TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

การเคลื่อนไหว : 100 เรื่องพ่อแม่ต้องรู้ก่อนลูก 1 ขวบ

บทความ 8 นาที
การเคลื่อนไหว : 100 เรื่องพ่อแม่ต้องรู้ก่อนลูก 1 ขวบ

การเคลื่อนไหว สำหรับเด็กอายุระหว่าง 0 – 1 ปีนั้น จะเป็นช่วงที่มีการพัฒนาการเคลื่อนไหวอย่างเห็นได้ชัด เด็กจะมีการเติบโตที่รวดเร็วในช่วง 6 เดือนแรก และจะเริ่มชะลอลงหลังจากนั้น แต่จะมีพัฒนาการทางด้านการเรียนรู้ การเคลื่อนไหว การพูด ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ขอให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมตัวเตรียมใจให้ดีว่าเดือนนี้จะต้องยุ่งแน่นอน เพราะเจ้าตัวน้อยกำลังเข้าสู่พัฒนาการก้าวใหม่ หากลูกยังไม่เริ่มเดิน ให้คุณแม่เบาใจได้เลยว่าน่าจะอีกไม่นาน หนูน้อยบางคนจะตั้งไข่ล้มต้มไข่กินอยู่หลายเดือน แต่บางคนพอยืนได้ก็แทบจะออกวิ่งเลยทีเดียว เด็กวัยนี้หลาย ๆ คนจะกลับไปคลานอีกเมื่อเขาเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย หรือเกิดความรู้สึกระแวงไม่แน่ใจ ลูกน้อยจะทั้งคลานทั้งเดินจนกว่าเขาจะมั่นใจจริง ๆ ว่ายืนได้แข็งด้วยสองขา คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการให้ลูกนั่งในรถเข็น หรือรถยนต์นาน ๆ เพราะการหัดเดินให้เก่ง ต้องอาศัยการฝึกฝนเช่นเดียวกับทักษะอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นทักษะที่ต้องใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก หรือมัดใหญ่

 

พัฒนาการทารก 1 ขวบ ด้านร่างกาย และการเคลื่อนไหว

เด็ก 1 ขวบ ยังเดินทรงตัวได้ไม่ดีนัก และหกล้มได้เสมอ นั่นเพราะกว่าที่ลูกจะเดินได้ดี เขาต้องผ่านการคลาน ผ่านการเหนี่ยวตัว เกาะเดิน เดินโดยจับมือแม่ไว้มั่นทั้งสองมือ จนกระทั่งพยายามเดินได้ด้วยตัวเอง  เมื่อเขาสามารถทำได้ นั่นหมายถึง ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ที่นำมาซึ่งความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น และเด็กแต่ละคนก็มีช่วงเวลาแห่งความสำเร็จนี้ไม่พร้อมกัน ขึ้นอยู่กับความพร้อมของสรีระร่างกาย การเรียนรู้ และโอกาสในการฝึกฝน

สามารถปีนขึ้นเก้าอี้ได้  แต่เด็ก 1 ขวบ อาจจะใช้เวลาในการลองผิดลองถูก กว่าจะนั่งบนเก้าอี้ได้ ซึ่งคุณแม่สังเกตได้ว่า แรก ๆ ลูกปีนไปนั่งบนเก้าอี้เตี้ย ๆ อย่างงุ่มง่าม แต่เมื่อสามารถกะระยะได้ดีแล้ว เขาจะสามารถถอยหลังเอาก้นหย่อนลงนั่งบนเก้าอี้ได้

ชอบมุดเข้าไปเล่นใต้โต๊ะ ใต้เก้าอี้  ซึ่งก็ต้องคอยระวังไม่ให้หัวลูกโขกกับขอบเก้าอี้ หรือเก้าอี้ล้มใส่  จึงไม่ควรให้ลูกคลาดสายตา

