เคยสงสัยกันหรือไม่ ตอนแรกไม่เคยมีกลิ่นตัวเลยสักนิด แต่พอมาเป็นมนุษย์แม่ปั๊บ กลับมากลิ่นตัวเหม็นตุ ๆ ขึ้นมาซะเฉย ๆ คุณแม่ตั้งครรภ์ รวมไปถึงคุณแม่หลังคลอด มักจะมีกลิ่นตัวแรงผิดปกติ จากเดิมที่ไม่เคยตัวเหม็นมาก่อน แบบนี้ปล่อยไว้นานคงไม่งาม มาดู 10 วิธีแก้คนท้องกลิ่นตัวแรง ระงับกลิ่นกายคนท้อง ทำยังไงให้เต่าไม่เหม็น น้องเต่าไม่เรียกแม่
คนท้องมีกลิ่นตัวแรงเกิดจากอะไร ?
การที่คนท้องอยู่ ๆ ก็มีกลิ่นตัวแรงขึ้นมานั้น เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนตอนตั้งครรภ์นั่นเอง ต่อมเหงื่ออะโพไครน์ (Apocrine) หลั่งของเหลวสีน้ำนมออกมา เมื่อแบคทีเรียย่อยสลายไปแล้ว ของเหลวสีน้ำนมนี้จะทำให้เกิดกลิ่นตุ ๆ รวมไปถึงเหงื่อที่หมักหมม จนแบคทีเรียเติบโตขึ้น สะสมจนเกิดเป็นกลิ่นตัว
นอกจากนั้น คุณแม่ตั้งครรภ์ยังมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของระบบเผาผลาญ ที่ทำงานขึ้นเยอะกว่าปกติเป็นสองเท่า ทำให้เกิดกลิ่นตัวแรง รวมไปถึงระบบขับของเสียด้วย คุณแม่ตั้งครรภ์บางคนท้องผูก ระบบขับของเสียผิดปกติ ก็อาจก่อให้เกิดกลิ่นตัวได้เช่นเดียวกัน
หรือในขณะเดียวกัน ฮอร์โมนช่วงที่ท้องก็มีส่วน มนุษย์หลายคนจะจมูกไวต่อกลิ่นมากขึ้นเยอะ บางครั้งเลยทำให้รู้สึกว่ากลิ่นเต่าตัวเองนี่มันแรงจริง ๆ ซึ่งบางทีคนรอบข้างอาจจะไม่ได้กลิ่นด้วยซ้ำค่ะ ลองสำรวจตัวเองดูสิว่าคนรอบข้างได้กลิ่นด้วยมั้ย หรือคุณแม่ตั้งครรภ์ได้กลิ่นอยู่คนเดียว เพราะอะไร
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายสำหรับแม่ ยี่ห้อไหนดี อ่อนโยน ปลอดภัย ต่อแม่และลูก
วิดีโอจาก : แม่ แอนด์ ลูก สตอรี่
10 วิธีแก้คนท้องกลิ่นตัวแรง
ถ้าหากคุณแม่ตั้งครรภ์มีกลิ่นตัวแรงจริง ๆ อย่าเพิ่งเครียดไป สามารถแก้ได้ด้วยวิธีต่าง ๆ หลากหลายวิธีเลย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหาผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายมาช่วย รวมไปถึงปรับเรื่องอาหารการกินก็ช่วยได้เช่นเดียวกัน
1. สารส้ม
สารส้มถือเป็นไอเทมแรก ๆ ที่เรามักจะนึกถึงในเรื่องของการระงับกลิ่น สามารถใช้ในการกำจัดกลิ่นตัวได้ โดยเฉพาะกลิ่นตัวที่เกิดจากใต้วงแขน ดับกลิ่นได้ 90% และนานถึง 24 ชั่วโมง วิธีใช้คือให้นำสารส้มมาถูรักแร้หลังอาบน้ำ ขณะที่รักแร้ยังเปียกอยู่ ใช้ทุกวัน จะสามารถระงับกลิ่นตัวได้
2. แป้งตราเต่าเหยียบโลก
อีกหนึ่งไอเทมระงับกลิ่นกายที่เหล่าคุณแม่ตั้งครรภ์มักจะบอกต่อกัน นั่นก็คือ แป้งตราเต่าเหยียบโลก แป้งระงับกลิ่นกายที่สยบกลิ่นตัวได้ดีสุด ๆ กลิ่นเต่าหายจริง แต่เจ้าแป้งนี้อาจจะต้องระมัดระวังในการใช้เวลาใส่เสื้อสีขาวนิดนึง ระวังแป้งไปโดนแล้วจะทำให้เสื้อเหลืองได้
3. โรลออนระงับกลิ่นกาย
โรลออน หรือพวกสเปรย์ดับกลิ่นกาย เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่สามารถหาซื้อได้ง่าย และสามารถช่วยดับกลิ่นเต่าได้ รวมไปถึงมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ด้วย คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถเลือกอันที่ตัวเองไม่แพ้ และใช้ทา หรือฉีดระงับกลิ่นกายได้เลย
4. ลดการทานเครื่องเทศ และอาหารมีกลิ่น
