ตั้งครรภ์ ท้องนิ่มหรือแข็ง ? คุณแม่มือใหม่กดท้องเองได้มั้ย? เช็กขนาดท้องแม่แต่ละเดือน

lead image

ลักษณะท้องของแม่ตั้งครรภ์เป็นแบบไหน แต่ละเดือนท้องโตเท่าไร ตั้งครรภ์ ท้องนิ่มหรือแข็ง ? คุณแม่มือใหม่ มาเช็กไปพร้อมกันค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สำหรับคุณแม่มือใหม่ การเปลี่ยนแปลงของร่างกายขณะตั้งครรภ์อาจสร้างความสงสัยมากมายหลายประเด็น ซึ่งหนึ่งในคำถามที่อาจติดอยู่ในใจคุณแม่คือ “ลักษณะของท้อง” ว่า ตั้งครรภ์ ท้องนิ่มหรือแข็ง ? จะรู้ได้อย่างไรว่าท้องแบบไหนคือ “ตั้งท้อง” จับหรือกดท้องดูจะรู้มั้ย? เรามาหาคำตอบไปพร้อมกันเลยค่ะ

ตั้งครรภ์ ท้องนิ่มหรือแข็ง

ตั้งครรภ์ ท้องนิ่มหรือแข็ง ?

ในช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ ท้องของคุณแม่อาจยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนักค่ะ อาจจะยังคง “นิ่ม” เหมือนเดิม หรือรู้สึกตึงๆ เล็กน้อย แต่เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น ท้องของคุณแม่จะค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้น จนรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนค่ะ

  • ตั้งครรภ์ ท้องนิ่ม

ในระยะแรกของการตั้งครรภ์ ท้องของคุณแม่จะยังคงนิ่มอยู่ เนื่องจากมดลูกยังไม่ขยายใหญ่มากนัก แต่เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 (เดือนที่ 4 – เดือนที่ 6) ท้องของคุณแม่จะเริ่มแข็งขึ้น และเมื่อมีอายุครรภ์ได้ 28 สัปดาห์ขึ้นไป หรือไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ (เดือนที่ 7-9) มดลูกจะเริ่มขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งปกติแล้วจะมีลักษณะเป็นก้อนนิ่มๆ เมื่อคลำดูก็จะสัมผัสได้ถึงการมีทารกดิ้นอยู่ค่ะ

  • ตั้งครรภ์ ท้องแข็ง

อย่างที่บอกว่า พออายุครรภ์มากขึ้น ท้องของคุณแม่จะแข็งขึ้น เนื่องมากจากมดลูกขยายใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก และกล้ามเนื้อหน้าท้องจะยืดขยายเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้ บางครั้งคุณแม่อาจรู้สึกว่าท้องแข็ง หรือรู้สึกตึงหน้าท้อง ซึ่งเกิดจากการหดรัดตัวของมดลูกเป็นครั้งคราว

