เรื่องของเครื่องสำอาง เป็นอีกความกังวลใจของคุณแม่ท้อง คุณแม่หลายท่านไม่กล้าจะแต่งหน้า บำรุงผิว หรือรักษาสิว เพราะกลัวจะมีผลต่อลูกน้อยในครรภ์ วันนี้เราจะพามาทำความเข้าใจเรื่องการใช้เครื่องสำอางของแม่ท้องกันมากขึ้น โดยจะพาไปดูว่า เครื่องสำอางสำหรับคนท้อง ที่คุณแม่ตั้งครรภ์ใช้ได้มีอะไรบ้าง และเครื่องสำอางแบบไหนที่ควรหลีกเลี่ยง พร้อมแล้ว ไปดูกันค่ะ
ทำความเข้าใจปัญหาผิวพรรณของคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์
ในช่วงไตรมาสแรก คุณแม่ท้องจะมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของฮอร์โมน โดยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้น จะมีผลต่อผิวพรรณของคุณแม่ ทำให้ผิวคล้ำขึ้นบริเวณซอกคอ รักแรก ขาหนีบ รอบหัวนม และมีเส้นสีดำกลางท้อง บางรายมี ฝ้าขึ้นบนใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม หรือคุณแม่บางคนไม่เคยมีสิวเลย กลับมีสิวในช่วงตั้งครรภ์ เนื่องจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากขึ้น ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขนได้ง่ายขึ้น เมื่อสภาพผิวเปลี่ยนแปลง คุณแม่จึงควรพิถีพิถันในการเลือกใช้เครื่องสำอางให้มากขึ้น
เครื่องสำอางสำหรับคนท้อง ที่ควรหลีกเลี่ยง
นพ.ชัยประสิทธิ์ บาลมงคล อายุรแพทย์โรคผิวหนัง โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่าเครื่องสำอางที่ควรหลีกเลี่ยงมี 3 กลุ่มได้แก่ ไวต์เทนนิ่ง ยาทาฝ้า และยารักษาสิว
ระหว่างตั้งครรภ์ บางคนจะมีผิวที่แพ้ง่ายขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Whitening หรือสารที่ช่วยผลัดผิว ได้แก่ กรดผลไม้หรือ AHA เพราะอาจเกิดการระคายเคืองได้ หากต้องการใช้ ควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำก่อน รวมถึงไม่ควรขัดถู หรือสครับบ่อยเกินความจำเป็น
คุณแม่อาจเป็นกังวลหากเกิดฝ้าในช่วงตั้งครรภ์ จึงพยายามหาครีมมาทาเพื่อให้ฝ้าจางลง แต่คุณแม่ทราบไหมว่า ในส่วนผสมของครีมแก้ฝ้า หรือครีมทำให้หน้าขาว ที่ไม่ได้มาตรฐาน มักมีส่วนผสมของโลหะหนัก เช่น ปรอท ซึ่งหากใช้ติดต่อกันจะทำให้เกิดฝ้าถาวรแล้ว ปรอทยังมีผลต่อระบบประสาท ทำให้ทารกในครรภ์พิการได้
คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ในกลุ่มรักษาสิว เนื่องจากอาจมีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ ซึ่งจากรายงานพบว่าถ้าได้รับโดยการรับประทานขณะตั้งครรภ์สามารถทำให้เด็กเกิดความผิดปกติหรือแท้งได้ โดยปกติคุณหมอจะหลีกเลี่ยงการให้ยากลุ่มนี้ทั้งในรูปของยารับประทานและชนิดทาที่ผิวหนัง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทำไม ยารักษาสิว จึงอันตรายกับลูกในท้อง 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 75
สอดคล้องกับ เภสัชกรอุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล ที่ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้เครื่องสำอาง ไว้ดังนี้
1. ยารักษาสิวบางกลุ่มทั้งชนิดทาและชนิดกิน
ได้แก่ ยากลุ่มกรดวิตามินเอหรือเรตินอยด์ ได้แก่ Tretinoin, Isotretinoin, Adapaleneและ Tazarolene จัดเป็นยาอันตรายที่มีผลต่อทารกในครรภ์ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความพิการได้ ดังนั้นถ้ารู้ตัวว่าตั้งครรภ์ ให้หยุดยาทุกตัวเหล่านี้ได้ในทันที
กรดวิตามินเอแบบกินมีผลต่อการตั้งครรภ์โดยตรง คือมีผลต่อการสร้างอวัยวะของตัวอ่อนในครรภ์ โดยเฉพาะในช่วงอายุครรภ์ 1-3 เดือนแรก โดยมีผลต่อระบบหัวใจ ระบบประสาท และกระจกตา รวมไปถึงโลชั่น ครีม เครื่องประทินผิวที่มีส่วนผสมของยากลุ่มนี้ด้วย คุณแม่ควรดูส่วนผสมทุกครั้ง หรือถามเภสัชกรก่อนทุกครั้งว่าผลิตภัณฑ์นั้นสามารถใช้กับคนท้องได้หรือไม่
2. ยาทารักษาสิว เบนซอยล์ เปอร์ออกไซด์ (Benzoyl peroxide or BP)
