X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

10 ลักษณะที่ทำให้ลูกโตช้า ตัวไม่โต ขาดโปรตีน พ่อแม่ควรทำอย่างไร ?

บทความ 5 นาที
10 ลักษณะที่ทำให้ลูกโตช้า ตัวไม่โต ขาดโปรตีน พ่อแม่ควรทำอย่างไร ?

คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนคงเป็นกังวลกันอยู่ใช่ไหม? ว่าทำไมลูกน้อยถึงโตช้า ตัวโตไม่ทันเพื่อน เป็นเพราะอะไร วันนี้ทางเราเลยเอา  10 ลักษณะที่ทำให้ลูกโตช้า ตัวไม่โต ตัวโตไม่ทันเพื่อน มาให้ได้ดูกัน คุณพ่อคุณแม่คนไหนกำลังสงสัยว่าลูกจะมีลักษณะโตช้าหรือเปล่า มาดูกันเลย ว่าจะมีลักษณะแบบไหนบ้าง

 

10 ลักษณะที่ทำให้ลูกโตช้า ตัวไม่โต เป็นเพราะอะไร

เราทุกคนต่างตระหนักกันดีอยู่แล้วว่า ไม่ใช่เด็กทุกคนที่เติบโตในอัตราที่เท่ากัน บางคนเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่เด็กบางคนอาจจะเติบโตช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกันอาจดูเหมือนต่างกันโดยสิ้นเชิง เช่น ส่วนสูงหรือน้ำหนัก เพราะเมื่อเป็นเรื่องของการเจริญเติบโตของเด็ก หลาย ๆ อย่างย่อมมีบทบาทสำคัญและส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กทั้งนั้น การเติบโตที่ช้าหรือเร็วกว่าอาจเป็นกรรมพันธุ์ที่เด็กได้รับจากพ่อแม่ก็ได้ ตัวอย่างเช่น เด็กบางคนอาจเตี้ยหรือผอมเพราะพ่อแม่เตี้ยหรือผอม ทั้งนี้ นิสัยการกินก็ยังส่งผลต่อการเติบโตเช่นกัน เด็กที่รับประทานอาหารได้ไม่ดีหรือขาดสารอาหารจะเติบโตช้าลง

สิ่งใดก็ตามที่จำกัดการเจริญเติบโตตามปกติของเด็กถือเป็นความผิดปกติของการเจริญเติบโต สำหรับผู้ปกครองสิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความผิดปกติของการเจริญเติบโตเหล่านี้โดยการวัดการเติบโตของลูกเป็นระยะ ๆ เพื่อให้รู้ว่ามีอะไรผิดปกติกับพวกเขาและสามารถดำเนินการป้องกันได้ทันที ทั้งการเจริญเติบโตช้าและเร็วขึ้นนั้นไม่ดีสำหรับเด็ก และหากคุณไม่ทราบสาเหตุเบื้องหลัง คุณจะพบว่าเป็นการยากที่จะแก้ไข ต่อไปนี้คือปัจจัยที่พบบ่อยที่สุด 10 ประการที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็กมากที่สุด

บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีวัดการเจริญเติบโตของทารก ชั่งน้ำหนักทารก วัดความยาวทารก วัดเส้นรอบศีรษะลูก

 

ลักษณะที่ทำให้ลูกโตช้า

1. ลูกขาดสารอาหาร หรือขาดโภชนาการที่ดี

Advertisement

พ่อแม่หลาย ๆ คนอาจจะตามใจลูกอยู่โดยที่ลูกอยากกินอะไรก็ให้กิน แต่บางครั้งสารอาหารที่ลูกได้รับอาจจะไม่ครบถ้วนหรือน้อยจนเกินไป ทำให้ส่งผลกระทบได้โดยตรงต่อน้ำหนักตัวของลูก นอกจากนี้ ในกรณีที่เป็นเด็กโตหรือวัยรุ่นอาจจะเกิดจากการรับประทานแคลอรีที่ไม่เพียงพอ หรืออาจจะเกิดจากปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น  anorexia nervosa ( โรคความผิดปกติของการกิน ) เป็นต้น

 

