X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
Product Guide
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

20 ข้อควรรู้ เกี่ยวกับประจำเดือน เช็กเลยว่าอาการไหนคือความผิดปกติ!

บทความ 5 นาที
20 ข้อควรรู้ เกี่ยวกับประจำเดือน เช็กเลยว่าอาการไหนคือความผิดปกติ!

รู้หรือไม่ว่า “ประจำเดือน” ไม่ใช่เลือดเสีย เพราะมีหลายคนที่เข้าใจว่าการมีประจำเดือนคือการขับเลือดเสียทิ้ง หลายครั้งที่คุณผู้หญิงบางคนมีความกังวลใจ เพราะการขับประจำเดือนออกมาน้อยหรือนาน ๆ ทีมีประจำเดือน จะทำให้ร่างกายเกิดเลือดคั่งภายในหรือเปล่า วันนี้ theAsianparent จะพาหาคำตอบไปพร้อมกันว่า ข้อควรรู้ เกี่ยวกับประจำเดือน ทั้ง 20 ข้อมีอะไรบ้าง เช็กได้เลยที่นี่!

ว่าด้วยเรื่องวันนั้นของเดือนของคุณผู้หญิง ต้องเข้าใจก่อนว่ารอบเดือนและประจำเดือนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะรู้สึกว่าเดือนนี้เมนมาเยอะเหลือเกิน แต่อีกเดือน ประจำเดือนมาน้อย ก็เป็นไปได้ ซึ่งความแปรปรวนเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ในทุก 21 – 35 วัน ในแต่ละเดือนก็อาจจะมีปริมาณที่ไม่เท่าปกติที่เคยเป็นมาก็ได้

บทความที่น่าสนใจ : ประจำเดือนมาน้อย เรื่องอันตรายใกล้ตัวที่ห้ามปล่อยผ่าน

 

ข้อควรรู้ประจำเดือน

 

ทำความรู้จัก ประจำเดือน คืออะไร

ประจำเดือน คือ เลือดและเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมาทุกรอบเดือนของผู้หญิง ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละคน ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นทุก 21 – 35 วัน แต่ละรอบจะอยู่นาน 3 – 7 วัน การที่เราต้องมีการสร้างเนื้อเยื่อโพรงมดลูกใหม่เสมอก็เพื่อให้พร้อมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน จึงทำให้เกิดวงโคจรของประจำเดือนแบบนี้ขึ้นมา ซึ่งก็จะขึ้นลงตามระดับของฮอร์โมนเพศด้วย อีกทั้งประจำเดือนไม่ใช่เลือดเสีย จึงไม่ต้องกังวลว่าการที่ประจำเดือนมาน้อย หรือนาน ๆ มาที จะทำให้เกิดเลือดคั่งในร่างกายได้ เพราะข้อมูลนี้แพทย์ยืนยันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าไม่เป็นความจริง

 

สีของประจำเดือนเปลี่ยนแปลงไปเรื่องจริงหรือไม่?

โดยปกติแล้ว “ประจำเดือน” จะมีสีที่เปลี่ยนไปไม่ซ้ำกันในทุกรอบเดือนอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับความเก่าใหม่ของเลือดมากกว่า ถ้าหากเลือดที่ออกมาในช่วงต้น ๆ วันที่รอบเดือนมาก็จะเป็นสีแดงสด หากเข้าสู่ช่วงท้ายของรอบเดือนสีจะเข้มขึ้น เพราะว่าการไหลของเลือดจะลดลง รวมถึงมีเลือดค้างอยู่ในเยื่อบุโพรงมดลูก เมื่อถึงช่วงหนึ่งเลือดอาจสัมผัสกับอากาศก็เปลี่ยนให้มีสีคล้ำขึ้นได้

อีกทั้งการเปลี่ยนของสีรอบเดือนในช่วงท้ายนั้นเป็นเรื่องปกติ ขึ้นอยู่กับปริมาณเลือดและเยื่อบุที่หลุดออกมามากกว่าการเกี่ยวข้องกับโรคความเจ็บป่วยที่เป็นข้อมูลอยู่บนโลกออนไลน์

 

