ไขข้อข้องใจ! หมดประจำเดือน ในวัย 40 ถือว่าผิดปกติหรือไม่?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วัยทอง หรือวัยหมดประจำเดือนเป็นผลมาจากรังไข่หยุดทำงาน จึงไม่มีการตกไข่ และหยุดสร้างฮอร์โมนเพศ โดยเฉลี่ยผู้หญิงไทยจะหมดประจำเดือนในช่วงอายุประมาณ 50 ปี แต่การเปลี่ยนแปลงร่างกายจะเริ่มตั้งแต่ช่วงอายุ 30 ปลาย ๆ เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบช้า ๆ และพอเข้าสู่วัย 40 ระดับฮอร์โมนจะผันผวนอย่างชัดเจน ประจำเดือนหมดเร็วกว่าปกติ ซึ่งแสดงว่า สัญญาณของภาวะ หมดประจำเดือน ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วนั่นเอง

 

จะรู้ได้อย่างไรว่า เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน

ข้อบ่งชี้ว่าคุณแม่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือน คือ การไม่มีประจำเดือนติดต่อกัน 12 เดือนในผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป ร่วมกับมีการผิดปกติ ต่อไปนี้

  • อาการร้อนวูบวาบ บางครั้งมีเหงื่อออกมากกว่าปกติ โดยเฉพาะเวลากลางคืนขณะนอนหลับ
  • นอนไม่หลับ หรือหลับยาก ตื่นบ่อย ๆ กลางดึก หรือตื่นเช้ากว่าปกติ
  • อ่อนเพลีย หมดเรี่ยวหมดแรง เพราะมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ
  • อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย และซึมเศร้า
  • ช่องคลอดแห้ง และมีความรู้สึกทางเพศลดลง

แต่หากคุณแม่มีอาการเหล่านี้ก่อนวัย 40 ปี ถือว่าเข้าข่ายหมดประจำเดือนก่อนวัยค่ะ

 

สาเหตุที่ทำให้หมดประจำเดือนก่อนวัย ประจำเดือนหมดเร็วกว่าปกติ

สุขภาพของคุณแม่เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความสมบูรณ์และความปกติของประจำเดือน หากสุขภาพโดยรวมดี ฮอร์โมนจากต่อมใต้สมองซึ่งจะผลิตตอนกลางคืนเมื่อเรานอนหลับสนิท ก็จะหลั่งออกมาดี รังไข่ก็ทำงานเป็นปกติเพราะได้รับการกระตุ้น การผลิตฮอร์โมนเพศหญิงเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนก็เป็นไปตามปกติ วงจรของการตกไข่ก็เกิดขึ้น

แต่ในปัจจุบันคุณแม่หลายท่าน ทำงานหนัก นอนดึก รับประทานอาหารไม่ถูกส่วน ไม่ออกกำลังกาย ส่งผลให้สุขภาพโดยรวมไม่ดี ต่อมใต้สมองผลิตฮอร์โมนมากระตุ้นรังไข่ได้ไม่ดีต่อเนื่องหลายปี หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้ารังไข่จะหยุดทำงาน ซึ่งเป็นที่มาของการหมดประจำเดือนก่อนวัย

บทความที่เกี่ยวข้อง : ประจำเดือนไม่มา อย่าชะล่าใจ เช็ก 8 สาเหตุที่อันตรายกว่าที่คิด

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

เตรียมรับมือเมื่อหมดประจำเดือน

ปัญหาสุขภาพที่มักพบในวัยหมดประจำเดือน ได้แก่ โรคกระดูกพรุน โดยผู้หญิงทุก ๆ 1 ใน 4 รายเป็นโรคกระดูกพรุนหลังหมดประจำเดือน อย่างไรก็ตาม โรคกระดูกพรุนสามารถป้องกันได้ โดยวิธีที่ดีที่สุดคือต้องสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรงตั้งแต่อายุน้อยกว่า 30 ปี ดังนี้

  1. การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง ได้แก่ นม ไข่ ผักใบเขียว ผลไม้ ปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ถั่ว เต้าหู้
  2. ได้รับวิตามินดีให้เพียงพอ เนื่องจากวิตามินดีจะเป็นตัวช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียม ซึ่งร่างกายเราสามารถสังเคราะห์วิตามิน ดีได้จากแสงอาทิตย์
  3. หลีกเลี่ยงอาหารรสหวานและเค็มจัด เนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง
  4. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  5. หลีกเลี่ยงการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เพราะจะทำให้กระดูกพรุนได้ง่ายกว่าปกติ
  6. ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยวันละ 15 – 20 นาทีเป็นประจำทุกวัน ซึ่งจะช่วยให้กระดูกแข็งแรงและเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก เช่น การเดิน การวิ่ง กระโดดเชือก ยกน้ำหนัก เป็นต้น

ที่กล่าวมาแล้วนั้นคือ อาการหมดประจำเดือนในวัย 40 และอาการหมดประจำเดือนก่อนวัย แต่หากคุณแม่ในวัย 40 มีอาการประจำเดือนผิดปกติ แต่ไม่มีอาการอื่น ๆ ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนร่วมด้วย แสดงว่าไม่ใช่ภาวะหมดประจำเดือน แต่อาจมีความผิดปกติภายในอื่น ๆ ที่ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ข้อควรระวัง เมื่อประจำเดือนผิดปกติ

ข้อควรระวังของผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปคือ หากคุณแม่ผิดปกติต่อไปนี้ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพราะเป็นอาการสำคัญว่า อาจเกิดจากโรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก หรือมะเร็งเยื่อบุมดลูกได้

