โรคแอนแทรกซ์ ถือเป็นโรคติดต่อร้ายแรงจากสัตว์มาสู่คนที่สัมผัสสัตว์ติดเชื้อ โดยเฉพาะสัตว์กีบ อย่าง วัว ควาย แพะ แกะ ในช่วงที่โรคแอนแทรกซ์ระบาด คุณพ่อคุณแม่อาจเป็นกังวลว่า เราจะมีวิธีดูแลตัวเองและลูกน้อยอย่างไรให้ปลอดภัย ไม่เสี่ยงติดเชื้อ บทความนี้มีคำตอบค่ะ
โรคแอนแทรกซ์คืออะไร? ทำไมถึงน่ากลัว
โรคแอนแทรกซ์ เป็นโรคติดต่อร้ายแรงชนิดหนึ่ง ที่มีสาเหตุของโรคมาจาก เชื้อแบคทีเรียที่มักจะอยู่ในพวกสัตว์กีบ อย่าง วัว ควาย แพะ แกะ ซึ่งเชื้อโรคนี้พบได้ทั่วไปตามธรรมชาติ โดยเฉพาะในดิน น้ำ พืชต่างๆ หรือซากสัตว์ ที่สำคัญคือเชื้อโรคนี้ทนทานทั้งร้อนทั้งเย็น และยังมีสิ่งที่เรียกว่า สปอร์ของเชื้อสามารถอยู่ในดินได้นานมากๆ นับสิบปีค่ะ
โรคแอนแทรกซ์ในประเทศไทย เป็นยังไง?
ในประเทศไทยเรา ไม่ได้มีการแพร่ระบาดในประเทศไทยนานหลายปีแล้ว โดยไม่มีผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544 ไม่พบการติดเชื้อในสัตว์ในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังประเทศเพื่อนบ้าน หรือตามจังหวัดชายแดน ที่อาจจะมีคนเอาเนื้อดิบๆ จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านที่มีโรคแอนแทรกซ์เข้ามาขาย
สัตว์ที่ติดเชื้อจะมีอาการยังไง?
ถ้าสัตว์ติดเชื้อนี้ จะมีอาการ ไข้ ซึมๆ ไม่ค่อยกินอาหาร ป่วยแบบไม่รู้สาเหตุ และตายในที่สุด
คนเราติดโรคนี้ได้ยังไง?
ส่วนใหญ่คนเราจะติดโรคนี้จากการ สัมผัสโดยตรงกับสัตว์ที่ป่วย เช่น ตอนที่ชำแหละเนื้อสัตว์ หรือ กินเนื้อสัตว์ดิบๆ หรือปรุงไม่สุก หรือไป สัมผัสกับหนังสัตว์หรือขนสัตว์ ที่มีเชื้อโรคนี้อยู่ อย่างไรก็ตามโรคนี้ ยังไม่มีรายงานว่าติดต่อจากคนสู่คน โดยเชื้อแอนแทรกซ์ติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ 3 ทาง ดังนี้
-
จากการสัมผัส
กลุ่มเสี่ยงจากการสัมผัสสัตว์ที่ป่วยตายด้วยโรคนี้ เช่น เกษตรกรที่เลี้ยงสัตว์ คนชำแหละเนื้อ คนขายเนื้อในตลาด หรือคนทำอาหารที่มือไปโดนเนื้อที่มีเชื้อโดยตรง เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลหรือรอยขีดข่วนที่ผิวหนัง
เริ่มแรกจะเป็น ตุ่มแดงๆ แล้วจะกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ พอแตกออกก็จะกลายเป็น แผลดำๆ เหมือนโดนบุหรี่จี้ ถ้าไม่รีบรักษา เชื้อจะลามไปที่ต่อมน้ำเหลือง แล้วก็เข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดอาการ ติดเชื้อในกระแสเลือดได้ โดยจะเริ่มป่วยหลังได้รับเชื้อประมาณ 1-5 วัน แต่บางทีก็อาจจะนานถึง 60 วัน

-
จากการกิน
ถ้าเรากินเนื้อสัตว์ที่มีเชื้อแอนแทรกซ์แบบดิบๆ หรือปรุงไม่สุก ก็อาจจะติดเชื้อในระบบทางเดินอาหารได้ โดยจะมีอาการ ไข้สูง ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน เหมือนอาหารเป็นพิษ ถ้าไม่ได้รับการรักษา เชื้อก็อาจจะเข้าสู่กระแสเลือด และทำให้เสียชีวิตได้ค่ะ
-
