บราซิล เตือน! ประชากรผู้หญิงควรชะลอการตั้งครรภ์ เหตุจาก COVID-19 (สายพันธุ์ที่มาจากประเทศอังกฤษ) ที่กำลังแพร่ระบาดเข้าสู่ประเทศระลอกใหม่ โดยทำให้อัตราผู้ป่วยทะยานขึ้นสูงอย่างหยุดไม่อยู่
บราซิล หรือ สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล เป็นประเทศใหญ่ที่สุด และมีประชากรมากที่สุดในอเมริกาใต้ โดยมีประชากรภายในประเทศประมาณ 211 ล้านคน ด้วยสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ทำให้บราซิลมีผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก
สถานการณ์การติดเชื้อไวรัสใน บราซิล
สถานพยาบาลภายในบราซิลในขณะนี้กำลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤติ โดยสถานพยาบาลนั้นกำลังตกอยู่ภายใต้ความเครียด และสภาวะกดดัน ซึ่งมีผลมาจากปริมาณยา และเครื่องหายใจที่สามารถช่วยเหลือผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าที่มีอาการหนักนั้นไม่เพียงพอกับปริมาณของผู้ป่วย ในขณะนี้ทางรัฐบาลบราซิลกำลังเร่งจัดหาเครื่องช่วยหายใจ และยาให้มีปริมาณเพียงพอสำหรับผู้ป่วยจากประเทศพันธมิตรต่าง ๆ อยู่
P1 คืออะไร?
P1 หรือ ไวรัสที่กำลังกายพันธุ์ชนิดใหม่ ที่มาในรูปแบบของการหลีกหนีแอนตบอดี้ของร่างกายมนุษย์ โดยถูกค้นพบครั้งแรกในเมืองมาเนาส์ (Manaus) ในลุ่มแม่น้ำแอมะซอน ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่ไว้ที่สุดในบราซิล โดยการติดเชื้อในระลอกใหม่นี้ ทำให้บราซิลเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตเป็นอันดับ 2 ของโลก ซึ่งคร่าชีวิตประชากรภายในประเทศไปถึง 350,000 คน นักวิทยาศาสตร์ของสถาบันสาธารณสุข Fiocruz กล่าวว่า P1 นั้นสามารถแพร่กระจายเชื้อเข้าไปยังเซลล์ของมนุษย์ได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราเป็นอย่างมาก และไวรัสตั้วนนี้สามารถต้านทานต่อวัคซีนได้มากขึ้น ทำให้การรักษานั้นอาจเป็นไปได้ยากมากขึ้นเช่นกัน
บทความที่น่าสนใจ : ไวรัสโคโรน่าในเด็ก อันตรายหรือไม่ ป้องกันยังไงไม่ให้ลูกติดเชื้อโควิด-19
อายุเฉลี่ยของผู้ติดเชื้อไวรัส
การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในบราซิลนั้น ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ เป็นคนที่อายุไม่มากนัก โดยข้อมูลจากสถานพยาบาลออกมาเปิดเผยว่า ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผู้ติดเชื้อมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้ป่วยที่มีอายุประมาณ 40 ปี หรือต่ำกว่านั้น
สาเหตุของการชะลอการตั้งครรภ์
เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา นาย Raphael Parente เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขของบราซิลได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์การติดเชื้อภายในประเทศ และได้กล่าวว่า “ถ้าเป็นไปได้อยากให้ประชากรผู้หญิงชะลอการตั้งครรภ์ หรือเลื่อนการวางแผนการมีบุตรออกไปก่อนในระยะนี้ จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าจะดีขึ้น” และเขายังกล่าวอีกว่า “การติดเชื้อระลอกใหม่นี้สามารถติดเชื้อได้ง่ายกว่ารอบก่อน โดยเขาขอเรียกตัวแปรในการติดเชื้อครั้งนี้ว่า P1 ซึ่งส่วนหนึ่งที่ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสูงมากขึ้นนั้นมาตจกความเครียด และสุขภาพของแต่ละบุคคล”
สำหรับเหตุผลที่ทางเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขของบราซิลได้ขอให้ประชากรผู้หญิงภายในประเทศชะลอการตั้งครรภ์ หรือเลื่อนการวางแผนการมีบุตรออกไปนั้น นั้นมีสาเหตุมาจาก 2 ประเด็น ดังนี้
-
การตรวจที่ล่าช้า
การติดเชื้อไวรัสโคโรย่าสายพันธุ์ใหม่ของเด็กในบราซิลนั้นต่างออกไปจากอาการโดยทั่วไปที่สามารถพบเห็นได้ (อาการไอแห้ง มีน้ำมูก มีไข้ขึ้นสูง มีผื่นขึ้น) แต่เด็กที่ได้รับเชื้อในบราซิลนั้นมักมีอาการปวดท้อง ท้องร่วง และอาการแน่นหน้าอกร่วมด้วย ซึ่งอาจดูเหมือนเป็นการทั่วไปของผู้ที่ไม่ได้รับเชื้อ แต่ถึงอย่างไรก็ตามการแสดงอาการที่ไม่เหมือนกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อทั่วไป ทำให้กระบวนการตรวจหาเชื้อ และการรักษานั้นเป็นไปอย่างล่าช้า จึงเป็นเหคุทำให้เด็กที่ติดเชื้อจำนวนมากขึ้น และเมื่อผลตรวจได้รับการยืนยัน เด็กก็มักจะมีอาการที่อยู่ในขั้นวิกฤติ หรือเสียชีวิตแล้ว