ขนาดท้องของ แม่ตั้งครรภ์ ในแต่ละเดือน

เดือนแรก
  • ไข่และอสุจิปฏิสนธิจนฝังตัวที่ผนังโพรงมดลูกแล้ว
  • ขนาดหน้าท้องจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยังไม่นูนออกมา
เดือนที่ 2
  • มดลูกและตัวอ่อนในครรภ์ยังคงพัฒนาต่อไป
  • ยังไม่เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของหน้าท้อง
เดือนที่ 3
  • มดลูกและตัวอ่อนมีการพัฒนาอวัยวะต่างๆ แต่อาจยังไม่เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของหน้าท้อง
  • คุณแม่ที่เคยตั้งครรภ์มาก่อน หรือตั้งครรภ์ลูกแฝด อาจเห็นหน้าท้องที่นูนขึ้นมาเล็กน้อย เพราะน้ำหนักทารกในครรภ์และกล้ามเนื้อช่องท้องอาจไม่แข็งแรงเหมือนท้องแรก
เริ่มไตรมาส 2 (เดือนที่ 4)
  • หน้าท้องเริ่มขยายขึ้นอย่างชัดเจน อาจสังเกตเห็นก้อนนูนขนาดเล็กที่บริเวณยอดหัวหน่าว
  • คุณแม่ที่รูปร่างเล็ก ผอม จะสังเกตเห็นการขยายตัวของหน้าท้องได้ชัดเจนขึ้น
  • ท้องคุณแม่จะเริ่มแข็งขึ้นในช่วงเดือนนี้
เดือนที่ 5
  • หน้าท้องของคุณแม่ขยายออกอย่างชัดเจนเพราะการเจริญเติบโตของทารก
  • ขนาดหน้าท้องจะนูนขึ้นสูงถึงประมาณบริเวณสะดือ จนสามารถสังเกตได้ว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่
เดือนที่ 6
  • หน้าท้องของคุณแม่จะใหญ่ขึ้นมาก บางคนอาจยื่นออกมาและสะดือก็อาจยื่นออกมาด้วย
  • คุณแม่บางคนอาจมีรอยแตกลายบริเวณหน้าท้องเกิดขึ้น
เริ่มไตรมาส 3 (เดือนที่ 7)
  • ทารกในท้องจึงมีขนาดตัวใหญ่ขึ้น มดลูกก็จะขยายตัวมากขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก ทำให้ขนาดหน้าท้องของคุณแม่ใหญ่ขึ้นตามไปด้วย
  • คุณแม่อาจเริ่มมีอาการปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อและเมื่อยล้ามากขึ้น
เดือนที่ 8
  • ขนาดหน้าท้องทำให้คุณแม่เคลื่อนไหวลำบากขึ้น เช่น ลุกนั่งลำบาก เดินได้ช้าลง รวมถึงอาจรู้สึกอึดอัดมาก
  • คุณแม่จะนอนหลับไม่ค่อยสบายเพราะการรับน้ำหนักของท้อง และอาจปวดหลังมากขึ้นด้วย
เดือนที่ 9
  • ทารกในครรภ์เริ่มกลับหัวเปลี่ยนตำแหน่งเข้าสู่อุ้งเชิงกรานเพื่อเตรียมคลอด
  • หน้าท้องของคุณแม่จึงอาจลดระดับต่ำลงมากกว่าเดิมเล็กน้อย

 

ทั้งนี้ หากยังไม่ถึงกำหนดคลอด แต่รู้สึกว่าหน้าท้องที่ “เคยนิ่ม” เกิดแข็งขึ้นมาทั่วท้องจนรู้สึกเจ็บ นั่นคือสัญญาณเตือนว่ามดลูกกำลังบีบตัวหดรัด ให้คุณแม่สังเกตดูว่าท้องจะแข็งนานประมาณ 10 นาที/ครั้ง ติดต่อกัน 4-5 ครั้ง เป็นชุดๆ หากเกิดถี่ขึ้นเรื่อยๆ ท้องแข็งจนรู้สึกแน่น หายใจไม่สะดวก และอาการไม่หายไป ควรจะรีบพบแพทย์ให้เร็วที่สุด เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้มดลูกจะบีบตัวจนปากมดลูกเปิด นำมาสู่การคลอดก่อนกำหนดได้ค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ตั้งครรภ์ ท้องนิ่มหรือแข็ง คุณแม่มือใหม่ กดท้องยังไงให้รู้ว่าท้อง?

