คนท้องเลี้ยงแมว แมวรู้ไหมว่าเราท้อง เลี้ยงแมวตอนท้องต้องระวังอะไรบ้าง?

เราเชื่อว่ามีแม่ ๆ หลายคนที่เป็นทาสแมว สัตว์สี่ขาหน้าตาบ๊องแบ้ว อ้อนบ้างไม่อ้อนบ้าง และเชื่อว่าพอตั้งท้องก็มีหลายคนที่อยากรู้ว่า แมวรู้ไหมว่าเราท้อง เลี้ยงแมวขณะท้องมีผลเสีย และผลดีอย่างไรบ้าง คุณแม่ท่านไหนกำลังสงสัย มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

แมวรู้ไหมว่าเราท้อง ?

คำตอบคือ “รู้” ค่ะ แมวเป็นสัตว์ที่มีความตื่นตัวเป็นพิเศษ เหล่าน้องแมวนั้นเชี่ยวชาญในด้านการอ่านภาษากาย และอารมณ์ของมนุษย์ รวมทั้งแมวยังสังเกตการตั้งครรภ์ของมนุษย์จากการพักอยู่บ้านบ่อยขึ้น โดยแม่ท้องอาจจะชอบงีบ และไม่ชอบขยับตัวไปมา มันทำให้แมวรู้แน่นอนว่าคุณ และท่าทาง หรือร่างกายของคุณที่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยก็จะดึงดูดความสนใจแมวของคุณได้ทันที 

นอกจากนี้ แมวยังเป็นสัตว์ที่สามารถดมกลิ่นได้ดีมาก แมวสามารถดมกลิ่นได้ดีกว่าสุนัขบางสายพันธุ์เสียอีก จากการวิจัยของ Flo Health พบว่า ในระหว่างการตั้งครรภ์ แม่ท้องจะผลิตฮอร์โมนโปสเจอเตอโรนสโตรเจน และฮอร์โมน Chorionic Gonadotropin (hCG) ซึ่งทำให้กลิ่นตัวของมนุษย์แม่ท้องมีความเปลี่ยนไป ด้วยฮอร์โมนเหล่านี้ จะทำให้แมวสามารถรับรู้ได้ว่าเราท้องนั่นเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง : แมว อันตรายต่อเด็กไหม อยากเลี้ยงแมวในบ้าน เลี้ยงได้หรือเปล่า

โดยบางครั้ง กลิ่นตัวของคนท้องเหล่านี้ จะทำให้แมวรู้ตัวว่าเราท้องก่อนตัวเราเองเสียอีก โดย The Dodo ได้เล่าเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อ Lisa แมวของเธอชอบเข้ามาพัวพันที่ท้อง มาให้เธอกอด และดูเชื่องกว่าปกติ และดูหวงเธอกับสามีของเธอมาก จนวันต่อมา Lisa เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองท้อง ดังนั้น แมวรับรู้ว่าคุณท้องจากอุณหภูมิร่างกายของแม่ท้อง ในช่วงไตรมาสแรก (First Trimester) ร่างกายของแม่ท้องจะสูงขึ้นเล็กน้อย โดยเวลาที่แม่ท้อง แมวจะมีแนวโน้มที่จะมาคลอเคลียแม่ท้องในช่วงนี้เพราะต้องการความอบอุ่น หากแมวตัวไหนที่แต่ก่อนไม่ชอบเข้ามาใกล้แม่ท้อง แต่อยู่ดี ๆ กับชอบมาคลอเคลีย นั้นก็แปลว่าแมวเหล่านั้นรู้ว่าเจ้าของมันท้องนั่นเอง

ปรับตัวยังไงเมื่อท้องในขณะที่เลี้ยงแมว?

แมวเป็นสัตว์สันโดษก็จริง แต่ก็รักที่จะให้ความรัก และความสนใจในระหว่างการตั้งครรภ์ แมวต้องการให้คุณรักและสนใจ อย่างไรก็ตาม คุณแม่ก็ควรที่จะมีกิจวัตรประจำวันกับแมวเหมือนเดิม เช่น เล่นกับแมว พาแมวออกไปเดินเล่น หรือพาแมวไปอาบน้ำเป็นปกติ เพื่อให้พวกเขารู้ว่าเรายังรักพวกเขาอยู่