ยาตัวนี้เรียกชื่อย่อ ๆ ว่า บีพี (BP) หากคุณแม่หยิบหลอดมาดู จะพบชื่อยาสามัญตัวดังกล่าวที่ข้างหลอด ถึงแม้ว่ายาตัวนี้ไม่ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แต่จะมีผลก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ ให้เลือกใช้ตัวที่มีความเข้มข้นต่ำ ๆ เพื่อความปลอดภัย
3. ยาต้านเชื้อชนิดทาเฉพาะที่ผิว (Topical Antibiotics)
ยาฆ่าเชื้อที่ใช้ทารักษาสิว ได้แก่ Clindamycin, Erythromycin, Metronidazole, Azelaic acid ยาเหล่านี้มีกลไกการออกฤทธิ์ไปลดการอักเสบโดยการฆ่าเชื้อ ถึงแม้ว่าจะดูดซึมน้อย แต่อย่าเสี่ยงดีกว่า
4. Salicylic acid
กรณีที่เป็นยาทา จะมีผลทำให้ระคายเคืองบ้าง สามารถใช้ได้ แต่ควรทาให้บางที่สุด
5. เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของกรดผลไม้ AHA และ BHA
ไม่ดูดซึม สามารถใช้ได้ แต่อาจเกิดการระคายเคือง ควรเลือกใช้แบบความเข้มข้นต่ำ ๆ ทำความสะอาดผิวแล้วรีบล้างออก
6. ครีมกันแดด
คุณแม่ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำเพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวีที่อาจจะกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้ โดยเลือกที่ป้องกันได้ทั้ง UVA ที่ช่วยป้องกันการทำลายผิวชั้นในพวกคอลลาเจน และ UVB ที่ช่วยป้องกันผิวชั้นนอกไม่ให้ถูกเผาจากแดด แต่ควรเลือกครีมกันแดดที่มี SPF ไม่มาก เพียง SPF 15 ก็เพียงพอแล้ว เนื่องจากหากมี SPF สูงจะทำให้การทำความสะอาดใบหน้ายากขึ้น มีโอกาสเกิดการตกค้างของสิ่งสกปรกในรูขุมขนมากขึ้น จะทำให้หน้ามันยิ่งขึ้น ใช้เสร็จแล้ว ควรล้างหน้าให้สะอาดหมดจด
7. สบู่ทั้งแบบก้อนหรือเหลว หรือ เจลอาบน้ำ
ควรเลือกใช้แบบที่เหมาะกับสภาพผิว
อย่างไรก็ตาม คุณแม่สามารถใช้เครื่องสำอางพื้นฐาน เช่น ครีมบำรุง ครีมกันแดด และสามารถแต่งหน้าได้ แต่ต้องล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารต้องห้ามที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งนี้ นพ.ชัยประสิทธิ์ บาลมงคล ได้แนะนำวิธีเลือกใช้เครื่องสำอางในระหว่างตั้งครรภ์ ไว้ดังนี้
- ควรมองหาส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ หรือผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมี หรือผลิตภัณฑ์สำหรับผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย
- เลือกแบรนด์ที่มีขายทั่วไป เชื่อถือได้ อย่าซื้อเพราะเชื่อเพื่อน หรือคำโฆษณาอวดอ้างว่าดี โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่นำเข้ามาเอง หรือผสมเอง เพราะเราไม่ทราบแหล่งผลิตที่ชัดเจน
- ไม่จำเป็นต้องซื้อเครื่องสำอางราคาแพง
บทความที่เกี่ยวข้อง : สกินแคร์สำหรับคนท้อง แบบไหนปลอดภัย ส่วนผสมอะไรควรหลีกเลี่ยง?
ทำอย่างไรเมื่อแพ้เครื่องสำอาง
หากคุณแม่พบอาการระคายเคืองผิว เป็นตุ่มพอง ตุ่มใส มีน้ำเหลืองซึม หรือผื่นแดง แสบ คัน ให้หยุดใช้เครื่องสำอางนั้นทันที สักพักอาการจะทุเลาลง แต่ถ้าไม่หาย หรือกลับมาเป็นมากขึ้น แนะนำให้พบคุณหมอผิวหนังทันที ที่สำคัญ คุณแม่ควรแจ้งคุณหมอด้วยทุกครั้งว่า กำลังตั้งครรภ์อยู่ เพื่อที่คุณหมอจะได้จ่ายยาที่ไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การแพ้แบบนี้ไม่มีผลกระทบต่อลูกน้อยในท้อง คุณแม่จึงไม่ต้องกังวลมากนัก
คุณแม่ต้องอย่าลืมว่า อารมณ์ของคุณแม่มีผลต่อลูกน้อยในครรภ์ หากคุณแม่เป็นกังวล ไม่มั่นใจว่าเครื่องสำอางนั้นจะส่งผลต่อลูกหรือไม่ คุณแม่อาจเลื่อนการใช้เครื่องสำอางเหล่านั้นไปในช่วงหลังคลอดจะดีกว่า เมื่อคุณแม่สบายใจ ก็จะส่งผลดีต่อลูกน้อยได้เช่นกันค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
6 วิธีล้างหน้าให้สะอาด ช่วยหน้าใส เทคนิคที่คนท้องไม่ควรมองข้าม
คนท้องแต่งหน้าได้ไหม? วิจัยเผย แต่งหน้าตอนท้อง มีผลให้ลูกเกิดมาอ้วน!
คนท้องทาลิปสติกได้มั้ย ระหว่างตั้งครรภ์ห้ามใช้ครีม เครื่องสำอาง อะไรบ้าง
ที่มา : thairath, oknation
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!