ตารางการนอนของลูกในขวบปีแรก ตอนไหน อย่างไร กี่ชั่วโมง กี่นาที
ตารางการนอนของลูกในขวบปีแรก สำคัญต่อพัฒนาการและการเจริญเติบโตของลูกน้อยเป็นอย่างมาก เพราะการนอนหลับอย่างเพียงพอของทารก เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาทักษะต่างๆ เช่นความจำ การเรียนรู้ และความคิดสร้างสรรค์ของเด็กวัยนี้
เรามาดูกันว่าตารางการนอนของลูกในขวบปีแรก นอนตอนไหน อย่างไร กี่ชั่วโมง กี่นาที ถึงจะเหมาะสม
การนอนของทารก
เมื่อตอนที่เจ้าตัวเล็กยังอยู่ในครรภ์ ทารกมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับการนอนอยู่ในครรภ์ที่มืดและอบอุ่น เหมาะกับการนอนของเจ้าตัวเล็กเป็นอย่างมาก นั่นจึงทำให้ในช่วงแรกเกิด ลูกน้อยจึงมักจะหลับในตอนกลางวัน และตื่นในตอนกลางคืน ซึ่งระยะนี้ เป็นระยะปรับตัวของเจ้าตัวเล็ก คุณพ่อคุณแม่จึงต้องอดทนเป็นพิเศษกันสักหน่อย
หลังจากที่ลูกเริ่มปรับตัวได้ และเริ่มแยกความแตกต่างระหว่างกลางวัน-กลางคืนได้แล้ว เด็กก็จะนอนตอนกลางวันน้อยลง และจะนอนตอนกลางคืนได้ยาวนานขึ้นครับ
ติดตาม: ลูกนอนสลับเวลา กลางวันหลับ กลางคืนตื่น ทำอย่างไรดี
ตารางการนอนของทารก
|
อายุ |
จำนวนการนอน(ครั้ง/วัน) |
กลางวัน(ชั่วโมง) |
กลางคืน(ชั่วโมง) |
ชั่วโมงที่ควรนอนต่อวัน |
แรกเกิด |
นอนไม่เป็นเวลา |
8-9 |
8-9 |
16-18 |
1 เดือน |
3-4 |
7-8 |
8-9 |
15-16 |
3 เดือน |
3 |
5-6 |
9-10 |
15 |
6 เดือน |
2-3 |
3-4 |
10-11 |
14-15 |
9 เดือน |
2 |
3 |
11 |
14 |
1 ขวบ |
1-2 |
2-3 |
11-12 |
13-14 |
คำแนะนำเรื่องการนอนของทารก
- ควรให้ลูกนอนในที่นอนที่ไม่นุ่มเกินไป มีลักษณะกดแล้วไม่ยุบมาก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะไหลตายในทารก หรือเด็กคว่ำหน้าจนที่นอนยุบและอุดทางเดินหายใจของลูกได้
- เลือกผ้าห่มที่ไม่หนา ระบายอากาศได้ดี
- ไม่ควรใช้ผ้าห่มที่มีลูกไม้ หรือลวดลายฉลุ เพราะอาจทำให้นิ้วของทารกเข้าไปติดจนเกิดการบาดเจ็บได้
- ในช่วงแรก คอของลูกยังไม่แข็ง และทารกอาจนอนกลิ้งหน้าลงบนหมอน แล้วหายใจไม่ออก เพราะหมอนไปอุดปาก อุดจมูกลูกได้ ดังนั้นจึงยังไม่ควรใช้หมอนหนุนศีรษะทารก
- ห้องนอนของลูกไม่ควรสว่างเกินไป ที่สำคัญควรมีอุณภูมิที่พอดี หรือประมาณ 25-27 องศาเซลเซียส ไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
ลูกเหงื่อออกตอนนอน สัญญาณโรคร้ายที่พ่อแม่ต้องระวัง
เช็คด่วน! รูเล็กๆข้างหูของลูก สัญญาณร้ายที่ไม่ควรมองข้าม
ดูดน้ำมูก ดูดเสมหะด้วยลูกยางแดง ทำอย่างไร
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!