  • ประจำเดือนมามากหรือมานาน
  • ประจำเดือนมากะปริดกะปรอยระหว่างรอบเดือน หรือมาไม่เป็นรอบ
  • ประจำเดือนหยุดไปหลายเดือนและอยู่ ๆ ก็มาอีกพร้อมกับมีเลือดออกมาก
  • ประจำเดือนหยุดไปแล้วครบ 1 ปี และกลับมามีอีก

คุณแม่ได้ทราบแล้วว่าวัยหมดประจำเดือนนั้นเริ่มต้นตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไปซึ่งไม่ถือว่าผิดปกติ ซึ่งผู้หญิงทุกคนต้องเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สิ่งสำคัญอยู่ที่การใช้ชีวิตให้สุขภาพโดยรวมแข็งแรง และหมดประจำเดือนในวัยที่เหมาะสม การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณแม่รู้เท่าทันความผิดปกติของร่างกาย หากรู้เร็วก็จะสามารถรับมือได้ทันและบรรเทาความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : ประจำเดือนมาน้อย เรื่องอันตรายใกล้ตัวที่ห้ามปล่อยผ่าน

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ฮอร์โมนทดแทนในวัยทอง

ผู้หญิงในช่วงวัยทองจะมีการลดลงของระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนมาก ทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมา ปัจจุบันผู้หญิงบางกลุ่มจึงหันมาใช้ฮอร์โมนทดแทนเพื่อลดปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย และทางด้านอารมณ์ดังกล่าว รวมถึงช่วยป้องกันโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ อาทิ โรคหัวใจ โรคกระดูกพรุน โรคมะเร็ง เป็นต้น

ฮอร์โมนทดแทนที่มีการใช้ในวัยทอง คือ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ที่ร่างกายขาดไปนั่นเอง นอกจากนั้น ยังใช้สารอื่นที่ออกฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือ โปรเจสเตอโรน

 

รูปแบบการใช้ฮอร์โมน

  • โดยการกินยา ทำให้ระดับไขมันที่ดีสูงขึ้น แต่จะทำให้ฮอร์โมนในเลือดไม่คงที่จากตับถูกทำลาย
  • โดยการฉีด ยาจะไม่ผ่านตับ และระดับไขมันที่ดีจะไม่เพิ่มเหมือนชนิดกิน
  • การใช้แผ่นปิด (estrogen-filled patch)โดยใช้ปิดที่แขนหรือก้น สามารถใช้ได้หลายวัน
  • การฝังฮอร์โมน วิธีนี้จะทำให้ฮอร์โมนในเลือดสูงเกินมากกว่าปกติ 2-3 เท่า
  • ครีมฮอร์โมนทาที่ผิวหนัง
  • ครีมฮอร์โมนทาที่ช่องคลอด ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่มีอาการช่องคลอดแห้ง

 

ประโยชน์ของฮอร์โมนทดแทน

  • ป้องกันโรคกระดูกพรุน
  • ป้องกันโรคหัวใจ
  • ลดอาการวัยทอง
  • ลดอาการร้อนวูบวาบ
  • ลดอาการช่องคลอดแห้ง และคัน ทำให้ช่องคลอดเต่งตึง ไม่แห้ง
  • ลดอาการปัสสาวะเล็ด
  • ใช้รักษาอาการร้อนวูบวาบ
  • ใช้ลดอารมณ์แปรปรวน และนอนไม่หลับ
  • ใช้ป้องกันโรคหัวใจ โรคสมองเสื่อม มะเร็งลำไส้ และลดโรคแทรกซ้อนจากโรคเบาหวาน

บทความที่เกี่ยวข้อง : 12 วิธีธรรมชาติในการปรับสมดุลฮอร์โมนของคุณ ฮอร์โมนไข่เพื่อสุขภาพคืออะไร

 

 

ผลเสียของการใช้ฮอร์โมนทดแทน

  • เพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งมดลูก มะเร็งเต้านม โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ในปริมาณที่สูง และใช้ติดต่อกันนาน 10-15 ปี ซึ่งการใช้ฮอร์โมนทดแทน ไม่ควรใช้ติดต่อนานเกิน 5 ปี
  • มีโอกาสเกิดนิ่วในถุงน้ำดี โดยเฉพาะการใช้แบบรับประทาน หากต้องการป้องกันโรคดังกล่าว ควรใช้แบบชนิดปิดหรือชนิดทา

 

ข้อแนะนำการใช้ฮอร์โมน

  • สำหรับฮอร์โมนเอสโตรเจนชนิดทา ให้ทาวันละ 1 กรัม/ครั้ง
  • ใช้ทาบริเวณหน้าขา หรือแขน และสามารถทาโลชั่นอื่นได้ตามปกติ
  • หลีกเลี่ยงการทาบริเวณหน้าอก หน้าท้อง และอวัยวะเพศ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวใกล้อวัยวะภายใน ตัวยาอาจซึมเข้าสู่อวัยวะภายในผ่านต่อมน้ำนมได้

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

หมดประจำเดือน ในวัย 40 อาจเกิดขึ้นจากหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นจากฮอร์โมนรังไข่ สภาพของมดลูก และสุขภาพของคุณ แต่หากคุณแม่มีอาการร้อนวูบวาบ นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย อารมณ์แปรปรวน และช่องคลอดแห้ง อาจเข้าข่ายหมดประจำเดือนก่อนวัยได้ ดังนั้น ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและวิธีรับมือต่อไป

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ประจำเดือนขาดกี่วันท้อง ประจำเดือนไม่มา ท้องหรือเปล่า

20 ข้อควรรู้ เกี่ยวกับประจำเดือน เช็กเลยว่าอาการไหนคือความผิดปกติ!

10 เหตุผลทำไมประจำเดือนไม่มา มีเหตุผลอะไรบ้างที่แม่ขาดประจำเดือน

ที่มา : bumrungrad, haamor, library.stou, phukethospital