ข้างขึ้น ข้างแรม คือ ? ส่งผลต่อกระแสน้ำในมหาสมุทรอย่างไร อยากรู้ ต้องอ่าน !

lead image

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

สำหรับหลาย ๆ คนที่ยังไม่เข้ากระบวนการของข้างขึ้นและข้างแรม โดย ข้างขึ้น ข้างแรม คือ ปรากฏการณ์ที่มนุษย์ศึกษามาตั้งแต่สมัยโบราณ ด้านข้างขึ้นคือส่วนของวัฏจักรที่กำลังเติบโต ด้านข้างแรม คือด้านที่กำลังลดลง ข้างขึ้นและข้างแรมสามารถแสดงออกมาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น พระจันทร์ น้ำขึ้นน้ำลง เป็นกระบวนการทางธรรมชาติและเป็นวัฏจักรที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในเอกภพ และสิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจวิธีการทำงานและความหมายที่อาจจะเกิดขึ้น ในบทความนี้ เราจะพามาทำความรู้จักข้างขึ้นและข้างแรมกันค่ะ

 

ข้างขึ้น ข้างแรม คือ ?

ด้านข้างขึ้นเป็นด้านของดวงจันทร์ที่มองเห็นได้เมื่อดวงจันทร์มีขนาดเพิ่มขึ้น ส่วนข้างแรมเป็นด้านของดวงจันทร์ที่มองเห็นได้เมื่อดวงจันทร์มีขนาดลดลงอย่างช้า ๆ ในช่วงหนึ่งรอบของดวงจันทร์เต็มดวง ดวงจันทร์จะมองเห็นได้เต็มดวงทั้งข้างขึ้นและข้างแรม ในช่วงข้างขึ้น ส่วนที่ส่องสว่างของดวงจันทร์จะขยายใหญ่ขึ้นจากเสี้ยวเล็ก ๆ รูปพระจันทร์เสี้ยวเป็นวงกลมเต็มดวง ในช่วงข้างขึ้นข้างแรม ส่วนที่ส่องสว่างของดวงจันทร์จะหดตัวจากวงกลมเต็มวงกลับไปเป็นเศษไม้รูปจันทร์เสี้ยวขนาดเล็ก

 

 

ความสำคัญของการทำความเข้าใจข้างขึ้นและข้างแรม

การทำความเข้าใจดวงจันทร์และขั้นตอนต่าง ๆ เป็นสิ่งสำคัญในการทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ ข้างขึ้นและข้างแรมของดวงจันทร์บ่งบอกถึงการเคลื่อนที่ของดวงจันทร์ โดยสัมพันธ์กับดวงอาทิตย์และโลก เมื่อดวงจันทร์โคจรรอบโลก ดูเหมือนว่าขนาดและรูปร่างจะเปลี่ยนไป เมื่อแสงจากดวงอาทิตย์สะท้อนออกจากพื้นผิว การทำความเข้าใจการเคลื่อนที่และข้างขึ้นข้างแรมของดวงจันทร์ จะทำให้เราเข้าใจได้ดีขึ้นว่าระบบสุริยะทำงานอย่างไร และโลกได้รับผลกระทบจากดวงอาทิตย์อย่างไร ข้างขึ้นข้างแรมยังมีผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตของเรา เนื่องจากสามารถใช้ทำนายรูปแบบสภาพอากาศ กระแสน้ำ หรือแม้แต่อารมณ์ของเราได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : 5 ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ สวยงามดั่งเทพนิยาย หนูน้อยต้องชอบแน่

 

ข้างขึ้น (Waxing)