จากการหายใจ
การที่เราหายใจเอาสปอร์ของเชื้อแอนแทรกซ์จากสัตว์ป่วยหรือตายเข้าไป คนที่ติดเชื้อทางนี้จะมีอาการ ไข้ ปวดเมื่อยตัว ไอ หายใจลำบาก หน้าเขียวคล้ำ จากนั้นจะเสียชีวิตจากระบบหายใจล้มเหลว กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เกษตรกรที่อยู่ใกล้ชิดสัตว์ป่วย หรือ คนชำแหละเนื้อ ที่ต้องคลุกคลีกับหนังสัตว์และขนสัตว์ ก็จะมีความเสี่ยงที่จะสูดดมเชื้อเข้าไป อาการจะเป็นเหมือน ปอดอักเสบรุนแรง มีเลือดออกในปอด ซึ่งอันตรายถึงชีวิตมากๆ ค่ะ
ใช้เป็นอาวุธชีวภาพในการก่อการร้าย
นอกจากโรคแอนแทรกซ์จะมาจากสัตว์สู่คนตามธรรมชาติแล้ว มันยังเคยถูกนำมาใช้เป็นอาวุธร้ายแรงด้วย เมื่อประมาณปี 2000 ที่ผ่านมา ที่ประเทศอเมริกา มีคนเอาผงสปอร์ของเชื้อแอนแทรกซ์ใส่ลงไปในซองจดหมาย แล้วส่งไปให้นักการเมือง
สิ่งที่น่ากลัวก็คือ ถ้าคนเปิดซองแล้วสูดเอาผงสปอร์นี้เข้าไป จะทำให้เกิดการติดเชื้อในปอดได้ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตเลยค่ะ
กลุ่มเสี่ยงโรคแอนแทรกซ์
โรคแอนแทรกซ์ถึงแม้จะไม่ใช่โรคที่เจอบ่อยในบ้านเรา แต่ก็มีบางกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงที่จะสัมผัสกับเชื้อโรคนี้มากกว่าคนอื่นๆ ซึ่งต้องระวังเป็นพิเศษ มาดูกันว่ามีใครบ้าง
- คนเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นวัว ควาย แพะ แกะ ที่อาจจะสัมผัสกับสัตว์ป่วยโดยตรงขณะดูแล
- คนชำแหละสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าชำแหละสัตว์ที่ป่วยตายโดยไม่ทราบสาเหตุ ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่จะสัมผัสเชื้อ
- คนขายเนื้อในตลาด หากมีการขายเนื้อสัตว์ที่มาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือมีการปนเปื้อนเชื้อโรค
- คนประกอบอาหาร ที่มือสัมผัสเนื้อที่ติดเชื้อโดยตรง โดยเฉพาะถ้าไม่ได้ล้างมือให้สะอาดหลังสัมผัสเนื้อดิบ
- คนที่ชอบกินเนื้อดิบ การไม่ผ่านความร้อนจะทำให้เชื้อโรคไม่ตาย และเข้าสู่ร่างกายได้
- สัตวแพทย์ สัตวบาล เป็นกลุ่มที่ต้องดูแลสัตว์อย่างใกล้ชิด จึงมีโอกาสสัมผัสเชื้อโรคได้
- คนทำงานในโรงงานที่เกี่ยวข้องกับหนังสัตว์ ขนสัตว์ หรือกระดูกสัตว์ป่น อาจมีการสัมผัสกับสปอร์ของเชื้อที่ปนเปื้อนมากับวัตถุดิบเหล่านี้ได้
หากคุณเคยสัมผัสเนื้อสัตว์ที่อาจมีเชื้อแอนแทรกซ์ แล้วมีอาการที่น่าสงสัย เช่น มีไข้สูง มีผื่นแดงดำที่ผิวหนัง ไอ หายใจหอบเหนื่อย ปวดท้อง คลื่นไส้อาเจียน ให้รีบไปพบแพทย์ทันที โดยแจ้งคุณหมอว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคแอนแทรกซ์ค่ะ
หรือในช่วงที่มีข่าวการระบาดของโรคแอนแทรกซ์ หากคุณอยู่ในกลุ่มที่สัมผัสเนื้อสัตว์ชุดเดียวกับผู้ป่วย ที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นโรคแอนแทรกซ์ ถึงแม้จะยังไม่มีอาการอะไรเลยก็ตาม ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อประเมินความเสี่ยงและวางแผนการเฝ้าระวังโรคแอนแทรกซ์ต่อไป

