คนท้องใช้น้ำยาบ้วนปากได้ไหม คุณแม่ควรระวังเรื่องไหนบ้าง? มาดูกัน!

คนท้องใช้น้ำยาบ้วนปากได้ไหม คุณแม่ควรระวังเรื่องไหนบ้าง? มาดูกัน! เรื่องของกลิ่นปากเป็นอะไรที่สำคัญและเราควรใส่ใจมาก ๆ เพราะเมื่อไหร่ที่เราปล่อยปละละเลยไป สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลไม่ดีต่อช่องปากของเราได้ และหากคุณแม่คนไหนที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ อยากทราบว่าถ้าเราใช้น้ำยาบ้วนปากจะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องของเราไหม เรามาไขข้อสงสัยด้วยคำถามที่ว่า คนท้องใช้น้ำยาบ้วนปากได้ไหม ไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า

ช่วงระหว่างการตั้งครรภ์สามารถใช้น้ำยาบ้วนปากได้ไหม?

สิ่งนี้อาจเป็นคำถามที่มักเกิดขึ้นกับคุณแม่หลายคน แน่นอนว่าในช่วงของการตั้งครรภ์เราก็อาจจะต้องระวังในเรื่องต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ซึ่งใครที่กำลังสงสัยว่าหากเราตั้งครรภ์อยู่สามารถที่จะใช้น้ำยาบ้วนปากในช่วงการตั้งครรภ์ได้ไหม จากการศึกษาพบว่าคุณแม่สามารถใช้น้ำยาบ้วนปากได้ตามปกติ เพราะการบ้วนปากเป็นการทำความสะอาดช่องปากและเราไม่ได้กลืนเข้าไปโดยตรง นั่นก็แปลว่าไม่ได้ส่งผลอันตรายต่อลูกในท้องของเราค่ะ นอกจากนี้ยังได้มีการแนะนำอีกว่าน้ำยาบ้วนปากที่เหมาะสมสำหรับคนท้องอาจจะต้องใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีโซเดียมฟลูออไรด์ 0.02 เปอร์เซ็นต์ หรือโซเดียมฟลูออไรด์ 0.05 เปอร์เซ็นต์ เป็นส่วนประกอบด้วย เพราะในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์คุณแม่บางคนก็อาจจะมีการแพ้ท้องและอาเจียนอยู่บ่อย ๆ และสาเหตุนี้ก็จะส่งผลทำให้ฟันคุณแม่ถูกกัดกร่อนได้ ทางที่ดีหากคุณแม่อยากที่จะดูแลรักษาช่องปากให้สะอาดและรักษาสุขภาพฟันให้แข็งแรงอยู่เสมอ อย่าลืมเลือกน้ำยาบ้วนปากที่เหมาะสมต่อความต้องการของเรานะคะ

ประโยชน์ของการใช้น้ำยาบ้วนปากดีอย่างไร?

รู้หรือไม่ว่าหากเราใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นประจำทุกวัน สิ่งเหล่านี้จะส่งผลดีต่อเราในเรื่องไหนบ้าง และสิ่งที่เราทำอยู่มีประโยชน์ต่อเรามากน้อยแค่ไหน เอาเป็นว่าเรามารู้จักไปพร้อม ๆ กันเลยดีกว่า

บทความที่เกี่ยวข้อง : ทําไมคนท้องต้องตรวจฟัน สุขภาพฟันของแม่มีผลกับลูกน้อยหรือไม่

1. ช่วยระงับกลิ่นปาก

มากันที่ข้อแรก เชื่อว่าใครหลายคนก็น่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าการที่เราใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นประจำ สิ่งนี้จะช่วยระงับกลิ่นปากให้เราในระหว่างวันได้ แน่นอนว่าถึงแม้ตื่นขึ้นมาตอนเช้าเราจะทำการแปรงฟันในทุก ๆ วัน แต่เมื่อไหร่ที่เราทานอะไรเข้าไป สิ่งเหล่านี้ก็ล้วนทำให้เรามีกลิ่นปากขึ้นมาได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นหากคุณแม่ไม่มีความมั่นใจในเรื่องนี้ และกลัวที่จะมีกลิ่นปากก็สามารถใช้น้ำยาบ้วนปากหลังจากที่ทานอาหารเสร็จได้เลย