-
ความเป็นอยู่ และเศรษฐกิจ
บราซิลถือว่าเป็นประเทศมีประชากรภายในประเทศจำนวนมาก และด้วยเศรษฐกิจ ผนวกกับพิษของไวรัสโคโรน่าที่ระบาดไปทั่วโลก ทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศแย่ลงตามลำดับ ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เกิดการติดเชื้อเป็นจำนวนมาก เนื่องจากการเข้าถึงสวัสดิการของภาครัฐ หรือการเข้าถึงของแพทย์นั้นเป็นเรื่องยาก บางครอบครัวมีฐานะที่ยากจน และอยู่ในสภาพที่แออัดทำให้การติดเชื้อนั้นเป็นเรื่องง่าย อีกทั้งยังเกี่ยวกับเรื่องภูมิคุ้มกันของเด็ก ๆ ที่ตามปกติเสี่ยงต่อการขาดสารอาหารเป็นทุนเดิม จึงทำให้สถานการณ์บราซิลตอนนี้แย่ลง
นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ว่า “ผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์ประจำคลินิกต่าง ๆ พบว่าตัวแปร ส่งผลให้หญิงที่ตั้งครรภ์อยู่นั้นมีพฤติกรรมก้าวร้าวมากขึ้น” ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ป่วยที่เป็นคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าส่วนใหญ่จะเป็นคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในไตรมาสสุดท้าย หรือคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกภายในเวลาไม่นานมากนัก แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้จากผลการรายงานแสดงให้เห็นว่ามีผู้ป่วยที่ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น และร้ายแรงกว่าเป็นคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ในไตรมาสสอง และในไตรมาสหนึ่ง (ปริมาณน้อยกว่าไตรมาสที่สอง)
บทความที่น่าสนใจ : 4 สิ่งที่แม่ท้องควรรู้ เกี่ยวกับโควิด-19 แม่ท้องควรรู้อะไรเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าไหม?
การปฏิบัติงานของรัฐบาลบราซิล
ประธานาธิบดีของ บราซิล Jair Bolsonaro ไม่สามารถแก้ปัญหาสถานการณ์นี้ได้ เนื่องจากตัวของเขาเอง คัดค้านการล็อกดาวน์ และยังคงจัดกิจกรรมขนาดใหญ่อยู่โดยที่เขาก็ไม่สวมหน้ากากอนามัย แต่เมื่อไม่น่ามานี้เขาเพิ่งตัดสินใจรับวัคซีน ซึ่งเป็นทางการปัญหาที่ดีที่สุดในตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตามการฉีดวัคซีนก็เป็นไปด้วยความล่าช้า และไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ทางกระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ไว้ โดยในสัปดาห์นี้มีหลายเมืองจะต้องหยุดการฉีดวัคซีน เพราะปริมาณของวัคซีนไม่เพียงพอ นอกจากนี้การเพิ่มจำนวนของผู้ป่วยก็ยังมากขึ้นในทุกวัน ทำให้สถานพยาบาลในบราซิลขาดแคลนยาระงับประสาทที่จำเป็นต่อผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่ถึงอย่างไรก็ตามด้วยความช่วยเหลือจากประเทศพันธมิตร ในช่วงดึกของวันที่ 15 เมษายน 2564 บราซิลได้รับยาฉุกเฉินมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนชั่วคราวจากประเทศจีน และในสัปดาห์หน้า คาดการว่าจะได้รับวัคซีนเพิ่มจากการบริจาควัคซีนจากประเทศสเปน
ทั้งนี้เมืองใหญ่อย่าง ริโอเดอจาเนโร (Rio de Janeiro) และเซาเปาโล (São Paulo) กำลังจะประสบปัญหาของการขาดแคลนความช่วยเหลืออีกครั้ง โดยเลขาธิการสาธารณสุขของเซาเปาโล กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้การดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสของหน่วยงานสาธารณสุขเซาเปาโลกำลังจะเข้าสู่วิกฤติอีกครั้ง เนื่องจากตอนนี้ขาดแคลนยาเป็นจำนวนมาก และมีผู้ป่วยสะสมสูงถึง 85% ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ป่วยหนักที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ แต่ทางรัฐของเซาเปาโลได้แถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า จะเริ่มทยอยเปิดร้านค้าและร้านอาหารอีกครั้ง โดยให้เหตุผลกับประชาชนว่า “เนื่องจากจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อใหม่ในสถานพยาบาลมีจำนวนลดลง เราจึงสามารถเปิดให้ร้านค้า และร้านอาหารเปิดทำการได้อีกครั้งอย่างปลอดภัย”
ที่มา : mobile.reuters.com, www.bbc.com, www.reuters.com
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!