สังคมในปัจจุบันเริ่มเป็นที่น่ากังวลต่อลูกน้อยที่ค่อย ๆ เติบโตขึ้นมา หากพ่อแม่ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี นอกจากจะส่งผลต่อลูกทั้งทางจิตใจและด้านพฤติกรรมแล้ว ทำแบบนี้ระวังลูกจะไม่รักเอาน๊า
พ่อแม่ 6 แบบที่ลูกไม่รัก
แบบที่ 1 เป็นพ่อแม่จอมโกหก
ถึงแม้ว่าการหลอกลูกให้กลัวเพื่อให้ลูกได้ยอมทำตาม เช่น ถ้าไม่ทำแบบนี้เดี๋ยวตุ๊กแกจะมากินตับ ตำรวจจะมาจับเด็กดื้อ ผีจะมาหลอก หรือหมอจะจับไปฉีดยา ฯลฯ จะเป็นการพูดที่ส่งต่อกันมานาน แต่การพูดโกหกในลักษณะนี้จะสร้างความหวาดกลัวขึ้นให้กับลูก และส่งผลให้ลูกมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อสิ่งรอบ ๆ ตัวได้ หรือแม้แต่การใช้ “คำสัญญา” หลอกว่าถ้าทำแบบนี้พ่อแม่สัญญาว่าจะพาไปเที่ยว จะซื้อของให้ ฯลฯ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ทำตามที่รับปากเอาไว้ ซึ่งก็จะทำให้ลูกรู้สึกผิดหวัง ดังนั้นการพยายามให้ลูกปฏิบัติในสิ่งที่พ่อแม่ต้องการก็ไม่จำเป็นต้องสร้างเรื่องโกหกเสมอไป แต่สร้างทางเลือกสำหรับลูกทางใดทางหนึ่ง เพราะการโกหกอาจจะทำให้ลูกเลียนแบบและสะท้อนพฤติกรรมขี้โกหกกลับตามตัวอย่างที่เขาได้รับก็ได้
แบบที่ 2 เป็นพ่อแม่ไม่มีวินัย
ถึงแม้การแสดงออกบางอย่างอาจจะเป็นสิ่งที่พ่อแม่ไม่รู้ตัว แต่เมื่ออยู่ในสายตาลูกก็อาจจะทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีและคิดว่าทำสิ่งเหล่านี้ได้ไม่เป็นไร เช่น การแซงคิวเข้าห้องน้ำ หรือจ่ายเงินซื้อของ พฤติกรรมแบบนี้พ่อแม่จะส่งต่อให้ลูกกลายเป็นคนดีของสังคมยาก ดังนั้นจึงไม่ใช่แต่เด็กที่พ่อแม่คอยสอนว่าต้องมีวินัย หากแต่เป็นพ่อแม่เองก็ควรปรับนิสัยไม่มีวินัย สร้างเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกรัก และได้เรียนรู้พฤติกรรมดี ๆ ที่จะสามารถอยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ ในโลกนี้ได้อย่างมีความสุข
แบบที่ 3 เป็นพ่อแม่ละเมิดกฏกติกา
คนที่สร้างกฏกติกาประจำบ้านให้ลูก ๆ ปฏิบัติและทำตามก็คือพ่อแม่เอง แต่บางครั้งพ่อแม่อาจจเผลอลืมและทำผิดกฏที่ตนเองเคยตั้งไว้ เช่น บอกลูกเก็บของเล่นให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และของใช้ในบ้านพ่อแม่กลับวางระเกะระกะ พ่อแม่สอนลูกให้รู้จักประหยัด แต่พ่อแม่กลับนำเงินไปใช้จ่ายสุรุยสุร่าย เมื่อพ่อแม่มีพฤติกรรมเช่นนี้สิ่งที่ตามมาคือ ลูกจะพยายามฝ่าฝืนกฎของบ้านบ้าง ไม่ใช่เพราะลูกดื้อแต่เป็นเพราะพ่อแม่ละเมิดกฏกติกาของบ้านให้ลูกดูเป็นตัวอย่าง ดังนั้นพ่อแม่ควรทำสิ่งที่เป็นตัวอย่างดี ๆ ให้ลูกเห็น หรือพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดียิ่งขึ้นในกฏกติกาที่ได้ตั้งไว้ภายในบ้าน เพื่อลูกจะได้เห็นแบบอย่างที่น่ารักจากพ่อแม่ในทุก ๆ วัน