การเคลื่อนไหว

พัฒนาการเด็ก 1 ขวบ ด้านสติปัญญา และการเรียนรู้

ลูกยังคงสวมบทนักสำรวจตัวน้อย สิ่งใดที่อยู่ในขอบข่ายสายตาของเขาเป็นต้องรื้อ ค้น คว้ามาจับ สัมผัส ชิม กัด เขย่า  ดม เรียกว่าทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง จนครบทุกประสาทสัมผัสเลย

  • เด็ก ๆ ที่มีคนคอยเล่นหรือทำนั่นนี่อยู่ใกล้ ๆ จะเรียนรู้เรื่องการประสานสายตากับการเคลื่อนไหวได้ดีกว่าเด็กที่ไม่มีโอกาสลักษณะนี้
  • การเล่นเป็นวิธีการที่เด็ก ๆ จะได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติ  ไม่ว่าจะเล่นจ๊ะเอ๋ เล่นไล่จับ (คลานไล่จับเจ้าตัวน้อย) การเล่นซ่อนของ  แม้กระทั่งการร้องเพลง ทำท่าทางประกอบ หรืออุ้มเต้นรำไปตามจังหวะเพลง  ก็เป็นการเล่นที่สามารถเล่นกับลูกได้ เช่น จับปูดำ นิ้วโป้งอยู่ไหน หรือเพลงช้างที่เราคุ้นหู รวมทั้งการอ่านนิทาน หรือชวนกันเปิดหนังสือ หรือดูสมุดภาพ กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก 1 ขวบ ได้ดี

พัฒนาการเด็ก 1 ขวบ ด้านร่างกาย และการเคลื่อนไหว

  • เด็ก 1 ขวบ จะเปลี่ยนจากคลานมาเป็นเดินกันแล้ว แต่ก็ยังมีเด็กส่วนหนึ่งที่อาจจะยังไม่สนใจอยากเดิน เพราะคลานได้เร็วทันใจกว่า  ซึ่งคุณแม่ต้องพยายามสร้างแรงจูงใจในการเดินให้ลูกด้วย
  • ถ้าลูกยังชอบคลานมากกว่าเดิน คุณแม่ไม่ควรบังคับ เพียงแค่จัดสถานที่ ให้เอื้อต่อการฝึกเดิน หาของเล่นมาล่อหลอก หรือจับลูกยืนบนหลังเท้าของเรา แล้วจับมือลูกไว้ทั้งสองข้าง จากนั้นก็พาลูกเดินเล่น วิธีนี้จะทำให้ลูกรู้สึกสนุกไปกับการเดิน และอาจจะอยากลองเดินด้วยตัวเองดูบ้าง
  • การทำงานประสานกันระหว่างมือ และตาเป็นไปด้วยดี สังเกตได้จากการที่ลูกสามารถต่อบล็อกไม้ซ้อนกันได้ถึงสองชั้น หยิบของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ใส่เข้าหยิบออกจากกล่องได้ ทักษะเหล่านี้จะยิ่งดีขึ้นถ้าได้รับโอกาสฝึกฝนบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นของเล่น เสริมพัฒนาการ ประเภทหยอดรูปทรงลงช่อง หรือจะเป็นภาชนะ เช่น ช้อน ชาม แก้วที่ไม่แตก หม้อ ถังใบเล็ก ๆ
  • กระดาษกับสีเทียนแท่งโต เป็นอุปกรณ์เสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดเล็กที่ดี  ที่คุณแม่สามารถจัดหามาให้ลูกเล่นได้

