คุณแม่หลาย ๆ ท่าน อาจมีปัญหาเกี่ยวกับการให้นม บางท่านอาจมีความจำเป็นในการกลับไปทำงาน ทำให้ไม่สามารถให้นมลูกได้อย่างเต็มที่ และรวมไปถึง ปัญหา น้ำนมไม่พอ ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ส่งผลให้คุณแม่มีอาการเครียด และเกิดความกังวลว่าลูกรักจะได้รับสารอาหารและโภชนาการได้ไม่ครบถ้วน
ยิ่งโดยเฉพาะคุณแม่ที่ผ่าคลอด มักจะมีปัญหาน้ำนมมาช้ามากกว่าคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ เนื่องจากความอ่อนเพลียของร่างกายจากการผ่าคลอด รวมไปถึงอาการปวดแผลผ่าคลอด ทำให้ลูกน้อยไม่สามารถเข้าเต้าได้ทันที และส่งผลต่อการสร้างน้ำนม ทำให้น้ำนมของคุณแม่ผ่าคลอดมักมาช้ากว่าคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติอยู่ 1 – 2 วันนั่นเอง นอกจากนี้ ในช่วงสัปดาห์แรก ๆ หากคุณแม่พักผ่อนไม่เพียงพอ ก็อาจมีผลต่อการสร้างน้ำนมได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งข้อมูลจากการวิจัยพบว่า เด็กผ่าคลอดจะไม่ได้รับจุลินทรีย์ที่ดีจากแม่ในขณะคลอดและมีโอกาสได้รับนมแม่ช้ากว่าทารกที่คลอดตามธรรมชาติ
โดยปกติแล้ว คุณแม่ควรให้ลูกกินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงอย่างน้อย 6 เดือน โดยหลังจากนั้นสามารถเสริมอาหารตามวัยควบคู่กับการกินนมได้เรื่อย ๆ จนถึงอายุ 2 ปี เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาภูมิคุ้มกันให้กับลูก ทั้งยังช่วยลดโอกาสการเจ็บป่วย ช่วยปรับสมดุลระบบขับถ่ายไม่ให้มีปัญหาท้องอืด ท้องผูก หรือท้องเสีย นอกจากนี้ การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงเสมอ ยังช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคภูมิแพ้ได้อีกด้วย
วิธีการแก้ปัญหาน้ำนมมาช้า น้ำนมไม่พอ
- ปั๊มนมให้ถูกวิธี ควรปั๊มนมให้บ่อย เพิ่มเวลาให้นานขึ้น และในทุก ๆ ครั้ง ควรปั๊มนมให้เกลี้ยงเต้าเสมอ
- กระตุ้นน้ำนม คุณแม่สามารถกระตุ้นน้ำนมได้โดยการประคบเต้านมด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น หรือการนวดเปิดท่อน้ำนม เป็นต้น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยการเลือกทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดี ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
- ดื่มน้ำ คุณแม่ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อทดแทนน้ำนม และป้องกันไม่ให้คุณแม่อยู่ในภาวะขาดน้ำ
สำหรับคุณแม่ผ่าคลอดที่ประสบปัญหาน้ำนมมาช้า หรือน้ำนมไม่พอ สามารถเลือกนมเสริม แต่คุณแม่ควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับโภชนาการ รวมทั้งให้ความสำคัญในเรื่องของสารอาหาร และกระบวนการผลิตที่เป็นธรรมชาติสูง ซึ่งจะช่วยรักษาสารอาหารจากธรรมชาติเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน ทั้งนี้เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อร่างกายของลูก ซึ่ง นมแพะ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ และสามารถช่วยแก้ปัญหาน้ำนมไม่เพียงพอได้เป็นอย่างดี
จากการศึกษาพบว่า “นมแพะ” ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับลูก เพราะนมแพะ มีอะโพไครน์ ระบบสร้างน้ำนมคล้ายนมแม่ สามารถช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ป้องกันจากการติดเชื้อแบคทีเรียอีโคไลในลำไส้ นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำว่า การดื่มนมแพะ มีส่วนช่วยในการส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันอีกด้วย
ประโยชน์ของนมแพะ นมแรกต่อจากนมแม่
ในนมแพะ มีระบบการสร้างน้ำนมชื่อว่า “อะโพไครน์” คล้ายนมแม่ ซึ่งถือเป็นระบบการสร้างน้ำนมพิเศษแบบเดียวกับที่มีในน้ำนมแม่ ทำให้สารอาหารในนมแพะ โดยเฉพาะสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งสารอาหารจากธรรมชาติที่ได้จากระบบ “อะโพไครน์” มีชื่อว่า “ไบโอแอคทีฟ คอมโพเนนท์” เป็นสารอาหารที่มีประโยชน์สูงมาก ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และการเจริญเติบโต ให้กับเด็กผ่าคลอด โดยประกอบด้วยสารอาหาร 4 ชนิด ดังนี้
- นิวคลีโอไทด์ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทำให้ไม่ป่วยง่าย มีพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุด
- ทอรีน ช่วยพัฒนาจอประสาทตา ซึ่งการมองเห็นเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดของการเรียนรู้ในวัยเด็ก
- โพลีเอมีนส์ ช่วยส่งเสริมและพัฒนาระบบทางเดินอาหารให้แข็งแรง และทำงานได้อย่างสมบูรณ์
- โกรทแฟคเตอร์ ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย ให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีสมวัย
นอกจากนี้ ในนมแพะยังมีโปรตีนที่ย่อย และดูดซึมได้ง่าย สบายท้อง หมดปัญหาอาการท้องอืด อีกทั้งยังมีประโยชน์ในการช่วยลดอาการท้องผูก และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เพราะมีใยอาหารที่เรียกว่า พรีไบโอติก มากถึง 2 ชนิดด้วยกัน คือ อินนูลิน และโอลิโกฟรุคโตส ที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์สุขภาพ หรือโพรไบโอติก เมื่ออาหารสมบูรณ์ จุลินทรีย์สุขภาพก็จะเติบโตได้ดี และมีปริมาณมากขึ้น ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานเป็นปกติ ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นอีกด้วย
นมแพะ DG นมแพะธรรมชาติจากนิวซีแลนด์ ที่มีสารอาหารจากธรรมชาติครบถ้วน นมแพะ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ถือเป็นนมที่ดีที่สุดต่อจากนมแม่ เพราะมีระบบการสร้างน้ำนม “อะโพไครน์” คล้ายนมแม่ จึงนับเป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับปัญหาน้ำนมไม่พอ น้ำนมมาช้า หรือกังวลว่าลูกจะภูมิคุ้มกันไม่ดี และมั่นใจได้เลยว่า ลูกรักจะได้รับสารอาหารที่เหมาะสมกับร่างกายอย่างครบถ้วนแน่นอน
ค้นหาข้อมูลนมแพะเพิ่มเติม คลิก: DG Smartmom
ลงทะเบียนรับฟรี นมแพะขนาดทดลอง คลิก : DG Smart Club
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!