2. ลูกได้รับแคลอรีที่ไม่เพียงพอ

ที่พบได้บ่อย ๆ สำหรับปัญหาเรื่องน้ำหนักของลูกน้อยไม่ยอมขึ้น หรือตัวไม่โตเหมือนเด็กคนอื่น ๆ ซึ่งเกิดจากการที่ลูกนั้นได้รับแคลอรีที่ไม่เพียงพอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถที่จะเกิดขึ้นได้เมื่อลูกของเราไม่สนใจที่จะกินอาหารจากสาเหตุหลายประการ หรือผู้ปกครองไม่เข้าใจว่าเด็กต้องการแคลอรีเท่าไรต่อวัน นอกจากนี้ยังสามารถที่จะเกิดขึ้นได้กับเด็กวัยหัดเดินที่กระฉับกระเฉงและปกติดี แต่ไม่สนใจที่จะกินหรือกินน้อย ส่วนทารกในวัย 2 – 3 เดือนแรก ที่น้ำหนักไม่ขึ้นหรือขึ้นมาน้อยอาจจะเป็นเพราะว่าน้ำนมของแม่นั้นไม่เพียงพอ หรือสูตรนมผงไม่ถูกต้อง และไม่เหมาะกับลูก

 

3. ลูกอาเจียนบ่อยจนเกินไป

การอาเจียนบ่อยจนเกินไปบางครั้งอาจจะทำให้เด็กไม่สามารถที่จะเก็บกักสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตเอาไว้ได้ เนื่องจากถ้ามีการอาเจียนมากจนเกินไปซึ่งเป็นสาเหตุการเกิดได้จากโรคกรดไหลย้อนรุนแรง หรือปัญหาทางระบบประสาทบางอย่างซึ่งอาจจะทำให้เกิดความผิดปกติอื่น ๆ ได้หลากหลายที่เกี่ยวกับการรับประทานอาหาร

ทารกส่วนใหญ่ที่มีอาการของกรดไหลย้อนที่ไม่รุนแรง อาจมีแนวโน้มที่อาการจะดีขึ้นและหายไปเองได้ซึ่งไม่ส่งผลต่อการเจริญเติบโต แต่โดยทั่วไปทารกที่มีอาการอาเจียนมากจนเกินไป อาจเกิดได้จากช่องทางออกของกระเพาะอาหารที่ตีบลง ซึ่งเรียกว่า (Pyloric Stenosis) ซึ่งถือเป็นความพิการแต่กำเนิด และต้องมีการประเมินพิเศษซึ่งรวมถึงอัลตราซาวนด์ช่องท้อง

 

4. ลูกมีความผิดปกติทางพันธุกรรม

โรคที่เกิดจากความผิดปกติของพันธุกรรม หรือเกิดขึ้นในโครโมโซม ซึ่งสามารถที่จะถ่ายทอดภายในครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นได้ และก่อให้เกิดความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด ซึ่งความผิดปกติทางพันธุกรรมอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยได้เช่นกัน

5. ลูกมีปัญหาทางช่องปาก หรือระบบประสาท

เมื่อลูกมีปัญหาทางช่องปาก หรือระบบประสาท อาจจะทำให้ลูกรับประทานอาหารได้ไม่ดี ปัญหาดังกล่าวอาจจะส่งผลต่อความสามารถในการกลืนซึ่งอาจเกิดจากภาวะต่างๆ เช่น สมองพิการ หรือเพดานโหว่ ซึ่งจำเป็นต้องให้แพทย์ทำการวินิจฉัยเพื่อให้การรักษาได้อย่างเหมาะสม

 

6. ลูกมีความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร

เมื่อลูกมีความผิดปกติของทางเดินอาหารจะส่งผลต่อเยื่อบุลำไส้ หรือมีความเจ็บปวดด้วยโรคในกลุ่ม โรคลำไส้อักเสบที่ส่งผลต่อระบบทางเดินอาหาร ผู้ป่วยมักที่จะมีอาการปวดท้อง หรือท้องร่วง เช่น Crohn’s disease ( โรคโครห์น ) เป็นต้น

 

7. ลูกความผิดปกติของตับอ่อน

ลูกที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับตับอ่อนจะไม่สามารถย่อยอาหารได้ง่ายเหมือนกันเด็กทั่วไป ซึ่งอาจทำให้น้ำหนักตัวของลูกน้อยไม่ขึ้นได้เช่นกัน ในสถานการณ์นี้เด็กอาจจะมีอุจจาระขนาดใหญ่ เป็นฟอง และมีกลิ่นเหม็น ซึ่งเมื่อลูกมีอาการเช่นนี้ควรได้รักการวินิจฉัยจากแพทย์เพื่อที่จะรับการรักษาอย่างถูกวิธี และเหมาะสมต่อไป

 