คุณแม่มือใหม่หลายคนไม่แน่ใจว่า ตั้งครรภ์ ท้องนิ่มหรือแข็ง ไม่ชัวร์ว่าลักษณะท้องที่เป็นอยู่ใช่การตั้งครรภ์หรือไม่ ทำให้รู้สึกอยากลองกดท้อง เพื่อตรวจสอบการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นวิธีการที่ทำได้นะคะแต่ไม่ใช่วิธีที่แม่นยำเสมอไป และการกดท้องเพื่อเช็กว่าตั้งครรภ์หรือไม่นั้น ปกติแล้วมีความเสี่ยงค่อนข้างมากค่ะหากทำด้วยตัวเอง ดังนั้น ข้อควรระวัง! ของการกดท้อง คือ แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการตรวจจะปลอดภัยกว่าค่ะ เนื่องจากเป็นการกดเช็กที่ต้องกดท้องค่อนข้างลึก เพราะคุณแม่ที่ตั้งครรภ์มดลูกจะยกสูงขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณแม่ที่ท้องเริ่มโตจึงรู้สึกแน่นท้อง และท้องอืดง่ายนั่นเองค่ะ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกๆ ของการตั้งครรภ์ ดังนั้น คุณแม่จำเป็นต้องอาศัยการสังเกตอาการอื่นๆ ร่วมกับการกดท้อง เพื่อประเมินความเป็นไปได้ในการตั้งครรภ์ ดังนี้

  1. สังเกตอาการเบื้องต้น อาการที่บ่งบอกถึงการตั้งครรภ์ เช่น ประจำเดือนขาด คลื่นไส้ อาเจียน คัดเต้านม อ่อนเพลีย ปัสสาวะบ่อย เป็นต้น
  2. กดท้องเบาๆ ใช้ปลายนิ้วกดลงบนหน้าท้องเบาๆ จะรู้สึกถึงความนูนและแข็งขึ้นของมดลูก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3
  3. สังเกตการเปลี่ยนแปลง หากท้องของคุณแม่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง และรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์ได้ชัดเจน แสดงว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม การยืนยันการตั้งครรภ์ที่แม่นยำที่สุดคือการตรวจปัสสาวะหรือตรวจเลือดนะคะ หากสงสัยว่าตั้งครรภ์ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำและการดูแลที่เหมาะสมดีกว่าค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ตั้งครรภ์ ท้องนิ่มหรือท้องแข็ง: สาเหตุแม่ตั้งครรภ์ท้องแข็ง

อาการท้องแข็งในระหว่างตั้งครรภ์ไม่ได้เกิดขึ้นกับแม่ท้องทุกคนค่ะ แต่ถือเป็นภาวะที่ต้อง “เฝ้าระวัง” และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่อาจทำให้มีอาการท้องแข็งด้วย ซึ่งโดยปกติแล้ว สาเหตุคุณแม่ ตั้งครรภ์ท้องแข็ง ที่พบบ่อยคือ

สาเหตุแม่ตั้งครรภ์ท้องแข็ง

ทารกในครรภ์ดิ้นแรง หรือโก่งตัว 
  • เป็นอาการท้องแข็งที่พบบ่อยที่สุด
  • คุณแม่จะรู้สึกท้องแข็งแบบ “บางที่แข็ง บางทีนิ่ม” เพราะลูกน้อยดิ้นหรือโก่งตัวชนเข้ากับผนังมดลูก จนมดลูกเกิดการบีบตัว
  • อวัยวะต่างๆ ของลูก เช่น ศอก ไหล่ เข่า หัว หรือก้น ปรากฏนูนที่หน้าท้อง
  • ถ้าเป็นส่วนหลังกับก้นดันออก คุณแม่จะรู้สึกว่ามดลูกเบี้ยวไปข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งจะนิ่มกว่า
  • บริเวณที่รู้สึกเป็นรอยนูนเล็กๆ หลายจุดจะเป็นส่วนของมือและเท้า ภาวะแบบนี้มักเป็นการดิ้นตามปกติของทารกในครรภ์
มดลูกบีบรัดตัวเองโดยหาสาเหตุไม่ได้
กินอิ่มเกินไป
  • คุณแม่ที่กินมากไป เคี้ยวไม่ละเอียด อาหารไม่ย่อย เกิดแก๊สในกระเพาะ อาจทำให้มดลูกบีบรัดตัวเพราะถูกกระตุ้นจากการเบียดของกระเพาะอาหาร
  • ลักษณะท้องจะตึงหรือแน่นท้อง แต่ไม่ได้ท้องแข็งมาก

 

วิธีดูแลตัวเอง ไม่ให้ท้องแข็งขณะตั้งครรภ์

  1. ไม่กลั้นปัสสาวะ

หากรู้สึกปวดปัสสาวะให้คุณแม่เข้าห้องน้ำทันทีค่ะ เพราะการกลั้นนานๆ เป็นสาเหตุให้เกิดท้องแข็งได้ เนื่องจากมดลูกที่ใหญ่ขึ้นตามอายุครรภ์จะถูกกระเพาะปัสสาวะที่บรรจุน้ำปัสสาวะเอาไว้มากเบียดแน่นขึ้นอีกค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. ไม่บิดตัวหรือบิดขี้เกียจ

คุณแม่หลายคนอาจเคยชินกับการบิดตัวเพื่อผ่อนคลายอิริยาบถ ดังนั้น หากตั้งครรภ์แล้วต้องระวังความเคยชินเหล่านี้นะคะ เพราะการบิดขี้เกียจ หรือบิดเอี้ยวตัว จะทำให้ช่องท้องมีปริมาตรเล็กลง ความดันในมดลูกสูงขึ้น ทำให้เกิดภาวะท้องแข็งขณะตั้งครรภ์ได้

  1. ไม่กินอิ่มเกินไป

เมื่อการกินอาหารอิ่มมากเกินไป รวมถึงการเกิดแก๊สในกระเพาะอาหารเป็นเหตุผลหนึ่งของภาวะท้องแข็งในคุณแม่ตั้งครรภ์ ดังนั้น จึงต้องระวังค่ะ โดยควรแบ่งกินเป็นมื้อเล็กๆ มื้อย่อยหลายๆ มื้อ แต่กินให้ครบ 5 หมู่ เคี้ยวให้ละเอียด และดื่มน้ำมากๆ จะช่วยให้ระบบการย่อยอาหารของคุณแม่ตั้งครรภ์จะทำงานได้ดีขึ้นค่ะ

  1. งดการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงไตรมาส 3

ในช่วงการตั้งครรภ์เดือนที่ 7-9 การมีเพศสัมพันธ์ในบางท่าทาง อาจกระตุ้นให้มดลูกเกิดการบีบตัว ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่ออาการท้องแข็งเท่านั้น แต่ยังไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพครรภ์ของคุณแม่ด้วยค่ะ

  1. ไม่ควรลูบท้องบ่อยๆ

การลูบท้อง เป็นช่องทางหนึ่งที่จะสื่อสัมผัสรักจากคุณพ่อคุณแม่ไปสู่ลูกน้อยได้ก็จริง แต่คุณแม่ที่มีความเสี่ยงภาวะท้องแข็งขณะตั้งครรภ์ ไม่ควรลูบท้องบ่อยๆ นะคะ รวมถึงการสัมผัสกับอวัยวะที่ไวต่อการกระตุ้นอย่างบริเวณเต้านมซึ่งมักถูกสัมผัสในขณะอาบน้ำทำความสะอาด เนื่องจากจะส่งผลให้มดลูกบีบตัวได้ค่ะ

การเปลี่ยนแปลงของลักษณะท้องระหว่างตั้งครรภ์เป็นเรื่องปกตินะคะ ไม่ว่า ตั้งครรภ์ ท้องนิ่มหรือแข็ง คุณแม่ก็ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น และสังเกตความเปลี่ยนแปลงของร่างกายอย่างใกล้ชิด หากมีข้อสงสัยหรือความกังวลใจ ควรปรึกษาแพทย์แล้วขอคำแนะนำและการดูแลที่ถูกต้อง เพื่อสุขภาพที่ดีของทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ค่ะ

 

 

ที่มา : www.phyathai.com , hellokhunmor.com

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ปวดท้องร้าวไปหลัง ระหว่าง ตั้งครรภ์ สัญญาณเตือน! หรือแค่ปวดธรรมดา?

เช็กอาการ! ตกขาวแบบไหน “ท้อง” ตกขาวคนท้องระยะแรก เป็นยังไง

ทายเพศลูกตามความเชื่อ จริงไหม ท้องแหลมได้ลูกชาย ท้องกลมได้ลูกสาว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

จันทนา ชัยมี