2. ป้องกันการสะสมของเชื้อจุลินทรีย์

หลายคนอาจจะเข้าใจว่าการที่เราแปรงฟันในทุก ๆ วันสิ่งนี้ก็อาจจะทำให้ฟันและช่องปากของเราสะอาดขึ้นมาได้แล้ว ขอบอกเลยว่าไม่เสมอไป เพราะด้วยลักษณะแปรงที่เราใช้บางคนอาจจะใช้แปรงที่มีขนาดใหญ่จนเกินไป จนทำให้ทำความสะอาดช่องปากได้ไม่ทั่วถึง เพราะฉะนั้นหากคุณแม่คนไหนที่อยากจะใช้สุขภาพฟันของเราแข็งแรง และไม่อยากพบเจอกับปัญหาในช่องปาก เราก็อาจจะใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นตัวช่วยในการทำความสะอาดได้ เพราะสิ่งนี้จะช่วยป้องกันการสะสมของแบคทีเรียในช่องปากให้เราได้ด้วย

3. ช่วยป้องกันเหงือกอักเสบ

นอกจากเรื่องของกลิ่นปากและสุขภาพฟันที่คุณแม่จะต้องดูแลแล้ว เรื่องของเหงือกก็เป็นอะไรที่ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ที่เราไม่ดูแลรักษาความสะอาดในช่องปากของเราให้ดี ผลที่ตามมาก็อาจจะทำให้เหงือกของเราเกิดการอักเสบขึ้นมาได้ ทางที่ดีนอกจากการแปรงไฟให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอแล้ว คุณแม่ก็อาจจะต้องใช้น้ำยาบ้วนปากทำความสะอาดควบคู่ไปด้วย เพราะสิ่งนี้จะช่วยป้องกันเหงือกของเราไม่ให้เกิดการอักเสบด้วยนั่นเอง

วิธีการใช้น้ำยาบ้วนปากที่ถูกต้องทำยังไงบ้าง?

สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าวิธีการใช้น้ำยาบ้วนปากที่ถูกต้องนั้น เราควรต้องทำยังไงบ้าง หรือสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสมสำหรับการใช้น้ำยาบ้วนปากแล้วหรือยัง เรามาทำความเข้าใจกับขั้นตอนการใช้ไปพร้อมกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคเหงือกคืออะไร โรคเหงือกมีอาการอย่างไร มีวิธีรักษาโรคเหงือกหรือไม่

1. เตรียมน้ำยาบ้วนปากใส่ไว้ในแก้ว

ขั้นตอนแรกของการบ้วนปากเลย โดยเราจะต้องทำการเทน้ำยาบ้วนปากใส่ไว้ในภาชนะให้พร้อม ซึ่งบางคนอาจจะเทใส่แก้วไว้ก็ได้ ปริมาณที่ใช้นั้นเราอาจจะต้องใช้ในปริมาณที่เหมาะสมหรือดูว่าเขาให้ใช้ในปริมาณเท่าไหร่ ไม่ควรใช้ในปริมาณที่น้อยหรือเกินกว่าที่กำหนดไว้ เพราะสิ่งนี้อาจจะทำให้เราเกิดการระคายเคืองในช่องปากได้

2. เทน้ำยาบ้วนปากเข้าไปในช่องปาก

ต่อมาเมื่อเราทำการเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้เราค่อย ๆ เทน้ำยาบ้วนปากเข้าไปช่องปาก ซึ่งขั้นตอนนี้เราอาจจะต้องระวังหน่อย เพราะหากเรารีบเทจนเกินไป อาจทำให้เราเกิดการสำลักหรือเผลอกลืนน้ำยาบ้วนปากเข้าไปได้ ดังนั้นไม่ต้องรีบนะคะ

3. กลั่วน้ำยาบ้วนปากให้ทั่วช่องปาก

ขั้นตอนนี้ก็เป็นอะไรที่สำคัญ เมื่อไหร่ที่เราทำการเทน้ำยาบ้วนปากเข้าไปในบริเวณช่องปากแล้ว ให้เราทำการกลั่วปากไปเรื่อย ๆ ประมาณ 30 – 60 วินาที ไม่ควรที่จะกลั่วน้ำยาบ้วนปากต่ำกว่า 30 วินาที หรือมากกว่า 60 วินาที เพราะจากที่จะเป็นการรักษาความสะอาดช่องปาก สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะส่งผลไม่ดีต่อช่องปากของเราได้ ดังนั้นควรกลั่วปากในช่วงเวลาที่เหมาะสมจะดีที่สุด