8. ลูกมีปัญหาของต่อมไทรอยด์ และเมตาบอลิซึม

มีปัญหาของต่อมไทรอยด์และเมตาบอลิซึม ในบางสถานการณ์ร่างกายของเด็กอาจมีการเผาผลาญแคลอรีที่มากจนเกินไป ซึ่งทำให้เกิดปัญหาความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ที่อยู่บริเวณส่วนหน้าของคอ ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในเรื่องของการผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ที่จะช่วยในเรื่องการควบคุมระบบเมตาบอลิซึม หรือการเผาผลาญพลังงานของร่างกายนั้นเอง

 

9. ลูกมีความผิดปกติของไต

เมื่อลูกมีความผิดปกติของภาวะไตวาย หรือความผิดปกติอื่น ๆ ของไต จะมีส่วนที่ส่งผลต่อการเพิ่มของน้ำหนัก และส่วนสูงของลูกด้วย แต่เป็นสาเหตุที่พบได้ยาก หรือไม่บ่อย

 

10. ลูกมีโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด

เด็กที่มีอาการป่วยเป็นโรคหัวใจตั้งแต่กำเนิดอาจจะมีอาการ เบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อย และมีอาการอาเจียนบ่อย ซึ่งเป็นสาเหตุที่เกิดขึ้นได้จากภาวะหัวใจล้มเหลว ภาวะเขียว และผลข้างเคียงของยาในการรักษาได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : สารอาหารเด็กเล็ก อาหารที่เหมาะสมกับวัยทารก 1-3 ปี ลูกต้องการสารอาหารอะไรบ้าง

 

ตารางการเติบโตของลูก

ตารางอัตราการเพิ่มความสูงของเด็กชายและเด็กหญิงในแต่ละวัย

อายุ ความสูง
แรกเกิด – 1 ปี ประมาณ 25 เซนติเมตร/ปี
1 – 2 ปี ประมาณ 12 เซนติเมตร/ปี
2 – 3 ปี ประมาณ 7 เซนติเมตร/ปี
4 ปี – ช่วงก่อนเข้าวัยรุ่น ประมาณ 5 – 7 เซนติเมตร/ปี
เด็กหญิง > 8 ปี ประมาณ 8 – 10 เซนติเมตร/ปี
เด็กชาย > 9 ปี ประมาณ 10 – 12 เซนติเมตร/ปี

 

ตารางการวัดว่าเด็กมีน้ำหนักปกติหรือไม่

อายุ น้ำหนัก
แรกเกิด ประมาณ 3 กิโลกรัม
4-5 เดือน ประมาณ 4-5 กิโลกรัม
1 ปี ประมาณ 9 กิโลกรัม
2 ปี ประมาณ 12 กิโลกรัม
2-5 ปี ประมาณ 2.3-2.5 กิโลกรัม/ปี

 

บทความจากพันธมิตร
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่

ลักษณะที่ทำให้ลูกโตช้า

 

คำแนะนำเรื่องอาหารเมื่อลูกมีน้ำหนักน้อยหรือโตช้า

1. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

อาหารกับการเจริญเติบโต การเลือกกินที่เหมาะสมมีส่วนสำคัญต่อารเจริญเติบโตของลูกน้อย แถมยังช่วยให้ลูก ๆ ของเรามีสุขที่ดีอีกด้วย ลักษณะอาหารที่ควรให้เด็ก ๆ ได้ทานคือ

  • ควรให้เด็กรับประทานให้ครบ 5 หมู่ คือข้าว แป้ง เนื้อสัตว์และนม ไขมัน ผักและผลไม้ อย่างสมดุล
  • ควรให้ลูกรับประทานอาหารประเภทผัก และผลไม้ เป็นประจำเพื่อให้ได้ใยอาหาร
  • ให้ลูกดื่มนมวันละ 2-3 แก้ว เพื่อให้ได้แคลเซียมเพียงพอต่อร่างกาย
  • รับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงเป็นประจำเช่น ตับ เนื้อสัตว์ ไข่แดง ผักใบเขียว
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่มันมากเกินไป เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ
  • ไม่ควรกินอาหารรสหวานจัดและอาหารประเภทน้ำตาลมากจนเกินไป
  • ควรจำกัดอาหารพวกน้ำอัดลม และของขบเคี้ยวเช่น ขนมหวาน ขนมกรุบกรอบ

 

2. ไม่ให้นมลูกมากจนเกินไป

เมื่อลูกอายุเกิน 1 ปี ควรให้ลูกรับประทานข้าวเป็นอาหารหลักวันละ 3 มื้อ ส่วนนมจะเป็นอาหารเสริมเท่านั้น คุณควรที่จะลดปริมาณลงเหลือวันละ 3 -4 มื้อ และควรให้นมหลังอาหารเท่านั้น