3 สิ่งที่ควรสังเกตเกี่ยวกับประจำเดือน

  • ปริมาณเลือดที่ออกมา หากผู้หญิงคนไหนที่ต้องเปลี่ยนในทุก 2 ชั่วโมงและปริมาณที่เยอะเกินไปหรือเต็มแผ่น ควรปรึกษาแพทย์เพราะอาจมีความผิดปกติที่ภายในก็เป็นได้
  • เลือดที่ออกมาเป็นลักษณะก้อนเลือด หากมีลิ่มเลือดสีแดงสด, แดงเข้ม หรือแดงคล้ำ อาจมีความผิดปกติภายในได้เช่นกัน ควรตรวจเพิ่มเติมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • ความสม่ำเสมอของรอบเดือน โดยปกติแล้วรอบเดือนของผู้หญิงจะมาทุก 21 – 35 วัน จะไม่มาเร็วกว่า 21 วัน และไม่มาช้ากว่า 35 วัน

 

20 ข้อควรรู้ เกี่ยวกับประจำเดือน

  1. ช่วงอายุที่เริ่มมีประจำเดือน โดยปกติจะอยู่ที่ 12 – 13 ปี แต่ปัจจุบันพบว่ามีแนวโน้มที่เด็กผู้หญิงจะมีประจำเดือนเมื่ออายุยังน้อยมากขึ้นด้วย
  2. โรคอ้วน คือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้หญิงมีประจำเดือนเร็วขึ้น
  3. ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ในช่วง 2 ปีแรก การมีประจำเดือนจะยังมาไม่สม่ำเสมอ เพราะฮอร์โมนในร่างกายยังไม่สมดุล
  4. ช่วงเวลามีประจำเดือน ปกติแล้วประจำเดือนจะมาทุก ๆ 28 วัน แต่ถ้าผู้หญิงที่อายุยังไม่ถึง 21 ปี มักจะมาเฉลี่ยที่ 33 วัน พออายุเพิ่มขึ้นจะมีการปรับเฉลี่ยที่ 28 วัน และเมื่ออายุเข้า 40 ปี ระยะห่างจะลดลงเหลือ 26 วัน
  5. โดยเฉลี่ยแล้วผู้หญิงมีประจำเดือนราว 6 วัน กว่าร้อยละ 5 เป็นผู้หญิงที่มีประจำเดือนน้อยกว่า 4 วัน
  6. ประจำเดือนมามาก การมีประจำเดือนมากกว่า 7 วัน เรียกว่าประจำเดือนมามาก
  7. มีผู้หญิงกว่าร้อยละ 9 – 14 ที่มีอาการประจำเดือนมามาก
  8. การมีประจำเดือนนานเกิน 9 วัน ถือว่าเป็นการมีรอบเดือนมากผิดปกติ และเกิดในผู้หญิงราว 4%
  9. ฮอร์โมนไม่สมดุล เป็นสาเหตุที่ทำให้ประจำเดือนมามาก เยื่อบุโพรงมดลูกหนาหรือมากเกินไปเลยทำให้มีเลือดออกมาเยอะ
  10. การใช้ยาฮอร์โมนอาจมีผลข้างเคียง ที่ทำให้ประจำเดือนมามากผิดปกติ รวมถึงการใช้เคมีบำบัด, การใช้ห่วงคุมกำเนิด, ยาต้านหรือละลายลิ่มเลือด และการกินยาคุม ก็ทำให้ประจำเดือนมามากได้เช่นกัน
  11. โรคโลหิตจาง ถ้าประจำเดือนมามากอาจทำให้เป็นโรคโลหิตจางได้ ต้องสังเกตอาการเพลีย, เหนื่อยง่าย, ใจสั่น, มีเสียงในหู
  12. ผู้หญิงที่ไม่มีประจำเดือน มักจะมีฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำที่อาจเป็นสาเหตุเกิดโรคกระดูกพรุนในอนาคต การรับฮอร์โมนจะช่วยได้
  13. เมื่อเข้าสู่อายุ 50 ปีขึ้นไป หรือใกล้เข้าสู่ช่วงวัยทอง อาจมีอาการประจำเดือนมามากกว่าปกติ
  14. อาการปวดประจำเดือน เกิดจากมดลูกมีการบีบ และคลายตัวอย่างแรง เพื่อไล่เลือดออกมา
  15. การปวดท้อง อาจปวดก่อนมีรอบเดือนหลายวัน และเมื่อมาแล้วอาการปวดอาจจะดีขึ้นได้ด้วยตัวเอง
  16. ผู้หญิงที่ปวดท้องหนักมาก หรือมีอาการประจำเดือนมาผิดปกติบ่อย ๆ อาจจะมีเนื้องอกในมดลูก และเป็นหมัน
  17. มีผู้หญิงราว 10 – 15% ที่มีอาการปวดประจำเดือนหนักมากถึงขั้นต้องหยุดเรียนหรือหยุดงาน
  18. ยาที่นิยมใช้บรรเทาปวดประจำเดือนได้แก่ Aspirin, Ibuprofen
  19. ความผิดปกติที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับประจำเดือน ได้แก่ ประจำเดือนขาด หรือ มามากเกินไป
  20. หากประจำเดือนมามาก อาจเกิดขึ้นเพราะความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติ หรือมีการอักเสบหรือไม่

