แมว เป็นสัตว์ที่คนไทยนิยมเลี้ยงคู่บ้าน แต่ก็มีคุณแม่หลาย ๆ ท่านสงสัย ว่าเลี้ยงแมวแล้วจะเป็นอันตรายต่อลูกไหม มาหาคำตอบในบทความนี้กัน
คนไทยเริ่มเลี้ยงเเมวตอนไหน
แมว เริ่มมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย เลี้ยงไว้เพื่อเอาไว้จับหนู โดยแมวไทยพันธุ์วิเชียรมาศ เคยถูกส่งไปประกวดในงานประกวดสัตว์เลี้ยงที่ประเทศอังกฤษ จนได้รับรางวัลชนะเลิศ หลังจากที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงเห็นว่าแมวไทย สามารถสร้างชื่อเสียงให้ประเทศได้ จึงทำการส่งแมวให้ประเทศเพื่อนบ้าน จนทำให้แมวไทยโด่งดังไปทั่วโลก
คนไทยนิยมเลี้ยงแมวพันธุ์อะไร
แมวมีหลายร้อยสายพันธุ์ แถมแต่ละพันธุ์ก็นิสัยไม่เหมือนกัน ซึ่งแมวที่คนไทยนิยมเลี้ยง มีดังนี้
- แมวสีสวาด คงจะไม่มีใครไม่รู้จักแมวพันธุ์นี้ แมวสีสวาดมีอีกชื่อ คือ แมวโคราช มีขนสีเทาและขนสั้น มีอายุอยู่ที่ประมาณ 15-20 ปี หางยาวแหลม มีนิสัยฉลาด ขี้อ้อน บ้าพลัง ขี้เล่น สามารถเลี้ยงได้ทั้งในบ้านและนอกบ้าน เลี้ยงไม่ยาก
- แมวขาวมณี เป็นแมวที่มีตาสองสี คือ สีเหลืองและสีฟ้าอย่างละข้าง อายุเฉลี่ยอยู่ที่ 10-12 ปี มีขนสีขาวทั้งตัว มีนิสัยขี้เล่น เข้ากับคนง่าย
- วิเชียรมาศ หรือแมวสยาม มีต้นกำเนิดที่ไทย มีอายุอยู่ที่ 15-20 ปี ตาใสสีฟ้า หูตั้งชัน หางเรียวยาว มีนิสัยฉลาด ขี้เล่น ชอบอยู่กับคน ดูแลง่าย
- อเมริกันชอร์ทแฮร์ เป็นแมวสายพันธุ์ยุโรป ตัวกลม ขาสั้นแข็งแรง หูกลม ตาโต มีนิสัยขี้เล่น เป็นมิตร กล้าหาญ แม้ภายนอกจะดูเงียบ ๆ แต่ก็เข้ากับคนได้ดี ไม่ป่วยบ่อย แต่อ้วนง่าย มีอายุประมาณ 15-20 ปี
- บริติชชอร์ทแฮร์ แมวพันธุ์นี้จับหนูเก่ง อายุเฉลี่ยจะอยู่ที่ 14-20 ปี มีขนาดตัวใหญ่ กลม อกกว้าง ขาแข็งแรง ส่วนใหญ่มีขนสีเทาคล้ายแมวสีสวาด รักสันโดษ แต่ไม่ดุร้าย ซื่อสัตย์ และฉลาด
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง : เมื่อทาสหมา – แมวมีบุตร
น้องเเมวกำลังนอนบนตัวเจ้าของ
อันตรายจากแมว ที่อาจเกิดขึ้นได้กับเด็ก
ก่อนที่คุณแม่จะตัดสินใจเลี้ยงเเมวในบ้าน ควรคำนึงถึงอันตราย ดังนี้
1. ทำให้เด็กขาดอากาศหายใจ
คุณแม่ไม่ควรให้แมวนอนใกล้ ๆ กับเด็ก และควรปิดประตูห้องให้สนิททุกครั้งเมื่อเด็กนอน เพื่อไม่ให้แมวเข้าไปรบกวนเด็ก เพราะแมวบางตัว มีนิสัยชอบคลุกคลีกับคน ซึ่งหากเด็กกำลังนอนอยู่ แมวอาจขึ้นไปนอนทับใบหน้าของเด็ก จนทำให้เด็กหายใจไม่ออกได้
