเวลาเคร่งครัด และเป็นที่นิยมสำหรับสาว ๆ ซึ่งยาเม็ดคุมกำเนิดจะมีหลากหลายยี่ห้อและมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งเป็นฮอร์โมนรวม และฮอร์โมนเดี่ยว และมีแบบ 21 เม็ด หรือ 28 เม็ด ซึ่งสาว ๆ ควรไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับยาเม็ดคุมกำเนิดอย่างละเอียด หรือปรึกษาเภสัชกร  โดยในยาเม็ดคุมกำเนิดนั้นจะประกอบไปด้วยเอสโตรเจนและโปรเจสติน ซึ่งมีส่วนในการเกิดการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนได้ และอาจมีผลพลอยได้ที่ดีคือ รอบเดือนมาปกติอย่างสม่ำเสมอตรงตามวันเป๊ะ ๆ ช่วยในเรื่องสิว  และทำให้หน้าอกคัดตึง ทำให้ดูเหมือนว่าหน้าอกใหญ่ขึ้น และช่วย บรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือน  ช่วยให้ความหงุดหงิดในช่วงมีประจำเดือนนั้นน้อยลงได้นั่นเอง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ข้อด้อย และข้อควรระวัง : การทานยาเม็ดคุมกำเนิด จำเป็นต้องทานตรงตามเวลาอย่างเคร่งครัด เพราะหากทานยาไม่เป็นเวลา หรือลืมทาน จะทำให้เกิดความเสี่ยงสูงต่อการตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์  และวิธีการทานยาเม็ดคุมกำเนิดนั้นไม่สามารถที่จะป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ฉะนั้นหากใช้วิธีการทานยาเม็ดคุมกำเนิด ควรมีการคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยร่วมด้วยเพื่อเพิ่มความรัดกุมขึ้น 2 ชั้น และนอกจากนี้ยังส่งผลต่อฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งอาจมีเอฟเฟกต์แตกต่างกันไปในแต่ละคน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปริมาณฮอร์โมน และชนิดของยาคุมกำเนิด ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดอาการเวียนหัว อยากอาเจียน เหนื่อยง่าย หรืออ้วนขึ้นได้นั่นเอง และอาจส่งผลต่อปริมาณประจำเดือน ทำให้ประจำเดือนมากระปิดกระปอยได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีกินยาคุม คุณผู้หญิงควรกินยาคุมยังไง หรือกินตอนไหนบ้าง

 

 

การคุมกำเนิดโดยกิน ยาคุมฉุกเฉิน

ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาคุมกำเนิดที่ควรใช้ในเวลาที่ฉุกเฉินจริง ๆ เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันใด ๆ หรือ ถุงยางอนามัยแตกขณะมีเพศสัมพันธ์ หรือ กรณีการถูกล่วงละเมิดทางเพศ การทานยาคุมฉุกเฉินควรทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งทานเร็วเท่าไหร่ประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดก็จะยิ่งสูง ลักษณะยาคุมฉุกเฉินจะมีทั้งรูปแบบที่มี 2เม็ด และรูปแบบที่มี 1 เม็ด แล้วแต่ยี่ห้อ ควรปรึกษาเภสัชกรอย่างละเอียดก่อนรับประทาน

ข้อด้อย และข้อควรระวัง : ยาคุมฉุกเฉินนั้นควรรับประทาน เพียงแค่ที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ควรรับประทานบ่อยเด็ดขาดเพราะมีผลข้างเคียงสูง เป็นอันตรายต่อร่างกาย รวมทั้งหากเกิดการตั้งครรภ์และกินยาคุมฉุกเฉินนั้น มีความเป็นไปได้สูงที่จะตั้งครรภ์นอกมดลูก ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อทั้งคุณแม่และลูกในท้องได้

 

การคุมกำเนิดด้วย IUD หรือ ห่วงอนามัย

ห่วงอนามัย จะมีลักษณะเป็นรูปตัว T มีขนาด 2 – 3 เซนติเมตร โดยจะมีสองรูปแบบคือ ทองแดง และ ฮอร์โมน วิธีใช้ คือ แพทย์จะติดตั้งห่วงอนามัย ในมดลูก โดยจะมีกลไกในการขัดขวางการฝังตัว ของตัวอ่อน ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูง และไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ต่อร่างกาย และสามารถที่จะคุมกำเนิดในระยะยาวได้ถึง 3 – 10 ปี โดยช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการติดตั้ง IUD หรือ ห่วงอนามัยคือช่วงวันถัดจากวันสุดท้ายที่ประจำเดือนมานั่นเอง

