ก่อนซื้อยางกัดให้ลูก เลือกให้ถูกระวังสารพิษเพียบเพราะสาร BPA หรือ Bisphenol A ที่นิยมใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์พลาสติกสำหรับเด็ก แม้จะจำนวนแค่เพียงเล็กน้อยแต่ก็ทำให้ฮอร์โมนที่อยู่ในร่างกายลูกเปลี่ยนแปลงได้ และกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่ตั้งครรภ์เช่นเดียวกัน สำหรับเด็กนั้นก็มีของเล่นที่สามารถสู้กับฟันของเด็กทารกได้อย่างสมบูรณ์แบบหรือที่เราเรียกกันว่า “ยางกัด” มันเป็นอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ ถูกสุขอนามัยปลอดภัยและเด็กๆส่วนใหญ่ยังชอบอีกด้วย แน่นอนว่าคุณจะพบยางกัดหลายประเภทในท้องตลาดและคุณอาจต้องการลองสองตัวเลือกก่อนเพื่อดูว่าเหมาะกับลูกน้อยของคุณที่สุด มียางกัดที่เป็นของเล่นเพื่อการเรียนรู้เป็นสองเท่าบางชิ้นสามารถใส่ในตู้เย็นได้บางตัวที่ติดกับเสื้อผ้าของลูกน้อยและแม้แต่ยางกัดที่ใช้เป็นเอี๊ยมเพื่อไม่ให้หล่นก็มีให้คุณเลือกด้วย
ก่อนซื้อยางกัดให้ลูก
ยางกัด คืออะไร?
ยางกัด ถือเป็นของเล่นเสริมพัฒนาการ และเสริมทักษะสำหรับเด็กน้อย ซึ่งถือว่าเป็นของเล่นชิ้นแรกของลูกก็ดูไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ส่วนใหญ่ทำมาจากยาง และที่สำคัญ คือ ไม่ได้ทำให้ฟันเหยิน หรือฟันเสียทรงแต่อย่างใด ยางกัดเป็นของเล่นเสริมความแข็งแกร่งให้กับฟัน หลายคนอาจจะคิดว่ามันไม่ได้จำเป็นมากนักแต่เมื่อลูกของคุณอายุประมาณ 5 เดือน ลูกน้อยของคุณจะต้องรำคาญกับฟันที่กำลังงอกและมีอาการเจ็บเหงือกอย่างมากจนสัญชาตญาณความเป็นแม่ของคุณบ่งบอกให้คุณรู้สึกตัวว่าคุณต้องทำอะไรบางอย่างกับมัน ไม่ต้องพูดถึงจำนวนคืนที่นอนไม่หลับและอาการปวดหัวที่คุณจะได้รับจากการกรีดร้องของทารกที่ไม่พวกเขาเองก็ไม่สามารถผ่อนคลายได้ การให้ลูกน้อยของคุณมีของเล่นเสริมความแข็งแรงของฟันจะช่วยให้พวกเขาหลุดพ้นจากความเจ็บปวดและจะมอบความบันเทิงที่จำเป็นให้กับพวกเขาและยังพัฒนาทักษะทางความคิดและจิตใจของเด็กด้วย
ยางกัดสารพัดประโยชน์ ทำอะไรได้บ้าง?
- ช่วยนวดเหงือกให้นิ่มลง เพื่อให้ฟันของลูกจะได้โผล่ขึ้นมาได้ง่ายขึ้น
- ลดอาการคันเหงือก จากการขยายตัวออกของเหงือก
- แก้อาการหมั่นเขี้ยว
- ป้องกันลูกดูดนิ้ว เชื้อโรคจะได้ไม่เข้าร่างกาย
- ช่วยให้เด็กไม่เจ็บเหงือก
- ช่วยผ่อนคลายในช่วงที่ฟันของลูกกำลังขึ้น
- เด็กไม่ต้องกัดสิ่งของชนิดอื่น
- ช่วยเสริมพัฒนาการในการหยิบจับ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อมัดเล็ก
- รูปทรง และสีสันที่แตกต่างกัน จะช่วยพัฒนาการทางด้านสมอง และอารมณ์ของเด็ก
ควรใช้ยางกัดสำหรับเด็กเมื่อใด
หากคุณเป็นผู้ปกครองครั้งแรกคุณอาจสงสัยว่าเมื่อไหร่ที่ลูกน้อยของคุณจะเริ่มมีฟันซี่แรก ๆ ทารกส่วนใหญ่จะมีฟันซี่กลางส่วนล่างก่อนอายุระหว่าง 6-10 เดือน ตามด้วยฟันกรามซี่กลางด้านบนซึ่งปรากฏระหว่าง 8-12 เดือน แม้ว่าคุณจะเคยชินกับอาการงอแงของลูกน้อย แต่การงอกของฟันก็เหมือนเกมบอลเกมใหม่ เด็กมักจะสังเกตให้เราเห็นอาการเฉพาะบางอย่างที่แจ้งให้ทราบว่าฟันนั้นกำลังงอก
- พวกเขาเริ่มมีการเคี้ยว
- มีความเหวี่ยงและความหงุดหงิด
- เหงือกเจ็บและบวม
- เริ่มมีน้ำลายไหลมากขึ้น
ก่อนซื้อยางกัดให้ลูก
สารพิษอื่น ๆ ในยางกัด
สาร BPA ไม่ได้เป็นสารเคมีที่เป็นพิษเพียงตัวเดียวที่ต้องระวังแล้วแหละ เนื่องจากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Environmental Science & Technology. ใช้ยางกัดของเด็กๆ เพื่อเก็บข้อมูล โดยพบว่าเจลและน้ำในยางกัดของเด็กๆ นั้น เต็มไปด้วยสารกันบูด พาราเบน ซึ่งส่งผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ โดยนักวิจัยบอกว่า 90% ของยางกัดในท้องตลาด แม้จะปลอดสาร BPA หรือระบุว่าเป็นออร์แกนิค ก็ยังพบสารเคมีที่เป็นพิษมากกว่า 15-20 ชนิดเลยทีเดียว
โดยเฉพาะยางกัดที่ไม่ได้มาตรฐานและราคาถูก ยิ่งต้องระวัง เพราะสารเคมีจะสะสมในร่างกายของลูกรัก หรือแม้แต่เกิดการชำรุดได้ง่ายดาย ไม่คุ้มค่าเงิน แถมยังไม่ปลอดภัยต่อลูกน้อยอีกด้วย
เตือนภัยจากสารอันตรายในของเล่นเด็ก
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคสุ่มตรวจของเล่นเด็ก พบตุ๊กตายางบีบมี “สารทาเลต” เกินมาตรฐานอียู แพทย์เตือนเสี่ยงทำฮอร์โมนเพศชายในเด็กผิดปกติ เร่ง สมอ.ออกประกาศควบคุมมาตรฐานนำเข้าของเล่นและของใช้ในเด็ก เพื่อความปลอดภัย
วันนี้ (29 ต.ค.2562) ศูนย์ทดสอบฉลาดซื้อ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล และศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายใต้โครงการเฝ้าระวังสินค้าและบริการด้านสุขภาพ
โดยได้สุ่มเก็บตัวอย่างของเล่นและของใช้ประเภทพลาสติกพีวีซี (PVC) ที่เด็กอาจนำมาใช้เป็นของเล่น จำนวน 51 ตัวอย่าง จากร้านค้าในห้างสรรพสินค้า ท้องตลาด บริเวณหน้าโรงเรียนในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร และในเว็บไซต์ห้างออนไลน์ ส่งตรวจวิเคราะห์การปนเปื้อนของสารทาเลต (phthalates) 6 ชนิด ที่สกัดได้จากพลาสติก ยาง และสารเคลือบจากผิวของเล่นที่เด็กอาจสัมผัส
น.ส.สารี อ๋องสมหวัง บรรณาธิการบริหารนิตยสารฉลาดซื้อ เผยผลตรวจวิเคราะห์จากตัวอย่างทั้งหมด พบปริมาณสารทาเลตเกินกว่าค่ามาตรฐานสากล 18 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 35 โดยชนิดของทาเลตที่ตรวจพบมากที่สุดคือ บิส-2-เอทิลเฮกซิลทาเลต หรือ DEHP โดยแบ่งของเล่นที่สุ่มตรวจเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
- กลุ่มที่มีเครื่องหมาย มอก. และตรวจไม่พบทาเลต หรือพบแต่ไม่เกิน 0.1 (ไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด) 12 ตัวอย่าง ได้แก่ ยางกัดมีที่จับ ยี่ห้อ Mind Care, ยางกัดเป็ด (สีชมพู) ยี่ห้อ Tesco loves baby, ยางกัด (สีน้ำเงิน) ยี่ห้อ Playskool baby, ตุ๊กตาพ่นน้ำ, กรุ๊งกริ๊ง (สีน้ำเงิน), ชุดตุ๊กตาไดโนเสาร์, อมยิ้มด้ามยาว, ชุดทำอาหารพลาสติก, ตุ๊กตากระต่าย (สีเหลือง), หุ่นยนต์ซุปเปอร์ฮีโร่, ชุดผลไม้ผ่าครึ่ง และตุ๊กตาช้าง (สีน้ำเงิน) ยี่ห้อ NB Toys
- กลุ่มที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก. และตรวจไม่พบทาเลต หรือพบแต่ไม่เกิน 0.1 (ไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด) 21 ตัวอย่าง ได้แก่ ช้อน (สีแดง), พวงกุญแจม้า (สีเหลือง), ช้าง (สีส้ม), หมี (สีเทา), ไดโนเสาร์ (สีชมพู), ลูกบอลยาง (มีไฟกระพริบ), ลูกบอลยาง, ชุดตักดิน, ตุ๊กตาสัตว์เล็ก, แหวนยาง, ตุ๊กตาหนู (สีม่วง-เทา), แม่เหล็กผีเสื้อ, พวกกุญแจโมชิ (สีชมพู), ยางกัดทรงห่วงกลม, ยางกัดลายแมว, ยางกัดน้ำ fin, ที่กัดเด็ก, ยางกัดยีราฟ (สีเหลือง), ยางกัดรูปหัวใจ (สีแดง-เขียว), ตัวต่อไดโนเสาร์ และรถตักดิน
- กลุ่มที่มีเครื่องหมาย มอก. และตรวจพบทาเลตเกิน 0.1 (เกินเกณฑ์ที่กำหนด) 7 ตัวอย่าง ได้แก่ พะยูนสีเขียว (35.73), แมวน้ำสีชมพู (34.51), ยางบีบผลไม้ (33.17), ตุ๊กตาเป็ดสีเหลือง ยี่ห้อ Baby gift set (30.34), ตุ๊กตาหมี สีน้ำเงิน ยี่ห้อ NB Toys (27.529), ตุ๊กตาไก่สีเหลือง (22.593) และชุดบล็อกต่อ (12.94)