คือช่วงที่เกิดขึ้นระหว่างคืนเดือนมืด ไปจนถึงคืนวันเพ็ญ โดยดูจากด้านสว่างของดวงจันทร์เป็นตัวกำหนด จะแบ่งออกเป็น 15 ส่วน เริ่มจาก ขึ้น 1 ค่ำ ไปจนถึง ขึ้น 15 ค่ำ แบ่งข้างขึ้นออกเป็น 3 ช่วง คือ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. ขึ้น 1 ค่ำจนถึง ขึ้น 7 ค่ำ (Waxing Crescent) ดวงจันทร์จะปรากฏเป็นเสี้ยวสว่างบาง ๆ จนถึงเกือบครึ่งดวง โดยหันด้านสว่างไปทางด้านใกล้ดวงอาทิตย์ด้านทิศตะวันตก กล่าวคือ มนุษย์สามารถมองเห็นดวงจันทร์อยู่บนท้องฟ้าด้านทิศตะวันตกตอนหัวค่ำ
  2. จันทร์ครึ่งดวงครั้งแรก (First Quarter) หรือตรงกับ ขึ้น 8 ค่ำ ดวงจันทร์ทำมุม 90 องศาระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ โดยเริ่มสังเกตเห็นดวงจันทร์ลับขอบฟ้าตั้งแต่เวลาเที่ยงวันโดยประมาณ และเริ่มมองเห็นได้ในตอนกลางวันเพราะมีขนาดเสี้ยวค่อนข้างใหญ่ แล้วจะตกลับขอบฟ้าในตอนเที่ยงคืนโดยประมาณ
  3. ขึ้น 9 ค่ำจนถึงขึ้น 14 ค่ำ (Waxing Gibbous) ดวงจันทร์จะปรากฏด้านสว่างค่อนข้างใหญ่ มองเห็นได้ในตอนกลางวันทางขอบฟ้าด้านทิศตะวันออกตั้งแต่หลังเที่ยงวันไปแล้ว

 

ข้างแรม (Waning)

คือช่วงที่เกิดขึ้นระหว่างคืนวันเพ็ญ ไปจนถึงคืนเดือนมืดอีกครั้ง โดยดูจากด้านมืดของดวงจันทร์เป็นตัวกำหนด แล้วแบ่งออกเป็น 15 ส่วนเช่นกัน เริ่มจาก แรม 1 ค่ำ ไปจนถึงแรม 14-15 ค่ำ โดยจะเริ่มเห็นดวงจันทร์ ตั้งแต่ตอนหัวค่ำจนถึงเกือบรุ่งเช้าด้านทิศตะวันออก โดยหันด้านสว่างของดวงจันทร์ไปทางทิศตะวันออกหรือด้านใกล้ดวงอาทิตย์ เราแบ่งช่วงข้างแรมออกเป็น 3 ช่วง คือ

  1. ตั้งแต่ แรม 1 ค่ำ จนถึงแรม 7 ค่ำ จะเรียกว่า Waning Gibbous จะเป็นช่วงที่เราเห็นด้านสว่างของดวงจันทร์ค่อนข้างมาก และเริ่มลดลงเรื่อย ๆ จนถึงครึ่งดวง เห็นได้ตั้งแต่ตอนหัวค่ำจนถึงเที่ยงคืนด้านทิศตะวันออก
  2. จันทร์ครึ่งดวงครั้งสุดท้าย หรือ Last Quater ตรงกับแรม 8 ค่ำ ดวงจันทร์ทำมุม 90 องศาระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์อีกครั้ง ซึ่งจะเริ่มเห็นจับของฟ้าด้านทิศตะวันออกตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนโดยประมาณ และตกลับขอบฟ้าในตอนเที่ยงวันของอีกวันหนึ่ง ซึ่งด้านมืดและด้านสว่างของดวงจันทร์ในคืนแรม 8 ค่ำนี้ จะอยู่สลับกันคือตรงข้ามกับคืนวันขึ้น 8 ค่ำ
  3. ตั้งแต่ แรม 9 ค่ำ จนถึงแรม 14 -15 ค่ำ จะเรียกว่า Waning Crescent ซึ่งเราจะเห็นดวงจันทร์เป็นเสี้ยวตั้งแต่ครึ่งดวงจนถึงบาง ๆ อีกครั้ง แต่จะเห็นค่อนข้างดึกจนถึงใกล้รุ่งเช้า โดยหันด้านเสี้ยวสว่างเข้าหาดวงอาทิตย์ด้านทิศตะวันออก

 

วิธีการทำงานของข้างขึ้นและข้างแรม

พระจันทร์มีสองด้านที่แตกต่างกัน คือ ด้านข้างขึ้นและข้างแรม นี่เป็นเพราะวงโคจรที่ซับซ้อนรอบโลก ด้านข้างขึ้นคือส่วนของดวงจันทร์ที่ส่องสว่างจากดวงอาทิตย์ และปรากฏให้เราเห็นบนโลก เป็นส่วนหนึ่งของดวงจันทร์ที่ดูเหมือนจะมีขนาด “ใหญ่ขึ้น” เมื่อวงโคจรเข้าใกล้โลกมากขึ้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ส่วนข้างแรมคือส่วนของดวงจันทร์ที่อยู่ในความมืดและดูเหมือนว่าจะมีขนาด “หดตัวลง” เมื่อวงโคจรอยู่ห่างจากโลกมากขึ้น วงโคจรของดวงจันทร์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และด้านทั้งสองของมันเปลี่ยนจากข้างขึ้นเป็นข้างแรมและกลับข้างอยู่ตลอดเวลา วัฏจักรนี้เรียกว่าวัฏจักรทางจันทรคติ และดวงจันทร์มีอิทธิพลต่อกระแสน้ำและด้านอื่น ๆ ของชีวิตเรานั่นเอง

 

วิธีใช้ข้างขึ้นและข้างแรมให้เป็นประโยชน์

ข้างขึ้นข้างแรมและข้างขึ้นข้างแรม เป็นสองช่วงสำคัญของรอบข้างขึ้นข้างแรม และแต่ละข้างก็มีพลังงานเฉพาะของตัวเอง ช่วงที่ดวงจันทร์ส่องสว่างเป็นเวลาสำหรับพลังงานใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ และการฟื้นฟู เป็นเวลาที่ดีในการเริ่มต้นโครงการใหม่และวางแผนสำหรับอนาคต ในทางกลับกัน ข้างขึ้นข้างแรมเป็นเวลาสำหรับการไตร่ตรอง ปล่อยวาง และจบสิ้น เป็นเวลาที่ดีที่จะผูกมัดและปลดปล่อยความคิดด้านลบที่อาจรั้งคุณไว้ การใช้ประโยชน์จากข้างขึ้นข้างแรมและข้างขึ้นข้างแรมเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการบรรลุความสมดุล และแสดงการเปลี่ยนแปลงที่คุณต้องการในชีวิตของคุณ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ผลกระทบของข้างขึ้นข้างแรมในร่างกายมนุษย์

จากการศึกษาพบว่า ข้างขึ้นข้างแรมสามารถส่งผลอย่างมากต่อร่างกายของเราทั้งทางร่างกายและจิตใจ มันเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการนอน อารมณ์ และแม้แต่ความเจ็บปวดทางร่างกายของเรา ในช่วงพระจันทร์เต็มดวง ร่างกายของเราอาจไวต่อความเจ็บปวดและการอักเสบมากขึ้น โดยบางคนมีอาการปวดหัวและไมเกรนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้  ข้างขึ้นข้างแรมยังมีอิทธิพลต่อระดับฮอร์โมนของเราอีกด้วย โดยบางคนจะประสบกับความผิดปกติของรอบเดือนในช่วงพระจันทร์เต็มดวง การวิจัยยังพบความเชื่อมโยงระหว่างข้างขึ้นข้างแรมกับความดันโลหิต โดยบางคนจะมีความดันโลหิตลดลงเล็กน้อยในช่วงพระจันทร์เต็มดวง เป็นที่ชัดเจนว่าข้างขึ้นข้างแรมสามารถส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราได้อย่างแท้จริง

บทความที่เกี่ยวข้อง : วัฏจักรน้ำ คืออะไร ? มีความสำคัญอย่างไรต่อโลกของเรา

 

ข้างขึ้น ข้างแรม ส่งผลต่อกระแสน้ำในมหาสมุทรอย่างไร ?

ข้างขึ้นข้างแรมมีอิทธิพลอย่างมากต่อกระแสน้ำในมหาสมุทร เนื่องจากแรงดึงดูดของดวงจันทร์ส่งผลต่อระดับน้ำ เมื่อดวงจันทร์ขึ้น แรงดึงดูดของโลกจะเพิ่มขึ้นและระดับน้ำก็สูงขึ้น ส่งผลให้ความเร็วของกระแสน้ำในมหาสมุทรเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน เมื่อดวงจันทร์ข้างขึ้น แรงดึงดูดของโลกลดลงและระดับน้ำลดลง ทำให้ความเร็วของกระแสน้ำในมหาสมุทรลดลง ปรากฏการณ์นี้เรียกว่าปรากฏการณ์จันทรคติ และมีผลกระทบอย่างมากต่อกระแสน้ำในมหาสมุทร ซึ่งจะส่งผลต่อสภาพอากาศ ภูมิอากาศ และสิ่งมีชีวิตในทะเล

 

 

พิธีกรรมต่าง ๆ ตามความเชื่อ ที่ต้องทำในแต่ละช่วง

ด้านข้างขึ้นคือช่วงที่แสงจันทร์เพิ่มขึ้น และด้านที่เป็นด้านข้างแรมคือช่วงที่แสงจันทร์ลดลง ในแต่ละช่วงจะต้องประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ เพื่อเป็นเกียรติแก่ดวงจันทร์และการเดินทางของมันอย่างเหมาะสม

  • ในระหว่างที่เกิดข้างขึ้น จะมีความเชื่อ ว่าเป็นพิธีกรรมของการชำระล้าง การปกป้อง
  • ในขณะที่ในช่วงข้างแรม พิธีกรรมของการขับไล่

พิธีกรรมทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้คนเราทำพิธีกรรมสอดคล้องกับพลังงานของดวงจันทร์ และเพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากพลังของมัน นอกจากนี้ พิธีกรรมยังสามารถใช้เป็นเครื่องเตือนใจว่าทุกสิ่งในชีวิตเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเราต้องดำเนินไปตามกระแสเพื่อให้อยู่ในสมดุล

บทความที่เกี่ยวข้อง : พลังบำบัดจากดวงอาทิตย์ ช่วยเรื่องสุขภาพยังไง? นั่งสมาธิเพื่อสุขภาพจิตที่ดี

 

สรุปแล้ว แม้ว่าข้างขึ้นและข้างแรมอาจดูลึกลับ แต่เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่สามารถอธิบายได้ด้วยแรงดึงดูดของดวงอาทิตย์และโลก วัฏจักรของดวงจันทร์ที่สม่ำเสมอนี้เป็นสิ่งที่สวยงาม และเป็นโอกาสพิเศษในการชื่นชมพลังของธรรมชาติและองค์ประกอบต่าง ๆ การเข้าใจความหมายของข้างขึ้นและข้างแรมของดวงจันทร์ทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งกับท้องฟ้ายามค่ำคืนมากยิ่งขึ้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

จันทรุปราคา คืออะไร? เกิดขึ้นได้บ่อยแค่ไหน มีลักษณะพิเศษอย่างไร มาค้นหาคำตอบกัน

สุริยุปราคาคืออะไร ? สรุปแบบสั้น ๆ เข้าใจสุดจะง่ายให้เด็กวัยเรียน

ระบบสุริยะ คืออะไร? เรียนรู้เรื่องราวของดาวเคราะห์ เสริมพัฒนาการเด็ก

ที่มา : nasa, ngthai

บทความโดย

Patteenan