คนท้องกินผัดเผ็ดงูได้ไหม กินเนื้องูตอนท้องได้ไหม รวมสาเหตุที่ไม่ควรกิน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ถ้าใครเคยไปต่างจังหวัด หรือแม้แต่ในพื้นที่เมืองใหญ่บางส่วน ต่างก็ต้องเคยพบเมนูที่ทำจากเนื้องู คนท้องกินผัดเผ็ดงูได้ไหม กินเนื้องูตอนท้องได้ไหม มีการพูดต่อ ๆ กันมาถึงสรรพคุณบำรุงร่างกายได้หลายอย่าง เนื้องูเป็นหนึ่งในเนื้อสัตว์ที่เราอยากให้คนท้องเลี่ยงมากที่สุด สาเหตุเป็นเพราะอะไร เรามาเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน

 

เนื้องูเป็นอย่างไร ทำไมหลายคนจึงนิยมกินเนื้องู

มีหลายคนได้เปรียบเทียบว่าเนื้องูมีความคล้ายกับเนื้อไก่เป็นอย่างมาก ทั้งรสชาติ และลักษณะของเนื้อ แต่สัมผัสของเนื้อนั้นต่างกัน เนื้องูจะมีความเหนียวมากกว่า เนื้อมักเป็นเส้น ๆ โดยเมนูที่เรามักได้ยินกัน คือ “ผัดเผ็ดงู” สาเหตุที่หลายคนชอบกินเนื้องูนั้นมีอยู่หลายอย่าง เช่น เป็นสิ่งที่หาได้ตามธรรมชาติ ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อ แต่ส่วนมากเหตุผลที่ทำให้หลายคนอยากลองกินเนื้องู คือ เชื่อว่าเนื้องูมีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง เช่น บรรเทาอาการปวดหัว, ส่งเสริมความแข็งแรงของกระดูก หรือช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศ เป็นต้น

อย่างไรก็ตามไม่ได้มีการยืนยันสรรพคุณตามที่กล่าวมาอย่างชัดเจน อาจเป็นเพราะเราคิดว่าเนื้องูเป็นสิ่งที่กินได้ ก็คงมีประโยชน์ในด้านใดด้านหนึ่ง จนเกิดเป็นการพูดต่อ ๆ กันมา และหากต้องการบำรุงร่างกายจริง ๆ ก็ยังมีอีกหลายวิธีที่ทำได้ง่ายกว่าการเสี่ยงกินเนื้องู

 

 

คนท้องกินผัดเผ็ดงูได้ไหม กินเนื้องูตอนท้องได้ไหม

นอกจากเนื้อหมู ไก่ เป็ด วัว และปลา ก็คงจะมีเนื้องูที่คนไทยหลายพื้นที่ชอบจับมาทานกันจนเป็นเรื่องปกติ แต่แม่ท้องช้าก่อน เนื้องูไม่ใช่เนื้อที่ปลอดภัยสำหรับคนท้อง ซึ่งความจริงแล้วไม่ปลอดภัยต่อใครเลย เพราะสัตว์ที่อยู่ตามธรรมชาติจะมีเชื้อโรค และพยาธิอยู่มากกว่าสัตว์ในฟาร์ม ทำให้มีโอกาสติดเชื้อจากการทานเนื้องูได้ โดยเฉพาะเนื้องูที่ปรุงไม่สุก ถึงแม้เนื้องูจะมีสารอาหารมาก แต่เราอยากให้คุณแม่หันไปกินเนื้อสัตว์ชนิดอื่นที่เหมาะสมปลอดภัยกว่า เช่น เนื้อไก่ที่มีไขมันน้อย หรือเนื้อปลาที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อคนท้องมาก เป็นต้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกินปลาดุกได้ไหม ปลาดุกย่างยิ่งต้องระวัง เสี่ยงก่อมะเร็ง

 

สารอาหารในเนื้องู

เป็นที่น่าตกใจสำหรับคุณแม่ที่ยังไม่เคยกินเนื้องู เพราะเนื้องูนั้นเป็นเนื้อที่มีสารอาหารเป็นจำนวนมาก เช่น วิตามิน A, วิตามิน B รวม, ธาตุเหล็ก, โพแทสเซียม และโปรตีน เป็นต้น อีกทั้งเนื้องูยังถือว่าเป็นเนื้อที่ให้พลังงานมาก การกินปริมาณ 100 กรัม จะให้พลังงานมากถึงประมาณ 230 กิโลแคลอรี เมนูงูผัดเผ็ด หรืองูย่าง จึงเป็นเมนูที่กินเพลิน ๆ อาจอ้วนได้ แต่เห็นสารอาหารเยอะแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราแนะนำให้คุณแม่กิน หากไม่เคยกินก็ถือว่าโชคดีแล้ว หากแม่ท้องคนไหนชอบกินเราก็อยากให้เลิกทานให้ได้จะดีที่สุด

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

อันตรายจากเนื้องู คนท้องต้องระวัง

ข้อมูลจาก นพ.อภิชัย ลิมานนท์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.กาฬสินธุ์ ได้มีการเตือนถึงการนำเนื้องูมาประกอบอาหาร เนื่องจากมีอันตราย และไม่ใช่เนื้อสัตว์ที่นิยมทานกันทั่วไป เนื่องจากเนื้องูนั้นมีความหนาแน่นของมวลกล้ามเนื้อ และมีความเหนียวมาก เพราะงูเป็นสัตว์ที่แข็งแรง จากการเคลื่อนไหวของกล้ามทั้งลำตัวตลอดเวลา ด้วยความแน่น และเหนียวทำให้การนำไปประกอบอาหารอาจทำให้สุกได้ยากกว่าเนื้อทั่วไป หากไม่มั่นใจว่าเนื้อปรุงสุกดี ก็ทำให้ยังคงมีเชื้อโรคต่าง ๆ ตามธรรมชาติหลงเหลืออยู่เช่นกัน

เชื้อไวรัสที่ปนเปื้อนมานั้นมีหลายชนิด และพบได้มากในสัตว์ป่าตามธรรมชาติ ซึ่งเชื้อโรคที่ว่านี้จะพบน้อยลงกับสัตว์ในฟาร์มเลี้ยง นี่จึงเป็นเหตุผลหลักที่เราไม่แนะนำให้ทานเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ที่จับมาตามธรรมชาติ ไม่ใช่เพียงแค่เนื้องูเท่านั้น หากแม่ท้องต้องการกินเนื้อสัตว์ ควรกินเนื้ออื่นดีกว่า เช่น เนื้อหมู, เนื้อวัว หรือเนื้อไก่ เป็นต้น แต่เนื้อที่เหมาะสำหรับคนท้อง คือ เนื้อปลา ซึ่งมีสารอาหารมาก ช่วยพัฒนาการของทารกได้ดี

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เนื้องูอันตรายกับระบบทางเดินอาหาร

นอกจากเชื้อไวรัสตามธรรมชาติแล้ว ยังมีพยาธิซึ่งพบได้มากในเนื้องู และหมูป่า ยิ่งปรุงไม่สุกมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย โดยพยาธิเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อระบบทางเดินอาหาร เช่น เป็นไข้, ท้องเสีย และการติดเชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella Infection) นอกจากนี้ส่วนที่ควรเลี่ยงมากที่สุด คือ ส่วนของเครื่องใน, เลือด และน้ำดีของงู เนื่องจากเป็นส่วนที่มีเชื้อเยอะ หรือแม้แต่การหั่นเนื้อ การนำงูมาชำแหละเพื่อประกอบอาหาร หากไม่ระวังเชื้อก็สามารถติดมาด้วยได้เช่นกัน

 

วิดีโอจาก : เรื่องเล่าเช้านี้

 

กินเนื้อสัตว์ชนิดอื่น คือทางเลือกที่ดีที่สุดของคนท้อง

จากที่เราได้กล่าวมานั้น ชัดเจนว่าเราไม่ได้แนะนำให้คุณแม่หันมาลองเนื้องู เพราะการนำเนื้องูไปประกอบอาหารต้องมีความพิถีพิถัน ต้องมีความเป็นมืออาชีพดี รู้ว่ากินส่วนไหนได้ ส่วนไหนกินไม่ได้ และต้องปรุงให้สุกอย่างมาก ด้วยข้อควรคำนึงหลายอย่างนี้ อาจไม่คุ้มที่คุณแม่ตั้งครรภ์จะลองเสี่ยงกินเนื้องูในทุกกรณี หากไม่มีความจำเป็นจริง ๆ โดยให้คุณแม่หันมาทานเนื้อชนิดอื่นดีกว่า โดยรสสัมผัสของเนื้อสัตว์ที่ใกล้เคียงกับเนื้องูก็คือเนื้อไก่

เนื้อไก่มีประโยชน์ และมีคุณค่าทางสารอาหารหลายอย่าง ตัวอย่างเช่น เป็นแหล่งของโปรตีนคุณภาพดี, มีวิตามิน B รวม ช่วยพัฒนาระบบประสาท และลดโอกาสเกิดภาวะโลหิตจางระหว่างตั้งครรภ์, มีสารอาหารอื่น ๆ เช่น ธาตุเหล็ก และซีลีเนียม (Selenium) รวมไปถึงเนื้อไก่ เป็นหนึ่งในเนื้อสัตว์ที่มีไขมันน้อย แม่ท้องจึงพอเบาใจเรื่องน้ำหนักได้

 

คลอดลูกแล้วกินผัดเผ็ดงู กินเนื้องูได้ไหม

ไม่ใช่แค่คุณแม่ตั้งครรภ์เท่านั้นที่ควรเลี่ยงเมนูเนื้องูทุกเมนู แต่ยังรวมไปถึงช่วงหลังคลอดอีกด้วย เพราะสิ่งที่คุณแม่ทานเข้าไป หากมีอันตราย หรือเชื้อโรคใด ๆ ก็มีโอกาสที่จะถูกส่งต่อไปยังทารกที่กินนมของคุณแม่อีกด้วย และไม่ใช่แค่ตอนตั้งครรภ์ หรือตอนให้นมเท่านั้น บุคคลทั่วไปโดยเฉพาะเด็ก และผู้สูงอายุ ควรเลี่ยงการกินเนื้องูในทุกกรณี เพราะในวัยดังกล่าว อาจมีภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรง หากได้รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย จะทำให้มีผลกระทบที่รุนแรงกว่าปกติได้นั่นเอง

 

การกินเนื้อสัตว์ เช่น เนื้อไก่ และเนื้อปลา (บางสายพันธุ์) เหมาะกับคนท้องมากกว่าการกินเนื้องู แม้ว่าหลายคนจะพูดว่าผัดเผ็ดงูอร่อยมาก แต่ก็ควรเลี่ยงเอาไว้ เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่ และทารก ทั้งในช่วงตั้งครรภ์ และหลังตั้งครรภ์

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คนท้องกินทองหยิบทองหยอด ฝอยทองได้ไหม กินมากจะอันตรายแค่ไหน

คนท้องกินผักชีได้ไหม เมนูไหนก็มีผักชี แน่ใจไหมว่าปลอดภัยกับคนท้อง

คนท้องกินปาท่องโก๋ได้ไหม กินมากไม่ดี กินแค่ไหนถึงพอดี

ที่มา : thaipbs, bbc

บทความโดย

Sutthilak Keawon