ข้อดีของการเลี้ยงแมวขณะท้อง 

งานวิจัยจากศูนย์ควบคุมโรคติดต่อแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าคุณแม่ที่มีสัตว์เลี้ยงตอนตั้งครรภ์ จะทำให้ความเครียดและความวิตกกังวลในการตั้งครรภ์ของคุณแม่ลดลง จิตใจผ่อนคลาย มองโลกในแง่ดี คลายเหงาเพราะมีสัตว์เลี้ยงเป็นเพื่อน ส่งผลดีต่อสุขภาพ และอารมณ์ของคุณแม่ และลูกน้อยในครรภ์เป็นอย่างยิ่งเลยล่ะค่ะ การเล่นกับสัตว์เลี้ยงทั้งหลายยังเป็นการออกกำลังกายไปในตัวด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็กเลี้ยงหมา เลี้ยงแมว โตมาจะมีจิตใจที่ดี และ ฉลาดด้วย มีเมตตา

ข้อเสียของการเลี้ยงแมวขณะท้อง

โรคขี้แมวหรือโรคท็อกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis)

อ.สพ.ญ.ดร.วรพร สุขุมาวาสี จากหน่วยปรสิตวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคขี้แมวนี้ว่า ในบรรดาโรคสัตว์สู่คนที่คนสามารถติดต่อจากแมวได้นั้น โรคท็อกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) หรือโรคขี้แมว เป็นโรคที่ถูกขนานนามมากที่สุดอีกโรคหนึ่ง โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ ที่มักได้ยินคำเตือนว่าควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

สาเหตุของโรคท็อกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis)

เชื้อนี้เกิดจากเชื้อโปรโตซัว ซึ่งจะเจริญ และขยายพันธุ์ในลำไส้ของแมว โดยแมวที่เลี้ยงแบบปล่อย มักจะชอบเที่ยวนอกบ้าน ซึ่งอาจจะไปกินเนื้อดิบ ๆ หรือกินหนู และแมลงสาบที่ติดเชื้อ เชื้อก็จะเข้าสู่ร่างกายแมว ไปอยู่ตามอวัยวะต่าง ๆ ตลอดจนลำไส้ของแมว และเชื้อจะปนเปื้อนออกมากับอุจจาระของแมว หากคุณแม่ไปสัมผัสกับอุจจาระของแมว หรือไม่ทำความสะอาดให้ดี ก็อาจเสี่ยงที่เชื้อจะเข้าสู่ร่างกายของคุณแม่ และส่งผ่านทางรกไปสู่ลูกน้อยในครรภ์

การป้องกัน

• ไม่เล่น หรือสัมผัสกับแมวจรจัด
• พาแมว และสัตว์เลี้ยงในบ้านไปฉีดวัคซีนตามกำหนด
• ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนกินหยิบอาหารใด ๆ เข้าปาก
• แยกภาชนะ และอุปกรณ์ครัวที่สัมผัสกับเนื้อดิบ ไม่ให้มาสัมผัสกับอาหารที่ปรุงแล้วโดยเด็ดขาด
• กินอาหารที่ปรุงด้วยความร้อนจนสุก สะอาดเสมอ  ถ้าเป็นผลไม้ควรล้างให้สะอาด และปอกเปลือก (ถ้าปอกได้)
• คนท้องควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสดินหรือทราย โดยเฉพาะกระบะทรายของแมวหากจำเป็นให้สวมถุงมือ และล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัส
• หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรือเล่นกับแมวจรจัด ถ้าเป็นแมวที่เลี้ยงเองควรให้กินอาหารที่สุกสะอาด หรืออาหารกระป๋อง เพราะแมวก็ได้เชื้อมาจากอาหารไม่สะอาดค่ะ

หากคุณแม่อยู่ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ หากเกิดการติดเชื้อ ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการรุนแรงที่จะทำให้ทารกเสียชีวิตตั้งแต่อยู่ในท้อง หรืออาจส่งผลต่อลูกหลังคลอดมาแล้ว 6-7 เดือน ทำให้ลูกที่เกิดมาตาบอด ปัญญาอ่อน และมีปัญหาด้านการเรียนรู้ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่คุณแม่ทุกคนที่จะติดเชื้ออย่างรุนแรง บางคนที่สัมผัสอาจไม่มีอาการใด ๆ ก็ได้ ดังนั้นการป้องกันไว้ก่อน จึงเป็นสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยค่ะ

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ลูกแพ้ขนสัตว์ควรจัดการอย่างไร? เมื่อมีสัตว์เลี้ยงในบ้าน

คนท้องเลี้ยงหมา 9 เหตุผลที่น้องหมาสามารถรับรู้ได้ว่าเจ้าของท้อง

เลี้ยงลูกกับน้องหมาด้วยกันได้ไหม? สุนัขกับทารก มีผลดีหรือผลเสียอย่างไรบ้าง? 

ที่มา : litter-robot, Samitivej Hospitals