2. เด็กกินขนแมว
แมวมักจะขนร่วง ซึ่งหากลูก ๆ ของคุณแม่ยังเป็นทารก อาจมีบางครั้งที่เขาเผลอหยิบจับขนแมวเข้าปาก หากเด็กคนไหนเป็นโรคภูมิแพ้อยู่แล้ว อาการภูมิแพ้อาจกำเริบได้ แต่อย่างไรก็ตาม เด็กส่วนใหญ่ที่โตมากับแมวและสุนัขมักจะไม่ค่อยเป็นโรคภูมิแพ้
3.โดนแมวข่วน
เมื่อเด็กๆ เล่นกับแมว อาจทำให้โดนกรงเล็บของแมวข่วนจนเป็นแผล และอาจทำให้เป็นโรคกลากได้ คุณแม่จึงควรอยู่ใกล้ ๆ เด็ก เมื่อเด็กกำลังเล่นกับแมว และคอยสังเกตพฤติกรรมของแมวอย่างใกล้ชิด
4. แมวขี้อิจฉา
แมวบางตัวมีนิสัยขี้อิจฉา พอเห็นคุณแม่ดูแลเอาใจใส่ลูกน้อย ก็อาจจะรู้สึกอิจฉา และแสดงพฤติกรรมที่ไม่ค่อยดีกับลูกน้อย วิธีป้องกัน คือ ไม่ควรแทนที่บริเวณที่อยู่ของแมวด้วยสิ่งของที่เป็นของเด็ก ควรเอาใจใส่ และหมั่นดูแลแมว เพื่อที่แมวจะได้ไม่น้อยใจ หรืออิจฉาเด็ก
5. เชื้อโรคหรือพยาธิที่เกิดจากแมว
แมวบางตัวมีพยาธิหรือเชื้อแบคทีเรียในร่างกาย ที่อาจแพร่สู่คนได้ แต่ก็อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะเราสามารถป้องกันเชื้อโรคหรือพยาธิได้ง่าย ๆ โดยการหมั่นล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังเล่นกับแมว หรือก่อนทานอาหาร ทำความสะอาดบริเวณที่แมวขับถ่ายให้เรียบร้อย และดูแลไม่ให้เด็กเข้าใกล้กระบะขับถ่ายของแมว
6. เสี่ยงเป็นโรคท็อกโซพลาสโมซิส
เด็กและผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคนี้ ซึ่งมักทำให้มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น ปวดตามร่างกาย มีไข้ และต่อมน้ำเหลืองบวม เป็นต้น ข้อแนะนำคือ ไม่ควรให้แมวกินเนื้อดิบ เพราะจะทำให้แมวมีพยาธิ และกลายเป็นพาหะของโรคนี้ได้
แม้ว่าการเลี้ยงแมวจะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่สิ่งเหล่านี้ป้องกันได้ด้วยการรักษาความสะอาดภายในบ้าน ไม่ปล่อยให้แมวขับถ่ายเรี่ยราด กำชับให้เด็กและคนในบ้านล้างมือบ่อย ๆ ทุกครั้งที่จับแมว ไม่สัมผัสปัสสาวะหรืออุจจาระของแมวโดยตรง และไม่ทำให้แมวโมโหจนข่วนเป็นแผล
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกับแมว แมวรู้ไหมว่าเราท้อง? ข้อดีข้อเสียการเลี้ยงแมวตอนท้อง!
