ลักษณะนิสัยเฉพาะตัวบางอย่างของเด็ก มักจะเกิดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ ในหลาย ๆ พฤติกรรมก็มักจะติดตัวเด็กไป จนเกิดเป็นผลเสียต่อตัวของเด็กเองในอนาคต หรืออาจจะส่งผลให้บุคลิกภาพโดยรวมของเด็กเสีย เรามาส่องดูว่า พฤติกรรมยอดแย่ของลูก ที่คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน ต้องพากันกุมขมับกัน แล้วพฤติกรรมเหล่านั้น จะส่งผลอย่างไรกับลูกน้อยของคุณในอนาคตบ้างนะ
6 พฤติกรรมยอดแย่ของลูก ที่ส่งผลเสียต่อเด็กในอนาคต
เมื่อรู้ว่าลูกเริ่มมีพฤติกรรมที่ไม่ดี พ่อแม่ต้องรีบหยุดก่อนที่จะสายเกินไป โดยเฉพาะ 6 พฤติกรรมยอดแย่ของลูก เพราะถ้าลูกโตขึ้นจะฝึก หรือจะปรับเปลี่ยนอะไรย่อมยาก พ่อแม่ต้องใจแข็ง อย่าใจอ่อนเกินไป แต่ต้องค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ให้ลูกน้อยได้เรียนรู้ และได้ปรับตัว โดยที่เราต้องบอกเหตุผล และอธิบายให้เขาเข้าใจด้วย
1. นอนกัดฟัน
เด็กกว่า 14 – 20 เปอร์เซ็นต์ จะชอบกัดฟันของเขาในตอนกลางคืน และยังสามารถเกิดขึ้นในตอนกลางวันด้วย ซึ่งเป็นเรื่องปกติถ้าลูกมีความเครียดและความวิตกกังวล หรืออาจมากจากโรคของเด็ก เช่น ต่อมทอนซิลขนาดใหญ่ โรคเนื้องอกในจมูก ซึ่งมีผลต่อการนอนเช่นเดียวกัน อาการนอนกัดฟันอาจเกิดจากที่เด็กขยับขากรรไกรล่างของพวกเขาไปข้างหน้า เพื่อให้พวกเขาสามารถหายใจได้ดียิ่งขึ้น
หากลูกมีปัญหาเหล่านี้ พ่อแม่ลองไปปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับอาการนอนกัดฟันที่รุนแรง เพื่อเช็คดูว่าลูกมีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับหรือไม่ และหาแนวทางให้ลูกเลิกนอนกัดฟัน หรือบรรเทาอาการให้ดีขึ้น
2. ดูดนิ้วมือ
พฤติกรรมการดูดนิ้วมือเป็นเรื่องปกติของเด็กทารก และวัยหัดเดิน เพราะการดูดมือเป็นการปลอบใจตัวเอง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงที่ได้รับ และระยะเวลา เนื่องจากเด็กบางคนก็หยุดดูดนิ้วไปเองเมื่อโตขึ้น แต่สำหรับเด็กที่โตแล้วยังคงดูดอยู่นั้น อาจส่งผลเสียต่อขากรรไกรของพวกเขาในอนาคต
ซึ่งอาจทำให้ลูกน้อยมีอาการที่เรียกว่า ฟันกัดคล่อม คือ มีลักษณะของฟันหน้าที่หุบเข้าไปด้านใน แทนที่จะออกมาอยู่ด้านนอก และฟันสบลึก คือ ฟันบนหรือขากรรไกรบนที่ยื่นออก
ดังนั้น พ่อแม่ควรพาลูกน้อยเข้าตรวจสุขภาพฟันประจำปี ตั้งแต่อายุ 1 ขวบ หรือเมื่อฟันขึ้นครั้งแรก วิธีการที่จะทำให้ลูกน้อยหยุดดูดเล็บ อาจจะทาเล็บสีสวย ๆ หรือสวมอุปกรณ์ป้องกันไม่ให้ลูกดูดนิ้ว และพยายามชักชวนให้ลูกน้อยทำกิจกรรมอย่างอื่น
บทความอื่นที่น่าสนใจ : 8 พฤติกรรมไม่ดีของลูก ที่พ่อแม่ควรแก้ไขให้เร็วที่สุด
3. เลือกกินอาหาร
เด็กบางคนเลือกกินอาหาร จะกินอยู่เพียงไม่กี่ชนิด และบางคนยังเลือกกินแต่ของไม่มีประโยชน์เสียอีก ทำให้คุณต้องเครียด และเป็นกังวลว่าลูกจะได้รับสารอาหารไม่ครบในแต่ละมื้อ บางคนเคยลองให้ลูกกินผัก ผลไม้ ต่าง ๆ มากมาย แต่ลูกก็คงยังไม่ยอมกินอยู่ดี
วิธีการที่จะทำให้ลูกได้ลองชิม หรือกินอาหารใหม่ ๆ เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่เปลี่ยนคำถามจาก “ลูกอยากกินไหม” “ลูกชอบกินไหม” ลองถามว่า “อาหารพวกนี้มีกลิ่นอย่างไร” “มีลักษณะแบบไหน” โดยพยายามให้ลูกได้เรียนรู้เกี่ยวกับประสาทสัมผัสมากกว่า หรืออาจจะชวนลูกทำอาหารแบบง่าย ๆ เขาก็จะเกิดความเพลิดเพลิน และอยากทานในสิ่งที่ตัวเองได้ทำขึ้น
4. แคะขี้มูก
พฤติกรรมแบบนี้คงจะไม่ดีนักถ้าลูกเคยทำจนเป็นนิสัย เพราะมันจะทำให้ลูกมีบุคลิกภาพที่ไม่ดี และยิ่งเด็กที่เป็นภูมิแพ้ หรือในช่วงที่อากาศเย็นก็จะยิ่งให้เด็กแย่ลงไปอีก
วิธีการจะช่วยให้ลูกหยุดการแคะขี้มูก เพียงแค่เข้าไปเช็คน้ำมูก และล้างจมูกลูก อย่าปล่อยให้ขี้มูกต้องแห้ง เพราะเด็กจะต้องเอานิ้วไปแคะแน่นอน สำหรับวิธีการล้างจมูก สามารถอ่านต่อได้ที่นี่
บทความอื่นที่น่าสนใจ : พฤติกรรมเด็ก : 100 เรื่องพ่อแม่ต้องรู้ก่อนลูก 1 ขวบ
5. คาบขวดนม
ถ้าพ่อแม่ไม่อยากให้ลูกต้องติดการคาบขวดนม แนะนำให้เปลี่ยนจากขวดนมไปเป็นใช้ถ้วยแทน และต้องระวังถ้าลูกดื่มนมมากเกินไป จะทำให้ลูกไม่ยอมทานข้าวในมื้ออาหาร และจะทำให้ขาดสารอาหารในที่สุด อีกทั้งยัง เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ลูกฝันพุ จากการคาบขวดนมอีกด้วย
ซึ่งทางสถาบัน American Academy of Pediatrics (AAP) ได้แนะนำว่า ให้ลูกน้อยได้เปลี่ยนไปใช้ถ้วยหัดดื่มแทน เมื่อเด็กเริ่มมีอายุได้ 15 เดือน แต่ผู้เชี่ยวชาญบางท่าน แนะนำให้ใช้กับลูกน้อยตั้งแต่อายุได้ 6 เดือน พอเด็กอายุได้ 1 ขวบ ก็จะเลิกใช้ขวดนมได้พอดี พอเด็กเริ่มเข้าใจในการใช้ถ้วยแล้ว ก็สามารถดื่มน้ำ หรือนมจากแก้วได้ตามปกติ
6. กินแต่ขนมตลอดวัน
พ่อแม่บางคนเคยให้ลูกได้กินขนมขบเคี้ยวตลอดทั้งวันจนเคยตัว ทำให้เด็กติดนิสัยกินขนม แม้จะไม่หิวก็ตาม เหมือนเป็นการสนับสนุนให้ลูกออกห่างจากอาหารที่มีประโยชน์ไปอีก เพราะเมื่อถึงเวลาถึงมื้ออาหาร ลูกอาจจะกินได้น้อยลง หรือไม่ยอมกินเลย
เมื่อลูกน้อยเริ่มมีพฤติกรรมไม่ยอมกินข้าว พ่อแม่จะต้องหาวิธีจัดการกับการกินของลูกน้อยอย่างจริงจัง โดยที่ให้ลูกน้อยได้กินอาหารหลัก และขนมขบเคี้ยวตามตารางเวลา แล้วบอกว่าเวลาไหนควรกินข้าว ขนมจุบจิบ รวมถึงผลไม้ด้วย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
พฤติกรรมเลียนแบบของลูก ตัวอย่างที่ดีที่สุดของลูกคือพ่อแม่
ทายนิสัยลูกจากราศีเกิด 12 ราศี
จริงมั้ย? คนท้องเกลียดใคร บ่นใคร นินทาใคร ลูกคลอดออกมาจะเป็นแบบนั้น
ที่มา : foxnews