พัฒนาการเด็ก 1 ขวบ ด้านภาษา และการสื่อสาร

  • เข้าใจ และการรับรู้คำ และความหมายของคำมากขึ้น เพียงแต่ยังไม่สามารถพูด หรือแสดงออกมาได้ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่ลูกจะสื่อสาร หรือแสดงออกผ่านสีหน้า ท่าทาง สุ้มเสียง มากกว่า เช่น พยักหน้า หัวเราะ ยิ้ม มากกว่าคำพูด
  • คำที่เรามักได้ยินลูกพูดบ่อย ๆ เช่น หม่ำ ๆ น้ำ, ไป ๆ, มา ๆ,  ไม่ ๆ ซึ่งเป็นคำที่ลูกเข้าใจความหมาย และพอจะสื่อสารเป็นภาษาได้บ้างแล้ว
  • สนใจฝึกเลียนเสียงพูด ซึ่งลูกจะเข้าใจคำพูดต่าง ๆ ได้ดี ถ้าคุณแม่ทำท่าทางประกอบด้วย เช่น อู้ย…หนาวจังเลย (ทำตัวสั่น) ร้อนจัง (หยิบพัดมาพัด) ยี้…เหม็น (ทำท่าบีบจมูก)  สิ่งสำคัญคือ คุณแม่ต้องพูดชัดถ้อยชัดคำ และเลี่ยงการพูดแบบเด็ก ๆ

การเคลื่อนไหว

พัฒนาการเด็ก 1 ขวบ ด้านอารมณ์ และสังคม

  • ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสียงเอะอะ เรียกร้องความสนใจ หรือโยนสิ่งของซ้ำ ๆ เพื่อให้มีคนมาเก็บให้ หรือใช้นิ้วชี้ไปยังสิ่งของที่ต้องการให้คุณแม่หยิบให้
  • ยังมีอาการกลัวคนแปลกหน้าอยู่ เมื่อพบก็จะกอดแม่แน่น แต่ก็ยังมีแอบชำเลืองมองด้วยหางตา ในลักษณะระวังตัวอยู่ ต่อเมื่อเริ่มรู้สึกปลอดโปร่งใจมากขึ้น จึงค่อยคลายมือที่กอดมาเป็นเกาะเกี่ยว หรืออยู่ใกล้ ๆ แทน กระทั่งแน่ใจว่าแม่ไม่ไปไหน และคนแปลกหน้านั้นไม่เป็นภัยกับตน ลูกอาจจะยอมผูกมิตรกับคนแปลกหน้า
  • ลูกยังกลัวต่อวัตถุสิ่งของ หรือสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ เช่น กลัวเสียงเอะอะโวยวาย กลัวการอาบน้ำ กลัวความมืด กลัวสัตว์ เป็นต้น ความกลัวเป็นผลจากความสามารถในการจินตนาการของลูก ที่คุณแม่ต้องค่อย ๆ ปลอบประโลมใจ และค่อย ๆ คลายความรู้สึกกลัวนั้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป อดทน และใจเย็นค่ะ
  • การเล่นกับเด็กด้วยกัน จะเป็นลักษณะเล่นอยู่ในบริเวณใกล้ ๆ กันมากกว่าเล่นด้วยกัน เรียกว่า แอบสังเกตกัน และกัน และดูเหมือนว่า ของเล่นของคนอื่นจะน่าเล่นกว่าของตัวเอง จนบางครั้งอดใจไม่ไหวคว้าของเล่นเพื่อนมาเป็นของตัวเอง  ซึ่งคุณแม่ต้องคอยดูให้ดี ๆ
  • ถ้ามีพี่ เด็กจะชอบเลียนแบบพี่ และป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ ๆ และพยายามเล่นตามอย่าง ซึ่งคุณแม่ต้องคอยดูเรื่องความปลอดภัยด้วยเช่นกัน
  • ช่วงวัยนี้ ลูกมีอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ บ่อย ถ้าถูกขัดใจจะโมโห และร้องไห้
  • จะปฏิเสธด้วยการส่ายหัว ฉะนั้นหากจะห้ามปรามให้คุณแม่เลือกห้าม เฉพาะที่จะก่อให้เกิดอันตรายกับเขา ด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น แต่ถ้าบางอย่างดูแล้วไม่น่าห่วง ก็อาจปล่อยให้ลูกได้เล่นอย่างอิสระ และเรียนรู้ด้วยตัวเองได้