ประโยชน์ในการเลี้ยงแมว
ความจริงแล้ว การเลี้ยงแมวนั้น มีประโยชน์อย่างไม่น่าเชื่อต่อตัวเด็กและคนในครอบครัว ดังนี้
1. ทำให้เด็กมีความรับผิดชอบ และมีความเห็นอกเห็นใจมากขึ้น
จากผลสำรวจของ Cat Protection ในปี 2018 พบว่า เด็กที่เลี้ยงแมว จะมีความเห็นอกเห็นใจสิ่งมีชีวิตรอบตัว และมีความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งเด็กหลายคนมองว่าแมวเป็นเพื่อนสนิท แถมยังชอบระบายความรู้สึกกับแมว มากกว่าที่จะระบายความรู้สึกกับคน นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยอีกชิ้นชี้ว่า เด็กที่เลี้ยงแมวนั้น เข้าสังคมได้เก่งมากขึ้นอีกด้วย
2. ช่วยลดความเครียด ทำให้หายเหงา
มีผลงานวิจัยชี้ว่า เสียงร้องของแมว ช่วยให้ความดันในเลือดต่ำลง และช่วยให้เครียดน้อยลงได้ รวมทั้ง แมวยังช่วยให้เรารู้สึกไม่เหงา เพราะแมวบางสายพันธุ์ มีนิสัยขี้อ้อน รักเจ้าของ
3. ลดความเสี่ยงในการเกิดโรค
การเลี้ยงแมว สามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินหายใจได้ มีงานวิจัยชี้ว่า เด็กทารกที่โตมาพร้อมกับแมว มีแนวโน้มที่จะเป็นภูมิแพ้ได้น้อยมาก เพราะร่างกายของเด็ก จะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันที่ช่วยต่อต้านโรคภูมิแพ้หลาย ๆ ชนิด รวมถึงการเลี้ยงแมว ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดหัวใจได้อีกด้วย
น้องแมวกำลังนอนอยู่ข้างเจ้าของ
แมว พันธุ์ไหนน่าเลี้ยง
แน่นอนว่าถ้าจะให้ดี ควรเลี้ยงแมวที่มีเป็นมิตร ไม่ขี้โมโห โดยแมวสายพันธุ์ที่เหมาะกับเด็ก มีดังนี้
- อเมริกันชอร์ทแฮร์ แมวสายพันธุ์นี้ ปรับตัวเข้ากับการอยู่ในบ้านได้เก่งที่สุด และเป็นมิตรกับเด็ก
- แร็กดอลล์ แมวพันธุ์นี้เข้ากับคนได้ง่าย ปรับตัวเก่ง แถมยังขี้เล่น จึงเหมาะกับบ้านที่มีเด็กโตแล้ว
- เบอร์แมน เป็นสายพันธุ์ที่ไม่ขี้โมโห มีความอดทน ไม่ชอบส่งเสียงร้อง จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับครอบครัวที่มีเด็กทารกอยู่ในบ้าน
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง : คนท้องกับแมว แมวรู้ไหมว่าเราท้อง? ข้อดีข้อเสียการเลี้ยงแมวตอนท้อง!