4. ทำการบ้วนน้ำยาบ้วนปากทิ้ง

เมื่อครบเวลา 30 – 60 วินาทีแล้ว ให้เราทำการบ้วนน้ำยาบ้วนปากทิ้ง โดยขั้นตอนนี้เราไม่จำเป็นต้องกลั่วด้วยน้ำเปล่าอีกรอบ สิ่งนี้อาจเป็นสิ่งที่ใครหลายคนน่าจะกำลังสงสัยก็ได้ว่าเราควรกลั่วน้ำเปล่าอีกรอบไหม บอกเลยว่าไม่จำเป็นต้องกลั่วน้ำเปล่าเพียงแค่เรากลั่วน้ำยาบ้วนปากให้ครบเวลาที่กำหนด เท่านี้ก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นค่ะ

วิธีการเลือกซื้อน้ำยาบ้วนปาก

สำหรับคุณแม่ที่ยังมีความกังวลในการเลือกน้ำยาบ้วนปาก ไม่รู้ว่าเราควรเลือกน้ำยาบ้วนปากแบบไหนดี เพื่อที่จะช่วยระงับกลิ่นให้เราในระหว่างวันได้ หรือควรเลือกแบบไหนเพื่อตอบโจทย์ความต้องการให้กับตัวเองมากที่สุด มาดูไปพร้อมกันได้เลย

บทความที่เกี่ยวข้อง : 7 น้ำยาบ้วนปากสำหรับคนท้อง ช่วยให้ฟันขาวสะอาด ไร้คราบหินปูน

1. เลือกน้ำยาบ้วนปากที่ผสมฟลูออไรด์

ก่อนที่เราจะทำการเลือกซื้อน้ำยาบ้วนปาก สิ่งสำคัญที่คุณแม่จะต้องดูอีกอย่างหนึ่งนั่นคือส่วนผสมของน้ำยาบ้วนปาก เพราะฉะนั้นหากใครที่มีปัญหาเรื่องของฟันผุ หรืออยากที่จะให้ฟันของเรามีสุขภาพที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น เราก็อาจจะต้องเลือกใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ตามไปด้วย เพราะสิ่งนี้จะช่วยป้องกันในเรื่องของฟันผุและช่วยทำให้ฟันของเราแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

2. เลือกใช้ยี่ห้อที่ดีและมีประสิทธิภาพ

แน่นอนว่าก่อนที่เราจะซื้ออะไรมาใช้ก็ตาม เราควรที่จะดูยี่ห้อและประสิทธิภาพของสินค้านั้น ๆ ตามไปด้วย เพราะหากเราซื้อโดยที่ไม่ดูรายละเอียดหรือส่วนผสมต่าง ๆ สิ่งนี้ก็อาจจะส่งผลไม่ดีต่อเราและเราก็อาจจะได้สินค้าไม่ตรงตามความต้องการได้ ดังนั้นเราควรเลือกซื้อสินค้าที่ดีมีคุณภาพและได้มาตรฐานจะดีที่สุดค่ะ

3. เลือกน้ำยาบ้วนปากที่ผสมน้ำมันสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ

สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับช่องปาก อีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้ เราก็อาจจะต้องเลือกน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของน้ำมันสกัดจากสมุนไพรธรรมชาติ เพราะส่วนผสมนี้จะมีโมเลกุลขนาดเล็กและซอกซอนได้ดี อีกทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดคราบไบโอฟิล์มในช่องปากของเราได้ดีอีกด้วย

4. เลือกน้ำยาบ้วนปากที่ผสมคลอเฮกซิดีน (Chlorhexidine)