ข้อด้อย และข้อควรระวัง : การติดตั้ง IUD หรือ ห่วงอนามัย ควรติดตั้งโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ไม่ควรที่จะติดตั้งเองเด็ดขาด และการใช้ห่วงอนามัยนี้ ไม่ควรใช้กับ ผู้ที่เป็นโรคมะเร็งปากมดลูก หรือมีสภาวะมดลูกอักเสบ อุ้งเชิงกรานอักเสบ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้

 

การฉีดยาคุม

การฉีดยาคุมกำเนิดนั้น เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง แต่จะอยู่ในช่วงระยะเวลาไม่นานมากซึ่งจะมีให้เลือกสองแบบคือ แบบ 1 เดือน และแบบ 3 เดือน โดยการฉีดยาคุมกำเนิดจะฉีดที่ต้นแขนหรือสะโพก ฮอร์โมนจะค่อย ๆ เข้าสู่กระแสเลือด และมีกลไกในการคุมกำเนิดคือ ตัวยาจะไปยับยั้งการตกไข่ และเกิดมูกเหนียวข้นบริเวณมดลูก ทำให้อสุจิไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ นั่นเอง

ข้อด้อย และข้อควรระวัง : การคุมกำเนิดด้วยการฉีดยาคุมนั้นจะส่งผลต่อความมาไม่ปกติของประจำเดือนหรือมีเลือดออกผิดปกติ และเมื่อยาครบตามอายุเวลา จะยังไม่สามารถมีลูกได้ทันที ต้องรอให้ฤทธิ์ยานั้นเสื่อมลง อาจใช้เวลาหลายเดือนได้นั่นเอง อย่างไรก็ตามหากมีความกังวลหรือข้อสงสัยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันทีเพื่อขอคำแนะนำและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา

 

การคุมกำเนิดด้วยการ ฝังยาคุม

การฝังยาคุมนั้นจะใช้ตัวยาที่มีลักษณะเป็นแท่งยางประมาณ 3 เซนติเมตรฝังลงไปใต้ผิวหนังบริเวณใต้ท้องแขนของเรา โดยแพทย์อาจจะใช้แบบ 2 แท่ง หรือ 1 แท่ง ฝังไปใต้ผิวหนังของเรา ซึ่งการฝังยาคุมนั้นมีประสิทธิภาพที่สูงและออกฤทธิ์ได้นาน 3 – 5 ปี มีกลไกในการช่วยยับยั้งการตกไข่ และทำให้ไม่พร้อมต่อการปฏิสนธิได้นั่นเอง หากต้องการวางแผนที่จะมีบุตร ก็สามารถไปให้แพทย์เอาออกได้

ข้อด้อย และข้อควรระวัง : วิธีการฝังยาคุมนั้น ฟังแล้วค่อนข้างที่จะน่าหวาดเสียว แต่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดที่สูงและออกฤทธิ์นาน ในบางรายอาจมีผลกระทบต่อการมาของประจำเดือน บางท่านอาจมีประจำเดือนกระปิดกระปอย หรืออาจไม่มีประจำเดือนมาอีกเลย จนกว่าจะเอายาออก หรือยาหมดฤทธิ์

บทความที่เกี่ยวข้อง : ฝังยาคุม กับ กินยาคุม ต่างกันอย่างไร ? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง

 

การใช้แปะแผ่นคุมกำเนิด

การแปะแผ่นยาคุมนั้นเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ง่ายมาก ๆ โดยตัวยาจะมีลักษณะเป็นแผ่น มีฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน โดยจะแปะที่บริเวณสะโพก หน้าท้อง ต้นแขน หรือบริเวณหลัง ตัวยาจะค่อย ๆ ซึมเข้าสู่กระแสเลือดภายในสี่สิบแปดชั่วโมงซึ่งจะ มีกลไกในการ คุมกำเนิดโดยการยับยั้งการตกไข่ สร้างเมื่อบริเวณมดลูกทำให้ตัวอสุจินั้นไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ และทำให้มดลูกบางลงเพื่อลดการ ฝังตัวของตัวอ่อน ได้นั่นเอง และสามารถที่จะออกฤทธิ์ได้นาน

ข้อด้อย และข้อควรระวัง : ไม่ควรที่จะใช้แผ่นแปะแผ่นคุมกำเนิดในระยะเวลายาวนาน เพราะอาจส่งผลข้างเคียงได้ และไม่ควรใช้กับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 90 กิโลกรัม มีโรคเบาหวาน โรคตับ หรือผู้ที่สูบบุหรี่จัด มีความดันโลหิตสูง มีประวัติเป็นโรคหัวใจ มะเร็งเต้านม และมีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด

 

การใช้วงแหวนคุมกำเนิด

สำหรับแหวนคุมกำเนิดนั้นจะมีลักษณะเป็นพลาสติกวงแหวนใส มีความยืดหยุ่น ไม่ละลาย วิธีใช้คือใส่เข้าไปในช่อง คลอด โดยจะเริ่มใส่ในวันแรกที่ประจำเดือนมานับไป 21 วัน แล้วจึงถอดออกเจ็ดวัน และใส่เข้าไปใหม่ ซึ่งมีวิธีการนับวันที่คล้ายกับการทานยาเม็ดคุมกำเนิด แต่เปลี่ยนเป็นการสอดใส่วงแหวนในช่องคลอดแทน ซึ่งกลไกของวงแหวนคุมกำเนิดนี้ ตัววงแหวนจะบรรจุฮอร์โมน เอสโตรเจนและโปรเจสติน โดยจะช่วยยับยั้งการตกไข่ สร้างมูกเหนียว ๆ เพื่อป้องกันการผ่านของอสุจิ เป็นอีกวิธีการป้องกัน การตั้งครรภ์ ที่ง่ายและสะดวก

ข้อด้อย และข้อควรระวัง : สำหรับการใช้วงแหวนคุมกำเนิดนี้จะมีผลข้างเคียงทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะอยากอาเจียนเกิดขึ้นได้ และไม่เหมาะกับผู้ที่ มีอาการปวดไมเกรน เสี่ยงหลอดเลือดอุดตัน โรคอ้วน เบาหวาน ความดัน และตัวยาบางชนิด จะส่งผลต่อการยับยั้งการใช้วงแหวนคุมกำเนิดได้อีกด้วย ฉะนั้นแล้วควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้วงแหวนคุมกำเนิด

 

 

การ คุมกำเนิด วิธีไหนดี นั้น อาจจะตอบได้ไม่ตายตัว เพราะการคุมกำเนิดแต่ละแบบ อาจจะเหมาะหรือไม่เหมาะกับบริบทการใช้ชีวิตของแต่ละคน เพราะแต่ละคนนั้นย่อมมีปัจจัยแตกต่างกันไป เช่นโรคประจำตัว หรือความขี้ลืมก็ตาม หากให้บอกว่าการ คุมกำเนิด วิธีไหนดี นั้น คงจะต้องตอบว่า คือการคุมกำหนัดนั่นเอง ซึ่งการที่ไม่มีเพศสัมพันธ์ก็ถือเป็นการคุมกำเนิดที่ดีที่สุด แต่เราก็เข้าใจว่าการมีเพศสัมพันธ์เป็นเรื่องธรรมชาติ และเป็นกลไกของร่างกายมนุษย์ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ และควบคุมอารมณ์ได้ยาก ฉะนั้น การคุมกำเนิดด้วยวิธีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการคุมกำเนิดถาวรหรือชั่วคราวก็ตาม จะทำให้เรานั้น ป้องกันการตั้งครรภ์ ขณะที่ยังไม่พร้อมได้ และสามารถที่จะป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

หากต้องการที่จะคุมกำเนิด หรือป้องกันการตั้งครรภ์นั้น ควรเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง ที่สาว ๆ สะดวก และมั่นใจในประสิทธิภาพ สอดคล้องกับความต้องการ และการใช้ชีวิตประจำวัน พฤติกรรมนิสัยและส่วนตัวต่าง ๆ และก่อนที่จะเลือกใช้การคุมกำเนิด โดยวิธีใดก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกร หรือศึกษาหาข้อมูลอย่างละเอียดให้ดีก่อน เพื่อที่จะได้เข้าใจถึงวิธีการคุมกำเนิดอย่างถูกต้อง

 

 

บทความที่น่าสนใจ :

กินยาคุมกำเนิดมานานจะท้องได้หรือไม่ หยุดกินยาคุมจะท้องไหม กับความเชื่อผิด ๆ

ยาคุมกำเนิด กินยังไง ลืมกินยาคุม 2 วัน ทำไงดี คุมกำเนิดแบบไหนดีที่สุด

ทำอย่างไรดี ยังไม่พร้อมมีลูก ?? สารพัดวิธีคุมกำเนิด ที่ช่วยคุณได้

ที่มา : doctorraksa.com, si.mahidol.ac.th , health.gld.gov.au

บทความโดย

Yanapat Buranasappasit