จักรยาน ทรงตัว หรือ จักรยานปั่น ให้ลูกเล่นแบบไหนดี ?
คุณปรีชา สวรรค์วัฒนา (เป้อ) ผู้เชี่ยวชาญด้านจักรยานทรงตัวเด็กได้ให้คำตอบว่า จักรยานทรงตัวคืออะไร และแตกต่างจากจักรยานสามล้อหรือสี่ล้ออย่างไร
จักรยานทรงตัวหรือ Balance Bike เป็นจักรยานที่ไม่มีบันไดปั่นหรือมีชุดขับเคลื่อน ไม่มีโซ่ ซึ่งการปั่นจักรยานที่มีชุดขับเคลื่อนเด็กๆ จะใช้เพียงกล้ามเนื้อหน้าขาในการปั่น แต่ Balance Bike เด็กจะใช้ขาทั้งสองขาในการปั่น และทำให้เด็กมีทักษะการควบคุมรถสองล้อที่ดี เด็กจะหลบหลีกด้วยสัญชาตญานของเขาเอง
การใช้เวลาฝึกเล่น Balance Bike ขึ้นอยู่กับตัวเองเด็กเอง อย่างเร็วสุดเพียงแค่ 2 วันก็สามารถเล่นได้ การปั่นจักรยาน Balance Bike แทบจะไม่มีวิธีการสอนอะไรเลย เพียงแต่ผู้ปกครองระวังอย่าให้ลูกเริ่มล้มตั้งแต่ตอนครั้งแรก นอกนั้นที่เหลือปล่อยเป็นหน้าที่ของเด็กที่เรียนรู้ จัดการด้วยตัวเอง จะเลี้ยว หรือจะบังคับทิศทางรถ
ข้อควรระวังสำหรับคุณพ่อคุณแม่เมื่อลูกเล่น Balance Bike คือ การให้เด็กใส่อุปกรณ์ป้องกันอย่างเช่น หมวกกันน็อค สนับเข่า สนับศอก ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยสำหรับลูกรักด้วย
เด็กกับจักรยานเป็นของคู่กัน เด็กคนไหนที่ไม่ชอบจักรยานก็ดูแปลก พอที่จะถีบได้ 3 ขวบ พ่อแม่ที่มีเงิน ก็จะไปซื้อจักรยาน 4 ล้อ (ที่มีล้อเล็กอีก 2 ล้อ ข้างล้อหลัง) ให้ลูกปั่นเล่นกัน เด็กต้องออกกำลังกายจึงจะมีการพัฒนาการของร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ รวมทั้งความฉลาด เป็นไปด้วยดีระดับที่ต้องการคือวันละ 20-60 นาที อย่างน้อย 3-5 วันต่อสัปดาห์ และหากทำให้เด็กรักการออกกำลังกายและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอได้ก็จะเป็นสมบัติติดตัวไปตลอดชีวิตส่งผลดีต่อสุขภาพไปจนพวกเขาเป็นผู้สูงอายุ
จะเลือกจักรยานให้ลูกอย่างไรดี ไซส์จักรยาน
การเลือกจักรยานต้องให้เหมาะกับลูก ผิดขนาดอาจทำให้เกิดอันตรายบาดเจ็บได้ ที่อเมริกา เขาจะมีกฎเกณฑ์เข้มเข็งมาก และส่วนใหญ่มักจะปฏิบัติตามกฎระเบียบกันดี
กฎข้อหนึ่งของ คณะกรรมการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคบอกว่า
“จักรยานทุกคัน ต้องมีขนาดพอเหมาะกับเด็กที่ซื้อไปใช้”
เป็นกฎง่ายๆซึ่งทางเมืองไทยน่าจะถือเป็นแบบอย่าง ทางสมาคมกุมารแพทย์อเมริกัน ก็ตอบสนองและให้ข้อเสนอแนะดังนี้
- นำลูกคุณไปซื้อจักรยานด้วย เพื่อให้ได้ขนาดพอเหมาะ “ความปลอดภัยมีค่าสำคัญยิ่งกว่าราคาของของขวัญ”
- อย่าซื้อจักรยานขนาดใหญ่เกินเด็กใช้ คือให้เด็กโต เพื่อใช้จักรยานคันนั้น “จักรยานที่โตเกินขนาดอันตราย”
- ลองทดสอบขนาดจักรยานดังนี้
เมื่อลองนั่งบนอาน มือทั้งสองจับที่แฮนด์ ปลายเท้าต้องจดพื้นได้ทั้งสองข้าง
เมื่อลงมาคร่อมบนแท่งเหล็กกลางจักรยาน เด็กสามารถยืนบนนั้นด้วยเท้าทั้งสอง และเป้ากางเกงต้องห่างจากแท่งเหล็กกลางจักรยานประมาณ 1 นิ้ว
ถ้าจักรยานมีเบรกมือ ให้เด็กลองใช้ดู ลองบีบเบรกดู ต้องใช้ได้อย่างถนัดมือ และไม่ต้องใช้แรงมากด้วย
วิธีทดสอบง่ายๆนี้ ใช้ได้กับจักรยานทุกแบบ ทุกยี่ห้อ ผมเห็นหลายบ้านซื้อจักรยานที่ใหญ่กว่าตัวเด็ก มันอันตรายและทำให้น้องๆปั่นไม่สนุกด้วยนะครับ
1.ช่วงอายุ 1-3 ปี (Toddler)
จักรยาน สำหรับเด็กๆในวัยนี้ จะไม่มีโซ่ และ บันไดปั่น เข้ามา เป็น ส่วนประกอบ ซึ่งจะ เรียกว่า Balance Bike หรือ Runner Bike เป็น จักรยาน ที่สอนให้เด็กๆรู้จักการทรงตัว ไม่หนักมาก หน้าล้อจะกว้าง เพื่อช่วยลดแรงกระแทก สอนให้รู้จักการประสานมือกับเท้าและพัฒนาความเชื่อมั่นของตัวเด็ก ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญมาก ในการที่จะให้เด็กๆมีพัฒนาการที่ดีก่อนที่จะปั่นจักรยานสองล้อได้
2.ช่วงอายุ 2-12 ปี (Childhood)
ในช่วงนี้เด็กๆจะสามารถเรียนรู้ที่จะบันไดปั่นได้แล้ว แต่จักรยานล้อข้าง เพื่อช่วยในการพยุงการทรงตัว คุณพ่อ คุณแม่จะสามารถถอดได้เมื่อเด็กๆสามารถทรงตัวเองได้หรือปั่นได้จนคล่องแล้ว ในช่วงอายุนี้ ไม่ควรซื้อจักรยานให้มีขนาดพอดีกับสรีระของเด็กๆ เบาะนั่งสามารถปรับขึ้นลงได้สะดวก จักรยานควรทำจากวัสดุคุณภาพดี แข็งแรง น้ำหนักเบาและสามารถควบคุมทิศทางได้ง่าย การบำรุงรักษาก็ทำได้ง่ายเช่นกัน คุณพ่อคุณแม่ ควรวัดขนาดจักรยานจริงๆกับตัวเด็ก เพรีเรื่องระยะของตัว แขนและขา เมื่อเปรียบเทียบกับขนาดเบาะนั่ง แฮนด์จับของรถ
3.ช่วงอายุ 11-15 ปี
เด็กๆในวัยนี้ จะเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ส่วนใหญ่จะมีความสนใจจักรยานในรูปแบบที่คล้ายคลึงกับของผู้ใหญ่ ไซส์ที่เหมาะสมจะเริ่มต้นที่ขนาดล้อ 24-26 นิ้ว อาจจะมีชุดเกียร์มาด้วยก็ได้ สำหรับเด็กๆที่มีรูปร่างโต อาจจะสามารถใช้จักรยานไซส์เล็กสุดของผู้ใหญ่ได้ หรือขนาดล้อ 650 c.
และอย่าลืม อุปกรณ์เพื่อป้องกันความปลอดภัยของเด็กๆด้วยนะครับ คือ หมวกกันน็อค สนับเข่าและสนับศอก การเลือกรองเท้าที่เหมาะสม และสิ่งที่สำคัญที่สุด การเตรียมรถจักรยาน ต้องเหมาะสมกับสรีระของช่วงอายุและความสูงของเด็กๆด้วย
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง :
จักรยานทรงตัว (Balance Bike) เสริมพัฒนาการเด็กอย่างไร?
https://www.sanook.com/women/126349/
จักรยาน ทรงตัว หรือ จักรยานปั่น ให้ลูกเล่นแบบไหนดี ?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!