โรคแอนแทรกซ์ ป้องกันยังไง
คุณแม่อาจเป็นกังวลว่า จะต้องงดกินเนื้อสัตว์ในช่วงที่มีโรคระบาดหรือไม่ จะมีวิธีป้องกันโรคแอนแทรกซ์ได้อย่างไร เราขออธิบายวิธีป้องกันโรคแอนแทรกซ์ง่ายๆ เพื่อให้คุณแม่ดูแลลูกๆ และคนในครอบครัวได้นะคะ
สำหรับผู้ที่มีโอกาสสัมผัสสัตว์ที่ติดเชื้อ
- หลีกเลี่ยงสัตว์ (วัว ควาย แพะ แกะ) ที่ตายผิดปกติ ให้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ มาจัดการ อย่าชำแหละ หรือกินเนื้อของสัตว์ที่ตายโดยไม่รู้สาเหตุ หากใครในบ้านมีอาการผิดปกติควรรีบไปหาหมอ
- พยายามอย่าไปใกล้ชิดสัตว์ที่ป่วย หรือซากสัตว์โดยเฉพาะในที่ที่เคยมีโรคนี้มาก่อน เช่น พวกวัว ควาย แพะ แกะ ที่ดูไม่แข็งแรง
- หากจำเป็นต้องสัมผัสสัตว์หรือซากสัตว์ เช่น เวลาดูแลสัตว์เลี้ยง หรือทำความสะอาดคอกสัตว์ ต้องใส่ถุงมือ ใส่หน้ากาก แล้วก็ใส่เสื้อคลุมกันเปื้อน เพื่อป้องกันตัวเอง
- หากมีสัตว์ที่ติดเชื้อตาย ต้องกำจัดซากอย่างถูกวิธี โดยการเผาหรือฝังลึกๆ และราดน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่น ฟอร์มาลีน หรือน้ำยาซักผ้าขาว
- สังเกตอาการของคนในบ้าน หากมีผื่นดำๆ ที่ไม่เจ็บ หรือมีไข้สูง หายใจลำบาก ให้รีบพาไปหาหมอ โดยแจ้งคุณหมอว่าอาจจะเสี่ยงเป็นโรคแอนแทรกซ์
- รีบไปหาหมอ หมอจะให้ยาฆ่าเชื้อเพื่อกำจัดเชื้อโรค และจะดูแลรักษาตามอาการจนกว่าจะหายดีค่ะ
สำหรับคุณแม่ทั่วไป
- อย่ากินเนื้อสัตว์ดิบๆ หรือสุกๆ ดิบๆ อย่าง ลาบเนื้อดิบ ก้อยดิบ ซอยจุ๊ โดยเฉพาะเนื้อที่มาจากสัตว์ที่ตายแบบไม่รู้สาเหตุ หรือเนื้อที่เราไม่รู้ว่ามาจากไหน
- เลือกซื้อเนื้อสัตว์จากร้านที่น่าเชื่อถือ มีการรับรองความปลอดภัย หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ที่ไม่ทราบแหล่งที่มา
- ทำอาหารให้สุกมากๆ ด้วยความร้อนสูงๆ (100 องศา) นานๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเชื้อโรคตายหมด
จริงๆ แล้ว การใช้ชีวิตให้ปลอดภัยจากโรคแอนแทรกซ์ไม่ใช่เรื่องยากค่ะ หากเราไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยง เพียงหลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์สุกๆ ดิบๆ และเลือกซื้อเนื้อสัตว์จากแหล่งที่เชื่อถือได้ ก็ลดโอกาสติดเชื้อแอนแทรกซ์ได้อย่างมากแล้วค่ะ

ที่มา: Spatan Doctor , Tensia , กรมควบคุมโรค
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
รู้จัก เชื้อเอนเทอโรไวรัส และ สัญญาณโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจากเชื้อไวรัส
ลูกป่วยเพราะเขียง เตือน! พ่อแม่อย่ามองข้าม แหล่งก่อเชื้อโรคร้ายให้ลูกน้อย
7 โรคติดเชื้อที่คนท้องต้องระวัง อันตรายต่อลูกในท้อง!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!