- กลุ่มที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก. และตรวจพบทาเลตเกิน 0.1 (เกินเกณฑ์ที่กำหนด) 11 ตัวอย่าง ได้แก่ ยางบีบหมู (37.863), พวงกุญแจสไปเดอร์แมน (36.688), แรคคูณสีเหลือง (36.422), สายรัดข้อมือสีชมพู (33.84), ตุ๊กตาบีบสัตว์ (33.18), เป็ดสีเหลือง (28.436), ตุ๊กตาเจ้าหญิง (18.83), พวงกุญแจจระเข้ (17.56), ตุ๊กตาเจ้าหญิง (9.485), พวงกุญแจยางไดโนเสาร์ (5.43) และตุ๊กตาม้า (2.92)
ก่อนซื้อยางกัดให้ลูก
วิธีเลือกใช้ยางกัดอย่างปลอดภัย
- ขนาด : การสำลักเป็นอันตรายอย่างแท้จริงกับทารก เนื่องจากพวกเขาชอบใส่ทุกอย่างเข้าปาก พวกเขาจึงมีความเสี่ยงที่จะสำลักสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น เพราะฟันและเหงือกของพวกเขานั้นจะมีขนาดเล็ก คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าของเล่นสำหรับฟันของพวกเขาไม่ได้มีขนาดเล็กจนสามารถอมไว้ในปากและสำลักได้
- ประเภทของวัสดุ : เช่นเดียวกับของเล่นเด็กอื่น ๆ ส่วนใหญ่ของเล่นสำหรับฟันก็ทำจากพลาสติกเช่นกัน โดยส่วนใหญ่แล้วพลาสติกที่ใช้จะปลอดสารพิษและปราศจาก BPA (1) อย่างไรก็ตามหากคุณไม่ได้ใช้ของเล่นพลาสติกให้กับลูกน้อยของคุณ ก็มีของเล่นที่ทำจากไม้และซิลิโคนให้เลือกเช่นกัน
- เลือกของเล่นที่มีไส้ : ของเล่นเสริมฟันบางชนิดเต็มไปด้วยเจลเย็นที่ช่วยบรรเทาอาการเจ็บเหงือก เจลเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อนำไปแช่เย็นและสามารถบรรเทาอาการเจ็บเหงือกได้มากขึ้น แบรนด์ต่าง ๆ มักใช้วัสดุที่ทนทานเป็นพิเศษเพื่อทำให้ของเล่นเหล่านี้ไม่มีการรั่วซึม แต่ถ้าคุณไม่ต้องการให้ลูกกินเจลแม้แต่น้อยก็ควรหลีกเลี่ยงของเล่นชิ้นนี้
- มีคลิปติด ลูกน้อยของคุณจะทำของเล่นหล่นลงมามากมายมันจะทำให้คุณแทบคลั่งทุกครั้งที่คุณต้องก้มลงหยิบมันขึ้นมาอีกครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพื้นสกปรก วิธีหนึ่งในการแก้ปัญหานี้คือการเอาของเล่นสำหรับฟันมาติดกับชุดของพวกเขาและอย่าลืมเลือกยางกัดที่มีวงแหวนด้วยเพราะทารกดูเหมือนจะจับผลิตภัณฑ์ที่มีวงแหวน ของเล่นที่ด้ามตรงมักจะใช้ยากกว่าสำหรับลูกน้อย
ประเภทของยางกัด มีอะไรบ้าง
มียางกัดให้เลือกหลายประเภทโดยมีการออกแบบที่เหมาะสมกับโอกาสและขั้นตอนต่าง ๆ นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าสังเกตว่าทารกบางคนอาจชอบรูปร่างของบางแบบเฉพาะและหลีกเลี่ยงรูปแบบอื่น ๆ ที่เขาไม่ชอบ หากลูกน้อยของคุณไม่ได้ใช้ยางกัดที่คุณเลือกในทันทีคุณควรลองอย่างอื่น วัสดุยางกัดยอดนิยม ได้แก่