เพราะมดลูกมีความเกี่ยวโยงกับอาการของประจำเดือน หากเกิดความผิดปกติขึ้นที่มดลูก ประจำเดือนของเราก็จะผิดปกติไปด้วย ดังนั้นเมื่อเกิดอาการประจำเดือนมามากผิดปกติ, ประจำเดือนไม่มา หรือเดี๋ยวมาเดี๋ยวหาย ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุของความผิดปกตินั้น

 

บทความที่น่าสนใจ :

บทความจากพันธมิตร
5 ผลเสียของ โปรไบโอติกส์ ที่แม่ท้องต้องรู้
5 ผลเสียของ โปรไบโอติกส์ ที่แม่ท้องต้องรู้
หมอสูติฯ เตือน ไม่อยากให้ ลูกป่วยบ่อย แม่ป้องกันได้ตั้งแต่เตรียมตัวตั้งครรภ์
หมอสูติฯ เตือน ไม่อยากให้ ลูกป่วยบ่อย แม่ป้องกันได้ตั้งแต่เตรียมตัวตั้งครรภ์
ลูกเป็นผื่น แดง คัน ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ผิวแพ้ง่าย แชร์วิธีรักษาง่ายๆ ด้วยวิธีที่ปลอดภัยแบบไม่ต้องพึ่งสเตียรอยด์
ลูกเป็นผื่น แดง คัน ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ผิวแพ้ง่าย แชร์วิธีรักษาง่ายๆ ด้วยวิธีที่ปลอดภัยแบบไม่ต้องพึ่งสเตียรอยด์
แม่รู้มั้ย ป้องกันลูกเป็น โรคภูมิแพ้ เริ่มต้นจากบ้านสะอาด อากาศสดชื่น ปราศจากฝุ่น และไวรัส
แม่รู้มั้ย ป้องกันลูกเป็น โรคภูมิแพ้ เริ่มต้นจากบ้านสะอาด อากาศสดชื่น ปราศจากฝุ่น และไวรัส

ประจำเดือนมาน้อย เรื่องอันตรายใกล้ตัวที่ห้ามปล่อยผ่าน

อารมณ์แปรปรวนก่อนมีประจำเดือน เดี๋ยวหงุดหงิด เดี๋ยวเศร้า รับมืออย่างไรดี ?

พฤติกรรมและอาหารที่สาว ๆ ควรเลี่ยงขณะเป็นประจำเดือน

ที่มา : (1) , (2)

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Kanthamanee Phisitbannakorn

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • 20 ข้อควรรู้ เกี่ยวกับประจำเดือน เช็กเลยว่าอาการไหนคือความผิดปกติ!
แชร์ :
  • แชร์เคล็ด(ไม่)ลับลดปัญหาไม่สบายท้องของลูกรัก

    แชร์เคล็ด(ไม่)ลับลดปัญหาไม่สบายท้องของลูกรัก

  • เมื่อลูกน้อยหายใจครืดคราด ต้องดูแลอย่างไร จึงจะปลอดภัยกับเด็ก

    เมื่อลูกน้อยหายใจครืดคราด ต้องดูแลอย่างไร จึงจะปลอดภัยกับเด็ก

  • จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ทารกไม่สมดุล ระวังลูกเป็นโรค!

    จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ทารกไม่สมดุล ระวังลูกเป็นโรค!

  • แชร์เคล็ด(ไม่)ลับลดปัญหาไม่สบายท้องของลูกรัก

    แชร์เคล็ด(ไม่)ลับลดปัญหาไม่สบายท้องของลูกรัก

  • เมื่อลูกน้อยหายใจครืดคราด ต้องดูแลอย่างไร จึงจะปลอดภัยกับเด็ก

    เมื่อลูกน้อยหายใจครืดคราด ต้องดูแลอย่างไร จึงจะปลอดภัยกับเด็ก

  • จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ทารกไม่สมดุล ระวังลูกเป็นโรค!

    จุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ทารกไม่สมดุล ระวังลูกเป็นโรค!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว