รองเท้าคนท้อง หนึ่งในเครื่องแต่งกายที่ว่าที่คุณแม่ต้องใส่ใจเลือกสรรเป็นพิเศษ เพราะแต่ละช่วงเดือนของการตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงของรูปเท้า ทำให้คุณแม่หลายท่านต้องมองหารองเท้าคนท้องคุณภาพดี เหมาะกับสรีระและน้ำหนักเตรียมไว้หลายคู่เลยค่ะ แต่หากเราไม่อยากซื้อไว้หลายๆ คู่ ลองอ่านเทคนิคการเลือก รองเท้าสำหรับคนท้อง ต่อไปนี้ พร้อมคุณแม่สายแฟชั่นที่อยากสวมรองเท้าส้นสูงตอนท้อง
ทำไมรองเท้าสำหรับคนท้องถึงสำคัญ
อย่างแรกที่แม่ต้องรู้ การตั้งครรภ์ทำให้ขนาดเท้าใหญ่ของว่าที่คุณแม่ใหญ่ขึ้นได้และอาจจะส่งผลถึงขนาดที่ทำให้ต้องเปลี่ยนรองเท้ารองเท้าขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วยเลย
- ขนาดเท้าที่ใหญ่ขึ้นขณะตั้งครรภ์นั้น เกิดจากการบวมน้ำ
- เกิดจากรีแลกซิน (relaxin) ซึ่งเป็นฮอร์โมน ที่ร่างกายผลิตเพื่อให้ข้อต่อ และ เอ็นของหญิงตั้งครรภ์ มีภาวะคลายตัว หรือ หลวมมากขึ้น อันเป็นการช่วยเตรียมตัวให้ว่าที่คุณแม่ สามารถคลอดลูกได้ง่าย โดยรีแลกซิน (relaxin) จะหลั่งไปทั่วร่างกาย รวมทั้งบริเวณเท้า ทำให้บริเวณเท้าของหญิงตั้งครรภ์ยืดหยุ่นมากขึ้น เมื่อท้องที่กำลังโตกดน้ำหนักลงไปที่บริเวณเท้า ก็จะทำให้เท่ายิ่งแบน หรือ ขยายใหญ่ขึ้นในที่สุด
- อาการเท้าบวม ขยายใหญ่ขึ้น จะหายไปหลังจากที่คุณแม่คลอดลูกแล้ว แต่ขนาดของเท้าอาจเปลี่ยนไปตลอดกาลเลยก็ได้ หากว่าที่คุณแม่มีภาวะเท้าแบนอยู่แล้ว
คนท้องใส่รองเท้าแบบไหนดี
รองเท้าคนท้องที่เหมาะสำหรับว่าที่คุณแม่นั้น เน้นแค่ความนุ่มสบายเท้าอย่างเดียวไม่พอ แต่ควรเป็นรองเท้าเพื่อสุขภาพโอบสรีระเท้าได้อย่างดีและปลอดภัย เหมาะสมกับสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไปของว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ทั้งเวลายืนและเดิน ทำให้คุณแม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้สบายๆ อะไรคือปัจจัยพื้นฐานในการเลือกรองเท้าคนท้องบ้าง มาดูกัน
1. รองเท้าคนท้องต้องสามารถรับน้ำหนักได้ดี
- ท้องจะเริ่มใหญ่ขึ้น
- น้ำหนักตัวเริ่มมากขึ้น
- อาการปวดเมื่อยหลัง สะโพก ขา และเท้า จะเริ่มตามมา
- การยืนหรือเดินที่ค่อนข้างลำบาก ที่เราเรียกกันว่า คนท้องในช่วงอุ้ยอ้าย
2. พื้นรองเท้า มีความหนาพอดีและทนทาน
รองเท้าสำหรับคนท้องที่ดีนั้น ต้องคำนึงถึงพื้นรองเท้าที่เหมาะสม มีความหนาพอดี ไม่สูงหรือแบนราบจนเกินไป ที่สำคัญต้องนุ่มกำลังดี ไม่อ่อนยวบหรือแข็งกระด้าง เพราะความนุ่มที่อุ้มเท้าพอดีนั้น จะช่วยละแรงสะเทือนเวลาคุณแม่ลงแรงกระแทกโดยที่อาจไม่ตั้งใจ ลดอุบัติเหตุเท้าพลิกได้ดี
3. รองเท้าคนท้องควรน้ำหนักเบาพอดี ยืดหยุ่น อุ้มเท้า
คนท้องควรสวมใส่รองเท้าที่มีน้ำหนักเบา เพื่อความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว ไม่ว่าจะเดินหรือลุกนั่ง อีกทั้งต้องมีความยืดหยุ่นสูง จะทำให้การเดินของคุณแม่เป็นธรรมชาติ อย่าลืมว่าคนท้องต้องแบกรับน้ำหนักทารกที่มากขึ้นๆ ทุกเดือน และรองเท้าคนท้องที่ดี ยังสามารถอำนวยความสะดวกให้คุณแม่ออกกำลังกายได้ง่ายๆ เช่น เดินแกว่งแขวนเบาๆ รอบๆ บ้านหรือสวนสาธารณะได้สะดวกอีกด้วย
คุณสมบัติของรองเท้าคนท้องที่ควรพิจารณา
1. พื้นรองเท้าคนท้องต้องมีส่วนซัพพอร์ตอุ้งเท้า
ซัพพอร์ตอุ้งเท้า คือ ส่วนของพื้นรองเท้าที่นูนขึ้น รองรับส่วนโค้งเว้าของฝ่าเท้าคุณแม่ สามารถช่วยกระจายแรงกดของสรีระร่างกายที่ลงน้ำหนักไปให้ทั่วฝ่าเท้า มีประโยชน์ตรงที่ช่วยลดอาการปวดหลัง ลดอาการปวดเอว ลดอาการปวดฝ่าเท้าและปวดส้นเท้าที่เราเรียกว่า รองช้ำ ทำให้เวลาคนท้องสามารถยืนหรือเดินได้ดี ถูกต้องตามแนวทางของศาสตร์กล้ามเนื้อและกระดูก หรือที่เรียกกันว่าศาสตร์ออโทพีดิกส์ (Orthopaedics) นั่นเอง
นอกจากนี้ ส่วนซัพพอร์ตอุ้งเท้าในรองเท้าคนท้องยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดภาวะเท้าบิดเข้าด้านใน ซึ่งพบเห็นกันบ่อยๆในหมู่ผู้สูงอายุอีกด้วย อีกทั้งซัพพอร์ตอุ้งเท้าช่วยปรับโครงสร้างของรูปเท้าและร่างกายให้มีความสมดุล
2. พื้นรองเท้ามีหลุมรับส้นเท้า
พื้นรองเท้าคนท้อง หรือ ส่วนที่เป็นหลุมรูปถ้วยบริเวณที่รองรับส้นเท้าของคุณแม่ จะช่วยกำหนดทิศทางและตำแหน่งการทิ้งน้ำหนักของเราในการเดิน (คล้ายๆ การล็อกอุ้งเท้าไว้) เป็นการบังคับไม่ให้เท้า หลุดหรือเคลื่อนที่ออกจากรองเท้า จึงช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอาการเท้าพลิก ลื่นตกรองเท้า หรือเท้าบิดตกออกมานอกรองเท้า ซึ่งอาจทำให้คนท้องหกล้มเท้าพลิกเอ็นอักเสบได้ จึงทำให้การเดินมีความสมดุลและมั่นคง และลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้อย่างดี
3. รองเท้าคนท้องควรปรับไซซ์ได้
รองเท้าที่เหมาะกับคนท้อง ควรสวมใส่ง่ายเพราะท้องจะเริ่มขยายใหญ่อย่างรวดเร็วจนคุณแม่นึกไม่ถึง ไม่ทันได้เปลี่ยนรองเท้า ยิ่งท้องเริ่มใหญ่แล้ว ต้องการรองเท้าที่สวมใส่ง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะแบบหูหนีบ หรือแบบสวม ที่ไม่มีสายหลัง เพราะการก้มไปดึงหรือสวมสายหลังนั้น ทำได้ลำบาก คนท้องจึงควรเลือกซื้อรองเท้าที่ไซซ์ใหญ่กว่าเท้าเตรียมไว้ สำหรับเท้าที่อาจจะบวมขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าให้คุณแม่เลือกรองเท้าที่ใหญ่จนเกินไป อาจจะเลือกที่ใหญ่กว่าสัก 1 ไซซ์ และควรเป็นรองเท้าที่ปรับขยายไซซ์ได้
คนท้องใส่รองเท้าส้นสูงได้ไหม… ใส่ส้นสูงอย่างไรให้สวยด้วย เซฟด้วย
รองเท้าคนท้องไม่ได้ใส่ได้เฉพาะส้นแบนเท่านั้น เชื่อว่าคุณแม่หลายท่านเห็นดาราและเซเลบริตี้หลายคนแชร์ภาพการใส่ส้นสูงระหว่างท้อง สับขาเดินราวกันอยู่บนรันเวย์ อย่าได้เสี่ยงหันไปหยิบรองเท้าแล้วมาสวมแบบพวกเธอกันนะคะ ก่อนอื่นเราต้องทราบก่อนว่า รูปร่าง รูปเท้าของเราเหมาะสมที่จะสวมรองเท้าแบบใด
เทคนิคเลือกรองเท้าส้นสูงสำหรับคนท้อง
- ควรเลือกรองเท้าที่มีความสูงไม่เกิน 2 นิ้ว หากสูงเกินไป อาจจะทำให้คุณแม่เดินไม่ถนัด และเสี่ยงเท้าพลิกหรือหกล้มได้โดยง่าย
- หากชอบรองเท้าส้นสูง คุณแม่ลองเลือกรองเท้าทรงเตารีดหรือรองเท้าส้นตึก จะช่วยรักษาความสมดุลร่างกายได้ดีกว่า สะดวกในการเดิน การเคลื่อนไหวและยืนได้มั่นคงกว่า อีกทั้งไม่เสี่ยงส้นหักอีกด้วย อย่าสวมใส่รองเท้าส้นสูงส้นเข็มเด็ดขาด เพราะรองรับน้ำหนักได้น้อย ทำให้ต้องเกร็งขามากขึ้น
- คนท้องต้องจำไว้เสมอว่า เลือกรองเท้าคนท้องต้องพิจารณารองเท้าที่ทำจากวัสดุยืดหยุ่น ระบายอากาศได้ดี เพราะยิ่งอายุครรภ์มากขึ้นเท้าของคุณแม่จะมีโอกาสบวมมากขึ้นตามไปด้วย
- คุณแม่สามารถเลือกรองเท้าพื้นยางหรือรองเท้าที่มีพื้นผิวยึดเกาะได้ แม้จะไม่เปรี้ยวถูกใจนักแต่จะช่วยรองรับน้ำหนัก กันกระแทก และเพิ่มแรงเสียดทานเวลาเดินได้ดีกว่า ทำให้ทรงตัวได้มั่นคง
- หากเป็นรองเท้าส้นสูง แนะนำว่าควรเลือกแบบที่ไม่มีสายรัดส้น หรือสายคล้องข้อเท้า เพราะจะทำให้สวมและถอดยาก คุณแม่มีน้ำหนักมากขึ้นและหน้าท้องเริ่มโต จะก้ม เงย จะลุกนั่งก็ลำบาก
รองเท้าคนท้องแบบส้นสูง ควรใส่อย่างไรให้ปลอดภัย
- คนท้องไม่ควรใส่รองเท้าส้นสูงทุกวัน ควรเลือกใส่เฉพาะบางโอกาสเท่านั้น ที่สำคัญหลังตั้งครรภ์ประมาณ 3-4 เดือน ควรสวมส้นสูงให้น้อยที่สุด เพื่อลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุ เช่น หกล้ม เท้าพลิก เกร็งต้นขามากเกินไป
- คนท้องไม่ควรยืนบนรองเท้าส้นสูงนานติดต่อกันเกิน 2 ชั่วโมง ควรนั่งพักบ่อยๆ เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวมากเกินไป เพราะขนาดสาวๆ ที่ไม่ตั้งครรภ์ยังปวดเมื่อยตามน่อง ที่สำคัญคุณแม่ควรพกรองเท้าสนเตี้ยติดไปด้วยเสมอ ไว้สำหรับสวมสลับกันเวลาต้องการพักเท้า
- หากวันไหนคุณแม่ต้องการสวมรองเท้าส้นสูง ต้องจำไว้ว่า เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ควรแช่เท้าด้วยน้ำอุ่นประมาณ 10-15 นาที นวดเท้า นวดน่องเบาๆ ทุกครั้ง เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และไม่ก่อให้เกิดอาการปวดเมื่อย
- คุณแม่ต้องพึงระวังอย่างที่สุดว่า ไม่ควรสวมรองเท้าที่คับจนเกินไป เพราะทำให้เท้าบาดเจ็บตามมา แต่คุณแม่ควรเลือกไซส์รองเท้าที่ใหญ่กว่าเท้าจริงอย่างน้อย 1 ไซซ์ อย่าลืมว่า ในแต่ละช่วงเวลาของวัน เท้าของเราก็อาจขยายระหว่างวันได้
บทความที่เกี่ยวข้อง: วิธีเลือกรองเท้าสำหรับคนท้อง
ความเสี่ยงที่อาจเกิดกับคนท้องเวลาใส่รองเท้าส้นสูง
1. อาการปวดหลัง
ด้วยน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ทำให้จะลุก จะนั่ง ไปไหนมาไหนก็ลำบาก เพราะต้องแบกรับน้ำหนักจากหน้าท้องที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วไปด้วยตลอดเวลา หากใส่รองเท้าส้นสูงด้วย คุณแม่จึงเหมือนต้องยืนอยู่ในท่าเขย่งเท้าไปโดยปริยาย น้ำหนักส่วนใหญ่จึงเทไปที่หัวเข่า ข้อเท้า และหลังเต็มๆ ก่อให้เกิดอาการปวดหลังอย่างรุนแรงตามมา
2. สูญเสียการทรงตัว
อาจทำให้มีการทรงตัวได้อย่างยากลำบากการใส่รองเท้าส้นสูงทำให้ศูนย์ถ่วงของร่างกายของหญิงตั้งครรภ์เสียสมดุลตามไปด้วย นอกจากนี้การสวมรองเท้าส้นสูงนานๆ ยังทำให้เส้นเอ็นที่ขายึด กล้ามเนื้อบริเวณน่องหดตัวและตึง จนอาจเกิดอาการปวดเมื่อยตามข้อต่อ และเป็นตะคริวได้อย่างกะทันหัน
3. เท้าบวมมากขึ้น
การสวมใส่รองเท้าส้นสูงขณะตั้งครรภ์คือ คุณแม่ส่วนใหญ่มักมีอาการเท้าบวมในช่วงที่อายุครรภ์เข้าสู่ 3-6 เดือน อันเป็นผลมาจากอาการบวมน้ำ เพราะในร่างกายมีของเหลวในปริมาณมาก จากการที่ร่างกายผลิตเลือดได้มากขึ้น อีกทั้งคนท้องยังมักมีอาการกระหายน้ำบ่อยทำให้ต้องจิบน้ำอยู่ตลอดเวลา หากเลือกรองเท้าส้นสูงไม่ดี จะทำให้อึดอัดและเจ็บเท้า ไม่ต่างจากการสวมรองเท้าผิดเบอร์หรือถูกรองเท้ากัดนั่นเอง
รองเท้าคนท้อง ไม่ว่าจะถูกออกแบบมาอย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรคำนึงถึงมากๆ นั่นคือความปลอดภัยและสะดวกสบายในการเคลื่อนไหว และไม่ก่อให้เกิดการบาดเจ็บทั้งเท้าและร่างกาย รวมถึงความเสี่ยงของการแบกสรีระที่มีน้ำหนักมาก การทรงตัวหากไม่ดีจะเสี่ยงทำให้คุณแม่หกล้ม หรือเดินผิดท่าจนข้อเท้าพลิกได้โดยง่าย ซึ่งการกระทบกระเทือนที่ตามมาจากการรองเท้าทั้งส้นแบนและสวมส้นสูงผิดวิธี ย่อมไม่เป็นผลดีต่อลูกน้อยในครรภ์แน่นอน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
10 อาการคนท้องหลังคลอด แม่ผ่าคลอด-แม่คลอดลูกเอง ต้องเจอกับอะไรบ้าง
ท้องนี้ฝากครรภ์ ทำคลอดที่ไหนดีนะ? รวม 10 สูติ-นรีแพทย์ฝีมือดี ที่คนไข้ต่างก็ยกนิ้วให้
ท้องนี้หนักที่ใคร แม่หรือลูกที่อ้วนเกินไปกันแน่นะ
วิธีลดอาการเท้าบวมในคนท้อง ตั้งท้องแล้วเท้าบวมต้องทำยังไง?
ที่มา : whattoexpect , parenting.firstcry. , cottonbaby
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!