ข้อแนะนำ ก่อนการเลี้ยงแมว
เด็กบางคนชอบอุ้มและจับแมว ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่คุณแม่ควรสอนให้รู้น้อง ๆ รู้จักกับนิสัยทั่วไปของแมวด้วย ซึ่งแมวจะไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้ หรือจับตอนที่กำลังกินอาหาร นอน หรือขับถ่ายอยู่ แถมแมวก็ยังเป็นสัตว์ที่ขี้ตกใจ คุณแม่ควรสอนให้น้อง ๆ รู้จักให้พื้นที่ส่วนตัวกับแมว ไม่ทำให้แมวโมโห และหากมีทารกอยู่ในบ้าน ไม่ควรตั้งกระบะขับถ่าย หรือที่นอนแมว ไว้ใกล้กับเด็กทารก
สิ่งที่ควรคำนึงถึงเกี่ยวกับการเลี้ยงแมว
ก่อนจะซื้อแมวมาเลี้ยง ควรคำนึงถึงหลาย ๆ สิ่ง ดังนี้
1. เตรียมพร้อมสำหรับความรับผิดชอบที่ต้องเจอ
การเลี้ยงสัตว์ ก็เหมือนการเลี้ยงเด็กคนหนึ่ง หากคุณแม่อยากเลี้ยงน้องแมว ควรเตรียมรับมือกับภาระที่ต้องเจอ ซึ่งคุณแม่อาจจะเเบ่งหน้าที่กับคนอื่น ๆ ในบ้าน เพื่อผลัดเปลี่ยนกันคอยดูแล ให้อาหาร อาบน้ำน้องแมว และพาน้องแมวไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่าง ๆ นอกจากนี้ ควรบอกลูก ๆ ให้รู้ด้วยว่ากำลังจะมีสัตว์เลี้ยงใหม่มาอยู่ร่วมบ้าน เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้เตรียมตัวต้อนรับเจ้าเหมียวขนฟู
2. มีเวลามากพอที่จะเลี้ยงแมว
แมวก็เหมือนกับเด็ก ตรงที่ต้องการความเอาใจใส่ ต้องมีคนคอยหาอาหารให้กิน ซึ่งหากคุณแม่จะเลี้ยงน้องแมว ก็ต้องมีเวลามากพอที่จะดูแลเขา คอยเปลี่ยนทรายในกระบะ เติมอาหาร หรือชวนน้องแมวเล่น เพื่อไม่ให้เขารู้สึกเหงา
3. เตรียมตั้งรับกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
หากกำลังจะซื้อน้องแมว ควรเตรียมค่าใช้จ่ายเอาไว้สำหรับฉีดวัคซีน หรือซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ของน้องแมวด้วย รวมถึงควรเตรียมเงินสำหรับซื้อน้องแมว ซึ่งแมวสายพันธุ์ต่างประเทศ จะมีราคาแพงมากกว่าแมวพันธุ์ไทย
4. ประเภทของแมวที่ต้องการซื้อ
คุณแม่หลายท่าน หรือคนส่วนใหญ่ เลือกที่จะซื้อแมวตัวเล็ก ๆ หรือแมวที่ยังอายุน้อย เพราะดูน่ารัก น่ากอด แถมยังมีขนาดใกล้เคียงกับลูกน้อย แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญออกมาแนะนำว่า ควรเลือกซื้อแมวที่ตัวใหญ่ หรือมีอายุที่ไม่น้อยจนเกินไป เพราะเด็กเล็ก ๆ ยังไม่รู้จักวิธีเล่นกับแมว อาจจะทำให้แมวบาดเจ็บได้ นอกจากนี้ แมวตัวเล็ก หรือแมวที่อายุน้อย จะมีฟันและเล็บที่แหลมคมกว่าแมวที่อายุเยอะ ลูกน้อยจึงอาจจะได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกับแมวได้
5. ช่วงเวลาซื้อแมวมาเลี้ยง
หากกำลังเตรียมย้ายบ้าน หรืออยู่ในช่วงขยับขยายครอบครัว ก็อาจจะยังไม่เหมาะที่จะซื้อแมวมาเลี้ยง หรือถ้าหากคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ ก็อาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคท็อกโซพลาสโมซิสได้
การซื้อสัตว์มาเลี้ยงสักตัวถือเป็นเรื่องใหญ่ ฉะนั้น คุณแม่ควรคำนึงถือปัจจัยต่าง ๆ ให้ดีก่อนซื้อสัตว์มาเลี้ยง และเมื่อซื้อแมวมาเลี้ยงแล้ว ก็อย่าลืมให้เวลาแมวปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมภายในบ้าน และสอนให้ลูก ๆ เล่นกับแมวอย่างถูกวิธี เพื่อที่แมวและลูก จะได้อยู่ร่วมชายคาเดียวกันได้อย่างมีความสุข
ที่มา :vetstreet , cats , hillspet ,pet.kapook , kb.rspca , helpguide , 7
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!