แบบที่ 4 เป็นพ่อแม่ที่อารมณ์เปลี่ยนแปลงบ่อย
การเลี้ยงลูกต้องใช้ความอดทนอย่างสูง จนบางครั้งก็ส่งผลให้พ่อแม่หงุดหงิดและแสดงอารมณ์โกรธกับลูก พฤติกรรมแบบนี้ก็เท่ากับเป็นการให้ลูกซึมซับการใช้ความรุนแรงไปในตัว ดังนั้นถ้าพ่อแม่รู้สึกอดทนไม่ไหวก็ควรขอเวลาเพื่อไปสงบสติอารมณ์ และพยายามควบคุมอารมณ์เมื่ออยู่ต่อหน้าลูก มองในสิ่งที่ลูกทำอย่างเข้าใจว่าเป็นไปตามวัยของเด็ก ซึ่งบางครั้งพวกคุณอาจจะแอบอมยิ้มในพฤติกรรมความไร้เดียงสาของลูก ๆ ดีกว่ามองลูกว่าทำอะไรไม่ถูกต้องไปหมด
Read : 6 วิธีเลี้ยงลูกด้วยการคิดบวกช่วยพ่อแม่รู้จัก “อดทน” มากขึ้น
แบบที่ 5 เป็นพ่อแม่ปากร้าย
สิ่งที่พ่อแม่แสดงออกมาให้ลูกเห็นล้วนส่งผลต่อพัฒนาการของลูกทั้งสิ้น ถ้าอยากให้ลูกเติบโตมาเป็นคนดีในอนาคตก็ควรจะคิดดี พูดดี และทำเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น ตรงกันข้ามถ้าพ่อแม่เลี้ยงลูกแบบใช้วาจาไม่สุภาพ หรือพูดจาเสียดสี ดูถูก ทั้งต่อตัวลูกหรือคนรอบข้าง เด็กก็จะซึมซับกับคำพูดแย่ ๆ เหล่านี้ และนำมาใช้จนกลายเป็นเด็กก้าวร้าวได้ ดังนั้น การที่พ่อแม่เลือกพูดแต่ความจริง เลือกกล่าวในสิ่งที่ทำให้ผู้อื่นเกิดความสบายใจ ใช้ถ้อยคำที่สุภาพ สอนลูกให้รู้จักกล่าวคำว่าขอโทษ นอกจากพ่อแม่จะเป็นที่รักของลูกแล้วจะทำให้ลูกกลายเป็นเด็กที่น่ารักของคนรอบข้างขึ้นด้วย
แบบที่ 6 พ่อแม่ที่ติดการพนัน
พ่อแบบนิสัยแบบนี้นอกจากจะไม่น่ารักเอามาก ๆ ยังเป็นตัวอย่างไม่ดีแบบที่ลูกไม่รักได้ เพราะการที่พ่อแม่หลงอยู่กับอบายมุขจนละเลยเวลาและความสัมพันธ์ที่จะให้ลูกและครอบครัว ก็อาจส่งผลให้เกิดปัญหาความแตกแยกครอบครัวตามมาได้ ดังนั้นก่อนที่พ่อแม่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป ควรตระหนักถึงผลที่ตามมาให้มาก ๆ เพื่อจะไม่ได้เจอกับผลลัพธ์ที่ตามมาและกลายเป็นภัยที่ส่งร้ายต่อตัวลูกได้
ที่มา : www.manager.co.th
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
7 นิสัยพ่อแม่ที่จะทำให้ลูกรักมากยิ่งขึ้น
8 ภาพที่บอกความเป็นพ่อแม่ได้อย่างลงตัวที่สุด
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!