ช่วงนี้เราจะพบว่ามีข่าวอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยในทุกพื้นที่ของประเทศ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ที่จู่ ๆ ตอนเช้าฝนก็ตกลงมา ตอนบ่ายแดดกลับร้อน ตกค่ำอากาศหนาวเย็นอีกแล้ว นี่มันฤดูอะไรกันแน่ หรือว่าโลกกำลังพยายามบอกอะไรเรากันอยู่
แต่ไม่ว่าอย่างไร สุขภาพของลูกและทุกคนในครอบครัวย่อมมาก่อนเสมอ เพราะหากร่างกายปรับตัวไม่ทัน อาจจะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มเด็กเล็ก กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง โดยโรคที่พบมากก็จะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มด้วยกันคือ
– กลุ่มที่หนึ่งคือ โรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด และปอดบวม เป็นต้น
– กลุ่มที่สองคือ โรคอาหารเป็นพิษ และอุจจาระร่วง เป็นต้น
วิธีการดูแลสุขภาพในช่วงอากาศเปลี่ยน
1. เรื่องอาหารการกิน
ควรเริ่มต้นจาก การรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ และบรรจุในภาชนะที่สะอาดหรือปิดมิดชิดเสียก่อน ถ้าจะให้ดีก็ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง ซึ่งหาได้จากผลไม้รสเปรี้ยวอย่างกีวี ลูกเกด ส้ม สตรอว์เบอร์รี่ หรือในผักบางชนิด เช่น บร็อคโคลี่ ดอกกะหล่ำ กะหล่ำปลี วิตามินซีที่อยู่ในผักและผลไม้เหล่านี้ จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานชีวิตและทำให้ไม่ป่วยง่าย อีกทั้งจะต้องพยายามดื่มน้ำสะอาดให้ได้มากเพียงพอ เพราะน้ำสามารถช่วยป้องกันอาการป่วยที่อาจเกิดขึ้นกับคุณได้ โดยน้ำจะเข้าไปทำให้เนื้อเยื่อต่างๆที่อยู่ในระบบทางเดินหายใจเกิดความชุ่มชื้น ซึ่งลักษณะเช่นนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เชื้อโรคฝังตัวในร่างกาย และทำให้ระบบภูมิต้านทานชีวิตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ควรจะต้องล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ทุกครั้งก่อนการรับประทานอาหาร เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ได้รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย
2. เรื่องของการออกกำลังกาย
เป็นวิธีง่ายๆ ที่ช่วยให้คุณมีร่างกายที่แข็งแรงได้ตลอดเวลา เพียงแต่คุณจำเป็นต้องมีวินัยให้มากเพียงพอ เพื่อที่จะช่วยให้ร่างกายมีความแข็งแรงได้อย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายง่ายๆที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองก็มีหลากหลายวิธี ตั้งแต่การเดินเร็ว วิ่งเหยาะๆ ปั่นจักรยาน หรือการเล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างต่อเนื่องประมาณวันละ 30 นาที ที่สำคัญอย่าออกไปออกกำลังกายในช่วงเวลาที่มีอากาศร้อนจัดเชียวละ เพราะคุณอาจจะปรับอุณหภูมิของร่างกายตามไม่ทัน และทำให้เกิดอาการป่วยได้ไปง่ายกว่าเดิม
3. การพักผ่อน
หลังจากที่กินอิ่มและออกกำลังกายอย่างเหมาะสมไปแล้ว ก็ต้องอย่าลืมที่จะ “พักผ่อนให้เพียงพอ”ด้วย เพราะการนอนน้อยจนเกินไป จะมีผลให้จำนวนเซลล์ในร่างกายที่ทำหน้าที่ในการต่อต้านเชื้อโรคต่างๆ มีจำนวนที่ลดน้อยลง ซึ่งหากทหารองครักษ์ที่ทำหน้าที่ในการป้องกันความปลอดภัยของร่างกายอ่อนกำลังลง ก็ย่อมมีผลให้คุณเจ็บป่วยได้ง่ายดายนั่นเอง วิธีที่เหมาะสมที่สุด จึงเป็นการนอนหลับให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้มีเวลาในการฟื้นฟูพลังงาน และกลับมาต่อสู้กับชีวิตในวันรุ่งขึ้นได้อีกครั้ง
4. ความสะอาด
เราไม่รู้ว่าใครป่วยเป็นโรคอะไรกันบ้าง ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันในเบื้องต้น เราควรหมั่นให้เด็ก ๆ รวมถึงตัวเราเอง ล้างมือให้สะอาด ภายหลังหยิบจับอะไรเสมอ
ที่มา: สุขภาพน่ารู้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
ทำไมผู้หญิงตั้งท้อง จึงมีแนวโน้มเป็นหวัดหรือไข้หวัดใหญ่มากกว่าคนปกติ?
โรคไข้หวัดใหญ่ในเด็ก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!