อย่าลืมว่า ลูกยิ่งเติบโตขึ้นเท่าใด เขาย่อมต้องการพื้นที่ที่จะได้เล่น ได้เรียนรู้อย่างอิสระเพื่อก่อรูปความคิด และตัวตน ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยชื่นชม และให้กำลังใจเขาอยู่ใกล้ ๆ แล้วพัฒนาการที่ดีรอบด้านของลูกจะเกิดได้ไม่ยากค่ะ

 

เตรียมตัวรับมือกับพัฒนาการของลูกน้อย

  • พฤติกรรมของลูกน้อย

เด็กวัยนี้มักชอบเล่นชอบคุย เผลอนิดหน่อยไม่ได้เป็นต้องหาอะไรสนุก ๆ ทำ ธรรมชาติออกแบบมาให้หนูน้อยวัย 12 เดือน คอยมองหาสถานการณ์ที่ ที่จะทำให้จิตใจเพลิดเพลิน และช่วยให้เขาได้เรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ซึ่งคุณแม่สามารถช่วยส่งเสริมลูกได้ ด้วยการหาเพลง หนังสือ เพื่อน หรือกิจกรรมมาให้เขาที่บ้าน ทั้งนี้ การเฝ้ามองคุณพ่อคุณแม่พูดคุยโต้ตอบกับผู้อื่นในลักษณะที่เหมาะสม ก็เป็นการสอนบทเรียนเกี่ยวกับการสื่อสาร และความสัมพันธ์ให้แก่ลูกน้อยได้ดีเช่นกัน เจ้าหนูน้อยจะจ้องมองไม่วางตา เราอาจคิดว่าเขายังเด็กเกินกว่าจะรู้ความ แต่จริง ๆ แล้วเจ้าจิ๋ววัยนี้นี่แหละที่เป็นเหมือนฟองน้ำน้อย ๆ ที่คอยดูดซับรายละเอียดทุกสิ่งเข้าไปในสมอง ลูกวัยหัดเดินจะเรียนรู้ลักษณะอารมณ์ต่าง ๆ ทั้งโกรธ ดีใจ หงุดหงิด เบื่อหน่าย รวมทั้งเข้าใจว่าอารมณ์ดังกล่าวมีผลอย่างไรกับผู้คนรอบตัว เด็ก ๆ วัยนี้เก่งนักเชียวเรื่องอ้อนจนได้สิ่งที่ต้องการ หนูน้อยจะมีวิธีเอาชนะใจคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างไร้เทียมทาน แต่ถ้าเขาอารมณ์ไม่ดีขึ้นมา เราอาจต้องใช้ทั้งน้ำอดน้ำทน และความมั่นใจในการรับมือ เพราะบางครั้งก็ยากที่จะบอกได้ว่า เหตุใดลูกถึงอารมณ์ขุ่นมัว หนังสือดีๆ ที่จะช่วยให้เราเข้าใจการทำงานของสมองลูกน้อยวัยหัดเดิน อาทิ ศาสตร์ในการเลี้ยงลูก (The Science of Parenting) เขียนโดย Margot Sunderland

 

