ทารกแรกเกิดทุกคนสามารถมีสีผิวที่แตกต่างกันไปตามพันธุกรรมที่ได้รับจากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ บางคนมีผิวขาวอมชมพู บางคนมีผิวสีแทน ผิวคล้ำ ผิวขาวเหลือง ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่ในบางกรณีคุณพ่อคุณแม่บางคน อาจสังเกตเห็นว่าลูกน้อยมีริมฝีปากที่คล้ำกว่าปกติ ทำให้เกิดความกังวลว่าอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพหรือไม่ ริมฝีปากของทารกควรมีสีอะไร? ภาวะปกติ หรือสัญญาณอันตราย? บทความนี้จะมาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับ ทารกปากคล้ำ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ทำความเข้าใจและดูแลลูกน้อยได้อย่างเหมาะสมค่ะ
สารบัญ
ทารกปากคล้ำ เป็นไรไหม? ริมฝีปากทารก สีแบบไหนปกติ
โดยทั่วไปแล้ว ริมฝีปากของทารกควรมีสีชมพูอ่อนๆ หรือสีแดงระเรื่อ ซึ่งเป็นสีอันเกิดจากเลือดที่ไหลเวียนมายังบริเวณริมฝีปาก เช่นเดียวกับคนที่มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงตามปกติ ริมฝีปากสดใส ไม่เหี่ยวย่น แต่หากริมฝีปากของทารกมีสีคล้ำกว่าปกติ เช่น สีม่วง สีน้ำเงิน หรือสีดำ อาจเป็นสัญญาณของภาวะสุขภาพบางอย่างที่ควรได้รับการตรวจวินิจฉัยค่ะ อาทิ
- ริมฝีปากสีซีด มักเกี่ยวข้องโดยตรงกับระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายที่ทำงานไม่สมบูรณ์ ในคนปกติอาจมีอาการความดันโลหิตต่ำ และเป็นสัญญาณของโรคอื่นๆ ได้ เช่น สูญเสียน้ำจากการท้องเสีย หรือภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด
- ริมฝีปากสีเขียวคล้ำ เป็นลักษณะของการขาดออกซิเจน ระบบไหลเวียนเลือดติดขัด อาจมีสาเหตุมาจากโรคเกี่ยวกับปอด เช่น ถุงลมโป่งพอง หากเกิดในเด็กอาจพบได้ในผู้ป่วยที่มีอาการชัก หรืออาการก่อนชัก เป็นต้น
ทารกปากคล้ำ เป็นไรไหม?
ในทารกแรกเกิด การมีริมฝีปากสีคล้ำอาจเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยและไม่จำเป็นต้องกังวลเสมอไปค่ะ โดยเฉพาะทารกที่มีผิวสีเข้ม หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เย็น มักไม่เป็นอันตราย และสีริมฝีปากทารกจะกลับมาเป็นปกติเมื่ออบอุ่นขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาวะริมฝีปากคล้ำในทารกอาจเกิดจากปัจจัยทางสุขภาพร่างกายอื่นๆ ได้เช่นกัน
สาเหตุอะไรบ้าง? ที่ทำให้ลูกน้อยปากคล้ำ |
|
ระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ |
|
การหายใจไม่สม่ำเสมอ |
|
ภาวะตัวเหลือง |
|
ภาวะซีด หรือโลหิตจาง |
|
โรคหัวใจ |
|
ทารกปากคล้ำ ที่อาจเป็นสัญญาณอันตราย! บ่งบอก “โรค”
หากลูกน้อยมีริมฝีปากคล้ำที่อาการไม่หายไป หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางสุขภาพที่ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์นะคะ โดยอาการปากคล้ำอาจเป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งบอกภาวะโรคร้ายต่อไปนี้
-
โรคหัวใจในเด็ก
ทารกที่มีอาการเขียวบริเวณริมฝีปาก ลิ้น ปลายนิ้วมือนิ้วเท้า ร่วมกับอาการหายใจหอบ เหนื่อยง่าย หัวใจเต้นเร็ว คุณพ่อคุณแม่ควรรีบพาไปพบแพทย์นะคะ เพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของ “โรคหัวใจในเด็ก” ซึ่งโรคหัวใจในเด็กอาจแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ
- โรคหัวใจแต่กำเนิด พบได้บ่อยในปัจจุบัน ซึ่งอาจมีสาเหตุจากความผิดปกติในการสร้างอวัยวะที่ไม่สมบูรณ์ของตัวอ่อนในครรภ์ หรือจากการติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ หรือจากสาเหตุอื่นๆ
- โรคหัวใจที่เกิดขึ้นภายหลัง เป็นโรคหัวใจที่เกิดขึ้นหลังคลอด มีสาเหตุจากการติดเชื้อหรืออื่นๆ เช่น โรคหัวใจรูมาติก โรคคาวาซากิ โรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โรคเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
อาการโรคหัวใจในเด็ก ที่สังเกตพบได้ |
|
อาการเขียว |
|
หายใจหอบหรือเหนื่อยง่าย |
|
เจริญเติบโตช้า |
|
ใจสั่นหรือหัวใจเต้นเร็ว |
|
-
โรคเสียชีวิตเฉียบพลันในเด็กทารก (Sudden Infant Death Syndrome)
ที่พบมากที่สุดคือ ภาวะการหยุดหายใจ โดยเฉพาะในขณะหลับ ซึ่งวิธีสังเกตคือ
- หากหายใจเสียงดังทั้งขณะหลับ ขณะตื่น หรือขณะดื่มนม อาจมีปัญหาการนอนหลับผิดปกติ
- น้ำหนักของทารกไม่ขึ้นตามเกณฑ์ที่สมควร มีอาการดูดนมสำลักบ่อยหรืออาเจียน
- ในรายที่อาการรุนแรง อาจพบอาการตัวเขียว ริมฝีปากคล้ำ ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที
ทารกปากคล้ำ ควรทำอย่างไร?
เป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่โดยตรงค่ะในการที่จะสังเกตว่า ลูกน้อยมีริมฝีปากคล้ำตามปกติ หรือเป็นภาวะที่เป็นสัญญาณเตือนบอกโรค ด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้
- ดูแลให้ทารกอบอุ่นอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงอากาศเย็น
- สังเกตอาการอื่นๆ ของลูกน้อยร่วมด้วย หากมีอาการเหล่านี้ร่วมกับริมฝีปากคล้ำ ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที
-
- หากทารกหายใจลำบากหรือเสียงหายใจผิดปกติ
- ซึม ไม่ดูดนม หรือมีอาการผิวซีด เหนื่อยง่าย
- อาการปากคล้ำไม่ได้หายไปภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากคลอด
สุขภาพของลูกน้อยนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและมีความสำคัญมากนะคะ ดังนั้น เมื่อไรก็ตามที่มีความกังวลใจเกี่ยวกับสัญญาณบางอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกาย อารมณ์ และพฤติกรรมของลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรับคำแนะนำที่เหมาะสม เพื่อความสบายใจและความปลอดภัยของลูกนะคะ
ที่มา : www.thaihealth.or.th , sriphat.med.cmu.ac.th , redcross.or.th
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
ลูกไม่นอนกลางวัน ทำไงดี เคล็ดลับทำให้ลูกหลับปุ๋ยใน 5 นาที
ทารกมองเห็นตอนไหน จะรู้ได้ยังไงว่าลูกมองเห็น พัฒนาการสายตาแบบไหนผิดปกติ
ดูดจุกหลอก ท้องอืดไหม ลูกดูดนิ้ว ต่างกับดูดจุกยังไง แบบไหนดีกว่ากัน