เรากลิ่นอะไรเข้าไป ร่างกายเราก็มักจะขับกลิ่นเหล่านั้นออกมานั่นแหละ บางครั้งอาจมาในรูปแบบของกลิ่นตัวได้ด้วย ดังนั้นหากคุณแม่ตั้งครรภ์คนไหนมีกลิ่นตัว ให้ลองสำรวจตัวเองว่ากินเครื่องเทศเยอะเกินไปหรือเปล่า ให้ลดพวกเครื่องเทศ ของมีกลิ่น เช่น กระเทียม สะตอ หัวหอม จะช่วยให้กลิ่นตัวเบาลงเยอะ
5. ไม่ใส่ชุดชั้นในซ้ำ
ชุดชั้นใน เป็นสิ่งที่สัมผัสกับจุดซ่อนเร้นโดยตรง รวมไปถึงจุดอับ ข้อผับต่าง ๆ ดังนั้นจึงควรรักษาความสะอาดมากเป็นพิเศษ ห้ามใส่ชุดชั้นในซ้ำโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้อับชื้นจนเกิดกลิ่นตัว ยิ่งไปกว่านั้น อาจเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้น้องสาวมีกลิ่นได้ด้วย
6. อย่าสครับผิวบ่อย
หลาย ๆ คนมักจะบอกว่า การขัดผิว ช่วยให้ผิวขาว เรียบเนียน เปล่งปลั่ง แต่การขัดผิวบ่อยจนเกินไป ก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ถ้าหากขัดผิดบ่อย ๆ บางครั้งอาจไปทำลายแบคทีเรียดีในผิว ก็เลยทำให้เกิดกลิ่นตัวขึ้นมาซะเฉย ๆ การสครับผิวนั้นควรทำสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งก็เพียงพอ ถ้าหากมากไปกว่านั้น จะไม่ส่งผลดีเท่าไหร่นัก
7. อาบน้ำให้สะอาด
การรักษาความสะอาดถือเป็นปัจจัยหลัก ๆ ในการลดกลิ่นตัวเลย ยิ่งประเทศไทยเราเป็นเมืองร้อนแบบนี้ พอร้อนแล้ว ก็เหงื่อออกง่าย ดังนั้นอย่าปล่อยให้หมักหมม อาบน้ำให้สะอาดทุกเช้าเย็น โดยเน้นบริเวณข้อพับ รักแร้ ขาหนีบ อาจใช้สบู่สูตรระงับแบคทีเรีย ลดกลิ่นอาย ช่วยด้วยก็ได้
8. กินผักผลไม้
อย่างที่บอกไปแล้วว่า อาหารการกินย่อมส่งผลต่อกลิ่นตัวได้ด้วย แต่ในกรณีนี้ที่เราบอกว่าให้คุณแม่ตั้งครรภ์กินผักผลไม้เยอะ ๆ นั้น เป็นเพราะจะได้ช่วยลดอาการท้องผูก เพราะถ้าหากท้องผูก ระบบขับถ่ายผิดปกติ ก็จะทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์มีกลิ่นตัวได้
9. สวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย
การเลือกสวมใส่เสื้อผ้าก็มีส่วนทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ ให้คุณแม่ตั้งครรภ์เลือกสวมเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ไม่คับแน่นจนเกินไป เลือกเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี อย่างเช่น ผ้าฝ้าย พยายามอย่าให้อับชื้น เพราะอาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของกลิ่นตัวได้
10. ลดความเครียด
จริง ๆ แล้วคุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรคิดมากจนเกิดเป็นความเครียดอยู่แล้ว เพราะสภาพจิตใจของตัวคุณแม่ จะส่งผลต้องลูกในท้องด้วย ยิ่งไปกว่านั้น พอคุณแม่ตั้งครรภ์เครียดมาก ๆ ร่างกายจะหลั่งสารอะดรีนาลีน ซึ่งนั่นเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กลิ่นตัวแรงขึ้น ลองทำใจให้สบาย ดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือให้อารมณ์ดี ลดความเครียดลง ก็จะสามารถช่วยได้เช่นเดียวกัน
พอท้องแล้วอาการแปลก ๆ ก็เริ่มตามมา อาจลำบากหน่อยกับการรับมือการเปลี่ยนแปลง แต่แม่ท้องก็ควรศึกษาไว้ และหมั่นสังเกตอาการของตนเอง เพื่อหาความผิดปกติ พร้อมกับปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เซรั่มระงับกลิ่นกาย ลดเหงื่อ สำหรับแม่ท้อง ควรเลือกอย่างไรให้ปลอดภัย ?
ทำไมคนท้องชอบปากเหม็น กลิ่นปากแร๊งแรง
ท้องแล้วจิมิมีกลิ่น เกิดจากอะไร? มีปัญหาอะไร ต้องหาหมอหรือไม่ ?
ที่มา : anmum
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!