  • พัฒนาการของลูกน้อย

เด็กวัยนี้จะเริ่มทำกิจกรรมที่ต้องใช้กล้ามเนื้อมัดใหญ่ แม้จะฟังดูเป็นพัฒนาการที่น่าตื่นเต้น แต่ก็อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่แอบกังวลใจได้ เพราะตอนที่ลูกรักยังแบเบาะนั้น จะอุ้มไปวางตรงไหนเขาก็จะรออยู่ตรงนั้น แต่ตอนนี้คุณแม่อาจจะอยากแปลงร่างเป็นสับปะรดเพื่อจับตาดูว่า เจ้าตัวน้อยจะเคลื่อนตัวไปทิศทางใดกันแน่ ในวัยนี้ ลูกรักจะทานอาหารเองได้เก่งขึ้น และแสดงออกได้อย่างชัดเจนมากขึ้นว่าต้องการอะไร แม้จะยังพูดไม่เป็นภาษา แต่ลูกจะลองสื่อสารด้วยการส่งเสียง และพูดคำสั้น ๆ คุณพ่อคุณแม่จะค่อย ๆ พัฒนาทักษะในการถอดรหัสว่าลูกหมายถึงอะไร และเรียนรู้การตีความภาษาร่างกายของเขาได้ดีขึ้น ลูกน้อยสามารถใช้นิ้วชี้สิ่งของ โบกมือ ปรบมือ และส่งของระหว่างมือสองข้างได้แล้ว แม้ลูกจะยังเดินไม่ได้ แต่เขาจะสามารถทรงตัวได้เอง โดยใช้มือข้างหนึ่งยึดไว้เพื่อความมั่นคง

การเคลื่อนไหว

  • การเจริญเติบโตของลูกน้อย

ลูกน้อยวัยนี้มีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักมากกว่าตอนแรกเกิดถึงสามเท่า และโตวันโตคืนได้อย่างน่าชื่นใจ ลองนำภาพถ่ายตอนแบเบาะมาเปรียบเทียบกับตอนวันเกิดครบหนึ่งขวบ แล้วคุณพ่อคุณแม่จะรู้สึกแปลกใจกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา กรณีลูกน้อยคลอดก่อนกำหนด คุณแม่อาจต้องใจเย็นรออีกนิด เพื่อให้เขามีพัฒนาการตามมาตรฐานแบบเต็มขั้น ทั้งนี้ เวลา การฝึกฝน สิ่งแวดล้อม เพศ และความช้าเร็วของการคลอดก่อนกำหนดล้วนมีผลต่อพัฒนาการทั้งสิ้น

 

  • การเล่นสนุกของลูกน้อย

หาเวลาฉลองวันเกิดให้ลูกในเดือนนี้ เพื่อร่วมแบ่งปันความสุขความยินดีในหมู่ครอบครัวและเพื่อนฝูง แม้เจ้าตัวน้อยจะยังไม่เข้าใจว่าการเลี้ยงวันเกิดคืออะไร แต่การให้คุณค่าแก่โอกาสสำคัญอันควรจดจำก็ถือเป็นเรื่องดีอยู่ไม่น้อย ลองหาเวลาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตาช่วงหลังลูกน้อยตื่นนอน เขาจะได้ร่าเริงไม่งอแงง่าย วันนี้เป็นวันที่คุณแม่อาจจะไม่ต้องเคร่งครัดกับตารางกิจวัตรประจำวันของลูกน้อยเท่าปกติ ให้เขาได้ใช้เวลาสนุกกับงานวันเกิด อย่าลืมถ่ายรูปถ่ายคลิปเก็บไว้เยอะๆ โดยให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวได้มีส่วนร่วม นอกจากนี้ หากเป็นไปได้ ให้บันทึกภาพหมู่ของครอบครัวเก็บเอาไว้ เพราะโอกาสที่จะทำแบบนี้ได้มีน้อยนักในชีวิต คุณอาจอยากมอบของขวัญวันเกิดให้ลูกน้อย อย่างสร้อยข้อมือนำโชค ชุดของเล่นเครื่องเงิน ชุดของเล่นรถไฟ หรือม้าโยก หนังสือที่มีหน้ากระดาษให้บันทึกวันที่ และชื่อผู้ให้ก็เป็นของขวัญวันเกิดที่น่ารัก และได้รับความนิยม หาลิ้นชักล่างสุด หรือตู้สักใบไว้เก็บของเล่นลูก เลือกใช้ตะกร้า หรือกล่องพลาสติกมาใส่ของเล่นชิ้นเล็ก ๆ เพราะไม่แตกหักง่ายหากลูกเหวี่ยงข้ามห้อง ลูกน้อยวัยนี้มักติดคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้น ถ้ารู้สึกเหมือนมีเงาน้อย ๆ ตามต้อย ๆ อยู่เสมอ ให้ชื่นใจได้เลยว่าลูกรักรู้สึกอุ่นใจที่ได้อยู่ใกล้ ๆ เพราะวันหนึ่งในอนาคต ช่วงเวลาที่เขาไม่อยากใกล้ชิดกับพ่อแม่นักย่อมเดินทางมาถึง

 

  • สิ่งที่คุณแม่ควรทำ

คุณแม่อาจรู้สึกใจหาย หรือตื่นเต้นดีใจที่ลูกน้อยเติบโตถึงช่วงวัยที่มีพัฒนาการสำคัญ ๆ ที่จริงแล้ว เด็กวัยหนึ่งขวบนั้นยังเด็กมาก และยังมีอะไรอีกมากมายในอนาคตที่รอคอยอยู่ อาจถึงเวลาที่คุณแม่จะคิดอย่างจริงจังถึงการวางแผนมีน้องให้เจ้าตัวเล็ก หรืออาจตัดสินใจแล้วว่าจะเลื่อนไปก่อนสักระยะหนึ่ง ลองพูดคุยปรึกษากับคุณพ่อว่า ทางเลือกไหนถึงจะเหมาะกับสถานการณ์ และครอบครัวคุณที่สุด

 

ที่มา : (si.mahidol) , (enfababy)

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

การวางแผนการศึกษา : 100 เรื่องพ่อแม่ต้องรู้ก่อนลูก 1 ขวบ

การปรับตัวในสังคมภายนอก : 100 เรื่องพ่อแม่ต้องรู้ก่อนลูก 1 ขวบ

บทความจากพันธมิตร
รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด
รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
Dadi International Kindergarten เรียนรู้สนุก เล่นอย่างสร้างสรรค์ ด้วย 3 ภาษา พร้อมเสริมสร้างทักษะ EF
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล
ดูแลทารกแรกเกิดวิกฤติน้ำหนักเพียง 500 กรัมสำเร็จ ด้วยความเชี่ยวชาญระดับสากล ที่ โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชั่นแนล

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Arunsri Karnmana

  • หน้าแรก
  • /
  • ทารก
  • /
  • การเคลื่อนไหว : 100 เรื่องพ่อแม่ต้องรู้ก่อนลูก 1 ขวบ
แชร์ :
  • 10 ของเล่นสำหรับทารก สุดเจ๋ง! เสริมพัฒนาการลูกน้อยวัย 0-6 เดือน

    10 ของเล่นสำหรับทารก สุดเจ๋ง! เสริมพัฒนาการลูกน้อยวัย 0-6 เดือน

  • รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด
    บทความจากพันธมิตร

    รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด

  • 5 สัญญาณอันตรายในทารก พ่อแม่อย่ารอช้า! รีบพาไปโรงพยาบาลทันที

    5 สัญญาณอันตรายในทารก พ่อแม่อย่ารอช้า! รีบพาไปโรงพยาบาลทันที

  • 10 ของเล่นสำหรับทารก สุดเจ๋ง! เสริมพัฒนาการลูกน้อยวัย 0-6 เดือน

    10 ของเล่นสำหรับทารก สุดเจ๋ง! เสริมพัฒนาการลูกน้อยวัย 0-6 เดือน

  • รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด
    บทความจากพันธมิตร

    รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด

  • 5 สัญญาณอันตรายในทารก พ่อแม่อย่ารอช้า! รีบพาไปโรงพยาบาลทันที

    5 สัญญาณอันตรายในทารก พ่อแม่อย่ารอช้า! รีบพาไปโรงพยาบาลทันที

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว