หลังจากที่มีการสร้างกลุ่ม “ย้ายประเทศกันเถอะ” จนมีการเปลี่ยนชื่อมาเป็น “โยกย้ายส่ายสะโพกโยกย้าย” ทำให้เกิดกระแสการหาช่องทางเรียนต่อ และช่องทางการทำงานในต่างประเทศกันอย่างมากมาย เพื่อหวังจะได้ย้าย และได้ทำงานที่สามารถสร้างรายได้ที่ดียิ่งกว่าและ อาชีพสร้างรายได้ดี รับเก็บกวาดบ้านคนที่ตาย ในประเทศญี่ปุ่น ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพ ที่มีการพูดถึงกันอย่างมาก ว่าเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่สามารถสร้างรายได้ที่สูงในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
อาชีพสร้างรายได้ดี และมีค่าตอบแทนที่สูง ย่อมมีแต่คนจ้องอยากที่จะไปทำ หากแต่ ถ้าคุณจำเป็นจะต้องไปเก็บกวาดบ้านที่มีประวัติคนเสียชีวิต และนอนตายเพียงลำพังในบ้าน คุณอาจจะขอเปลี่ยนใจ และเลือกที่จะไปทำงานอื่น ที่มีค่าตอบแทนน้อยกว่าก็เป็นได้ แล้วทำไมจึงต้องเกิดอาชีพนี้เกิดขึ้นในสังคมประเทศญี่ปุ่นกันล่ะ
อาชีพเก็บกวาดบ้านคนที่ตาย
เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นเป็นสังคมเมืองที่มีความแข่งขันกันสูงมาก ท่ามกลางความวุ่นวายของการทำงาน ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด และเศรษฐกิจที่ต้องแข่งขันกับหลาย ๆ ประเทศ ทำให้เกิดช่องว่างทางสังคมซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ จนส่งผลให้ผู้คนจำนวนมาก ถูกกลืนกินด้วยภาวะ “ความเหงา และความโดดเดี่ยว” จนสุดท้ายหลายคน ต้องจบชีวิตเพียงลำพังในห้องพัก บ้านพักของตัวเอง โดยไม่มีใครรับรู้ จนทำให้เกิดอาชีพรับจ้างเก็บกวาดบ้านคนที่ตาย
อาชีพแปลก แต่มีรายได้ที่สูงจนน่าประหลาด
นายฮิโรสึกุ มาสุดะ (Hirotsugu Masuda) ผู้บริหารของบริษัทรับทำความสะอาดบ้านที่มี่คนตาย ได้กล่าวว่า ในปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่น ค้นพบว่า มีการตายเพียงลำพังอยู่ในบ้าน เป็นจำนวนมากถึง 40,000 คนต่อปี เนื่องจากสภาพความเป็นอยู่ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก จึงทำให้หลายคน เริ่มที่จะไม่มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างที่ควรจะเป็น อีกทั้งโรค “ละเลยตนเอง” ก็มีให้พบเห็นอย่างมากในสังคมญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน
โคจิมะ มิยู (Kojima Miyu) สาวน้อยวัย 24 ปี หญิงสาวหนึ่งเดียวในทีมทำความสะอาด (รูปภาพจาก : type.jp)
โคจิมะ มิยู (Kojima Miyu) สาวน้อยวัย 24 ปี ที่ทำงานด้านนี้ ได้กล่าวถึงการรับทำความสะอาดบ้าน หลังจากที่มีการเคลื่อนย้ายศพออกไปแล้วว่า เธอจะมีการทำงานเป็นทีมประมาณ 2 – 5 คน โดยจะเริ่มจากการเก็บขยะ ทำความสะอาดร่องรอยของเลือด หรือน้ำเหลือง หรือซากต่าง ๆ ที่เกิดจากศพ รวมถึงการขับรถนำขยะไปทิ้ง รวมถึงพูดคุยกับญาติของผู้ตาย (ถ้ามี)
การทำงานของเธอ จะเริ่มตั้งแต่ 09:30 น. จนถึงประมาณ 14:00 หรือ 15:00 น. โดยที่พวกเธอจะไม่หยุดพักทานข้าว แต่จะทำงานต่อเนื่องจนกว่าจะเสร็จเลยค่ะ ซึ่งเธอจะได้รับค่าตอบแทนต่อครั้ง ประมาณ 3,000 – 5,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 100,000 – 160,000 บาทไทย นั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นค่าตอบแทนที่สูง สำหรับการทำงาน
โดยมิยูยังกล่าวอีกว่า การทำงานของเธอนั้น จะทำงาน 8 ชั่วโมงต่อวัน และสามารถหยุดพักได้ 1 – 2 วันต่อสัปดาห์ แม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงคนเดียวในออฟฟิศที่ทำงานลักษณะนี้ แต่งานนี้ ก็ทำให้เธอสามารถมีเงินเก็บมากพอที่จะอยู่อาศัยเพียงลำพัง และทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เธอชื่นชอบ รวมถึงเธอยังสามารถเก็บเงินสำรองไว้ได้อีกด้วย
กำเนิดของอาชีพทำความสะอาดบ้านคนตายคือ?
มันน่าเหลือเชื่อที่อาชีพการทำความสะอาดบ้านคนตาย เป็นที่ได้รับความสนใจจากคนมากมายในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากในแต่ละปี จะพบว่า มีผู้คน ต้องแยกออกมาอยู่ หรือถูกให้อยู่เพียงลำพัง เพียงเพราะปัญหาของการเข้ากันไม่ได้
หน้าที่หลักคือการเก็บขยะ และทำความสะอาดทุกอย่างให้ไม่เหลือแม้แต่กลิ่นคาวของเลือด (รูปภาพจาก : type.jp)
เช่น พ่อมักจะชอบบ่นลูก ๆ และบังคับให้พวกเขาเหล่านั้นทำตามตนเองอยู่เสมอ จนทำให้ลูก ๆ เริ่มเอือมระอา และต่างก็หาทางแยกย้ายหนีหายไปอยู่ต่างบ้าน ต่างเมือง อาจจะด้วยหน้าที่การงาน หรืออะไรก็แล้วแต่ แต่สุดท้ายก็ปล่อยให้ผู้เป็นพ่อต้องอยู่อย่างเดียวดายในที่สุด
บางคนเป็นโรคกลัวการเผชิญโลกภายนอก อาจจะด้วยความผิดหวัง หรือพบเจอกับประสบการณ์ที่ผิดหวัง จนทำให้ตัวเองกลัวการออกไปพบเจอโลกภายนอก ก็จะพยายามเลี่ยงที่จะเก็บตัวอยู่แต่กับบ้าน บางคนมีครอบครัว มีพ่อแม่คอยหาอาหารให้ก็ยังโชคดีไป บางคนไม่มีใครดูแลเลย คนที่เป็นโรคนี้ ก็ยอมที่จะอดตาย แต่ไม่ยอมที่จะพาตัวเองออกจากบ้านเพื่อไปซื้ออาหารทานก็มี
หลายคนอยู่รวมกันเป็นครอบครัว แต่แยกกันอยู่แบบห้องใครห้องมัน ไม่มีการสื่อสารพูดคุยกัน ต่างคนก็ต่างใช้ชีวิต กว่าจะรู้อีกที ก็คือได้กลิ่นเหม็นเน่า จนทำให้ทราบว่า คนในครอบครัวของตัวเองนั้น ได้เสียชีวิตอยู่ภายในห้องเป็นแรมเดือนก็มี เช่นกัน
เมื่อเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ จึงทำให้อาชีพนี้ มีความสำคัญ เพราะหลังจากมีการเคลื่อนย้ายศพออกไปแล้วนั้น ซากสิ่งของที่อยู่ในบ้าน ก็ยังเป็นอุปสรรคให้กับผู้ที่ยังคงต้องอาศัยอยู่ในบ้าน หรือบริเวณรอบข้างนั่นเอง
แม้เป็นงานที่มีผลตอบแทนสูง แต่ก็มักจะได้พบ ได้ฟังเรื่องที่สะเทือนใจอยู่เสมอ (รูปภาพจาก : type.jp)
ปัญหาที่ค้นพบจากอาชีพนี้?
นอกจากปัญหาทางด้านสังคม ครอบครัวที่เกิดขึ้นกับผู้ที่เสียชีวิตแล้วนั้น ยังค้นพบว่า โดยมาก ผู้ที่เสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยว มักจะมีภาวะแทรกซ้อนทางจิตร่วมอยู่ด้วย เช่นการป่วยด้วยโรค “ละเลยตนเอง” ป่วยด้วย “ความโดดเดี่ยว” อาการป่วยจากโรค “หวงของ” หรือแม้กระทั่งอาการป่วยจากการตัดขาดจากสังคม ซึ่งพบว่า มีผู้ที่ป่วยโรคนี้อยู่เป็นจำนวนมาก และผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้ มักจะใช้ชีวิต และจากโลกใบนี้ไปอย่างโดดเดี่ยวภายในห้องที่เป็นโรคทั้งใบของเขาเหล่านั้น
และปัญหา กับโรคลักษณะนี้ เราก็ยังหวัง ไม่เกิดขึ้นมากในประเทศไทย อาจจะด้วยสังคมเรา ที่ยังสามารถพูดคุยได้ง่าย ยังนิยมที่จะอยู่กันแบบครอบครัว ซึ่งอีกหนึ่งโรคที่เริ่มมีมากขึ้น และพบเห็นอยู่บ่อยครั้งในประเทศไทย และใกล้เคียงกับโรคต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่นดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้นก็คือ ภาวะโรคซึมเศร้า และพวกเราเอง ก็คงไม่อยากเกิดอาชีพนี้ในประเทศซักเท่าไหร่ เพราะมันสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาของสังคม ที่ควรจะได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนเท่าที่จะทำได้นั่นเอง
ที่มา : aljazeera.com , type.jp
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แค่เศร้า หรือเข้าข่ายเป็น “โรคซึมเศร้า” โรคซึมเศร้าในวัยรุ่น
แม่สมัยนี้ โดดเดี่ยวขึ้น แถมมีปัญหาการเลี้ยงลูกมากกว่าแม่ยุคก่อน
ขู่ลูกมากระวังลูกเป็นเด็กขี้กลัว ระวังให้ดีการขู่ลูกอาจจะทำให้ลูกเก็บตัว
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!