 

3. ให้ลูกงดอาหารหรือขนมจุบจิบระหว่างมื้อ

ให้ลูกงดอาหารหรือขนมจุบจิบระหว่างมื้อ เพราะเมื่อลูกอายุเกิน 1 ปี ควรให้ลูกรับประทานข้าวเป็นอาหารหลัก ไม่ควรให้ลูกรับประทานขนมกรุบกรอบ ลูกอมทอฟฟี่ มากจนเกินไปเพราะจะทำให้ลูกอิ่มและรับประทานอาหารได้น้อยลง หากว่าจะให้ลูกทานหรือลูกร้อนทานจริง ๆ คุณควรให้ลูกกินหลังอาหารจะดีกว่า

 

4. ปรับเปลี่ยนเมนูอาหารให้บ่อย ไม่ซ้ำกันนานเกินไป

ปรับเปลี่ยนลักษณะเมนูอาหารให้แตกต่าง ไม่ควรรับประทานเมนูซ้ำๆ บ่อยๆ เด็กอาจเบื่อ ทำให้ปฏิเสธอาหารได้

 

5. ให้ลูกนอนให้เพียงพอ

ควรให้ลูกนอนหลับพักผ่อนวันละ 8 – 10 ชั่วโมง การที่ลูกนอนดึกหรือนอนไม่เพียงพอจะทำให้การเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่และในช่วงเวลาการนอนตั้งแต่เวลา 22.00-02.00 น. เป็นช่วงที่ร่างกายมีการหลั่ง growth hormone ซึ่งช่วยในการเจริญเติบโตของเด็ก

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เด็กนมแม่น้ำหนักน้อย ลูกเป็นเด็กนมแม่ล้วน แต่น้ำหนักน้อยจนตกเกณ์ แก้ไขยังไงดี

แม่ให้นมต้องกินเพิ่มมากแค่ไหน โภชนาการของมารดา ที่ให้นมบุตร ควรกินอะไรบ้าง

กินน้อยหรือมากเกินไปลูกไม่โต วิกฤติหนักเด็กไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : health.clevelandclinic , bumrungrad , samitivejhospitals

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Kittipong Phakklang

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • 10 ลักษณะที่ทำให้ลูกโตช้า ตัวไม่โต ขาดโปรตีน พ่อแม่ควรทำอย่างไร ?
แชร์ :
  • ปล่อยลูกอยู่กับทีวีและมือถือ แม่แชร์อุทาหรณ์! 3 ขวบยังพูดไม่ได้ พัฒนาการช้าไป 2 ปี

    ปล่อยลูกอยู่กับทีวีและมือถือ แม่แชร์อุทาหรณ์! 3 ขวบยังพูดไม่ได้ พัฒนาการช้าไป 2 ปี

  • ยาเสียสาว ภัยร้ายใกล้ตัว! วิธีสอนลูกสาว ให้ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อ!

    ยาเสียสาว ภัยร้ายใกล้ตัว! วิธีสอนลูกสาว ให้ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อ!

  • คำถามทดสอบ EQ ลูกน้อยวัย 3-6 ขวบง่ายๆ ให้รู้จุดแข็ง-จุดพัฒนา

    คำถามทดสอบ EQ ลูกน้อยวัย 3-6 ขวบง่ายๆ ให้รู้จุดแข็ง-จุดพัฒนา

  • ปล่อยลูกอยู่กับทีวีและมือถือ แม่แชร์อุทาหรณ์! 3 ขวบยังพูดไม่ได้ พัฒนาการช้าไป 2 ปี

    ปล่อยลูกอยู่กับทีวีและมือถือ แม่แชร์อุทาหรณ์! 3 ขวบยังพูดไม่ได้ พัฒนาการช้าไป 2 ปี

  • ยาเสียสาว ภัยร้ายใกล้ตัว! วิธีสอนลูกสาว ให้ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อ!

    ยาเสียสาว ภัยร้ายใกล้ตัว! วิธีสอนลูกสาว ให้ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อ!

  • คำถามทดสอบ EQ ลูกน้อยวัย 3-6 ขวบง่ายๆ ให้รู้จุดแข็ง-จุดพัฒนา

    คำถามทดสอบ EQ ลูกน้อยวัย 3-6 ขวบง่ายๆ ให้รู้จุดแข็ง-จุดพัฒนา

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว