องค์การยูนิเซฟได้มีการจัดอันดับประเทศที่คุณแม่และคุณลูกมีความสุขมากที่ในโลก ผลปรากฏว่า ประเทศเนเธอร์แลนด์นำมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยนักเขียนคุณแม่ลูกสาม “ไมอัล กรีนเนอร์” กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่ฉันอาศัยอยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ฉันรู้คำตอบเลยว่าทำไมผลการจัดอันดับถึงเป็นเช่นนั้น คุณแม่ทั่วโลกส่วนใหญ่มักจะมีความกังวลใจในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องกับลูก แต่จากประสบการณ์ฉันบอกได้เลยว่าไม่ใช่กับที่ประเทศนี้”
และนี่คือสาเหตุว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น
1. ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกับครอบครัวอื่น ชาวดัตช์จะไม่เอาตัวเองไปแข่งขันกับผู้อื่นแม้ว่าประเทศของเค้าจะติดอันดับประเทศที่มีคนอาศัยอยู่มากที่สุดโนโลกก็ตาม ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนบ้านมาชวนไปงานเลี้ยงของเด็กผู้หญิงโดยมีธีมเป็นม้ายูนิคอร์น คุณแม่ส่วนใหญ่ก็คงต้องรีบหาชุดเพื่อให้ลูกของตัวเองนั้นสวยและดูดีที่สุด ผิดกับคุณแม่ของประเทศนี้ที่คิดแต่เพียงว่าทำอย่างไรให้ลูกแต่งตัวออกมาได้อย่างสบายเรียบง่ายมากที่สุดโดยที่ยังคงไว้ซึ่งธีมงานอยู่ และงานเลี้ยงที่พวกเขาจัดนั้นก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไร เป็นเพียงโต๊ะวงกลมเล็กๆ 1 โต๊ะให้เด็กๆได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสนุกสนานทั้งยังมีของที่ระลึกแจกให้เด็กๆ กลับบ้านได้ด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 10 ยูโรหรือประมาณ 300 – 400 บาทเท่านั้น
2. ไม่คาดหวังให้ลูกๆ ต้องมาเติมเต็มความฝันของตัวเอง กรีนเนอร์กล่าวว่า เท่าที่สังเกตความสำเร็จและความผิดพลาดของลูกไม่ได้เป็นตัวตัดสินเรื่องการเลี้ยงดูของพ่อและแม่ และถ้าหากว่าลูกๆ ของพวกเขาจะเก่งกว่าเพื่อนคนอื่นๆ นั้นก็เป็นเพราะความสามารถของตัวพวกเขาเอง
3. เด็กๆ มีความกดดันน้อย ในหนึ่งสัปดาห์ โรงเรียนชั้นประถมศึกษาของประเทศนี้จะให้เด็กๆ สามารถเลิกไวได้ 1 วัน โดยที่เรียนหนังสือเพียงครึ่งวันเท่านั้นก็จะปล่อยให้เด็กๆกลับบ้าน โดยจะให้เด็กๆ ได้มีอิสระในการเรียนรู้ที่จะกิจกรรมอะไรก็ได้ที่ตัวเองอยากทำ เพราะเราไม่จำเป็นที่จะต้องไปกดดันอะไรพวกเขามาก เพียงแค่พ่อแม่ให้การสนับสนุนก็พอ สิ่งนี้นอกจากจะช่วยไม่ให้ลูกเครียดมากเกินไปแล้วก็ยังจะช่วยลดความคาดหวังของพ่อแม่ที่มีต่อลูกมากเกินไปด้วย
4. ให้คุณแม่ได้มีเวลาส่วนตัวบ้าง 70 เปอร์เซนต์ของคุณแม่ที่อาศัยอยู่ในประเทศนี้จะหางานพิเศษทำ พวกเขาไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในบ้านเพื่อทำงานบ้านและรอเวลาที่ลูกและสามีจะกลับมาแต่เพียงอย่างเดียว ปล่อยให้คุณแม่ได้มีอิสระในการหารายได้เสริมและมีสังคมใหม่ๆ บ้าง เพื่อจะได้ทำการแลกเปลี่ยนประสบกาณ์พูดคุยกับคุณแม่ท่านอื่น
5. รัฐบาลให้การสนับสนุน โดยได้จัดเตรียมสวัสดิการต่างๆ ให้กับประชาชน ยกตัวอย่างเช่น ในเรื่องของความปลอดภัย สุขภาพร่างกาย และการศึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย นอกจากสวัสดิการดีๆ เหล่านี้แล้วทุกๆ ไตรมาสรัฐบาลจะแจกจ่ายเงินให้กับทุกครอบครัวโดยเงินที่ว่านี้จะเปรียบเสมือนเงินทุนให้พ่อแม่เอาไว้ใช้จ่ายการในการเลี้ยงดูบุตร
เห็นแล้วใช่ไหมละคะว่า จริงๆ แล้วเรื่องราวของเค้านั้นไม่ได้มีอะไรเลยนอกเสียแต่เพียงเราลดความคาดหวังในตัวลูก อย่าบังคับในสิ่งที่พวกเขาไม่มีความถนัดและไม่อยากทำ เพราะจะเป็นการทำให้ลูกๆ ของเรามีแต่ความเครียด ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะออกมาไม่ดี ส่งผลให้คุณพ่อคุณแม่นั้นเครียดและผิดหวัง และจะนำไปสู่การทะเลาะเบาะแว้งต่างๆ ตามมา อย่างไรเราลองนำวิธีการเหล่านี้มาปรับใช้ดูกับตัวเราเองเพื่อจะได้เป็นคุณแม่ที่มีแต่ความสุข และก็ะจะส่งให้ลูกๆ ของเรานั้นมีความสุขตามไปด้วยค่ะ
ขอบคุณที่มา: sg.theasianparent.com
บทความที่เกี่ยวข้องอื่นๆ:
4 เคล็ดลับการเลี้ยงลูกที่จะทำให้ลูกรู้สึกดีและมีความสุข
เผยเหตุผล 8 ประการที่ทำให้เด็กญี่ปุ่นไปไกลอย่างก้าวกระโดด
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!