- ยางกัดพลาสติก พ่อแม่ต้องศึกษาให้ดีก่อนซื้อ ระวังอันตรายจากสารเคมีแฝงมาในยางกัด มีให้เลือกหลายรูปแบบ บางครั้งมาพร้อมกับน้ำฆ่าเชื้อด้านในเพื่อให้สามารถใส่ในตู้เย็นเพื่อเพิ่มความเย็นได้ อย่าลืมมองหารุ่นที่ไม่มี BPA
- ยางกัดยางพารา ยางกัดประเภทนี้ทำจากยางพาราธรรมชาติ 100% แต่เด็กก็มีโอกาสแพ้ ยางธรรมชาติเหมือนซิลิโคน มันนิ่ม เคี้ยวเพลินและขึ้นรูปได้หลายรูปแบบ ยางเป็นธรรมชาติมากแต่ทำความสะอาดยาก โดยปกติแล้วหมายความว่าของเล่นที่ทำจากยางจะต้องเช็ดทำความสะอาดเท่านั้น
- ยางกัดซิลิโคน เลือกที่ทำจากซิลิโคนเกรดการแพทย์ 100% จะปลอดภัยที่สุด มักจะเคี้ยวได้นุ่มกว่าของเล่นที่เป็นแบบพลาสติกทั่วไปและสามารถขึ้นรูปเพื่อให้มีพื้นผิวที่แตกต่างกันเพื่อช่วยในการนวดเหงือก มองหาซิลิโคนเกรดอาหารหรือทางการแพทย์ โดยปกติแล้วสิ่งเหล่านี้สามารถใส่ในเครื่องล้างจานเพื่อทำความสะอาดได้
- ไม้ คุณยังสามารถหายางกัดไม้สมัยเก่าที่ดี ซึ่งมันจะดีมากหากคุณเป็นแฟนตัวยงและพยายามหยุดกระแสพลาสติกที่เข้ามา
- วัสดุผสม ของเล่นเสริมพัฒนาฟันบางชนิดจะมีชิ้นผ้าที่เคี้ยวได้เช่นเดียวกับซิลิโคนและเศษพลาสติกที่แข็งขึ้นเพื่อให้ลูกน้อยของคุณมีตัวเลือกการงอกของฟัน
ยางกัด ทำความสะอาดอย่างไร?
วิธีทำความสะอาดยางกัด มีวิธีทำความสะอาดเช่นเดียวกับจุกนมเด็ก โดยการแช่ในน้ำอุ่นผสมน้ำยาทำความสะอาดขวดนมหรือจุกนม แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง ที่สำคัญ คือ ควรเก็บยางกัดที่ทำความสะอาดแล้วไว้ในตู้เย็นเสมอ
ดังนั้น เมื่อเห็นลูกเอาสิ่งของต่างๆ เข้าปาก ไม่ว่าจะเอาไปกัด หรืออม เราก็ไม่ควรจะดุลูก ลงโทษ หรือรีบดึงสิ่งของต่างๆ ออกจากปากเด็กทันที เพราะเขายังไม่รู้เรื่อง และยังไม่รู้จักการควบคุมตัวเองตามประสาเด็ก คุณพ่อคุณแม่จึงควรให้ซื้อ “ยางกัด” มาให้ลูกเล่น แต่มีข้อแม้ว่าวัสดุที่ใช้ผลิตยางกัดนั้นต้องมีความปลอดภัยสูง ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน และไม่เป็นอันตรายต่อเด็กนั่นเอง
แต่ถ้าจะให้ปลอดภัย 100% ได้หายห่วง ขอแนะนำให้ใช้อาหารแช่แข็งอย่าง แครอทแช่แข็ง หรือผลไม้ที่ไม่ค่อยนิ่มแช่แข็ง เอามาแทนยางกัด ก็น่าจะเป็นวิธีที่ดีกว่าการซื้อยางกัด ทั้งประหยัดเงินในกระเป๋า แถมยังปลอดภัยต่อลูกรัก
ที่มา fitpregnancy
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
13 สารเคมีอันตรายที่พบในของเล่นเด็ก!!
สารเคมีในชีวิตประจำวันที่คนท้องควรหลีกเลี่ยง
BPA Free ในของใช้เด็กบอกอะไรคุณแม่
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!