มาต่อกันที่ข้อนี้บ้าง น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของคลอเฮกซิดีนเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนผสมที่ส่งผลดีสำหรับคนที่กำลังมีปัญหาในเรื่องช่องปากมาก ๆ โดยเฉพาะใครที่มักมีปัญหาเหงือกอักเสบบ่อย ๆ ตัวนี้จะช่วยดูแลเหงือกของเราให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดคราบไบโอฟิล์มในช่องปากของเราตามไปด้วย ดังนั้นไม่ว่าเราจะใช้อะไรก็ตาม เราควรเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด แล้วปัญหาเหล่านี้จะหมดไปอย่างแน่นอน

5. เลือกน้ำยาบ้วนปากที่ผสมเซทิลไพริดิเนียมคลอไรด์ (Cetylpyridinium Chloride หรือ CPC)

อีกหนึ่งสิ่งที่เราควรคำนึงถึงหากต้องเลือกซื้อน้ำยาบ้วนปาก นั่นคือน้ำยาบ้วนปากตัวนี้อาจจะต้องมีส่วนผสมของเซทิลไพริดิเนียมคลอไรด์ตามไปด้วย เพราะนอกจากตัวนี้จะทำให้ฟันของเราดูสะอาดมากขึ้นแล้ว ยังช่วยลดการเกิดคราบไบโอฟิล์มและช่วยลดอาการเหงือกอักเสบได้ดีเช่นกัน

Mama's Choice น้ำยาบ้วนปาก สูตรธรรมชาติ - Mouthwash

น้ำยาบ้วนปากสำหรับคุณแม่ที่ปราศจากฟลูออไรด์ ที่ส่งผลกับลูกน้อยในครรภ์ Mama's Choice Non-Fluoride Mouthwash น้ำยาบ้วนปากสูตรพิเศษสำหรับคนท้องโดยเฉพาะ ที่นอกจากจะไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์แล้ว ยังไม่มีส่วนผสมของสารเคมีอื่น ๆ ที่เป็นอันตรายอีกด้วย ถึงแม้จะไม่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ แต่ก็ยังสามารถมอบความสดชื่นให้กับช่องปากของแม่ท้องได้ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น มิสวาก สมุนไพรที่ใช้ทดแทนฟลูออไรด์ เพราะสามารถซ่อมแซมเคลือบฟันที่ถูกทำลาย และยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก อีกทั้งยังช่วยป้องกันฟันผุ รวมถึงอัลลันโทอิน ที่ช่วยลดอาการอักเสบ บรรเทาอาการระคายเคือง ปกป้องฟันจากการถูกกัดกร่อนโดยกรดในช่องปาก และสมุนไพรจากธรรมชาติอีกหลายชนิด อีกทั้งยังเป็นขนาดพกพา ที่คิดมาแล้วเพื่อแม่ที่กำลังแพ้ท้อง จะได้พกพาไปไว้บ้วนปาก เติมความสดชื่นให้แม่ตลอดวัน หรือสามารถหาผลิตภัณฑ์น้ำยาบ้วนปากสำหรับคุณแม่ท้องได้ที่ 7 น้ำยาบ้วนปากสำหรับคนท้อง ช่วยให้ฟันขาวสะอาด ไร้คราบหินปูน

หลังจากที่เราได้นำข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับน้ำยาบ้วนปากมาเล่าให้คุณแม่ฟัง เชื่อว่าสิ่งนี้คงคลายความกังวลให้กับคุณแม่หลายคนไม่น้อยเลย เอาเป็นว่าในช่วงของการตั้งท้องหากใครที่อยากจะใช้น้ำยาบ้วนปากเพื่อทำความสะอาดช่องปากของตัวเองให้ดีขึ้นก็สามารถใช้ได้เลยนะคะ เพียงแต่ว่าเราอาจจะต้องเลือกสูตรที่เหมาะสมกับเราและใช้ให้ถูกวิธีเท่านี้ก็เป็นการบอกลาปัญหาช่องปากให้เราได้มากเลยล่ะ

บทความที่น่าสนใจ :

แปรงลิ้น ตอนแปรงฟันดีอย่างไร? สอนลูกแปรงลิ้น จำเป็นหรือไม่

ปวดฟันกลางดึก ทำยังไงดี? วิธีแก้อาการปวดฟันตอนกลางคืน

ทำไมถึงควรเปลี่ยนไปใช้ ยาสีฟันสำหรับคนท้อง และผลิตภัณฑ์ที่น่าซื้อสำหรับคุณ

ที่มา :  mgronline